ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2438 คนบ้าทั้งสองคน
ในเวลานี้อีกด้านหนึ่งของยอดเขาหมื่นโลหิต ได้มีคนใช้มีดอันคมกริบเล่มหนึ่งวาดผ่านไปบนใบหน้าของหญิงสาวหน้าตางดงามคนหนึ่ง ซึ่งเขาอยากที่จะลอกหนังบนใบหน้าของนางออกมาไม่ไหว อยู่แล้ว
หญิงสาวผู้นั้นกล่าวขึ้นมาด้วยความหวาดกลัวว่า “อย่า…อย่าฆ่าข้า…”
ชายทั้งสองคนที่อยู่เบื้องหน้านี้มีรูปร่างหน้าตาที่ดูดีเป็นอย่างมาก อีกทั้งความสามารถก็ยังแข็งแกร่งจนน่าประหลาดใจอีกด้วย เดิมทีนางคิดว่าอยากจะร่วมมือกับพวกเขา แต่คิดไม่ถึงเล ลยว่าหนุ่มน้อยในชุดคลุมสีดำผู้นั้นจะลงมืออย่างกะทันหัน จนนางไม่มีโอกาสได้ตอบโต้เลยแม้แต่น้อย และสุดท้ายมันก็กลายมาเป็นเช่นนี้
“นี่ก็ไม่ใช่ แต่ที่ยอดเขาหมื่นโลหิตมีผู้หญิงมากสุดแค่สิบกว่าคนเท่านั้น หากหาไปทีละคน ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะหาไม่เจอ” พั่วจวินกล่าวอย่างเย็นชา
ทันใดนั้นชายหนุ่มทั้งสองก็หายไปต่อหน้าต่อตาของนาง และผู้หญิงที่กำลังหวาดกลัวคนนั้นก็เข่าอ่อนจนล้มฟุบลงไปบนพื้นทันที ซึ่งตอนนี้นางก็ได้รู้แล้วว่าพวกเขาทั้งสองกำลังตามหาผ ผู้หญิงคนหนึ่งอยู่
ต้องโทษที่ผู้หญิงคนนั้นมาทำให้นางต้องมาเดือดร้อนเช่นนี้!
จื่อเวยและพั่วจวินทั้งสองคนต่างก็ยังคงพยายามทำลายดอกไม้งามต่อไป ส่วนมู่เฉียนซีในตอนนี้ก็ต่อสู้กับกลุ่มของฉางเฟยที่อยู่ในอันดับสิบของรายชื่อจนพวกเขามีสภาพที่น่าสังเวชเป็ นอย่างยิ่ง
“ลูกพี่! ท่านเป็นลูกพี่ของพวกเรา ก่อนหน้านี้เป็นข้ามีตาหามีแววไม่เอง!”
“ลูกพี่! จากนี้ไปข้าจะติดตามท่าน หากท่านบอกว่าจะไปทางทิศตะวันออกข้าก็จะไม่ไปทางทิศตะวันตกแน่นอน”
“……”
พวกเขาถูกมู่เฉียนซีทุบตีจนตื่นกลัวไปหมดแล้ว และทันทีที่มู่เฉียนซียกมือขึ้นมา เข็มยาจำนวนหลายเข็มก็พุ่งทะยานออกไป
ฉึก ฉึก ฉึก!
