ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2471 ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง
เสี่ยวเฉี่ยได้ลากมู่เฉียนซีหนีไป ร่างเงาทั้งสองออกไปอย่างรวดเร็วราวกับสายลมก็มิปาน และนักฆ่าที่น่าสะพรึงกลัวผู้นั้นก็ไล่ตามไปทันที
เมื่อเห็นมู่เฉียนซีจากไป คนอีกสองคนก็ไม่อยากที่จะอยู่ที่นี่ และอยากที่จะตามไปด้วย แต่ทว่าจื่อโยวและเฉี่ยซื่อจะยอมปล่อยพวกเขาไปได้อย่างไร!
“อย่าคิดว่าจะไปได้เลย!”
อ๋องไป๋กุ่ยหัวเราะพลางกล่าวกับฝูเซิงว่า “ดูเหมือนว่าความสามารถของเจ้าจะอ่อนแอลงแล้วสินะ เป็นเพราะร่างแยกนั่นอย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นหลังจากนี้ไป คนที่จะต้องพ่ายแพ้ก็คือเจ้า”
“ข้าสูญเสียพลังไปแค่เล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรเสียคนที่ต้องตายก็ยังเป็นพวกเจ้าอยู่ดี!” ฝูเซิงกล่าวอย่างเย็นชา
ตูมมม โครมม!
การต่อสู้ของทางด้านนี้ยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด และความเร็วของนักฆ่าในชุดดำนั้นก็ไม่ได้ช้าไปกว่าเสี่ยวเฉี่ยและมู่เฉียนซีมากเท่าไรนัก
เขาไม่คิดที่จะปล่อยให้พวกของมู่เฉียนซีมีโอกาสไปขอความช่วยเหลือได้ และตอนนี้เขาก็ได้เข้ามาใกล้มู่เฉียนซีมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
เสี่ยวเฉี่ยกลายร่างเป็นหนามแหลมสีแดงเลือดและพุ่งทะยานหานักฆ่าในชุดดำนั้นอย่างบ้าคลั่ง ทำให้นักฆ่าในชุดดำผู้นั้นต้องหยุดเพื่อต่อสู่กับเสี่ยวเฉี่ยแบบตัวต่อตัว
ปัง ปัง ปัง!
เสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวดังกึกก้องออกมา จากนั้นเข็มยาและอาวุธลับที่อยู่ภายมือของมู่เฉียนซีก็บินออกไปทันที
เพราะต้องการที่จะจัดการนักฆ่าที่ไม่มีจุดอ่อนเลยสักนิดผู้นั้น มู่เฉียนซีจึงเริ่มใช้ยาพิษที่อยู่ในมือของนาง
มีหนามโลหิตจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏออกมา และนักฆ่าในชุดดำผู้นั้นก็ได้รับบาดเจ็บจากหนามโลหิตแล้วเช่นกัน
ยาพิษของมู่เฉียนซีส่งผลกระทบต่อเขาน้อยมาก ในตอนที่เห็นว่านักฆ่าชุดดำกำลังเข้ามาใกล้มู่เฉียนซีเพื่อที่จะลงมือสังหารนางอีกครั้ง เสี่ยวเฉี่ยเองก็พุ่งเข้าใส่เขาอีกครั้งทันที
“เจ้านายของข้า ท่านถอยออกไปก่อนเถอะ!”
ตูมมม!
หลังจากที่เสี่ยวเฉี่ยผลักมู่เฉียนซีออกไป เสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวก็ดังขึ้นมา จากนั้นก็มีฝุ่นฟุ้งกระจายเต็มไปหมด
ฝูเซิงระเบิดร่างแยกของตนเอง เพื่อที่จะทำให้นักฆ่าในชุดดำผู้นั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส
คนเหล่านี้แต่ละคนล้วนมีชะตากรรมที่ยากลำบากกันทั้งนั้น ไม่ง่ายเลยกว่าเสี่ยวเฉี่ยจะหาโอกาสต่อสู้เพื่อนางได้ หลังจากนั้นมู่เฉียนซีจึงพุ่งทะยานออกไปด้วยความรวดเร็ว
พรวด!
