ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2462 การกบฏของคุกนรกทั้งสาม
จิ่วเยี่ยกล่าวถามว่า “ซียังไม่จัดการอีกหรือ?”
“นี่ก็ใกล้จะจัดการเรียบร้อยแล้วมิใช่หรือ? เหลือเมืองนี้เมืองสุดท้ายแล้ว” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ทั้งสองคนมีความสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก ซึ่งนี่ก็ทำให้คนของเมืองวายุหิมะเหล่านั้นทรุดตัวลงทันที
เวลานี้ใต้เท้าเฮยเทียนได้กล่าวขึ้นมาว่า “พวกเจ้านี่ช่างบังอาจจริง ๆ! คิดไม่ถึงว่าจะให้ท่านอ๋องของพวกเราสังหารพระชายา ช่างรนหาที่ตายนัก! ฝ่าบาท เจ้าพวกคนไร้ประโยชน์เหล่านี้ มอบหน้าที่ให้ข้าเป็นคนจัดการเถิดขอรับ”
พวกเขาทั้งหมดเบิกตาโพลงด้วยความตื่นตกใจ พระชายาหรือ!
จริงอยู่ว่าท่านอ๋องจิ่วเยี่ยมีพระชายาอยู่หนึ่งคน แต่พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพระชายาจะเป็นเจ้าเมืองของเมืองหนามโลหิต
เดิมทีคิดว่าท่านอ๋องจิ่วเยี่ยจะมาช่วยเหลือพวกเขา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าท่านอ๋องจิ่วเยี่ยจะมาทำลายพวกเขาเสียมากกว่า!
และเป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ จิ่วเยี่ยกล่าวออกมาอย่างเย็นชาว่า “จัดการเดี๋ยวนี้”
ในเมื่อคนเหล่านี้เอ่ยปากกล่าวออกมาว่าต้องการฆ่าซี ฉะนั้นคนเหล่านี้ย่อมไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว
พลังแห่งความมืดอันน่าสะพรึงกลัวได้ช่วงชิงทุกสิ่งทุกอย่างไป ซึ่งรวมไปถึงเลือดเนื้อ ชีวิต นอกจากนี้ยังมีจิตวิญญาณ…
เนื่องจากพวกเขาอ่อนแอเกินไป จนไม่ทันแม้แต่จะอ้อนวอนขอความเมตตา ก็ต้องกลายเป็นกระดูขาว และหายไปจากโลกนี้อย่างสมบูรณ์เสียแล้ว
ฝูเซิงกล่าวด้วยความตื่นตกใจว่า “นี่มันจะจัดการได้สะอาดหมดจดเกินไปแล้ว”
และยังไม่ทันที่ฝูเซิงจะมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับ เขาก็ค้นพบว่าจิ่วเยี่ยผู้นั้นได้ลักพาตัวมู่เฉียนซีไปแล้ว ฝูเซิงเร่งไล่ตามไปพลางกล่าวว่า “เจ้าตัวน้อย รอข้าด้วย…”
ด้วยวิธีการเรียกเช่นนี้ ทำให้จิ่วเยี่ยเหลือบมองเขาด้วยความเย็นชา
สายตาเช่นนี้ สามารถทำให้เขาเป็นเหมือนคนที่กลายเป็นกระดูกได้เลย
หลังจากนั้นฝูเซิงก็ตะโกนต่อไปว่า “นายท่าน รอข้าด้วยสิ!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ฝูเซิง งานจัดการให้เป็นไปอย่างเหมาะสมหลังจากนี้มอบให้เจ้าเป็นคนจัดการก็แล้วกัน วางใจเถอะ พวกของเฉี่ยอี้จะอยู่ทำงานไปพร้อมกับเจ้า ข้าขอตัวก่อน”
ฝูเซิงอยากจะกระอักเลือดออกมาจริง ๆ เจ้าตัวน้อยจะไปพลอดรักกับอ๋องจิ่วเยี่ย แต่เขากลับต้องมาทำงานอย่างยากลำบาก มันช่างน่าโมโหนัก
เฉี่ยอี้กล่าวอย่างเป็นกังวลว่า “เจ้านาย หลังจากนี้…”
“ทำงาน ทำงาน!”
