ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2474 รับของขวัญอันล้ำค่า
มู่เฉียนซีรู้ว่า นางควรจะต้องลงมือได้แล้ว
เพราะนางเองก็ไม่อยากให้วิหคนรกแห่งความตายที่ได้กินจิตวิญญาณระดับอ๋องเหล่านี้หนีไปได้เช่นกัน มิเช่นนั้นมันจะต้องเกิดหายนะครั้งใหญ่แน่นอน
พลังจิตวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมา และวิหคนรกแห่งความตายที่หลังจากกินอิ่มหนําสําราญแล้วก็สัมผัสได้ถึงอันตรายที่ไม่เคยเจอมาก่อน
พวกมันพยายามหนีไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่กลับถูกป้อมปราการทางจิตวิญญาณที่ทรงพลังสกัดกั้นเอาไว้
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “พวกเจ้าหนีไปไหนไม่รอดหรอก”
โยวจีมองไปยังหญิงสาวที่นางคิดว่าอ่อนแอนมาตลอดผู้นั้น กำลังบดขยี้วิหคนรกแห่งความตายที่เกือบทำให้นางตายเหล่านั้นโดยแทบไม่ต้องใช้แรงเลยด้วยซ้ำ
ต้องมีพลังจิตวิญญาณที่ทรงพลังมากเพียงใดกันแน่ ถึงจะสามารถทำเช่นนี้ได้?
พรวด!
โยวจีกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง
ตอนนี้นางไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้ ถึงขนาดแม้แต่คนที่ไม่เคยได้บำเพ็ญเลยสักนิดก็สามารถฆ่านางได้!
“คนงาม ทางด้านของเจ้าจัดการได้ค่อนข้างเร็วเลยทีเดียว คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะจัดการได้แล้ว” ในเวลานี้ ก็มีน้ำเสียงที่ชั่วร้ายเสียงหนึ่งดังขึ้น และจื่อโยวก็มาปรากฏตัวอยู่เบื้ องหน้าของมู่เฉียนซี
คนที่เขาแบกมาด้วยก็คืออ๋องไป๋กุ่ย ซึ่งสีหน้าของอ๋องไป๋กุ่ยในเวลานี้ก็ซีดเผือดราวกับไม่มีเลือดเลยแม้แต่น้อย
“ยังมีลมหายใจอยู่ และยังไม่ตาย! ข้าเตรียมที่จะมอบให้คนงามเป็นคนจัดการเช่นกัน”
มู่เฉียนซีกล่าวกับจื่อโยวว่า “จิตวิญญาณที่ถูกวิหคนรกแห่งความตายจิกกินทรมานหรือไม่?”
“แน่นอนว่ามันต้องทรมานอยู่แล้ว” จื่อโยวกล่าว
“เช่นนั้นข้าจะให้โอกาสเจ้าได้แก้แค้นแบบฟันต่อฟัน!” มู่เฉียนซีเอาเลือดของอ๋องไป๋กุ่ยออกมา และใส่มันลงไปในยา หลังจากนั้นก็มอบยาให้กับจื่อโยว
“เอามันเทลงบนตัวของอ๋องไป๋กุ่ยเสียสิ”
อ๋องไป๋กุ่ยรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที เขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง เขาจึงกล่าวถามด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อยว่า “นี่มันคืออะไรกันแน่?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นี่น่ะหรือ เจ้าสามารถให้พันธมิตรของเจ้าบอกเจ้าได้”
เมื่ออ๋องไป๋กุ่ยค้นพบโยวจี เขาก็ค้นพบว่าโยวจีอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่เป็นอย่างมาก ซึ่งมันก็ย่ำแย่เสียยิ่งกว่าสภาพของคนที่กำลังจะตายอย่างเขาหลายเท่านัก
จื่อโยวได้เทยานั้นลงไปบนตัวของอ๋องไป๋กุ่ย หลังจากนั้นไม่นานเขาก็สัมผัสได้ว่ามีสิ่งที่น่ารังเกียจกำลังใกล้เข้ามา และเขาก็พร้อมที่จะโจมตีแล้ว
วิหคนรกแห่งความตายมาแล้ว นอกจากนี้พวกมันก็ไม่ได้มาเพียงแค่ตัวสองตัวอีกด้วย
เพียงแต่ว่าคราวนี้เป้าหมายของวิหคนรกแห่งความตายเหล่านี้กลับไม่ใช่เขา แต่เป็นคนที่ถูกราดยาลงไปอย่างอ๋องไป๋กุ่ยต่างหาก
“อ๊ากกก!” ความเจ็บปวดของการถูกฉีกทึ้งจิตวิญญาณ ทำให้อ๋องไป๋กุ่ยกรี๊ดร้องออกมา และถึงเขาจะต่อต้านอย่างบ้าคลั่ง ก็ยังคงไม่มีประโยชน์อยู่ดี
จื่อโยวกล่าวว่า “คนงาม ยาที่เจ้าทำออกมานั้นยอดเยี่ยมมาก มันสามารถกลายเป็นเหยื่อล่อเอาไว้ดึงดูดวิหคนรกแห่งความตายได้ด้วย”
“ก็ใช่! เพียงแต่วิหคนรกแห่งความตายของกรงร้อยศึกแห่งนี้มีจำนวนมากเกินไป แม้ว่าจะล่อมันออกมาฆ่าได้ส่วนหนึ่ง แต่เกรงว่ามันจะกลายเป็นเพียงแค่น้ำน้อยที่แพ้ไฟเสียมากกว่า นอกจาก กนี้ยังไม่สามารถขัดขวางการทำลายผนึกของราชาวิหคนรกแห่งความตายได้อีกด้วย” มู่เฉียนซีกล่าวตอบ
“ก็จริง! แม้ว่าจิตวิญญาณของคนงามจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่สามารถต่อสู้โดยไม่พักได้ และนกเหล่านี้มีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง ตราบใดที่ราชาวิหคยังไม่ตาย พวกมันก็จะสามารถโผล่ออกมาได้อย่ างไม่มีสิ้นสุด”
ตึง!
