ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2488 สถานที่ที่ปลอดภัย
สีหน้าของมู่เฉียนซีเปลี่ยนไปมากทันที การโจมตีของอู๋หยาทำให้ความสนใจของนางเบี่ยงเบนไป และมันก็เป็นผลให้วิหคนรกแห่งความตายเหล่านี้แข็งแกร่งขึ้นภายในพริบตาเดียว
เกรงว่าก่อนหน้านี้อู๋หยาน่าจะไม่ได้โจมตีอยู่ข้างกายของนาง แต่ใช้วิธีที่พิเศษแทน แล้วเป้าหมายที่แท้จริงของเขาคืออะไรกันแน่?
จำนวนของวิหคนรกแห่งความตายนั้นมหาศาลเป็นอย่างมาก และแม้ว่านางจะมีพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งมากเพียงใดก็ไม่สามารถสกัดกั้น และปกป้องกองทัพใหญ่ของคุกโลหิตได้อย่างสมบูรณ์อยู่ดี
ปัง ปัง ปัง!
ตอนนี้มีหลายคนได้ถูกโจมตีแล้ว มู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “ทุกคนจงระวังตัวให้ดี และรวบรวมพลังจิตวิญญาณเอาไว้!”
แม้ว่าจะระวังมากเพียงใดก็อาจจะถูกวิหคนรกแห่งความตายโจมตี หรือไล่ล่าได้ และถึงแม้ว่าจะกำจัดกองกำลังพันธมิตรของคุกนรกทั้งหกได้แล้ว แต่ตอนนี้กลับดึงดูดศัตรูที่ทั้งแข็งแกร่ งและรับมือได้ยากมากยิ่งขึ้นมาแทน
เกรงว่าอู๋หยาน่าจะรอเวลานี้อยู่เช่นกัน หากไม่สามารถคิดหาทางรับมือกับสถานการณ์ในตอนนี้ได้แล้วละก็ สิ่งที่กำลังรอพวกเขาอยู่ก็คือราชาวิหคนรกแห่งความตายที่หนีออกมาจากกร รงขังได้นั่นเอง
หากไม่สามารถทำลายวิหคนรกแห่งความตายได้สำเร็จ และพวกเขาไม่สามารถต่อสู้แบบตัวต่อตัวได้ เช่นนั้นก็ทำได้เพียงหาทางหนีเท่านั้น!
แต่เนื่องจากว่ากรงร้อยศึกทั้งหมดถูกผนึกเอาไว้ ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถออกไปได้
และไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใดในกรงร้อยศึกแห่งนี้ ก็ล้วนเป็นอาณาเขตของวิหคนรกแห่งความตายทั้งนั้น ทีนี้พวกเขาจะหนีไปที่ไหนได้กันล่ะ?
ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็นึกถึงสถานที่แห่งหนึ่งได้ นางกล่าวว่า “หาวิธีนำทางมุ่งหน้าไปยังเมืองซากโบราณของอ๋องอัคคีเหลยถิงแห่งนั้นให้เร็วที่สุด เมืองซากโบราณแห่งนั้นมีความพิเ เศษมาก เพราะวิหคนรกแห่งความตายไม่สามารถเข้าไปได้! ขอเพียงเข้าไปข้างใน ทุกคนก็น่าจะปลอดภัยแล้ว”
ผู้นำของทหารชุดเกาะดำกล่าวว่า “ขอรับนายท่าน! พวกข้ารู้เส้นทาง พวกข้าจะพาบุกทะลวงออกไปเองขอรับ!”
“ตกลง!”
มู่เฉียนซีเหลือบมองไปยังกองกำลังขนาดใหญ่ของคุกโลหิตที่อยู่ข้างหน้า นางกล่าวขึ้นมาว่า “ทุกคน ไปกับข้า! พวกเราจะต้องฝ่าออกไปด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด! ได้ยินหรือไม่”
“ขอรับ!”
พวกเขาร้องตะโกนออกมาว่า “ฆ่ามันน!”