ใต้เท้าเฮยเทียนกล่าวว่า “ท่านฝูเซิง มีอะไรที่พวกข้าพอจะช่วยได้บ้างหรือไม่?”
พวกเขารู้สึกว่าพระชายานั้นช่างแข็งแกร่งมากจริง ๆ! แม้แต่พืชกลายพันธุ์ยังยอมรับนางเป็นเจ้านายเลย
ด้วยเหตุนี้ทำให้ข้อสงสัยก่อนหน้าเป็นเพียงแค่เรื่องตลกเท่านั้น อย่าว่าแต่มีคุณสมบัติในการเป็นพระชายาของคุกโลหิตเลย แม้ว่านางต้องการจะกลายเป็นอ๋องของคุกนรกก็ไม่ใช่เรื่องยากเช่นกัน
เนื่องจากว่ามีฝูเซิงเป็นทาส มู่เฉียนซีจึงสามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจ และแน่นอนว่าจิ่วเยี่ยก็ต้องพยายามอยู่เป็นเพื่อนมู่เฉียนซีให้ได้อยู่แล้ว
คำสาปของเขาเริ่มไม่มั่นคงมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉะนั้นนอกจากการพัฒนาหอหมอปีศาจแล้ว มู่เฉียนซีก็มักจะปรุงยาชนิดต่าง ๆ อยู่ในพระราชวังของคุกโลหิต
ตอนนี้หอหมอปีศาจที่อยู่ในคุกโลหิตมีชื่อเสียงอย่างกว้างขวาง ลำดับต่อไป นางต้องการจะเริ่มไปพัฒนาไปยังคุกนรกแห่งอื่น ๆ อย่างที่คุกวิญญาณ คุกมืด คุกทมิฬ คุกอสูร คุกรากษส และยังมีคุกลับอีกด้วย
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง คุกโลหิตก็ได้ประกาศสงครามกับคุกวิญญาณและคุกมืด เพราะอย่างไรเสียคุกนรกทั้งสองนี้ก็อยู่ใกล้คุกนรกเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังจัดการได้ง่ายที่สุดอีกด้วย
ความโชคร้ายกำลังจะเกิดขึ้นกับพวกเขาแล้ว ซึ่งมันก็ทำให้อ๋องโยวจีและอ๋องไป๋กุ่ยรู้สึกปวดหัวมากเลยทีเดียว
ก่อนหน้านี้อ๋องจิ่วเยี่ยมีชื่อเสียงโด่งดังมากในแดนนรก และในตอนที่เขายังไม่ได้รับบาดเจ็บ ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีความคิดที่อยากจะครอบครองแดนนรกมาก่อนเลย
แต่ตอนนี้กลับมีความคิดเช่นนี้ อีกทั้งยังคิดที่จะยึดครองพวกเขาเป็นที่แรก ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาจนปัญญามากจริง ๆ
แม้ว่าคุกวิญญาณและคุกมืดจะไม่ขัดขืน แต่ก็ถูกจิ่วเยี่ยและจื่อโยวพิชิตด้วยความรุนแรงอยู่ดี
คุกโลหิตยืนข้อเรียกร้องให้พวกเขาเป็นจำนวนสองข้อ ประการแรกย่อมต้องเป็นเรื่องที่ให้พวกเขาทั้งสองคุกใหญ่ยอมจำนนให้คุกโลหิตแน่นอนอยู่แล้ว
ข้อเรียกร้องประการที่สองก็คือการสนับสนุนการพัฒนาหอหมอปีศาจในคุกใหญ่ทั้งสองแห่งอย่างเต็มที่ หากหอหมอปีศาจที่อยู่ในคุกใหญ่ทั้งสองไม่เป็นไปอย่างราบรื่น อ๋องจิ่วเยี่ยจะมาเจรจากับพวกเขาด้วยตนเอง