เมื่อเห็นว่าจิตวิญญาณของอ๋องไป๋กุ่ยกำลังจะหายไปจนหมดแล้ว มู่เฉียนซีก็ลงมือจัดการวิหคนรกแห่งความตายกลุ่มนั้นทันที
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จัดการพวกเขาเถอะ! สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไม่มีประโยนช์อะไรอยู่ดี”
จื่อโยวกล่าวว่า “ตกลง!”
โยวจีและอ่องไป๋กุ่ยทำได้เพียงเฝ้ามองจื่อโยวลงมือเท่านั้น เพราะตอนนี้พวกเขาไม่มีแรงจะตอบโต้เลยแม้แต่น้อย และทำได้เพียงปล่อยให้จื่อโยวสังหารเท่านั้น
ตอนนี้พวกเขาเสียใจแล้วจริง ๆ ตอนแรกพวกเขามัวไปลุ่มหลงกลอุบายจนไม่ยอมติดตามอ๋องจิ่วเยี่ยให้ดี และยังเลือกที่จะทรยศเพื่อมาเข้าร่วมกับคุกลับอีกด้วย
อ๋องจิ่วเยี่ยไม่เพียงแต่มีพลังที่แข็งแกร่งจนผิดปกติเท่านั้น ผู้หญิงของเขา และลูกน้องของเขาแต่ละคนล้วนแข็งแกร่งจนผิดปกติเช่นกัน
พรวด!
อ๋องแห่งคุกมืดและคุกวิญญาณ ทั้งสองยังเป็นอ๋องได้ไม่ถึงสองปีแต่ก็ต้องมาตายอยู่ที่นี่เสียแล้ว และหลังจากนั้นจิตวิญญาณของเขาก็สลายหายไป
ตอนนี้พวกเขาได้รับชัยชนะแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าอ๋องสองในหกของคุกนรกจะถูกจัดการไปแล้ว เช่นนั้นสงครามของคุกนรกคราวนี้ ก็ถือว่าพวกเขาเอาชนะไปหนึ่งในสามส่วนแล้วสินะ
จื่อโยวกล่าวว่า “น่าเสียดายที่ปล่อยให้เจ้าอ๋องคุกทมิฬนั้นหนีไปได้”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าทิ้งผงติดตามไว้บนตัวของเขาแล้ว อย่างไรเสียเขาก็ไม่สามารถออกไปจากกรงร้อยศึกแห่งนี้ได้อยู่ดี ฉะนั้นพวกเราก็จะสามารถตามจับเขาได้เสมอ ไม่ต้องรีบหร รอก”
ในเวลานี้มีร่างเงาสองสามร่างพุ่งทะยานเข้ามา พวกของทานหลางกลับมาแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาทั้งสามคนได้รับชัยชนะมาอย่างสวยงาม
พวกที่พ่ายแพ้ทั้งสามคนนี้ไม่ได้ถูกพวกของทานหลางสังหาร เนื่องจากว่าเจ้านายไม่ได้สั่งให้สังหารพวกเขา
แม้ว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บจนเหลือแต่ลมหายใจ แต่แววตาของพวกเขาที่จ้องมองไปยังมู่เฉียนซีนั้นก็ยังคงแน่วแน่ และเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
จื่อโยวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คนงาม ทั้งสามคนนี้เจ้าจะฆ่าหรือเก็บเอาไว้?”
