ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2493 แสดงได้เก่ง
ตูมมม!
ในตอนที่วิหคนรกแห่งความตายตัวนี้กลายเป็นความว่างเปล่า ประตูบานใหญ่นั้นก็ถูกเปิดออก
มู่เฉียนซีกล่าวกับจิ่วเยี่ยว่า “จิ่วเยี่ย พวกเราไปกันเถอะ!”
ร่างเงาสีดำสว่างวาบขึ้น และจิ่วเยี่ยก็มาปรากฏตัวขึ้นบนแท่นหินนั้น เขากอดมู่เฉียนซีเอาไว้พลางพยักหน้ากล่าว “อื้ม!”
หลังจากนั้น ด่านที่มู่เฉียนซีต้องเผชิญหน้าล้วนเป็นคู่ต่อสู้ที่เหมือนกันทุกประการ
เนื่องจากการปรากฏตัวของฝูเซิง ทำให้พลังในการต่อสู้ของมู่เฉียนซีแตกต่างจากก่อนหน้านี้ไปอย่างสิ้นเชิง
นางไม่จำเป็นต้องฟังคำพูดไร้สาระของวิหคนรกแห่งความตายนั้นมากเกินไปอีกแล้ว และเพียงแค่พุ่งทะยานไปต่อสู้กับวิหคนรกแห่งความตายเหล่านั้นก็พอแล้ว
ครืนนนน!
มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมา และวิหคนรกแห่งความตายอีกตัวหนึ่งก็พุ่งทะยานออกมา
หอคอยจำลองได้คอยนำทางให้พวกเขาอยู่ตลอด และพลังแห่งความมืดที่แข็งแกร่งที่อยู่รอบบริเวณก็ทำให้มู่เฉียนซีรับรู้ได้ว่าพวกเขาเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
แต่ทว่าในเวลานี้ กลับมีเสียงแหลมสูงร้องคำรามออกมา และพลังแห่งความตายก็เกิดการระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันก็มีสถานะที่ปะทะกับพลังแห่งความมืดที่อยู่ที่นี่ได้อย่างเท่าเทีย ยม
ตูมมม โครมมม!
มีเสียงระเบิดดังกึกก้องออกมา และเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงไปทั่วบริเวณ
ฝูเซิงกล่าวว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เจ้านั่นหนีออกมาได้แล้วอย่างนั้นหรือ?”
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าวว่า “อื้ม! ราชาวิหคนรกแห่งความตายหนีออกมาได้แล้วแน่นอน”
ตูมม ตูมม ตูมม!
มีเสียงต่อสู้อย่างดุเดือดดังขึ้นมาจากทางด้านหน้าที่อยู่ไม่ไกลนัก
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เพียงแต่หนีออกมาแล้วเท่านั้น แต่ตอนนี้มันกำลังสู้กับคนอยู่ด้วย หากข้าเดาไม่ผิดละก็ คนที่มันกำลังสู้ด้วยน่าจะเป็นผู้คุมปีศาจแห่งความมืด”
จิ่วเยี่ยนั้นคุ้นเคยกับพลังของผู้คุมปีศาจแห่งความมืดเป็นอย่างมาก เขาพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ซีกล่าวได้ถูกต้องแล้ว เป็นเขา!”
“ในเมื่อเขาเข้าไปก่อนแล้ว เช่นนั้นก็ปล่อยให้ผู้คุมปีศาจแห่งความมืดเล่นสนุกกับวิหคนรกแห่งความตายไปก่อนเถอะ! พวกเราอย่าเพิ่งเข้าไปเลย จิ่วเยี่ย เจ้าต้องใช้เวลานานเท่าไรถึงจะ ะสามารถสะกดพลังของคำสาปเอาไว้ได้?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ใกล้แล้วล่ะ!” จิ่วเยี่ยกล่าวตอบ
ฝูเซิงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้านายของข้า เจ้าคิดที่จะมองแต่ข้างหน้าแต่ไม่ระวังหลังเลยอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว! ในเมื่อมีคนมาสู้ให้เช่นนี้ ก็อย่าปล่อยให้มันเสียเปล่าสิ”
และในเวลาเดียวกัน อ๋องทั้งสามคนที่อยู่ในสถานที่อื่นก็หวาดกลัวต่อพลังอำนาจนี้เช่นกัน
ถึงหอคอยนิรันดร์นั้นจะน่าดึงดูดมากสำหรับพวกเขา แต่ทว่าพลังนี้น่าสะพรึงกลัวเกินไป จึงทำให้พวกเขารอดูสถานการณ์ก่อนค่อยลองไปดูกันอีกที
“เป็นผู้คุมปีศาจแห่งความมืดอย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นเยี่ยอยู่ที่ไหนกันล่ะ?” จื่อโยวขมวดคิ้วมุ่น และเขาก็เลือกว่าจะไม่ตรงไปยังสถานที่ที่วุ่นวายแห่งนั้น ยืนยันว่าเยี่ยไม่เป็น นอะไรแล้วค่อยว่ากัน
ทางด้านของมู่เฉียนซีก็จับจ้องอยู่ครู่หนึ่ง และในที่สุดเสียงการเคลื่อนไหวที่อยู่ข้างหน้านั้นก็สงบลง มู่เฉียนซีตะลึงงันไปเล็กน้อย สู้กันเสร็จแล้วหรือ!