การระเบิดตนเองของร่างแยกทำให้ร่างจริงอย่างฝูเซิงได้รับบาดเจ็บสาหัสมากเช่นกัน นอกจากนี้พลังในการต่อสู้ของฝูเซิงก็ยิ่งอ่อนแอลงเรื่อย ๆ อีกด้วย
ทันใดนั้น ฝูเซิงก็หายไปอย่างกะทันหัน เขากล่าวว่า “พวกเราถอยก่อนเถอะ! ตอนนี้เจ้านายปลอดภัยแล้ว”
จื่อโยวพยักหน้าพลางกล่าวว่า “อื้ม!”
พวกเขาทุกคนต่างรู้สึกไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ พืชกลายพันธุ์ขั้นเทวะที่หยิ่งผยองขนาดนั้น! คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะหนีไปเช่นนี้
มู่เฉียนซีไม่สามารถหาคนช่วยเหลือได้ แต่นางกลับค้นพบสถานที่ที่อยู่ในเมืองที่เป็นปรักหักพังแห่งหนึ่ง และเนื่องจากว่าในพื้นที่แห่งนั้นมีพลังแห่งมิติบรรจุเอาไว้บ้าง จึงทำให้ม มู่เฉียนซีค้นพบมัน
ยากมากที่ศัตรูจะหาที่แห่งนี้พบ เว้นแต่ว่าพวกเขาจะมีพลังแห่งมิติ ฉะนั้นสถานที่แห่งนี้จึงค่อนข้างปลอดภัยในระยะหนึ่ง!
ตอนนี้มู่เฉียนซีรู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์ของฝูเซิงเป็นอย่างมาก แต่มู่เฉียนซีก็ยังสามารถสัมผัสถึงเขาได้เนื่องจากพันธสัญญาระหว่างกัน และนอกจากนี้พวกเขายังอยู่ไม่ไกลกันมากอีกด้วย
ฝูเซิงมุ่งหน้าไปตามคำแนะนำของมู่เฉียนซี และเขาก็พาคนตามหาที่อยู่ของมู่เฉียนซีจนเจอ จากนั้นก็เข้าไปในมิติแห่งนั้นด้วยกัน
พวกของอ๋องไป๋กุ่ยไล่ล่าพวกเขา และหลังจากที่ไล่ตามมาจนถึงเมืองที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังแห่งนี้แล้ว พวกเขาก็ค้นพบว่าคนที่พวกเขาไล่ตามได้หายสาบสูญไปแล้ว
อ๋องคุกทมิฬกล่าวว่า “พวกเขาถูกเคลื่อนย้ายออกไปแล้วหรือ? หรือว่าจะหาสถานที่ซ่อนตัวได้แล้ว?”
อ๋องไป๋กุ่ยกล่าวว่า “ต่อให้ต้องขุดลงไปลึกแค่ไหนก็ต้องหาคนออกมาได้ให้ ทั้งคู่หมั้นของอ๋องจิ่วเยี่ย และผู้ช่วยผู้มากความสามารถของเขา พวกเราจะต้องฉวยโอกาสนี้จัดการกับพวกเข ขาให้ได้ หากเป็นเช่นนั้นแล้วสงครามของคุกนรกในครั้งนี้ ก็ถือได้ว่าพวกเราเอาชนะไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว”
“ใช่แล้ว!”
ตูมม โครมมม!
