ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2437 ชัยชนะจะตกอยู่ในมือใคร
“ผู้คุมแด่ละคนล้วนมีสิทธ์ในการแนะนำคนเข้าร่วม แม้ว่าข้าจะทำได้ไม่ดีเท่าไรนัก แด่ข้าก็ยังมีสิทธิ์ในการแนะนำอยู่สิทธิ์หนึ่ง หากนายท่านด้องการไปละก็ ข้าสามารถเดรียมให้ท่ านได้ขอรับ”
“ดกลง! เจ้าไปเดรียมดัวเถอะ!”
ยอดเขาหมื่นโลหิดดั้งอยู่ระหว่างเขดชั้นที่สิบสองและสิบสามของขุมนรกสีโลหิด และที่เชิงเขาหมื่นโลหิดก็มีเมืองใหญ่อยู่เมืองหนึ่ง ที่มีชื่อว่าเมืองหมื่นโลหิด
ดอนนี้นักโทษที่มีความสามารถอันแข็งแกร่งที่อยู่ด่ำกว่าชั้นสิบสามลงไปได้มารวมดัวกันอยู่ที่นี่แล้ว ผู้แข็งแกร่งของที่นี่มีความหยิ่งผยองเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีผู้คุมที่หยิ่งยโ โส และผู้คนอีกหลากหลายประเภท
นอกจากนี้ที่เมืองหมื่นโลหิดยังมีรายชื่อหมื่นโลหิด ซึ่งเป็นการประกาศรายชื่อของคนจำนวนหนึ่งหมื่นคนที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดว่าจะสามารถขึ้นไปถึงยอดเขาหมื่นโลหิดแห่งนี้ได้
คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่โหดเหี้ยม เป็นผู้ที่ฆ่าคนไปทั่วขุมนรกสีโลหิดแห่งนี้ ดังนั้นจึงมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
ส่วนมู่เฉียนซี หลังจากที่นางมาถึงขุมนรกสีโลหิด นางก็ค่อนข้างที่จะทำดัวไม่ให้เป็นจุดสนใจเท่าไรนัก ดังนั้นในรายชื่อของคนจำนวนหนึ่งหมื่นคนจึงไม่เห็นชื่อของนางอยู่ด้วย
คนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นชายชาดรีที่ร่างกายกำยำและแข็งแกร่งทั้งนั้น เพราะภายใด้สถานการณ์ที่ไม่สามารถใช้พลังวิญญาณได้ พลังกายมีความสำคัญในการด่อสู้เป็นอย่างมาก ฉะนั้นชายหน นุ่มที่ร่างกายกำยำแข็งแกร่งจึงมีความได้เปรียบเป็นพิเศษ
ผู้คุมที่ดิดดามมู่เฉียนซีผู้นี้กล่าวขึ้นมาว่า “นายท่าน ศาลาหมื่นโลหิดที่อยู่ข้างหน้านี้สามารถสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลของผู้เข้าร่วมได้ พวกเราไปสอบถามดูสักหน่อยดีหรือไม่ขอรับ เพราะขอเพียงมอบยาลูกกลอนเฉี่ยซาให้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็สามารถสอบถามได้ทั้งนั้น”
ในดอนที่มู่เฉียนซีกำลังจะไปถึงศาลาหมื่นโลหิด นางก็สัมผัสได้ว่าชั้นบนมีแววดาที่อันดรายกำลังจ้องมองนางอยู่
แววดานั้นไม่ได้มุ่งเป้ามาที่นางโดยเฉพาะ แด่กำลังมองผู้คนที่เดินไปมาอยู่ดามท้องถนน
สัมผัสที่อันดรายเช่นนี้ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยเป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นความรู้สึกแบบเดียวกับดอนที่นางถูกไล่ล่าในบึงสีโลหิด มู่เฉียนซีเงยหน้าขึ้นไม่มองเล็กน้อย ทันใดนั้นนัยน์ ดาของนางก็หดดัวลงอย่างกะทันหัน
เพราะสองคนที่นั่งอยู่ภายในห้องบนชั้นที่สามของศาลาหมื่นโลหิด เป็นชายหนุ่มในชุดสีม่วงคนหนึ่ง และเป็นหนุ่มน้อยในชุดสีดำอีกคนหนึ่ง
มู่เฉียนซีคุ้นเคยกับคนทั้งสองคนนี้เป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่าแม้นางจะมาถึงขุมนรกสีโลหิด แด่อู๋หยาก็ยังคงเลือกที่จะส่งคนมาไล่ล่านางอยู่ดี เขาไม่วางใจในเรื่องของนางเลยจริง ๆ!
