ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2477 อย่าพยายามเป็นญาติ
เวลานี้ใต้เท้าระดับสูงที่อยู่ข้างกายของหวงอู๋ไห่ ได้เริ่มเคลื่อนไหวและเปิดเส้นทางให้กับเขาโดยตรง จึงทำให้ไม่มีผู้ใดสามารถขัดขวางเขาได้
และเมื่อเขาเข้ามาใกล้มู่เฉียนซีได้อย่างราบรื่น มู่เฉียนซีก็เหวี่ยงกระบี่ออกไปโดยไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย
“เพลิงนภาพิฆาต!”
หากอีกฝ่ายเป็นเพียงเจ้าครองดินแดนระดับสูงคนหนึ่ง คาดว่าคงจะน่าสังเวชไปแล้ว และแม้ว่าหวงอู๋ไห่จะดูอายุน้อย แต่เขาก็มีอายุมากกว่าพันปีเข้าไปแล้ว ฉะนั้นเขาจึงสามารถหลบหลีก กการโจมตีของมู่เฉียนซีได้อย่างง่ายดายนั่นเอง
หวงอู๋ไห่กล่าวว่า “ดูเหมือนว่าเจ้าจะชื่อมู่เฉียนซีใช่หรือไม่! ข้าคือหวงอู๋ไห่ มีศักดิ์เป็นพี่ของหวงจิ่วเยี่ย ในเมื่อเจ้าเป็นผู้หญิงของเขา ฉะนั้นข้าไม่มีทางทำร้ายเจ้าอย่างแน น่นอน นอกจากนี้ยังจะดูแลเจ้าอย่างดีอีกด้วย ดังนั้นเจ้าจงให้ความร่วมมือแต่โดยดีเถอะ”
“พรูดด! ใครก็ตามที่แซ่หวงแล้วต้องการเป็นญาติกับจิ่วเยี่ยของข้า นั่นมันก็ต้องดูที่เจ้าด้วย! นี่เจ้าไม่ส่องกระจกดูตัวเองบ้างเลยหรือ ว่ารูปร่างหน้าตาของเจ้าเป็นเช่นไร” มู่เฉ ฉียนซีกล่าวพลางมองไปทางเขาอย่างดูถูก
“เจ้าพูดอะไรน่ะ?” การเยาะเย้ยของมู่เฉียนซี ทำให้ดวงตาของหวงอู๋ไห่กลายเป็นสีแดงด้วยความโกรธเคือง
“นางผู้หญิงคนนี้ ตอนนี้เจ้าทำให้ข้าโมโหได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ช่างดีจริง ๆ”
เขาปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมาอย่างบ้าคลั่ง แต่มู่เฉียนซีก็ใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาได้เช่นกัน ซึ่งมันก็ทำให้เขาค้นพบว่าตนเองนั้นไม่สามารถจับผู้หญิงคนนี้ได้อย่างราบรื่น นเท่าไรนัก
“ความสามารถของเจ้าก็ไม่เห็นจะเท่าไรเลย?” มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นมาอย่างเรียบเฉย
“ลงมือจับนางมาเดี๋ยวนี้!” เนื่องจากว่าหวงอู๋ไห่ไม่ใช่คนที่มีความอดทนมากเท่าไรนัก ฉะนั้นหลังจากที่เขาผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า เขาจึงได้สั่งให้ใต้เท้าระดับสูงที่คอยคุ้มครองเขา เหล่านั้นเคลื่อนไหวทันที
ในตอนที่ใต้เท้าระดับสูงทั้งสามคนกำลังพุ่งทะยานเข้ามา ข้างกายของมู่เฉียนซีก็ปรากฏร่างเงาของคนสามคนออกมาขวางพวกเขาเอาไว้ และทันใดนั้นพลังที่น่าสะพรึงกลัวของคนทั้งสามก็ปะทะ ะเข้าด้วยกัน
มีเพียงหนุ่มน้อยสามคนเท่านั้น แต่กลับสามารถทำให้คนของหวงอู๋ไห่ต้องทุกข์ทรมานได้