มีมู่เฉียนซีคอยเปิดทางให้อยู่ด้านหน้า แม้ว่าวิหคนรกแห่งความตายจะแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก แต่ผู้ที่ขวางทางก็ยังคงถูกพลังจิตวิญญาณที่ทรงพลังของมู่เฉียนซีบดขยี้อยู่ ดี
มู่เฉียนซีเหลือบมองไปยังตำแหน่งที่จิ่วเยี่ยอยู่ ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมเป็นอย่างมาก จิ่วเยี่ย เจ้าจะต้องปลอดภัยนะ ข้าจะพาคนของคุกโลหิตไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยก่อน
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! หนีหรือ ทั่วทั้งกรงร้อยศึกแห่งนี้ล้วนเป็นที่ของวิหคนรกแห่งความตายทั้งนั้น ข้าจะคอยดูว่าพวกเจ้าจะหนีไปที่ไหนได้? คุกโลหิตของพวกเจ้าทำลายกองกำลังพันธมิตรของคุ กนรกทั้งหกของข้า ฉะนั้นตอนนี้พวกเจ้าก็จะต้องถูกฝังไปพร้อมกับกองกำลังพันธมิตรของข้า! จะต้องถูกฝังไปด้วยกัน!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
“ใต้เท้าจื่อโยว ท่านจัดการเขาด้วย ข้าจะไปคอยคุ้มครองเจ้านายตัวน้อยของข้า!” หนามโลหิตขังอ๋องแห่งคุกลับเอาไว้ และโยนเขาให้เป็นหน้าที่ของจื่อโยวโดยตรง
จื่อโยวกล่าวว่า “รีบไปเฝ้าอยู่ข้างกายคนงาม อย่าให้เกิดเรื่องอะไรกับนางเป็นอันขาด”
เมื่อมีศัตรูอย่างอ๋องแห่งคุกลับที่เต็มไปด้วยบาดแผลเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง มันก็ทำให้จื่อโยวไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก แต่เขาก็ทำได้เพียงลงมืออย่างโหดร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ เท่านั้น
เขาเหลือบมองไปที่ร่างเงาสีดำร่างนั้นที่อยู่กลางอากาศ นอกจากจะมีพลังความมืดของจิ่วเยี่ยแล้วมันยังมีพลังคำสาปทะลักออกมาอีกด้วย ซึ่งสถานการณ์ในตอนนี้ก็ถือว่าเลวร้ายมากจริง ๆ
เจ้าร่างทรงบัดซบนั่น ค่อย ๆ บีบบังคับเยี่ยทีละขั้นจนมาถึงจุดนี้ได้เลยสินะ
เนื่องจากจื่อโยวโมโหเป็นอย่างมาก เข้าจึงได้ลงมือกับอ๋องทั้งสามคนอย่างโหดเหี้ยมมากขึ้นไปอีก “พวกเจ้าอย่ามัวมาเกะกะอยู่ที่นี่อีกเลย รีบตายแล้วไปเกิดซะเถอะ”
ตูมมม โครมมม!
มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมาจากข้างหลังของพวกเขา มู่เฉียนซีในเวลานี้ได้นำกองกำลังของคุกโลหิตออกมาจากสนามรบที่ต่อสู้กันครั้งสุดท้ายไกลมากแล้ว
“ฟู่ ฟู่ ฟู่…” วิหคนรกแห่งความตายจำนวนนับไม่ถ้วน ยังคงเกาะติดพวกเขาอย่างไม่ลดละ
แม้ว่าพวกเขาจะระมัดระวังมากเพียงใด แต่ก็ยังมีคนมากมายที่ถูกวิหคนรกแห่งความตายเหล่านั้นทำร้าย หรือไม่ก็กลืนกินจิตวิญญาณได้อยู่ดี
“เร่งความเร็วมากขึ้นอีก!” มู่เฉียนซีออกคำสั่งอย่างเย็นชา
พวกเขาพยายามพุ่งทะยานไปข้างหน้าให้เร็วมากที่สุดอย่างสุดกำลัง แต่พวกเขาก็ยังคงได้ยินเสียงการต่อสู้ที่อยู่ทางด้านนั้นจากระยะไกลได้อย่างชัดเจน
พวกเขาไม่รู้ว่าใช้เวลาเดินทางอย่างเร่งรีบมานานเพียงใด และในที่สุดมู่เฉียนซีก็มองเห็นเมืองที่คุ้นเคยแล้ว
นางกล่าวว่า “อยู่ข้างหน้านี้ เร่งความเร็วมากขึ้นอีก! เจ้าพาพวกเขาพุ่งทะยานเข้าไป ข้าจะคอยรั้งท้ายเอง ไปกันได้แล้ว”
“พระชายา พวกเราไม่กลัวตาย! พวกเราจะให้ท่านคอยรั้งท้ายได้อย่างไร!”