หลังจากนั้นก็มีเสียงเข็มยาแทงเข้าไปในผิวหนังของพวกเขา
“นี่คืออะไรน่ะ?” พวกเขากล่าวถาม
“พิษ!” มู่เฉียนซีกล่าวตอบ
“ฉะนั้นทางที่ดีที่สุดพวกเจ้าเชื่อฟังข้าจะดีกว่า มิเช่นนั้นแล้วละก็พวกเจ้าได้ตายทั้งเป็นแน่” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา
“ลูกพี่ พวกเราเป็นคนที่เชื่อฟังมาก หากท่านต้องการไขกระดูกวิญญาณเฉี่ยซา ท่านต้องการเท่าไรพวกข้าจะไปเก็บรวบรวมมาให้ท่านเอง” พวกเขากล่าวอย่างประจบสอพอ
มู่เฉียนซีหยิบม้วนภาพแผ่นหนึ่งออกมา แล้วกล่าวว่า “คนทั้งสองคนนี้อยู่บนเขาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของยอดเขาหมื่นโลหิต ภารกิจของพวกเจ้าก็คือการไปยั่วยุและนำคนไปล้อมโจมตีพวกเ เขา หลังจากนั้นก็แสดงให้ข้าดูทีว่าความสามารถของพวกเขาสูงมากเพียงใด”
“ก็แค่หนุ่มน้อยสองคนเท่านั้นเอง เหตุใดต้องวุ่นวายขนาดนี้ด้วย พวกเรามาช่วยลูกพี่จัดการพวกเขากันเถอะ!” พวกเขารู้สึกว่าทั้งสองคนนี้ เป็นคนที่ดูดีเกินกว่าจะสู้คนได้ ฉะนั้นจ จึงไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาเลย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พวกเจ้าถูกสั่งสอนไปแล้วยังไม่พออีกหรือ คิดไม่ถึงว่าอยากจะไปตายจริง ๆ”
เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของมู่เฉียนซีก็เหงื่อแตกผลั่กขึ้นมาทันที หรือว่าสองคนนี้จะเก่งกาจมากเช่นกัน
ก็จริง หากไม่เก่งแล้วละก็ ลูกพี่ก็คงไม่ให้พวกเขาไปทดสอบทั้งสองคนนี้ว่ามีความสามารถสูงมากเพียงใด แต่คงจะไปลงมือเองแล้ว
“ขอรับ!” และพวกเขาก็รีบไปดำเนินการทันที
พวกเขาต้องการที่จะไปจัดการยั่วโมโหจื่อเวยและพั่วจวิน แต่ผลปรากฏว่าไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาลงมือเลย เพราะมีคนกลุ่มหนึ่งมาหาพวกเขาทั้งสองคนเพื่อคิดบัญชีแค้นแล้ว
“พวกเจ้าทั้งสองคนยังถือว่าเป็นลูกผู้ชายอยู่อีกอย่างนั้นหรือ! คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้ามารังแกหญิงสาวตัวเล็ก ๆ เช่นนี้ นอกจากนี้ยังทำให้พวกนางต้องเสียโฉมอีกด้วย” เพราะพวกเขาทั้งส สองคนลงมือทำลายดอกไม้งามอย่างโหดเหี้ยม มันจึงทำให้ฝูงชนเกิดความเดือดดาลขึ้นมาทันที
“ยังมีคนแบบนี้…”
“ฆ่าไอ้สารเลวทั้งสองตัวนี่ซะ”
การตำหนิของฝูงชน ทำให้สีหน้าของจื่อเวยและพั่วจวินเย็นชาเป็นอย่างมาก
พั่วจวินกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “เจ้าพวกสารเลวนี่น่ารำคาญเหลือเกิน ฆ่าพวกมันให้หมด แค่ฆ่าพวกมันซะ”
“จื่อเวย หากพวกเราลงมือสังหารเจ้าสารเลวพวกนี้ซะ ผู้หญิงคนนั้นก็คงจะซ่อนตัวต่อไปไม่ได้แล้ว ใช่หรือไม่?” รอยยิ้มที่กระหายเลือดปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของพั่วจวิน
“ก็จริง บางทีพวกเราอาจจะมาผิดทาง ผู้หญิงคนนั้นอาจจะปลอมตัวเป็นผู้ชายก็ได้ ดังนั้นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ก็คือการฆ่าทุกคนที่อยู่ในยอดเขาหมื่นโลหิตนี่ให้หมด และห หากนางอยู่ที่นี่ละก็ พวกเราจะต้องหานางเจออย่างแน่นอน”
พวกเขาสังหารหมู่ตามอำเภอใจ เพื่อตามหาคนเพียงคนเดียวเท่านั้น
พวกเขายอมฆ่าคนผิดนับหมื่น ดีกว่ายอมปล่อยคนคนเดียวให้รอดไปได้
เมื่อฝูงชนได้ยินบทสนทนาอย่างโจ่งแจ้งของพวกเขา ร่างของพวกเขาก็สั่นสะท้านไปทั้งร่าง “ช่างปากดีจริง ๆ! อาศัยแค่พวกเจ้าสองคน กล้าคิดจะฆ่าพวกข้าเลยอย่างนั้นหรือ ฝันไปเถอะ!”
ในตอนที่พวกเขาเริ่มลงมือ ก็มีเสียงกรีดร้องเสียงหนึ่งดังขึ้นทันที
“อ๊ากกก!”
พรวด พรวด พรวด!
เลือดสด ๆ สาดกระเซ็นออกมาไม่หยุดหย่อน และย้อมเนินเขาแห่งนี้จนกลายเป็นสีแดงสด
พวกเขารู้สึกว่าคนทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้านี้เดิมทีแล้วไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นอาวุธสังหารในร่างมนุษย์มากกว่า
ฉากที่พวกเขาทั้งสองคนดำเนินการสังหารหมู่อย่างโจ่งแจ้ง ได้ทำให้ฉางเฟยตกใจจนเหงื่อแตกพลั่ก
สองคนนั้นจะน่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว เขากล่าวอย่างสั่นเทาว่า “รีบหนี เร็ว…”
โชคดีที่ลูกพี่เตือนพวกเขาก่อน มิเช่นนั้นพวกเขาคงจะพุ่งทะยานเข้าไปต่อสู้กับคนทั้งสองนั่นอย่างโง่เขลา และคาดว่าน่าจะต้องตายอย่างน่าสมเพชมากเป็นแน่
ในตอนที่ใกล้จะถึงยอดเขา ผู้คนมากมายต่างก็ต้องพบเจอกับปัญหาใหญ่!
เฟี้ยว เฟี้ยว เฟี้ยว!
มีพืชกลายพันธุ์มากมายที่ซ่อนอยู่บริเวณโดยรอบ และหนึ่งในนั้นก็มีพืชกลายพันธุ์ที่เหมือนกับดอกศพขาวอยู่ด้วย
เมล็ดดอกไม้ของพวกมันที่ลอยออกมาสามารถกลายเป็นกากฝากอยู่บนร่างกายของมนุษย์ได้ หลังจากนั้นเลือดเนื้อของพวกเขาก็จะกลายเป็นปุ๋ยและอาหารของพวกมัน สุดท้ายพืชกลายพันธุ์ต้นใหม่ ก็จะถือกำเนิดออกมา
และดอกศพขาวนี้ก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในพืชกลายพันธุ์ที่ดุร้ายมากที่สุดเช่นกัน
“อ๊ากกกกก!”
“ช่วยด้วย!”
“เหตุใดยอดเขาหมื่นโลหิตแห่งนี้ถึงมีแม้กระทั่งพืชกลายพันธุ์ที่ดุร้ายอย่างดอกศพขาวนี้ด้วยล่ะ?”
ในเวลานี้ทั่วทั้งยอดเขาหมื่นโลหิตต่างเต็มไปด้วยเสียงร้องไห้คร่ำครวญที่ดังระงมไปหมด และแน่นอนว่าคนที่มีการตอบสนองที่รวดเร็วจนถึงขีดสุดมากมายสามารถหลบหลีกกาฝากอย่างดอกศพขาว วเหล่านี้ได้
มีทะเลดอกไม้อยู่เป็นหย่อม ๆ รอบบริเวณ และสีขาวของมันก็ทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตาราวกับว่าบนพื้นถูกปูด้วยหิมะขาวเป็นชั้น ๆ ก็มิปาน ทว่ามีผู้คนมากมายที่ต้องมาสังเวยชีวิต
เสี่ยวเฉี่ยที่พันอยู่บนข้อมือของมู่เฉียนซีเริ่มเคลื่อนไหว เมื่อเห็นว่าเจ้าดอกศพขาวเหล่านี้กำลังจะโจมตีบริวารตัวน้อยของมัน
มันกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “นายท่าน ความสามารถของเจ้าพวกนี้ไม่เลวเลย ให้ข้าจัดการทุบมันให้จมดินไปเลยดีหรือไม่!”