อันที่จริงแล้วคนที่แพ้คือราชาวิหคนรกแห่งความตาย? หรือว่าผู้คุมปีศาจแห่งความมืดกันแน่?
เวลานี้ เสียงที่ทุ้มต่ำของจิ่วเยี่ยก็ดังขึ้นมาว่า “ซี! ข้าดีขึ้นแล้ว พวกเราไปดูกันเถอะ! ระวังด้วย”
เนื่องจากว่ามันจบลงเร็วเกินไป จึงทำให้จิ่วเยี่ยต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ตกลง! ผู้คุมปีศาจแห่งความมืดคงไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับราชาวิหคนรกแห่งความตายหรอกกระมัง?”
เรื่องเช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าหมอนั่นจะทำไม่ได้มิใช่หรือ?
แต่แม้ว่าจะมีข้อสงสัย พวกเขาก็ไม่อาจไม่เคลื่อนไหวได้ เพราะไม่ว่าทางด้านนั้นจะเป็นร่างต้นของหอคอยนิรันดร์หรือว่าร่างแยกก็ตาม แต่พวกเขาก็จำเป็นต้องเอามันมา และไม่อาจปล่อยไป ได้อยู่ดี
อ๋องแห่งคุกลับพึมพำออกมาว่า “สู้จบแล้ว ดูเหมือนว่าจะพ่ายแพ้ทั้งสองฝ่าย ช่างดีเหลือเกิน ข้าต้องรีบตรงไปที่นั่นแล้ว ข้าไม่อาจปล่อยให้คนอื่นมาใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้”
“เร็วเข้า!”
หลังจากที่มู่เฉียนซีมาถึง นางก็เห็นว่าอ๋องทั้งสามก็มาถึงสถานที่แห่งนี้พอดีเช่นกัน
ภายในพื้นที่อันกว้างขวางแห่งนี้ มีหอคอยเจ็ดชั้นที่สูงตระหง่านตั้งอยู่ ซึ่งมันก็ได้แผ่กระจายพลังแห่งความมืดที่แข็งแกร่งออกมาอีกด้วย
หอคอยจำลองที่มู่เฉียนซีได้รับมาก่อนหน้านี้สองอันนั้นพุ่งทะยานออกไป และเมื่อมันก็ได้รวมเข้ากับหอคอยที่อยู่ตรงหน้านั้น พลังแห่งความมืดที่อยู่ในมิติแห่งนี้ก็แข็งแกร่งขึ้นมาท ทันที
มู่เฉียนซีตกใจเล็กน้อย และกล่าวอย่างผิดหวังเล็กน้อยว่า “นี่ก็เป็นหอคอยจำลองเช่นกัน มันไม่ใช่ร่างต้นของหอคอยนิรันดร์!”
ในเวลานี้ ผู้คุมปีศาจแห่งความมืดกล่าวขึ้นมาว่า “โจมตี! อย่าปล่อยให้หวงจิ่วเยี่ยแย่งหอคอยนิรันดร์ไปได้”
ร่างเงาสามร่างพุ่งทะยานออกมาอย่างกะทันหัน จิ่วเยี่ยกล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “ซี! ข้าจะไปจัดการเอง”
ตูมมม!
ในตอนที่พวกเขากำลังเข้าใกล้หอคอยนิรันดร์ ก็มีพลังอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งทะยานมาทางจิ่วเยี่ยทันที และราชาวิหคนรกแห่งความตายที่ดูเหมือนจะหายใจรวยรินก่อนหน้านี้ก็ได้เข้ามาขวางหน้า าของจิ่วเยี่ยเอาไว้
“เขาไม่ได้หลอกข้าจริง ๆ ด้วย ดูเหมือนว่าเจ้าจะน่าอร่อยมากจริง ๆ!”
มีเสียงแหวกอากาศดังออกมา และการโจมตีที่รุนแรงจากอีกด้านหนึ่งก็โหมกระหน่ำใส่หวงจิ่วเยี่ยไม่หยุดหย่อน ผู้คุมปีศาจแห่งความมืดเองก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้วเช่นกัน
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าวิหคนรกแห่งความตายและผู้คุมปีศาจแห่งความมืดจะแสดงได้เก่งถึงเพียงนี้ ช่างแสดงได้เหมือนจริง ๆ!”
เจ้าสองคนนี้ สมรู้ร่วมคิดกันจริง ๆ พวกเขากลายเป็นพวกแสดงเก่งไปแล้ว
ผู้คุมปีศาจแห่งความมืดกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่ร่างที่แท้จริงของหอคอยนิรันดร์ แต่เป็นเพียงหอคอยจำลองเท่านั้น ฉะนั้นข้าไม่จำเป็นต้องสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับราชาวิหคนรกแห่งความตายเพ พราะมัน และแน่นอนว่าข้าจึงได้เจรจากับมันดี ๆ แทนอย่างไรล่ะ”
ราชาวิหคนรกแห่งความตายกล่าวว่า “เจ้านายของข้ากำลังจะถือกำเนิดขึ้น ฉะนั้นข้าเองก็ไม่อยากต่อสู้กับมนุษย์ผู้นี้อย่างเอาเป็นเอาตายเช่นกัน ไม่สู้ร่วมมือกับเขา และล่าเหยื่อที่แ แข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ไม่ดีกว่าหรือ โดยเฉพาะเหยื่อที่มีคุณภาพสูงเช่นนี้!”
พวกของอ๋องแห่งคุกลับผงะไปครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงเลยว่าผู้คุมปีศาจแห่งความมืดจะมีแผนการเช่นนี้ พวกเขาคิดว่าเมื่อครู่นี้เขากับวิหคนรกแห่งความตายจะพ่ายแพ้ไปทั้งคู่เสียอีก
ผู้คุมปีศาจแห่งความมืดกล่าวว่า “พวกเจ้าทั้งสามมัวตะลึงอะไรกันอยู่? ยังไม่รีบไปจัดการผู้หญิงของหวงจิ่วเยี่ยคนนั้นอีก เมื่อถึงเวลาพวกเจ้าจะต้องได้รับประโยชน์มากมายแน่นอน”
“ขอรับ! ท่านผู้คุมปีศาจแห่งความมืด” อ๋องทั้งสามกล่าวตอบ
ตูมม!
ในตอนที่ราชาวิหคนรกแห่งความตายร่วมมือกับผู้คุมปีศาจแห่งความมืดโจมตีจิ่วเยี่ย อ๋องทั้งสามคนนั้นก็พุ่งทะยานไปทางมู่เฉียนซี
หนามโลหิตจำนวนนับไม่ถ้วนขวางทางพวกเขาเอาไว้ ฝูเซิงกล่าวว่า “ขยะอย่างพวกเจ้า ออกไปให้ห่างจากเจ้านายของข้าซะ!”
“อาศัยแค่เจ้าเพียงคนเดียว ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าหรอก!” อ๋องแห่งคุกลับกล่าวอย่างเย็นชา
“เช่นนั้นหากรวมข้าเข้าไปด้วยล่ะ?” ร่างเงาสีเขียวเข้มสว่างวาบเข้ามา และจื่อโยวก็กลายร่างเป็นร่างเดิมที่มีขนาดใหญ่มหึมา จากนั้นก็ปะทะกับอ๋องทั้งสามในทันที
ต่อสู้กันแบบสองต่อสาม แม้ว่าจะเสียเปรียบเรื่องจำนวนคน แต่พวกของจื่อโยวต้องได้รับชัยชนะแน่นอนอยู่แล้ว
เมื่อผู้คุมปีศาจแห่งความมืดเห็นว่ามู่เฉียนซีได้รับการปกป้องจากจื่อโยวและฝูเซิงเป็นอย่างดี ส่วนอ๋องทั้งสามก็ไม่สามารถเข้าใกล้มู่เฉียนซีและไม่มีโอกาสฆ่านางได้ เขาจึงกล่าวด้วย ยความโมโหว่า “เจ้าพวกขยะเอ้ย!”
“ดูเหมือนว่าต้องขอให้เจ้าช่วยลงมือสักหน่อยแล้ว” ผู้คุมปีศาจแห่งความมืดกล่าว
ราชาวิหคนรกแห่งความตายกล่าวว่า “ข้าไม่เข้าใจมนุษย์อย่างพวกเจ้าเลยจริง ๆ คนที่อ่อนแอขนาดนั้นเพียงคนเดียวจำเป็นที่เจ้าต้องตั้งใจจัดการขนาดนั้นเลยหรือ”
แต่สำหรับคำข้อเล็ก ๆ น้อย ๆ จากพันธมิตรคนนี้ มันย่อมให้การช่วยเหลือแน่นอนอยู่แล้ว
อ๋องจิ่วเยี่ยที่เป็นอ๋องของคุกโลหิตผู้นี้ มีความสามารถที่แข็งแกร่งมากจริง ๆ
หากมันไม่ได้ร่วมมือกับคนผู้นี้ละก็ การเผชิญหน้ากับชายคนนี้เพียงลำพัง คงต้องเป็นสถานการณ์ที่อันตรายมากอย่างแน่นอน
ทันใดนั้นก็มีเสียงแหวกอากาศดังขึ้นมาจำนวนนับไม่ถ้วน และมู่เฉียนซีที่สัมผัสได้ถึงอันตรายก็หลบหลีกอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้มีวิหคนรกแห่งความตายจำนวนมากกำลังพุ่งเข้ามาจู่โจมนางและหลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็เหวี่ยงกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณออกไปเพื่อต่อสู้กับพวกมัน
“เพลิงนภาพิฆาต!”
ตูมม โครมม!
นอกจากวิหคนรกแห่งความตายเหล่านี้จะเห็นว่านางอ่อนแอแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะโจมตีนางด้วยพลังจิตวิญญาณเช่นนี้ หลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ช่างรนหาที่ตายนัก”