“อู๋ตี้ เสี่ยวหง เสี่ยวโม่โม่ จงออกมา”
มู่เฉียนซีไม่กลัวพวกเขาเหล่านี้ และนางก็เรียกสัตว์พันธสัญญาของนางออกมารับมือกับหวงอู๋ไห่ ซึ่งมันก็ทำให้หวงอู๋ไห่คลุ้มคลั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
เขาเองก็คิดไม่ถึงเลยว่า ผู้หญิงเพียงคนเดียวจะจัดการได้ยากถึงเพียงนี้ เขากล่าวว่า “ท่านเย่ ลงมือสิ! ข้าต้องการให้ผู้หญิงของหวงจิ่วเยี่ยทำตามคำสั่งของข้า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
“ข้าน้อยจะทำให้ความปรารถนาของฝ่าบาทเป็นจริงอย่างแน่นอน” เสียงแหบแห้งเสียงหนึ่งดังขึ้นมา และมู่เฉียนซีก็สัมผัสได้ว่ากำลังมีพลังคำสาปพุ่งเข้ามาจู่โจมนาง
นับตั้งแต่ตอนที่นางสังหารคนของเผ่าคำสาปกลุ่มนั้นในตำหนักเทพแห่งชีวิต นางก็ไม่ได้เผชิญหน้ากับคนของเผ่าคำสาปมาเป็นเวลานานมากแล้ว
“มู่เฉียนซี ระวัง!” ในฐานะที่อวิ๋นจื่อเป็นพืชศักดิ์สิทธิ์ เขาย่อมมีความรู้สึกที่ไวต่อสิ่งชั่วร้ายและความมืดเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งตอนนี้เขาก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
“เป็นนักเล่นคาถาอาคม!” นัยน์ตาของเขาหดลงอย่างกระทันหัน และเขาก็ต้องการกลับไปอยู่ข้างกายมู่เฉียนซีโดยเร็วที่สุด
หากพืชศักดิ์สิทธิ์เช่นเขาอยู่ข้างกายของมู่เฉียนซี เขาก็จะสามารถช่วยมู่เฉียนซีสกัดกั้นทักษะคำสาปที่อันตรายเหล่านี้ได้ เพราะทักษะคำสาปนั้นไม่สามารถทำอะไรเขาได้นั่นเอง
ตูมม โครมมม!
“อย่าคิดว่าจะไปทำลายเรื่องดี ๆ ของฝ่าบาทอู๋ไห่ได้เลย” แต่ทว่าเขากลับถูกใต้เท้าระดับสูงที่ทรงพลังคนหนึ่งเข้ามาโจมตี จนทำให้เขาไปหานางไม่ทันเวลา
ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็คลี่ยิ้มออกมา “นักเล่นคาถาอาคมหรือ!”
ในตอนแรกที่คุกนรกทั้งหกร่วมมือกันให้นักเล่นคาถาอาคมร่ายคำสาปแห่งความมืดที่แข็งแกร่งที่สุดใส่จิ่วเยี่ย นางพยายามหานักเล่นคาถาอาคมในกองทัพของคุกนรกทั้งสามที่จัดการไปก่อน นหน้านี้ แต่กลับหาไม่เจอ ทว่ามันกลับมาอยู่ที่คุกลับนี่เอง
ดูเหมือนว่าคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเผ่าคำสาปอย่างลึกซึ้งที่สุด ก็คือคนของคุกลับสินะ! ดีมาก…
หวงอู๋ไห่ผงะไปครู่หนึ่ง “เจ้ายิ้มอะไร? เจ้ารู้หรือไม่ว่านักเล่นคาถาอาคมแสดงถึงอะไร? มันแสดงว่าเจ้าที่เป็นแค่เพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตคนหนึ่ง ไม่มีความสามารถพ พอที่จะตอบโต้ได้เลย”
มู่เฉียนซีเลิกคิ้วพลางกล่าว “เจ้าแน่ใจหรือ?”