ทั้งอ๋องไป๋กุ่ยและอ๋องโยวจีต่างก็มีความหดหู่ใจเป็นอย่างมากพอ ๆ กัน “เจ้าว่าท่านอ๋องจิ่วเยี่ยมีความสนใจต่อหอยาตั้งแต่เมื่อไรกัน เหตุใดเขาถึงให้การสนับสนุนหอหมอปีศาจอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้”
โยวจีกล่าวว่า “น่าจะกล่าวว่าอ๋องจิ่วเยี่ยกับหมอปีศาจของหอปีศาจมีความสัมพันธ์กันอย่างไรมากกว่า? นี่มันจะผิดปกติเกินไปแล้ว”
ตอนนี้เขาเป็นผู้มีอำนาจชี้เป็นชี้ตายได้และพวกเขาก็เป็นเพียงเนื้อบนเขียงเท่านั้น ฉะนั้นตอนนี้พวกเขาจึงทำได้เพียงทำงานอย่างเชื่อฟัง โชคดีที่การสนับสนุนหอยาแห่งหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากเท่าไรนัก และภารกิจที่อ๋องจิ่วเยี่ยมอบให้พวกเขานั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกด้วย
เมื่อเขตต้องห้ามทั้งสี่ของคุกโลหิตมั่นคง เมืองหนามโลหิตก็มีชื่อเสียงที่โด่งดังเป็นอย่างมาก แม้ว่าท่านอ๋องจิ่วเยี่ยจะประทับอยู่นอกเมือง ก็ไม่มีผู้ใดกล้าบุกโจมตีอีกแล้ว
ตอนนี้หอหมอปีศาจกลายเป็นหอยาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในแดนนรกไปแล้ว มันไม่เพียงแต่มีภูมิหลังที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยาน้ำและยาลูกกลอนของหอหมอปีศาจก็มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ นอกจากนี้เมื่อเทียบราคาแล้วยังถูกกว่าราคายาลูกกลอนทั่วไปในแดนนรกอีกด้วย
หลังจากที่จัดการคุกวิญญาณและคุกมืดเรียบร้อยแล้ว จิ่วเยี่ยก็ไปจัดการคุกทมิฬเป็นลำดับต่อไป ซึ่งนี่ก็ได้ทำให้อ๋องคนอื่น ๆ เริ่มตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
เจ้าแห่งคุกอสูรกล่าวว่า “นี่อ๋องจิ่วเยี่ยกำลังเริ่มแก้แค้นแล้วอย่างนั้นหรือ คาดว่าการลงมือครั้งต่อไปของเขา จะต้องโจมตีพวกเราแน่นอน ท่านเจ้าแห่งคุกรากษส!”
“ตอนนี้คุกนรกทั้งสี่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของอ๋องจิ่วเยี่ยแล้ว พวกเราจำเป็นต้องร่วมมือกัน มิเช่นนั้นจะต้องถูกเขากลืนกินเป็นแน่! ฉะนั้นพวกเราไปหาเจ้าแห่งคุกลับด้วยกันเถอะ อย่างไรเสียคราวที่แล้ว เขาเองก็เป็นคนยุยงให้พวกเราจัดการกับอ๋องจิ่วเยี่ย มิเช่นนั้นพวกเราที่ว่างงานจนไม่มีอะไรทำจะไปหาเรื่องจัดการคนที่วิปลาสเช่นนั้นได้อย่างไร!” เจ้าแห่งคุกอสูรกล่าว
“ไปเถอะ ไปด้วยกัน!”