จากนั้นสถานที่ที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังแห่งนี้ ก็ถูกพวกเขาทำลายจนพังยับเยินอย่างรุนแรง
แต่มู่เฉียนซีในเวลานี้กำลังรักษาฝูเซิงและจื่อโยวให้หายจากอาการบาดเจ็บ หลังจากนั้นนางก็เริ่มเข้าสู่การฝึกสมาธิ
เพราะการถูกนักฆ่าในชุดดำโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้นางเกือบที่จะต้องตายอยู่หลายรอบเลยทีเดียว
เมื่อเจออันตรายถึงชีวิตจึงทำให้นางรู้สึกได้ถึงศักยภาพของนางได้ กอปรกับประสบการณ์ในการต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่าหลังจากที่นางเข้ามาในกรงร้อยศึกแห่งนี้ ทำให้นางกำลังจะบรรลุได้ แล้ว
มู่เฉียนซีไม่รู้เลยว่าเวลาที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ผ่านพ้นไปนานเพียงใด แต่สุดท้ายนางก็สามารถบรรลุได้สำเร็จ และในที่สุดนางก็กลายเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับ บเก้า
จื่อโยวได้ถูกมู่เฉียนซีกรอกยาให้จำนวนนับไม่ถ้วนจนสามารถฟื้นฟูจิตวิญญาณกลับมาได้ แต่ทว่าฝูเซิงกลับไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างง่ายดายขนาดนั้น
การที่เขาระเบิดร่างแยกของตนเอง ทำให้เขาตกอยู่ในช่วงเวลาที่อ่อนแอมากที่สุด แม้ว่ายาจะเต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิต แต่เขาก็ไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วอยู่ดี
และตอนนี้เขาก็ไม่ได้มีความสามารถระดับอ๋องอีกต่อไปแล้ว
จื่อโยวกล่าวว่า “พวกเราควรที่จะไปจัดการคนเหล่านั้นได้แล้ว คราวนี้ข้าจะต้องฆ่าพวกมันให้สิ้นซากให้ได้”
ฝูเซิงกล่าวว่า “ข้าต้องการที่จะฆ่าเจ้านักฆ่าคนนั้น! คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้ามาลอบสังหารเจ้านายของข้า”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หลังจากที่ออกไปแล้ว แม้ว่าพวกเจ้าจะหายดีแต่ก็อย่าได้ประมาทเป็นอันขาด”
เป็นไปอย่างที่คาดไว้ หลังจากที่พวกของมู่เฉียนซีปรากฏตัวออกมา ร่างเงาสีดำร่างหนึ่งก็แวบเข้ามา คิดไม่ถึงว่านักฆ่าชุดดำผู้นั้นจะซุ่มรออยู่ข้างนอกมาตลอด
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยืนยันได้แล้วว่าพวกของนางอยู่บริเวณใกล้เคียงนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงซุ่มรออยู่บริเวณโดยรอบมาโดยตลอด และรอให้มีโอกาสเพื่อเริ่มโจมตีอีกครั้งทันที
เนื่องจากฝูเซิงเคยต่อสู้กับเขามาแล้วครั้งหนึ่ง มันจึงทำให้การตอบสนองของเขานั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก
ปังงง!
และการโจมตีของนักฆ่าผู้นั้นก็ถูกสกัดกั้นเอาไว้ได้
“ใต้เท้าจื่อโยว เจ้าซ่อนตัวอยู่ที่นี่จริง ๆ ด้วยสินะ” อ๋องทั้งสามคนปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าสีหน้าของโยวจีจะซีดเผือดจนไม่มีสีเลือดเลยแม้แต่น้อย แต่พลังโดยรวมของพวกเขาก ก็ดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
จื่อโยวกลายเป็นร่างเดิม และเตรียมที่จะบดขยี้พวกเขา แต่ผลปรากฏว่ากลับมีวิหคนรกแห่งความตายจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาที่กลางอากาศ คิดไม่ถึงเลยว่าจำนวนของมันจะมากยิ่งขึ้น อ อีกทั้งยังมีพลังที่แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย
“บัดซบเอ้ย!” จื่อโยวก่นด่าด้วยเสียงทุ้มต่ำ
คราวที่แล้วเป็นเพราะไม่ได้เตรียมตัวจึงเจอเรื่องเช่นนั้น ถึงคราวนี้จำนวนของพวกมันจะเพิ่มมากขึ้น แต่จื่อโยวก็เตรียมตัวเอาไว้แล้ว ฉะนั้นพวกมันจึงไม่มีทางประสบความสำเร็จได้ง่าย อย่างแน่นอน
ไม่เพียงแต่มีศัตรูทั้งที่ลับและที่แจ้งเท่านั้น แต่ยังต้องต่อสู้แบบหลายคนต่อหนึ่ง ซึ่งมันไม่ง่ายเลยที่เขาจะสามารถจัดการคนเหล่านี้ได้
“เจ้าหนูนี่!” แววตาของฝูเซิงเย็นยะเยือก และความเร็วของนักฆ่าชุดดำผู้นั้นก็รวดเร็วขึ้นราวกับภูตผีก็มิปาน
มู่เฉียนซีตอบโต้อย่างระมัดระวัง เพราะเจ้านักฆ่าในชุดดำผู้นั้นไม่คิดว่าตนเองเป็นคนเลย และตอนนี้เขาคงคิดว่าตนเองเป็นเพียงกลุ่มก้อนของเจตนาฆ่ากลุ่มหนึ่งเท่านั้น
เขาเป็นหนึ่งในดาบที่อู๋หยาเลี้ยงดูออกมาหลายคนนั้นจริง ๆ เช่นนั้นคนผู้นี้ย่อมเป็นคนที่น่ากลัวมากที่สุดในหมู่พวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!