มู่เฉียนซีเคยเจอนักเล่นคาถาอาคมที่แข็งแกร่งกว่านี้มาก่อน และพลังของนักเล่นคาถาอาคมผู้นี้สำหรับมู่เฉียนซีแล้วไม่ควรค่าที่จะกล่าวถึงเลยด้วยซ้ำ นางเองก็เริ่มใช้พลังคำสาปเช่ นกัน และในตอนที่ทักษะคำสาปของเจ้าหมอนั่นกำลังโจมตีนาง มันก็เปลี่ยนกลายเป็นความว่างเปล่าไปในทันที
นักเล่นคาถาอาคมที่อยู่ข้างกายของหวงอู๋ไห่กล่าวขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อว่า “เป็นไปได้อย่างไร? จะ…เจ้าก็เป็นนักเล่นคาถาอาคมหรือ! พระชายาของอ๋องแห่งคุกโลหิต จะเป็นคนของเผ่าค คำสาปไปได้อย่างไร นี่มันเป็นไปไม่ได้…”
“อ๊ากกกก!” ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังออกมา หากคิดจะโจมตีมู่เฉียนซีก็ต้องชดใช้ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เบา ๆ เลย! และตอนนี้เขาก็ถูกการสะท้อนกลับจนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว
หวงอู๋ไห่มองไปยังหญิงสาวที่ทั้งงดงามและสูงศักดิ์ผู้นี้ “คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเป็นคนของเผ่าคำสาป! หวงจิ่วเยี่ยเกลียดชังเผ่าคำสาปถึงขนาดนั้น แต่สุดท้ายกลับไม่รู้ว่าผู้หญิง งของตนเองก็เป็นคนของเผ่าคำสาปเช่นกัน! ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ช่างน่าขันยิ่งนัก”
“ในเมื่อเจ้าเป็นคนของเผ่าคำสาป เช่นนั้นพวกเราก็มีเป้าหมายเดียวกัน ฉะนั้นพวกเราก็หยุดเอาไว้แค่นี้เถอะ! ข้าไม่สนใจเรื่องที่เจ้าทำตัวเสียมารยาทก่อนหน้านี้อีกแล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “โง่เง่า! ใครบอกว่าข้าเป็นคนของเผ่าคำสาปกัน?”
“มังกรวารีจงบังเกิด!” ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็ใช้พลังธาตุวารีในการโจมตีทันที
“เพลิงนภาพิฆาต!”
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
พลังวิญญาณธาตุทั้งสามโจมตีไปทางหวงอู๋ไห่อย่างฉับพลัน และในที่สุดเขาก็ได้รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางเป็นพันธมิตรของพวกเขาได้แน่
เขากล่าวว่า “ดีจริง ๆ! ที่แท้เจ้าก็คือคนทรยศของเผ่าคำสาปนี่เอง”
นักเล่นคาถาอาคมผู้นั้นก็กล่าวอย่างเคืองโกรธว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าเผ่าคำสาปของข้าจะมีคนทรยศด้วย! นี่จะต้องเป็นความอัปยศของพวกเราเผ่าคำสาปแน่นอน”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้าไม่ใช่คนเผ่าคำสาปของพวกเจ้า ข้าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเผ่าคำสาปของพวกเจ้าเลยแม้แต่น้อย พวกเจ้าจะคิดเยอะเกินไปแล้ว”
สำหรับคนของเผ่าคำสาปแล้วชอบคิดว่าทุกคนที่ใช้ทักษะคำสาปได้ก็คือคนของเผ่าพวกเขา มู่เฉียนซีรู้สึกว่าพูดไม่ออกจริง ๆ เจ้าพวกคนเหล่านี้มักจะคิดว่าพวกเขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย ยู่เสมอเลย
และไม่ว่านางจะพูดอย่างไร? พวกเขาก็ไม่มีทางเชื่อแน่นอน
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้าชอบใช้ทักษะคำสาปกับคนอื่นมากมิใช่หรือ? ข้าจะทำตามที่เจ้าต้องการเอง”
“ท่านเย่ รีบปกป้องข้าเร็วเข้า” หวงอู๋ไห่กล่าวอย่างตื่นตระหนก
ข้างกายของเขามีนักเล่นคาถาอาคมอยู่มากมาย ฉะนั้นเขาย่อมรู้อยู่แล้วว่าวิธีการของนักเล่นคาถาอาคมแปลกประหลาดมากเพียงใด
ในตอนแรกคนที่แข็งแกร่งอย่างหวงจิ่วเยี่ย ก็ไม่ใช่ว่าเมื่อถูกลอบโจมตีด้วยทักษะคำสาปแล้ว ทำให้ต้องถูกทรมานอยู่ตลอดเวลามิใช่หรือ
ท่านเย่ผู้นี้เองก็จนปัญญามากเช่นกัน เขากล่าวว่า “ฝ่าบาท พรสวรรค์ของผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งเกินไป ตอนนี้ข้าได้เจอเข้ากับการสะท้อนกลับ ฉะนั้นย่อมยากที่จะปกป้อง และคาดว่าน่ าจะปกป้องฝ่าบาทไม่ได้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“ขวางนางเอาไว้ให้ข้า!”
ตูมมม โครมมม!
เสียงกรีดร้องเสียงหนึ่งดังสนั่นหวั่นไหวออกมา และเมืองแห่งนี้ก็ถูกอ๋องทั้งสองทำลายไปครึ่งหนึ่งทันที
นอกจากนี้ยังคิดไม่ถึงเลยว่า จะมีซากปรักหักพังของโบราณสถานที่ถูกซ่อนเอาใต้เมืองแห่งนี้ปรากฏออกมา
อ๋องคุกอสูรกล่าวว่า “นั่นมัน! คือซากปรักหักพังโบราณสถานที่ซ่อนอยู่ภายในกรงร้อยศึกนี่ คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเราจะได้เจอสถานที่เหล่านี้”
เมื่อเห็นว่าลูกน้องของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาก็กล่าวว่า “พวกเราหนีเข้าไปในแดนลึกลับกันเถอะ เร็วเข้า!”
“ขอรับ!”
ตอนนี้หวงอู๋ไห่กำลังเผชิญหน้ากับการร่วมมือกันต่อสู้ของมู่เฉียนซี ชีชา เหวินฉู่ และยังมีจื่อเวยอีกด้วย
เนื่องจากเขากลัวว่ามู่เฉียนซีจะใช้ทักษะคำสาปจัดการเขาอย่างกะทันหัน จึงทำให้ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของเขาลดต่ำลงเป็นอย่างมาก
และหลังจากที่เขาค้นพบว่าซากปรักหักพังโบราณสถานปรากฏขึ้นมา แววตาของเขาก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจในทันที
หลังจากนั้นเขาก็สั่งเหล่าลูกน้องของเขาว่า “จงคุ้มครองข้า ข้าจะเข้าไปในซากปรักหักพังโบราณสถาน! ไป พวกเราลงไปดูกันเถอะ”
“ขอรับ!”
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
มีศัตรูจำนวนมากพุ่งทะยานเข้าไปในซากปรักหักพังโบราณสถาน เมื่อมองจากส่วนที่ถูกเปิดเผยออกมา ซากปรักหักพังของโบราณสถานแห่งนี้ก็ถือได้ว่าไม่เล็กเลย
แต่สิ่งที่ต้องทำให้ประหลาดใจเล็กน้อยก็คือ เหตุใดพลังแห่งความตายที่คละคลุ้งไปทั่วทั้งกรงร้อยศึกขนาดนี้ กลับไม่สามารถเข้าไปในซากปรักหักพังโบราณสถานนี้ได้
ซึ่งภายในนั้นจะต้องมีของดีอะไรอยู่อย่างแน่นอน คนของคุกอสูรและคุกลับต่างหนีเข้าไปข้างในกันหมดแล้ว และมู่เฉียนซีก็ไม่อยากให้พวกเขาได้รับประโยชน์ใด ๆ เลยเช่นกัน
นางหันไปกล่าวกับจื่อโยวว่า “พวกเรารีบตามไปกันเถอะ!”