หลังจากนั้นจื่อโยวก็ได้มารายงานว่า “เยี่ย ตอนนี้คุกอสูรและคุกรากษสเตรียมที่จะไปร่วมมือกับคุกลับแล้ว เจ้าแห่งคุกลับเป็นคนที่ลึกลับมากที่สุดแล้ว คราวที่แล้วก็เป็นเขาที่ยุยงให้คุกใหญ่ทั้งหกเป็นคนจัดการเจ้า และหลังจากที่มีการต่อสู้ครั้งใหญ่ เขาก็โชคดีจนหนีเอาชีวิตรอดไปได้อีกด้วย”
จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างเย็นชาว่า “รอให้พวกเขาร่วมมือกันแล้ว พวกเราค่อยกำจัดไปพร้อมกันเลย”
“จิ่วเยี่ย ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะรีบร้อนยึดครองแดนนรก ข้ารู้สึกว่าพวกเราควรที่จะจัดการคำสาปก่อนค่อยว่ากันจะดีกว่า” มู่เฉียนซีกล่าวกับจิ่วเยี่ย
ในสงครามของแดนนรกคราวที่แล้ว จิ่วเยี่ยต้องเจอกับการลอบทำร้าย และถูกสาปโดยคำสาปแห่งความมืดที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าคำสาป จนทำให้ตนเองต้องตกอยู่ในอันตราย ซึ่งนางไม่อยากให้มีเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นกับเขาอีก
จิ่วเยี่ยคว้าตัวมู่เฉียนซีเอาไว้พลางกล่าวว่า “ไม่ว่าซีต้องการจะทำอะไร ข้าย่อมต้องขจัดอุปสรรคทั้งหมดเพื่อเจ้าอยู่แล้ว”
“ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะไม่ขวางเจ้าอีกแล้ว คนที่คิดจะกำจัดเจ้าเมื่อครั้งที่แล้วยังมีชีวิตอยู่ พวกเขามีอิสระมานานมากเกินไปแล้ว ฉะนั้นพวกเราก็ควรที่จะไปแก้แค้นพวกเขาได้แล้ว” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา
ทางด้านของคุกโลหิตมีจิ่วเยี่ยที่แข็งแกร่งมาก จื่อโยวเองก็ไม่อ่อนแอเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีฝูเซิงอยู่อีกด้วย ฉะนั้นความสามารถโดยรวมของพวกเขาก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าคุกนรกทั้งสามเลย
หลังจากที่ผ่านไประยะหนึ่ง อ๋องจากทั้งสามของคุกวิญญาณ คุกมืดและยังมีคุกทมิฬ ก็ได้พายอดฝีมือและกองทัพที่เป็นลูกน้องของพวกเขา หนีออกไปจากอาณาเขตของพวกเขาไป และตรงไปยังคุกลับทันที
ส่วนเจ้าแห่งคุกอสูรและคุกรากษสทั้งสองก็ตัดสินใจทำในสิ่งเดียวกันเช่นกัน
จื่อโยวผงะไปทันที “คิดไม่ถึงว่าเจ้าพวกสามคนนั้นจะกล้าละเมิดสัญญาของพวกเรา เจ้าแห่งคุกลับให้ประโยชน์อะไรกับพวกเขากันแน่ ถึงทำให้พวกเขาไม่ต้องการแม้แต่อาณาเขตของตนเองเช่นนี้”
จิ่วเยี่ยขมวดคิ้วมุ่น พลางกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เช่นนั้นก็ฆ่ามันทิ้งให้หมด! เจ้าแห่งคุกนรกทั้งหก อย่าให้เหลือเลยแม้แต่คนเดียว”
และคนที่อยู่ในแดนนรกทั้งหมดต่างก็รู้ว่า กำลังจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว
จิ่วเยี่ยและจื่อโยวเริ่มเตรียมการกันแล้ว ส่วนมู่เฉียนซีกลับไปอยู่ในเมืองหนามโลหิต เพื่อรวบรวมกำลังเสริมที่แข็งแกร่ง
ฝูเซิงกล่าวอย่างกะตือรือร้นว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าทันทีที่ข้ากลับมา จะมีเรื่องใหญ่เช่นนี้เกิดขึ้น มันทำให้นึกถึงตอนแรกที่ข้าเป็นอ๋อง ซึ่งดูเหมือนว่าข้าจะไม่เคยเจอการต่อสู้ครั้งใหญ่เช่นนี้มาก่อนเลย มันมีเพียงแค่การต่อสู้และก่อความวุ่นวายเล็กน้อยเท่านั้น และไม่น่าสนใจเลยแม้แต่น้อย”
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “ฝูเซิง เจ้าไม่กลัวว่ามันจะอันตรายอย่างนั้นหรือ”
“ข้าเป็นคนที่ออกมาจากขุมนรกสีโลหิตเชียวนะ เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวอันตรายอะไรอย่างนั้นหรือ?” ฝูเซิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม