ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2432 ร่างดับเปลวเพลิง
อยู่ ๆ มู่เฉียนซีก็พูดประโยคนี้ขึ้นมา จึงทำให้คนส่วนใหญ่ไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด
“ภูเขาไฟกำลังจะระเบิดแล้วอย่างนั้นหรือ เจ้ารู้ได้อย่างไรกัน? ผู้หญิงอย่างเจ้าอย่าพูดจาไร้สาระไปหน่อยเลย!”
“ข้าว่าเจ้าน่าจะค้นพบหยกเฉี่ยซาที่ยอดเยี่ยม แล้วต้องการจะเก็บเอาไว้คนเดียวเสียมากกว่า!”
“อย่างที่รู้กันว่าหากพวกเราออกไปโดยที่หาแร่หยกเฉี่ยซาไม่ได้เลยสักอัน พวกเราจะต้องถูกท่านผู้ดูแลฆ่าตายเป็นแน่”
แต่ก็มีคนที่ระมัดระวังบางคนรีบพุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่สนว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และพวกเขาก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว
“มันจะต้องเป็นเรื่องโกหกแน่ ๆ เจ้าบอกว่าภูเขาไฟจะระเบิด แต่ก็ไม่เห็นว่าเจ้าจะหนีออกไปเลย” คนที่ยังเหลืออยู่มองไปที่มู่เฉียนซีที่ยังไม่หนีไป และมันก็ทำให้พวกเขายิ่งเชื่อว ว่ามู่เฉียนซีเป็นเพียงแค่คนโกหกคนหนึ่งเท่านั้น
ตอนนี้นางสัมผัสได้ถึงพลังธาตุอัคคีที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว แต่ในเมื่อคนเหล่านี้อยากตายเร็ว เช่นนั้นก็อยู่ต่อไปเถอะ!
ตูมมม!
มีเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นมา หลังจากนั้นลาวาที่น่าสะพรึงกลัวก็ไหลทะลักออกมาด้วยเช่นกัน
คนเหล่านี้กล่าวอย่างเหลือเชื่อว่า “ภูเขาไฟระเบิดจริง ๆ ด้วย รีบหนีเร็วเข้า! เร็ว…”
“บัดซบเอ้ย เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?”
“นาง…นางมัวแต่ยืนตะลึงอะไรอยู่ตรงนั้น อยากตายหรืออย่างไรกัน?”
ในตอนที่ภูเขาไฟระเบิด พวกเขาต่างก็รีบเร่งหลบหนีกันอย่างบ้าคลั่ง ก่อนหน้านี้ไม่ยอมหนี แต่จะมาหนีเอาตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว
ในตอนที่พวกเขากำลังสิ้นหวัง พวกเขาก็ค้นพบว่ามีร่างเรียวบางร่างหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงโดยที่ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่หินลาวากลืนกินคนไปจนหมดสิ้น ภายในภูเขาไฟแห่งนี้ก็ค่อย ๆ สงบลง
ผู้ดูแลเหล่านั้นกล่าวอย่างเสียดายว่า “ช่างน่าเสียดายจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าหญิงสาวเพียงคนเดียวในเหมืองของพวกเราจะต้องมาตายอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ยังไม่เหลือแม้แต่เศษขี้เถ้าด้วยซ้ำ! ท ทำไมถึงโชคร้ายขนาดนี้นะ หากรู้แต่แรกก็คงไม่ให้นางเข้าไปหรอก”
แต่มู่เฉียนซีที่พวกเขาคิดว่าตายแล้ว กลับถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยเถาวัลย์สีแดงเลือด ที่ก่อตัวจนกลายเป็นเกาะป้องกันอันแข็งแกร่ง และทำให้ลาวาเหล่านั้นไม่กล้าเข้ามาใกล้นางได้
พลังจิตวิญญาณของนางแผ่กระจายออกไป ซึ่งมันก็ทำให้นางรู้ได้อย่างชัดเจนว่า หยกเฉี่ยซาอยู่ที่ใดบ้าง นางกล่าวว่า “เสี่ยวเฉี่ย พวกเรามาเริ่มทำงานกันเถอะ! ที่นี่ไม่มีคนอื่นอีกแล ล้ว พวกเราจะเก็บหยกเฉี่ยซาที่อยู่ที่นี่ไปให้หมดเลย”
เฟี้ยว เฟี้ยว เฟี้ยว!
เถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งทะลุหินลาวาออกไป และหยกเฉี่ยซาก็ตกมาอยู่ในมือของมู่เฉียนซีทีละชิ้น ๆ และทั้งหมดก็ถูกมู่เฉียนซีเก็บใส่ไว้ในมิติเรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่รอให้หินลาวาลดระดับลง และคนกลุ่มที่สี่ก็ถูกส่งลงมาแล้ว มู่เฉียนซีถึงได้ให้เสี่ยวเฉี่ยหยุดมือลง
ที่นี่มีหยกเฉี่ยซาอยู่นับพันนับหมื่นชิ้น แต่ทว่าตอนนี้กลับเหลือเพียงไม่กี่สิบชิ้นเท่านั้น ซึ่งมู่เฉียนซีก็ได้ซ่อนมันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
กลุ่มเก็บแร่หยกกลุ่มที่สี่นี้นับว่าเป็นกลุ่มที่โชคดีที่สุดแน่นอนอยู่แล้ว
เนื่องจากว่าตอนที่พวกเขาลงไป ไม่มีการระเบิดของภูเขาไฟ ทว่าพวกเขากลับเก็บมาได้น้อยมากจนไม่คุ้มค่า ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้ผู้ดูแลโมโหเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
“เจ้าพวกไร้ประโยชน์! ทำมาได้แค่นี้ ยังไม่พอให้ข้าเอามายาไส้เลย”
มู่เฉียนซีแอบตามขึ้นมาด้วยกันกับพวกเขา เพราะเหมืองนี้เหลือหยกเฉี่ยซาอยู่อีกไม่มากแล้วนั่นเอง
นางจะออกไปจากที่นี่ในคืนนี้ และหลังจากนั้นค่อยไปศึกษาเพื่อทำยาใหม่ ๆ ออกมา
ในช่วงกลางดึก คนส่วนใหญ่ล้วนเข้าสู่ห้วงนิทรากันไปหมดแล้ว แต่ทว่าเหล่าผู้ดูแลที่อยู่ในค่ายกลับยังคงคึกคักกันเป็นพิเศษ
ภายในขุมนรกสีโลหิตแห่งนี้ มีเพียงคนที่อ่อนแอเท่านั้นที่ถูกข่มเหง และแม้ว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ถูกผู้ดูแลเหล่านี้ทรมานอยู่ดี
“ทำไม? ไม่เต็มใจแล้วอย่างนั้นหรือ ตอนนี้พวกเจ้าเองก็ไม่สามารถไปขุดแร่ได้อีกแล้ว ฉะนั้นความพึงพอใจของพวกเราคือทางรอดเดียวของพวกเจ้า”
“ชิ! เหลืออยู่แต่พวกผู้ชาย น่าเสียดายที่ผู้หญิงคนนั้นตายไปแล้ว”
คิดไม่ถึงว่าจะกล้าคิดถึงบริวารตัวน้อยของมันเช่นนี้ และเสี่ยวเฉี่ยก็เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่พลุ่งพล่าน
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้างในนี้ไม่เหมาะกับเด็กน้อย เจ้าออกไปรอข้าอยู่ข้างนอกเถอะ! อีกไม่นานข้าก็จัดการพวกเราเรียบร้อยแล้ว”
เข็มยาจำนวนนับไม่ถ้วนบินว่อนออกไป และคนเหล่านั้นต่างก็ถูกวางยาพิษโดนไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำ หลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็ฉวยโอกาสนี้เอาหยกเฉี่ยซาที่อยู่ในมือของพวกเขาไปด้วย
นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็ยังมีแผนที่ของสายแร่ที่กระจายอยู่ในภูเขาเขตแดนชั้นที่หนึ่งอีกด้วย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไปกันเถอะ! ไปหาสถานที่เงียบสงบกัน”
เมื่อแสงแรกปรากฏขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนต่างก็ตื่นนอนกันอย่างตรงเวลา แต่พวกเขากลับค้นพบว่าเหล่าผู้ดูแลที่ชั่วร้ายเหล่านั้นยังไม่มีใครตื่นขึ้นมาเลยแม้แต่คนเดียว
หรือว่าพวกเขาจะตื่นสายกันอย่างนั้นหรือ
หลังจากที่พวกเขารอผู้ดูแลจนถึงเที่ยงวัน ก็มีคนใจกล้าเดินไปที่กระโจมของผู้ดูแลเพื่อตรวจสอบดู และผลปรากฏว่า…
ผู้ดูแลทุกคนล้วนตายกันไปหมดแล้ว นอกจากนี้ยังตายในสถานการณ์เช่นนี้อีกด้วย
หากตายเพียงคนเดียวก็คงจะรู้สึกว่าเพราะหลงระเริงมากเกินไปจนหาเรื่องตายให้ตนเอง แต่มันแปลกเกินไปที่จะตายกันเป็นกลุ่มเช่นนี้
“แม้แต่คนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ไม่เว้น กรรมคงตามสนองคนเหล่านี้เป็นแน่!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ต้องเป็นกรรมตามสนองแน่นอน พวกเรารอดแล้ว พวกเราสามารถไปจากสถานที่บ้า ๆ นี้ได้แล้ว”
“รีบไปเร็วเข้า!”
ภูเขาเขตแดนกว้างใหญ่เป็นอย่างมาก มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับมู่เฉียนซีเลยที่จะหาสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน และยิ่งเข้าไปลึกในภูเขาเขตแดนมากเท่าไร นางก็ยิ่งค้นพบสมุนไพรวิญ ญญาณมากขึ้นเท่านั้น
แต่เนื่องจากว่าเสี่ยวเฉี่ยอารมณ์เสียอีกแล้ว จึงทำให้มันทำลายสมุนไพรวิญญาณของนางไปมากมาย และสุดท้ายมันก็ถูกมู่เฉียนซีลงโทษอย่างรุนแรง
ภายในใจของเสี่ยวเฉี่ยโกรธมาก! มีมันอยู่ทั้งคนแต่ยังไปคิดถึงปีศาจน้อยตัวอื่น ๆ อีก ช่างเป็นบริวารตัวน้อยที่น่ารังเกียจจริง ๆ
มู่เฉียนซีจะไปเข้าใจความคิดของหนามโลหิตน้อยที่ยังพูดไม่ได้ตัวนี้ได้อย่างไร นอกจากนี้พวกเฉี่ยอี้ก็ไม่ได้อยู่ข้างกายนางอีกด้วย
นางขอให้เสี่ยวเฉี่ยคอยเฝ้าอยู่บริเวณโดยรอบ หลังจากนั้นก็นำเอาหม้อยาออกมาเพื่อเตรียมกลั่นยา
และเมื่อเห็นมู่เฉียนซีเตรียมจะใช้สมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นกลั่นยา แต่ไม่ได้เพื่อเอามาเลี้ยงมัน จึงทำให้เสี่ยวเฉี่ยยอมหายโกรธไปได้ในที่สุด
ยาน้ำชนิดหนึ่งถูกปรับแต่งออกมาอย่างรวดเร็ว และหลังจากที่มู่เฉียนซีวิเคราะห์ยาขวดนี้แล้ว มุมปากของนางก็ยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “สมบูรณ์แบบ!”
หลังจากนั้นนางก็ดื่มยาชนิดนี้ลงไป และในตอนที่นางดื่มยาลงไปแล้ว ทั่วทั้งร่างของนางก็ราวกับว่ากำลังลุกเป็นไฟ ซึ่งนั่นก็ทำให้เสี่ยวเฉี่ยกระวนกระวายขึ้นมาทันที!
มนุษย์ผู้นี้ทำอะไรออกมากันแน่? คิดไม่ถึงว่าจะเผาตนเอง ช่างรนหาที่ตายนัก!
เสี่ยวเฉี่ยพยายามคิดหาทางระงับเปลวเพลิงนั้นอย่างร้อนรน แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถดับไฟได้อยู่ดี
ตอนนี้มู่เฉียนซีรู้สึกว่าตนเองกำลังจะถูกแผดเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านอยู่แล้ว ทั้งผิวหนัง กระดูก และเลือดต่างก็กำลังลุกไหม้ ซึ่งความรู้สึกที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ แทบจะเท่ากับตอนขั ดเกลาร่างกายด้วยสายฟ้าเลย
นางไม่สามารถปล่อยให้มันเป็นเช่นนี้ต่อไปได้ เพราะมิเช่นนั้นแล้วละก็ ถึงแม้ว่านางจะไม่ถูกแผดเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน แต่ก็อาจจะถูกเผาจนได้รับบาดเจ็บสาหัสก็เป็นได้
พลังของหยกเฉี่ยซานี้แข็งแกร่งกว่าที่นางจินตนาการเอาไว้มากจริง ๆ และบางทีอาจจะรุนแรงกว่าการระเบิดของธาตุอัคคีอีกด้วย
ไม่ใช่ว่าหมอปีศาจอย่างนางจะไม่เคยเจอปัญหาจากการทดลองยาชนิดใหม่ ๆ มาก่อน และปัญหาทั้งหมดล้วนมีไว้เพื่อแก้ไขทั้งสิ้น
ในระหว่างที่กำลังหล่อหลอมอย่างเจ็บปวด นางก็คิดหาหนทางแก้ไขได้แล้ว
ทั้งพลังธาตุอัสนีและพลังธาตุอัคคีล้วนเป็นพลังธาตุที่มีพลังในการโจมตีค่อนข้างสูง นอกจากธาตุอัสนีจะสามารถช่วยหล่อหลอมร่างกายของนางได้แล้ว ยังทำให้นางสามารถยกระดับพลังทาง งกายภาพมาถึงจุดนี้ได้อีกด้วย ฉะนั้นพลังธาตุอัคคีนี้ก็ต้องทำได้เช่นกัน
ในเมื่อมีคาดเดาได้เช่นนี้ แต่นางก็ไม่มีเคล็ดวิชาเช่นนั้นเพื่อมาใช้ในการฝึกฝนอยู่ดี และคาดว่าน่าจะไม่มีผู้ใดสร้างเคล็ดวิชาทำลายตนเองแบบนี้มาให้ฝึกฝนกันแน่นอน!
ในเมื่อไม่มีเคล็ดวิชาต้นแบบ มู่เฉียนซีจึงทำได้เพียงลองแก้ไขโดยการเลียนแบบผ่านเคล็ดวิชาขัดเกลาร่างกายด้วยสายฟ้าอย่างรีบร้อนและวุ่นวายไปหมด
แม้ว่านางจะล้มเหลว และถูกเผาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ด้วยทักษะทางการรักษาของหมอปีศาจอย่างนางจึงทำให้รักษาตนเองได้อย่างไม่มีปัญหาเลย
เสี่ยวเฉี่ยเป็นกังวลจนแทบจะบ้าอยู่แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่มันหาบริวารที่ถือว่าน่าพึงพอใจได้ ฉะนั้นมันย่อมไม่อยากให้นางถูกเผาตายไปทั้งอย่างนี้แน่นอนอยู่แล้ว
ในที่สุดเปลวเพลิงก็มอดดับไป มู่เฉียนซีถูกแผดเผาจนน่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเห็นว่าเสี่ยวเฉี่ยกำลังจะพุ่งเข้ามา มู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “อย่าเพิ่งโดนข้า มันเจ็บ!”
“ข้าได้รับบาดเจ็บหนักเอาการเลย!” นางกล่าวอย่างจนปัญญา