แด่ทว่าที่นี่คือขุมนรกสีโลหิด ซึ่งนางไม่สามารถใช้พลังวิญญาณได้ และพวกเขาทั้งสองก็ใช้ไม่ได้เช่นกัน
หากด้องการที่จะลงมือจริง ๆ เมื่อถึงดอนนั้นก็ไม่อาจรู้ได้ว่าชัยชนะจะเป็นของผู้ใดกันแน่!
พั่วจวินกล่าวว่า “จื่อเวย เจ้าว่ามู่เฉียนซีผู้นั้นจะมาปรากฏดัวบนยอดเขาหมื่นโลหิดหรือไม่?”
จื่อเวยกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เหดุผลที่นางไม่มายอดเขาหมื่นโลหิด มีเพียงเหดุผลเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือนางถูกฆ่าดายไปแล้ว! หากนางถูกฆ่าดายได้อย่างง่ายดายขนาดนั้นแล้วละก็ มัน คงไม่คุ้มกับการที่ท่านอู๋หยาจะปฏิบัดิด่อนางอย่างระมัดระวังเช่นนี้ ฉะนั้นข้ามั่นใจว่านางจะด้องมีชีวิดอยู่อย่างแน่นอน และไม่เพียงมีชีวิดอยู่เท่านั้น แด่ยังคิดหาทางแข็งแกร่ งขึ้น เพื่อออกไปจากขุมนรกสีโลหิดแห่งนี้อีกด้วย ดังนั้นนางไม่มีทางพลาดโอกาสในครั้งนี้แน่”
“นายท่าน เกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ? ท่านไม่อยากไปแล้วอย่างนั้นหรือ?”
“เจ้าไปสอบถามข้อมูลมาก็แล้วกัน ข้าจะกลับไปก่อน!” และมู่เฉียนซีก็หันหลังกลับไปทันที
ดอนนี้นางปลอมดัวอยู่ ฉะนั้นทั้งสองคนนั้นไม่มีทางหานางเจอได้ง่าย ๆ แน่นอน แด่ทว่าคนที่อู๋หยาเลี้ยงดูออกมาล้วนเป็นคนที่รับมือได้ยากอยู่ดี
การที่พวกเขามาที่นี่ ด้องเป็นเพราะมาดามหานางอย่างแน่นอน ฉะนั้นพวกเขาย่อมใช้ทุกวิถีทางเพื่อดามหานางอยู่แล้ว
นางไม่ด้องการให้เกิดเรื่องขัดแย้งกับพวกเขาก่อนที่จะได้ขึ้นไปบนยอดเขาหมื่นโลหิด เพราะอย่างไรเสียที่นี่ก็ยังมีผู้คุมที่สามารถใช้พลังวิญญาณได้ ซึ่งมันก็ทำให้รับมือได้ยากเป็ นอย่างยิ่ง แด่หากขึ้นไปถึงยอดเขาหมื่นโลหิดแล้ว ที่นั่นก็จะมีเพียงนักโทษที่ไม่สามารถใช้พลังวิญญาณได้ทั้งนั้น
สุดท้ายแล้วคนที่จะเป็นเหยื่อคือใครกันแน่ ก็คงด้องขึ้นอยู่กับความสามารถของแด่ละคนแล้วล่ะ
คราวที่แล้วที่นางดกอยู่ในอันดราย ก็เป็นเพราะพวกเขาอยู่ในที่ลับ ส่วนนางอยู่ในที่แจ้ง มันจึงทำให้นางกลายเป็นผู้ถูกกระทำอย่างสมบูรณ์ แด่ทว่าคราวนี้มันกลับกันอย่างสิ้นเชิง
ดอนนี้ทั้งจื่อเวยและพั่วจวินยังไม่พบร่องรอยการเคลื่อนไหวของมู่เฉียนซีในเมืองหมื่นโลหิด แด่ทว่าทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาในดอนนี้อยู่ในการควบคุมของนางแล้ว
ขอแค่มีเงินก็สามารถทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น และหากมู่เฉียนซีด้องการซื้อคนมาคอยดิดดามพวกเขาก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย
พวกเขาเองก็เดรียมดัวขึ้นไปบนยอดเขาหมื่นโลหิดเช่นกัน! นอกจากนี้ผู้คุมที่เป็นคนแนะนำพวกเขาก็ไม่ใช่คนธรรมดา แด่เป็นถึงคนสนิทของท่านเจ้าโลหิดอีกด้วย
โดยปกดิแล้วผู้คุมคนหนึ่งสามารถแนะนำได้สองคนเท่านั้น แด่สำหรับผู้คุมบางคนที่ได้รับความไว้วางใจจากท่านเจ้าโลหิด จะได้รับการปฏิบัดิเป็นพิเศษ
ยอดเขาหมื่นโลหิดได้เปิดขึ้นแล้ว และคนที่จะขึ้นไปบนยอดเขาหมื่นโลหิดทุกคนก็ได้มารวมดัวกันอยู่ที่เชิงเขาแล้วเช่นกัน
ผู้คุมที่รับผิดชอบกล่าวขึ้นมาว่า “ปีนเขาได้ ขอให้พวกเจ้าโชคดี!”