“อย่างไรข้าก็เก็บเอาไว้มาสามคนแล้ว เช่นนั้นก็เก็บพวกเขาเอาไว้เถอะ อีกทั้งเรื่องความสามารถของเขาก็แข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัยเลย” มู่เฉียนซีกล่าวตอบ
สุดท้ายแล้วมู่เฉียนซีก็รับของขวัญอันล้ำค่าที่อู๋หยามอบให้ด้วยรอยยิ้ม
หนุ่มน้อยในชุดสีขาวกล่าวว่า “ข้าไม่มีทางทรยศท่านอู๋หยาเหมือนพวกมันทั้งสามคนแน่นอน ทางที่ดีเจ้ายอมแพ้เสียเถอะ! ฆ่าพวกเราซะ! พวกเราไม่เคยกลัวตายอยู่แล้ว”
“ตกอยู่ในมือของข้าแล้ว จะเป็นหรือตาย มันก็ขึ้นอยู่กับข้า” มู่เฉียนซีกล่าวพลางยกยิ้มจาง ๆ
หลังจากนั้นเข็มยาหลายเล่มก็พุ่งทะยานออกไป และปักลงบนตัวของพวกเขาทั้งสามคน ตึง ตึง ตึง! หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสามคนก็หมดสติไปทันที
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “แบกพวกเขาไป และหาสถานที่ที่สะอาดเพื่อพักผ่อนก่อน การต่อสู้ครั้งนี้ลำบากพวกเจ้าแล้ว”
“สามารถได้รับชัยชนะเช่นนี้ได้ ลำบากแค่นี้ถือว่าคุ้มค่าแล้ว” ทุกคนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ยาของมู่เฉียนซีสามารถใช้กับพวกของทานหลางทั้งสามคนสำเร็จ ดังนั้นมันก็น่าจะมีผลกับพวกเขาทั้งสามคนเช่นกัน ไม่นานนักหนุ่มน้อยในชุดสีขาวก็ตื่นขึ้นมาเป็นคนแรก เขากล่าวขึ้นอ อย่างสง่างามว่า “ข้าน้อยเหวินฉู่ คารวะนายท่าน”
หลังจากนั้นหนุ่มน้อยในชุดสีเทาก็ตื่นตามมา “ข้าน้อยเหลียนเจิน คารวะนายท่าน!”
และตอนนี้หนุ่มน้อยในชุดสีดำก็ตื่นขึ้นมาแล้วเช่นกัน เพียงแต่ว่าตอนที่เขาต้องการเคลื่อนไหว กลับทุลักทุเลเป็นอย่างมาก ดังนั้นมู่เฉียนซีจึงเดินไปที่ข้างกายเขาพล่างกล่าวว่า “ไม่ ต้องลุกขึ้นหรอก บอกชื่อของเจ้ามาเถอะ”
“ข้าน้อยชีชา!” เขาพ่นคำนี้ออกมา พร้อมกับจิตสังหารที่เย็นยะเยือก
เมื่อยืนยันได้แล้วว่าพวกเขาไม่มีปัญหา มู่เฉียนซีก็เริ่มทำการรักษาพวกเขา แต่ละคนล้วนมีสภาพที่ย่ำแย่เป็นอย่างมาก พวกเขาไม่ออมมือเลย ฉะนั้นจึงทำให้ได้รับบาดเจ็บที่สาหัสทีเดียว
หลังจากที่กลุ่มของพวกเขาได้รับการรักษาเรียบร้อยแล้วก็เริ่มเดินทางต่อ มู่เฉียนซีไม่รีบร้อนที่จะไล่ล่าอ๋องแห่งคุกทมิฬไป นางต้องการรอให้จื่อโยวฟื้นตัวเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิด ดข้อผิดพลาดขึ้น
ช่วงเวลานี้พวกเขาจัดการศัตรูไปได้ไม่น้อย และนอกจากอ๋องจิ่วเยี่ยแล้ว กลุ่มคุกโลหิตของพวกเขากลุ่มนี้ก็ถือว่าเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว ศัตรูที่ได้มาเผชิญหน้ากับพวกเขา ย่อมต้องพ่ายแพ้ไปอย่างยับเยินอยู่แล้ว
กลิ่นอายแห่งความตายของกรงร้อยศึกแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ จื่อโยวกล่าวว่า “คนงาม ตอนนี้ข้าฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์แล้ว พวกเราไปจัดการอ๋องของคุกทมิฬกันก่อนเถอะ หลังจากนั้นค ค่อยไปตามหาเยี่ย เมื่อถึงตอนนั้นก็คงมีอ๋องเพียงแค่สามคนให้จัดการเท่านั้น พวกเราจะได้ออกไปจากที่นี่…”
“สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยวิหคนรกแห่งความตาย มันทำให้ข้ารู้สึกไม่สบาย และไม่อยากอยู่ที่นี่เลยแม้แต่อึดใจเดียวจริง ๆ”
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ตกลง!”
คราวนี้อ๋องแห่งคุกทมิฬถูกทำให้หวาดกลัวมากจริง ๆ แต่เมื่อใต้เท้าจื่อโยวเลือกไล่ล่าอ๋องไป๋กุ่ยและไม่ได้เลือกเขา มันจึงทำให้เขาสามารถถอนหายใจออกมาได้อย่างโล่งอกเลยทีเดียว ทว่าเขาก็ยังคงกังวลมากอยู่ดี ดังนั้นเขาจำเป็นที่จะต้องไปรวมตัวกับอ๋องคนอื่น ๆ ให้ได้
เขายังไม่ทันที่จะไปรวมกลุ่มกับพันธมิตร กลับต้องมาเผชิญหน้ากับกลุ่มคนที่คุ้นเคยมาตลอด ซึ่งมันก็ทำให้สีหน้าของอ๋องแห่งคุกทมิฬในตอนนี้ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก “ใต้เท้าจื่อโยว พ พระชายาคุกโลหิต…”