เสียงระเบิดที่น่าสะพรึงกลัวดังออกมา เนื่องจากว่าความสามารถของฝูเซิงได้รับความเสียหาย จึงทำให้การเผชิญหน้ากับนักฆ่าชุดดำผู้นี้ ยากที่ทั้งสองคนจะรู้ผลแพ้ชนะได้
มู่เฉียนซีได้ให้เสี่ยวหง อู๋ตี้และเสี่ยวโม่โม่ทั้งสามตัวร่วมมือกัน เพื่อสร้างความลำบากให้กับนักฆ่าในชุดดำผู้นั้น ซึ่งมันก็ทำให้ฝ่ายของพวกเขาได้เปรียบมากขึ้นเล็กน้อย
แต่ทว่าหลังจากที่ถูกขัดขวางไม่ให้โจมตีเป้าหมายครั้งแล้วครั้งเล่า มันก็ได้ทำให้กลิ่นอายของนักฆ่าผู้นี้เปลี่ยนเป็นน่าสะพรึงกลัวมากยิ่งขึ้นไปอีก
เขาระเบิดเจตนาฆ่าออกมา พลังวิญญาณย้อนกลับ และคิดไม่ถึงเลยว่ามันจะทำให้ระดับของเขาเพิ่มขึ้นในคราวเดียว
เดิมทีเขาก็เป็นยอดฝีมือระดับใต้เท้าที่ยอดเยี่ยมมากอยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่อเขายกระดับขึ้นมาอีกระดับจึงกลายเป็นระดับอ๋องในทันที และถึงแม้ว่ามันจะอ่อนแอกว่าระดับอ๋องที่แท้จริงอยู่ เล็กน้อย แต่สำหรับพวกเขาแล้วคนผู้นี้ก็ถือว่าอันตรายมากอยู่ดี
ฝูเซิงกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “เจ้าหนูนี่!”
ลำแสงสีแดงเลือดสว่างวาบเป็นวงกว้าง ฝูเซิงเองก็ไม่อยากที่จะยอมแพ้เช่นกัน เขาระเบิดพลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา และทั้งสองก็ต่อสู้กันอีกครั้ง
ปัง ปัง ปัง!
หลังจากที่มีเสียงดังกึกก้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างเงาที่สะบักสะบอมสองสามร่างก็ลอยละลิ่วออกไป
พรวด!
จุดสำคัญบนร่างกายของชายในชุดดำผู้นั้นได้ถูกแทงด้วยหนามโลหิตจำนวนนับไม่ถ้วน และมีเลือดสาดกระเซ็นออกมาราวกับน้ำพุก็มิปาน
เขาไม่มีแรงโต้ตอบเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ยังคงจ้องเขม็งไปที่มู่เฉียนซี และยังต้องการที่จะพุ่งเข้าไปสังหารมู่เฉียนซีอยู่ดี