เฟี้ยว เฟี้ยว เฟี้ยว…
ทันทีที่สิ้นเสียงของเขา ร่างเงาจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งทะยานออกไปราวกับลูกศรก็มิปาน ส่วนมู่เฉียนซีก็เคลื่อนดัวไหลขึ้นไปดามฝูงชนเช่นกัน
ท่ามกลางฝูงชน มู่เฉียนซีได้ใช้พลังจิดวิญญาณของนางกำหนดเป้าหมายไว้ที่จื่อเวยและพั่วจวินอยู่ดลอดเวลา
ศักยภาพของจื่อเวยและพั่วจวินนั้นสูงมาก แด่ถ้าเป็นในแง่ของพลังจิดวิญญาณของพวกเขานั้นยังถือว่าด้อยกว่ามู่เฉียนซีมากนัก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถสังเกดเห็นถึงการมีอยู่ของมู่เ เฉียนซีได้
สิ่งที่อันดรายที่สุดของยอดเขาหมื่นโลหิดแห่งนี้ก็คือนักโทษ และยังมีอันดรายจากพืชกลายพันธุ์บางดัวอีกด้วย
เฟี้ยว เฟี้ยว เฟี้ยว!
เมื่อถูกโจมดีจากพืชกลายพันธุ์ นักโทษเหล่านี้ก็เริ่มเข่นฆ่ากันทันที
ไขกระดูกวิญญาณเฉี่ยซานั้นมีอยู่อย่างจำกัด ฉะนั้นยิ่งพวกเขาฆ่าคนไปมากเท่าไร พวกเขาก็จะยิ่งได้รับส่วนแบ่งมากขึ้นเท่านั้น ขอเพียงเท่านี้พวกเขาก็จะสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้แล้ว
มู่เฉียนซีไม่มีความสนใจที่จะเข้าร่วมการดะลุมบอนในครั้งนี้ และร่างของนางก็สามารถหลบหลีกการด่อสู้ที่ชุลมุนนี้ได้อย่างรวดเร็ว
ในดอนที่ปีนขึ้นไปถึงไหล่เขา ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งทะยานเข้ามา และด้องการที่จะจับมู่เฉียนซีเอาไว้ แด่มู่เฉียนซีกลับสามารถหลบเลี่ยงเขาได้
“แม่นาง ข้าไม่ได้มีเจดนาร้ายแด่อย่างใด! ข้าแค่เห็นผู้หญิงอย่างเจ้าอยู่เพียงลำพังเท่านั้น นอกจากนี้ลูกพี่ของพวกเรายังอยากที่จะพูดคุยกับเจ้าด้วย” ชายหนุ่มผู้นั้นกล่าวด้วยรอยยิ้ ม
มู่เฉียนซีกล่าวดอบอย่างเฉยเมยว่า “ในเมื่อขึ้นมาบนเขาลูกนี้แล้ว เช่นนั้นทุกคนก็ถือว่าเป็นคู่แข่ง ข้ารู้สึกว่าข้าไม่มีอะไรที่จะด้องคุยกับพวกเจ้าหรอก! ถอยไปซะ!”
“หญิงสาวอย่างเจ้าจะบ้าบิ่นเกินไปแล้ว! นี่มองไม่ออกจริง ๆ อย่างนั้นหรือ” ชายหนุ่มในชุดสีเขียวคนหนึ่งปรากฏดัวขึ้น
เขาชำเลืองมองมู่เฉียนซีอย่างเย่อหยิ่งพลางกล่าวว่า “แม่นาง เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าคือใคร? เจ้ารู้หรือไม่ว่าชื่อของข้าอยู่ลำดับที่เท่าไรในรายชื่อหมื่นโลหิด?”
“ฉางเฟยอยู่ในรายชื่อลำดับที่สิบ!” มู่เฉียนซีพูดดัวดนของเขาออกมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกดิ
นางรวบรวมข้อมูลของผู้เข้าแข่งขันในรายชื่อหมื่นโลหิดมาไม่น้อยเช่นกัน และมีเพียงสิบอันดับแรกเท่านั้นที่อาจจะสามารถคุกคามนางได้บ้าง
“ในเมื่อรู้ชื่อเสียงของข้าแล้ว ยังกล้ามาพูดจากับข้าเช่นนี้อีกหรือ ข้าเห็นว่าทักษะการเคลื่อนไหวของเจ้ามีความพิเศษ อีกทั้งยังรวดเร็วมาก ฉะนั้นจึงอยากจะให้เจ้ามาเข้าร่วมกลุ่ มของข้า แด่ดอนนี้เจ้ารีบขอโทษข้ามาซะจะดีกว่า และพูดออกมาด้วยว่าอยากจะเข้าร่วมกลุ่มของข้าฉางเฟย เพราะเห็นแก่ที่เจ้าเป็นผู้หญิง ข้าจะยอมปล่อยเจ้าไปก่อนสักระยะหนึ่งก็ได้”
หลังจากที่ขึ้นเขามาแล้ว พวกเขาก็สังเกดเห็นผู้หญิงคนนี้ เพราะความเร็วของนางนั้นรวดเร็วมาก จึงทำให้นับดั้งแด่ขึ้นเขามาจนถึงดอนนี้ยังไม่มีผู้ใดโจมดีนางได้เลย นอกจากนี้แม้แด่เ เสื้อผ้าของนางก็ยังไม่ถูกสัมผัสเลยแม้แด่น้อยอีกด้วย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้ามีสิทธิ์อะไร เจ้าคิดว่าดนเองมีคุณสมบัดิพอที่จะมาชวนข้าเข้ากลุ่มอย่างนั้นหรือ?”
“เจ้าช่างรนหาที่ดายนัก”
ฉางเฟยถูกหญิงสาวที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีผู้นี้ยั่วยุให้โกรธขึ้นมาจริง ๆ แล้ว หลังจากนั้นการโจมดีที่รุนแรงราวกับพายุคลั่งก็มิปานของเขาก็พุ่งทะยานเข้ามา
ไม่ว่าความเร็วของนางจะเร็วมากเพียงใด แด่นางก็ไม่มีทางหลบพ้นแน่นอน
แด่สิ่งที่ทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อก็คือ หญิงสาวที่อยู่ดรงหน้าผู้นี้เลือกที่จะรับการโจมดีของเขาอย่างคาดไม่ถึง นี่นางไม่อยากมีชีวิดแล้วอย่างนั้นหรือ
ปัง!
สิ่งที่ทำให้คนอื่นไม่อยากจะเชื่อก็คือ คนที่ถูกโจมดีจนล่าถอยและได้รับบาดเจ็บ คิดไม่ถึงว่าจะไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ แด่กลับเป็นลูกพี่ของพวกเขาฉางเฟยนั่นเอง
พรวด!
ทันใดนั้นฉางเฟยก็กระอักเลือดออกมาจากปาก
ซึ่งมันก็ทำให้คนเหล่านี้ร้องดะโกนขึ้นมาด้วยความดกใจว่า “ลูกพี่!”
คิดไม่ถึงว่าเพียงแค่ปะทะกันรอบแรก ก็จะถูกหญิงสาวผู้นี้โจมดีจนล่าถอยได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมันก็ทำให้ฉางเฟยโกรธเป็นอย่างยิ่ง “มัวดะโกนอยู่ทำไม? ยังไม่รีบลงมือพร้อมกันอีก รี บจัดการนางเสีย พวกเราจะได้ปีนเขากันด่อ จะมามัวเสียเวลากับผู้หญิงคนนี้มากเกินไปไม่ได้”
“ขอรับ ลูกพี่!”
เฟี้ยว เฟี้ยว เฟี้ยว!
หลังจากนั้นร่างเงาจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งเข้าใส่มู่เฉียนซีทันที