“ท่านเจ้าเมือง”
คนที่รั้งท้ายนั้นอันตรายมากที่สุด ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่อยากปล่อยให้มู่เฉียนซีรั้งท้ายเลยแม้แต่น้อย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “วางใจเถอะ พวกมันไม่มีทางทำอะไรข้าได้หรอก”
ร่างเงาสีม่วงสว่างวาบขึ้นทันที และมู่เฉียนซีก็พุ่งทะยานไปในอากาศจนถึงข้างหลังสุด
วิหคนรกแห่งความตายพุ่งเข้ามาอย่างมืดฟ้ามัวดิน และพลังจิตวิญญาณของมู่เฉียนซีก็ระเบิดออกมาอย่างสมบูรณ์
“เจ้านายตัวน้อยที่น่ารักของข้า ข้าจะรั้งท้ายอยู่เป็นเพื่อนเจ้าเอง!” ร่างเงาสีแดงร่างหนึ่งแวบผ่านมา หลังจากนั้นหนามโลหิตก็ได้กลายเป็นตาข่ายขนาดใหญ่อยู่กลางอากาศ
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
และตาข่ายขนาดใหญ่นั้นก็ดักวิหคนรกแห่งความตายไว้ได้กลุ่มหนึ่ง
เมื่อมีผู้แข็งแกร่งคอยรั้งท้ายอยู่ถึงสองคน กองกำลังของคุกโลหิตจึงสามารถล่าถอยเข้าไปในเมืองซากโบราณ และลงไปใต้ดินได้อย่างราบรื่น
หลังจากที่รอให้ทุกคนถอยเข้าไปหมดแล้ว ฝูเซิงก็ดึงมู่เฉียนซีเอาไว้พลางกล่าวว่า “เจ้านายของข้า พวกเราเข้าไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ เจ้าเองก็เหนื่อยมากแล้วนะ”
สีหน้าของมู่เฉียนซีในเวลานี้ซีดเซียวเล็กน้อย ถึงพลังจิตวิญญาณของนางจะแข็งแกร่งมากเพียงใดแต่ก็ไม่สามารถใช้อย่างไม่หยุดหย่อนได้เช่นกัน อย่างไรเสียการที่นางจัดการกับนักเล่นคาถาอ อาคม อีกทั้งยังต้องควบคุมนักเล่นคาถาอาคมเหล่านั้น ก็ทำให้นางต้องผลาญพลังจิตวิญญาณของนางไปไม่น้อยเลยทีเดียว
หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในเมืองซากโบราณแล้ว วิหคนรกแห่งความตายเหล่านั้นก็ทำได้เพียงล้อมอยู่ภายนอกและไม่กล้าเข้ามาใกล้อีก ซึ่งพวกเขาทุกคนต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“พระชายา!”
“ท่านเจ้าเมือง!” เมื่อพวกเขาเห็นสีหน้าที่ย่ำแย่ของมู่เฉียนซี ก็กล่าวขึ้นมาอย่างเป็นกังวลเล็กน้อย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าแค่ใช้พลังจิตวิญญาณมากเกินไปหน่อยเท่านั้นเอง พักผ่อนสักหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างปลอดภัย ทุกคนก็รีบพักฟื้นกันก่อนเถอะ”
“ขอรับ!”