“ที่นี่มีพืชกลายพันธุ์มากมาย พวกที่แข็งแกร่งสามารถกลายเป็นน้องชายของข้าได้ ข้าจะไปจัดการพวกมัน และทำให้พวกมันอยู่ใต้คำสั่งของข้าเอง”
“ไปเถอะ! ระวังตัวด้วย” มู่เฉียนซีกล่าว
เสี่ยวเฉี่ยไม่จำเป็นต้องระวังเลยแม้แต่น้อย และมันก็ใช้วิธีการที่รุนแรงในการโจมตีพืชกลายพันธุ์เหล่านี้ให้พิการ
นอกจากดอกศพขาวแล้วมันก็ยังมีชนิดอื่น ๆ อีก ที่สำคัญเสี่ยวเฉี่ยยังสามารถรู้ตำแหน่งของพืชกลายพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่อยู่บนยอดเขาหมื่นโลหิตแห่งนี้ได้อีกด้วย
มู่เฉียนซีติดตามมันไปตลอดทาง เมื่อเห็นว่ามันกวาดล้างไปทั่วทุกทิศทางเช่นนี้ ก็ทำให้รู้สึกว่าเสี่ยวเฉี่ยช่างสง่างามมากเลยจริง ๆ
เมื่อเผชิญหน้ากับเชลยที่พ่ายแพ้เหล่านี้ ยังไม่ทันที่มู่เฉียนซีจะหยิบยาออกมา พวกมันก็ยอมจำนนต่อเสี่ยวเฉี่ยด้วยความจริงใจแล้ว
ซึ่งนางก็ไม่รู้ว่าเพราะถูกทุบตีจนหวาดกลัวหรืออะไรกันแน่? แต่มันก็ไม่ได้โหดร้ายเลยแม้แต่น้อย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เสี่ยวเฉี่ย คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะเชื่อฟังคำพูดของเจ้าถึงเพียงนี้”
เสี่ยวเฉี่ยกล่าวอย่างภูมิใจว่า “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ข้านี่เก่งกาจที่สุดแล้ว รอหลังจากที่ความแข็งแกร่งของข้าเพิ่มสูงขึ้น ข้าก็จะยิ่งเก่งกาจมากกว่านี้อีก”
เมื่อมู่เฉียนซีหยิบยาออกมาให้พืชกลายพันธุ์เหล่านี้ใช้ พืชกลายพันธุ์เหล่านี้ก็ยิ่งจงรักภักดีต่อพวกนางมากขึ้นไปอีก อย่างไรเสียยาเหล่านี้ก็มีประโยชน์ต่อการยกระดับความสามารถขอ องพวกมันพืชกลายพันธุ์ ซึ่งพวกมันก็ไม่เคยเห็นสิ่งของที่ดีเช่นนี้มาก่อนเลยเช่นกัน
ในขณะที่กำลังรวบรวมพืชกลายพันธุ์ที่มีพลังในการต่อสู้อันทรงพลังชนิดต่าง ๆ บนยอดเขาหมื่นโลหิตอยู่นั้น มู่เฉียนซีก็เกือบลืมเรื่องสำคัญไป นางกล่าวว่า “เสี่ยวเฉี่ย ยังเหลือเป้าห หมายอยู่อีกหรือไม่ หากไม่มีพืชกลายพันธุ์ที่คุ้มค่าพอให้ไปเก็บแล้วละก็ พวกเรารีบไปแย่งไขกระดูกวิญญาณเฉี่ยซากันเถอะ บางทีเจ้าสิ่งนั้นอาจจะเป็นสิ่งของที่มีส่วนช่วยในการยกระดับ บของเจ้าก็เป็นได้ พวกเราจะพลาดไม่ได้ ยิ่งมีมากเท่าไรก็ยิ่งดี”
เสี่ยวเฉี่ยสามารถรับรู้การเคลื่อนไหวทั้งหมดที่อยู่ยอดเขาหมื่นโลหิตได้ หลังจากที่ค้นพบว่าไม่มีกลิ่นอายของพืชกลายพันธุ์ที่แข็งแกร่งอีกแล้ว มันก็พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “อื้ม! ไม่มี แล้ว พวกเราไปแย่งไขกระดูกวิญญาณเฉี่ยซากันเถอะ! มีข้าและน้องชายของข้าอยู่ด้วย หากจะแย่งมาทั้งหมดก็ไม่ใช่ปัญหาเลย”
“ไปเถอะ! พวกเราไปที่ยอดเขากัน” ในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังจะเข้าไปใกล้ยอดเขา นางก็ได้กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งไปหมด
หลังจากนั้นนางก็ได้เห็นร่างเงาอันคุ้นเคย กำลังวิ่งหนีเอาชีวิตรอดลงมาจากยอดเขาพลางกล่าวว่า “ลูกพี่! รีบหนีเร็วเข้า คนที่ท่านบอกเหล่านั้นบ้าไปแล้ว พวกเขาฆ่าทุกคนจนหมด และต ตอนนี้พวกเขาก็ฆ่าคนไปถึงเก้าในสิบแล้วด้วย ช่างน่ากลัวเหลือเกิน”