พวกเขามีทั้งยาน้ำและยาลูกกลอนไม่ขาด ฉะนั้นพวกเขาจึงใช้มันอย่างเต็มที่เพื่อฟื้นฟูร่างกายให้ได้โดยเร็วที่สุด
วิหคนรกแห่งความตายเหล่านั้นเข้ามาข้างในนี้ไม่ได้ และหากพวกมันพยายามเข้ามาก็จะต้องหายไปทันที ราวกับว่าที่นี่จะมีสิ่งของบางอย่างที่สามารถกลืนกินพวกมันได้อย่างไรอย่างนั้นเลย ย
ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็นึกถึงป้ายศิลาแผ่นนั้นขึ้นมา และสิ่งของที่ดูพิเศษที่สุดของที่นี่ ก็คือเจ้าสิ่งนั้นนั่นเอง
หลังจากที่แน่ใจว่าที่นี่ปลอดภัย แม้ว่าภายในใจจะเป็นห่วงจิ่วเยี่ย แต่นางก็ต้องสงบสติอารมณ์เพื่อฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณของตนเอง เพราะนางรู้สึกว่าการต่อสู้ต่อจากนี้จะต้องเป็นการต่อส สู้ที่ยากลำบาก และอันตรายมากอย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีกินยาน้ำและยาลูกกลอนชนิดต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง แม้ว่านางจะคุ้นเคยกับมันแล้ว แต่นางก็ยังรู้สึกว่าอยากจะอาเจียนออกมาอยู่ดี
ฝูเซิงกล่าวอย่างกังวลว่า “อย่ารีบนักสิ! หากเจ้าเป็นกังวลเกี่ยวกับอ๋องจิ่วเยี่ยละก็ จะให้ข้าไปดูให้ก่อนก็ได้”
“ไม่ได้สิ เพราะไม่รู้ว่าเจ้าคนผู้นั้นซ่อนตัวอยู่ที่ใดกันแน่ ไม่แน่ว่าในตอนที่ข้าออกไปเจ้านั้น อาจจะลอบโจมตีเจ้าก็เป็นได้ เจ้านายของข้า พวกเราพักผ่อนกันก่อนดีหรือไม่”
ฝูเซิงไม่อยากปล่อยนางไว้ และหากยังไม่ฟื้นตัวก็จะไม่ยอมปล่อยมู่เฉียนซีออกไปเด็ดขาด
ถึงเวลาผ่านไป แต่วิหคนรกแห่งความตายที่อยู่ข้างนอกก็ยังกรีดร้องด้วยเสียงที่แหลมสูงอย่างไม่หยุดหย่อน มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าหายดีแล้ว อีกทั้งยังฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แล้วด้วย ฉะ ะนั้นข้าจะออกไปดูสักหน่อย”
ข้างนอกอันตรายเกินไป ฉะนั้นการออกไปจึงไม่ใช่การตัดสินใจที่ถูกต้องแน่นอน แต่ฝูเซิงก็ได้แต่กล่าวอย่างจนปัญญาว่า “ตกลง จะออกไปก็ได้ ใครใช้ให้เจ้าตัวน้อยน่ารักอย่างเจ้าเป็นเจ้านาย ข้ากันล่ะ?”
“เจ้านาย!” ในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังจะออกไป พวกของทานหลางและเฉี่ยซื่อก็อยากจะติดตามนางออกไปด้วยเช่นกัน
มู่เฉียนซีกล่าวปฏิเสธว่า “ภารกิจของพวกเจ้า ได้สิ้นสุดลงแล้ว กองกำลังพันธมิตรของคุกนรกทั้งหกมีผู้รอดชีวิตเหลืออยู่ไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งพวกเจ้าก็ทำได้ดีมากจริง ๆ ส่วนภารกิจต่อไ ไปของพวกเจ้าก็คือการรออยู่ที่นี่อย่างสงบ และอย่าปล่อยให้ตนเองกลายเป็นอาหารของวิหคนรกแห่งความตาย ที่เสริมความแข็งแกร่งให้พวกมัน เข้าใจหรือไม่?”