ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2498 เจอโอกาส
เขาใช้คนของคุกนรกทั้งหกรวมไปถึงราชาวิหคนรกแห่งความตายเป็นเบี้ย แต่ในเมื่อไม่ถึงอึดใจสุดท้ายแม่ทัพก็จะไม่ออกมาโจมตี ฉะนั้นนางจึงไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วอู๋หยาคิดจะทำอะไรกันแน่?
แต่หากนางได้รู้เมื่อถึงช่วงเวลานั้น มันก็คงจะสายเกินไปแล้ว!
มู่เฉียนซีกำหมัดเอาไว้แน่น เจ้าสารเลวอู๋หยา!
หลังจากที่โจมตีครั้งที่สอง ราชาวิหคนรกแห่งความตายก็กล่าวว่า “บัดซบเอ้ย! พลังใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว ไม่พอ มันไม่พอ…ข้าต้องการจิตวิญญาณ…ต้องการจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งเหล่านั้น!”
แววตาของผู้คุมปีศาจแห่งความมืดจ้องมองไปยังจื่อโยวและฝูเซิง แต่ผลปรากฏว่ากลับมีสายตาที่เย็นยะเยือกจ้องมองมาที่เขาแทน
หากพวกเขากล้าลงมือกับทั้งสองคนนั้น จิ่วเยี่ยที่กำลังพักผ่อนอยู่ก่อนหน้านี้จะต้องลงมือกับพวกเขาอย่างไม่เกรงใจแน่นอน และไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาทำได้สำเร็จเป็นแน่
ภายใต้การคุ้มครองของสุ่ยจิงอิ๋ง มู่เฉียนซีได้พยายามซื้อเวลาให้จิ่วเยี่ยปรับลมหายใจและระงับคำสาประหว่างการต่อสู้นี้
แม้ว่าจะเป็นเวลาที่สั้นมาก แต่ว่ามันก็มีความจำเป็นมากจริง ๆ
ในเมื่อผู้คุมปีศาจแห่งความมืดไม่กล้าที่จะลงมือกับคนของจิ่วเยี่ย เช่นนั้นเขาก็คงต้องใช้คนของตนเองแล้วล่ะ!
เดิมทีพวกของอ๋องแห่งคุกลับก็มีสภาพที่น่าสังเวชมากอยู่แล้ว แต่ทว่าตอนนี้พวกเขากลับรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง และทันใดนั้นก็มีพลังพลังหนึ่งมาปกคลุมพวกเขาเอาไว้
ผู้คุมปีศาจแห่งความมืดไม่ได้ลงมือกับเขา แต่กลับลากอ๋องแห่งคุกอสูรออกไปแทน
“อ๊ากกก!” อ๋องแห่งคุกอสูรกรีดร้องออกมา
“ผู้คุมปีศาจแห่งความมืด เจ้าจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ! พวกเราเป็นพวกเดียวกันกับเจ้า เป็นพวกเดียวกันนะ!” สีหน้าของเขาซีดเผือดและตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
ผู้คุมปีศาจแห่งความมืดกล่าวว่า “พวกเดียวกันอย่างนั้นหรือ ขึ้นอยู่กับว่าพวกเจ้าทั้งสามเหมาะสมหรือไม่! แม้แต่พวกเขาทั้งสองคน พวกเจ้าทั้งสามก็ยังจัดการไม่ได้ ฆ่าก็ไม่ได้ ตอนนี้พวกเจ้าไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว”
“ข้า…แล้วเจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร น่ารังเกียจนัก!” อ๋องแห่งคุกอสูรคำรามอย่างโกรธเคือง
เมื่อเจรจากับเสือเพื่อขอหนังเสือ หากจุดจบจะกลายเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไรเลย!
ในตอนที่อ๋องแห่งคุกอสูรกำลังจะตาย เขาได้พยายามใช้แรงทั้งหมดต่อสู้อย่างสุดกำลัง แต่กลับถูกผู้คุมปีศาจแห่งความมืดบดขยี้จนตายได้อย่างง่ายดายอยู่ดี
ความแข็งแกร่งระหว่างทั้งสองฝ่ายมีความแตกต่างกันมากจริง ๆ และเขาก็ถูกกำหนดให้ตายด้วยน้ำมือของพรรคพวกของตนเอง
แม้ว่าจะตายไปแล้ว แต่จิตวิญญาณของเขาก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้เช่นกัน
ผู้คุมปีศาจแห่งความมืดกล่าวว่า “ข้าคิดว่าหากเจ้าได้กินจิตวิญญาณของอ๋องแห่งแดนนรก ก็คงจะสามารถฟื้นฟูพลังได้ไม่น้อยเช่นกัน!”
“พอฝืนทนได้!” น้ำเสียงของราชาวิหคนรกแห่งความตายค่อนข้างรังเกียจเล็กน้อย
สำหรับมันแล้วจิตวิญญาณที่น่าอร่อยที่สุดคือจิตวิญญาณของมู่เฉียนซีกับหวงจิ่วเยี่ย รองลงมาก็เป็นจิตวิญญาณของจื่อโยวกับฝูเซิง ส่วนอ๋องทั้งสามคนนี้เป็นเพียงสินค้าที่มีตำหนิเท่านั้น ซึ่งความจริงแล้วมันค่อนข้างที่จะดูถูกมากเลยทีเดียว
“อ๊ากกกก!” และเขาก็ทำได้เพียงเฝ้ามองจิตวิญญาณของตนเองถูกราชาวิหคนรกแห่งความตายกลืนกินไปเท่านั้น
สีหน้าของอ๋องแห่งคุกลับและอ๋องแห่งคุกรากษสต่างก็ย่ำแย่เป็นอย่างมาก อย่างที่รู้กันว่าผู้คุมปีศาจแห่งความมืดสามารถฆ่าพวกเดียวกันได้อย่างหน้าตาเฉย ฉะนั้นเมื่อไรที่ราชาวิหคนรกแห่งความตายต้องการที่จะเติมพลังในครั้งต่อไป เขาจะต้องฆ่าพวกเขาโดยไม่บอกไม่กล่าวแน่นอน
อ๋องแห่งคุกรากษสกล่าวว่า “พวกเราหนีกันเถอะ! พวกเรารีบหนีกัน! ข้าไม่อยากที่จะอยู่กับคนบ้าคนนี้อีกแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าจัดการพรรคพวกเดียวกัน แล้วไปอยู่กับสัตว์ร้ายตัวหนึ่งเช่นนี้”
“หนี! ใช่แล้ว หนีเถอะ!” แต่ทว่าพลังของพวกเขาไม่ได้ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วขนาดนั้น ฉะนั้นถึงพวกเขาอยากจะหนีไปในสถานการณ์เช่นนี้ ก็เป็นเพียงแค่เรื่องเพ้อฝันอยู่ดี
ให้ตายเถอะ! พวกเขาก่นด่าด้วยเสียงทุ้มต่ำ
ตอนนี้พวกเขารู้สึกว่า การพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของหวงจิ่วเยี่ย และถูกแย่งชิงคุกนรกไปจากพวกเขา ก็ยังดีกว่าถูกพรรคพวกของตนเองฆ่าตาย อีกทั้งจิตวิญญาณก็ต้องแตกสลายไปอีกด้วย
พวกเขาในเวลานี้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่ควรตั้งตัวเป็นศัตรูกับสัตว์ประหลาดอย่างหวงจิ่วเยี่ยเลย
หลังจากที่กลืนกินพลังของอ๋องแห่งคุกอสูรไปแล้ว พลังของราชาวิหคนรกแห่งความตายก็ล้นทะลักออกมาไม่น้อยเลยทีเดียว
ปีกแห่งความตายสีดำปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง มันกล่าวอย่างชั่วร้ายว่า “มีผู้พิทักษ์นิรันดร์แล้วอย่างไร? ในเมื่อมันไม่สมบูรณ์ สุดท้ายจะใช้พลังหมดเมื่อไรก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น”
“ไปตายซะ!”
ตูมมม!
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวออกมา และพลังทั้งหมดนี้ก็ถูกสกัดกั้นเอาไว้
ผู้คุมปีศาจแห่งความมืดกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “จำนวนสามครั้ง ตอนนี้มันถูกใช้ไปหมดแล้ว ฝ่าบาทจิ่วเยี่ย ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้คงไม่มีประโยชน์อะไรแล้วล่ะ! จงโยนนางทิ้งไปเสีย แล้วพวกเรามาสู้กันดีหรือไม่!”
จิ่วเยี่ยเหลือบมองไปที่ผู้คุมปีศาจแห่งความมืด แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “มีซีอยู่ด้วย พวกเจ้าจะได้ตายเร็วขึ้นไปอีก”
ซีซื้อเวลาให้เขาได้อย่างเพียงพอแล้ว และต่อจากนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องเก็บกวาดเสียที
หลังจากที่พลังของจิ่วเยี่ยพัดโหมกระหน่ำออกมา ผู้คุมปีศาจแห่งความมืดและราชาวิหคนรกแห่งความตายก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาลขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ราวกับว่าในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ไม่ได้สร้างผลกระทบใด ๆ ต่อเขาเลยอย่างไรอย่างนั้น เขานี่ช่างเป็นคนที่วิปลาสจริง ๆ!
ผู้คุมปีศาจแห่งความมืดกล่าวว่า “ข้าโจมตีหวงจิ่วเยี่ยเอง ส่วนเจ้าก็พยายามหาทางฆ่ามู่เฉียนซีเถอะ หากหวงจิ่วเยี่ยได้เห็นผู้หญิงของตนเองตายต่อหน้าต่อตา สติของเขาจะต้องสับสน เช่นนั้นพวกเราถึงจะมีโอกาส”
ราชาวิหคนรกแห่งความตายกล่าวว่า “ตกลง! เช่นนั้นข้ารับผิดชอบลอบโจมตีหญิงสาวที่มีจิตวิญญาณแห่งโชคชะตาคนนั้นเอง ข้าไม่เชื่อว่าการปกป้องของชายผู้นั้นจะไม่มีช่องโหว่เลยแม้แต่น้อย!”
ตูมมม โครมมม!
ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน และการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก
ในทางกลับกันอ๋องแห่งคุกลับและอ๋องแห่งคุกรากษสต่างถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขาแทบอยากที่จะให้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายไปเลยจริง ๆ แต่อย่างไรเสียพวกเขาก็ต้องอยู่ในสภาพน่าสมเพชอยู่ดี
เพราะหากหวงจิ่วเยี่ยชนะ เช่นนั้นราชาวิหคนรกแห่งความตายก็จะต้องมากลืนกินจิตวิญญาณของพวกเขาเพื่อฟื้นฟูพลังของตนเองเป็นแน่
แต่หากหวงจิ่วเยี่ยพ่ายแพ้ พรรคพวกเดียวกันของพวกเขานี้ก็ไม่มีทางไว้ชีวิตพวกเขาเช่นกัน อย่างไรเสียผู้คุมปีศาจแห่งความมืดก็เป็นคนที่ลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมอยู่แล้ว
ผู้คุมปีศาจแห่งความมืดโจมตีใส่หวงจิ่วเยี่ยและมู่เฉียนซีอย่างบ้าคลั่ง เขาอยากจะให้จิ่วเยี่ยคลายการป้องกันของมู่เฉียนซีออก เพื่อให้ราชาวิหคนรกแห่งความตายหาโอกาสใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้ได้
ปัง ปัง ปัง!
ไม่รู้ว่าพวกเขาต่อสู้กันมากี่รอบ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ทำให้ราชาวิหคนรกแห่งความตายสามารถหาโอกาสได้จริง ๆ
ขนนกแห่งความตายที่พลังทั้งหมดของมันรวมตัวกันได้ทะลุผ่านไปในความว่างเปล่า และพุ่งตรงไปยังหน้าผากของมู่เฉียนซีทันที
เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ หากจิ่วเยี่ยไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการปกป้องมู่เฉียนซี ก็ต้องปล่อยให้มู่เฉียนซีถูกฆ่าตาย
และเห็นได้ชัดว่าจิ่วเยี่ยได้เลือกอย่างแรกจริง ๆ!
มีความดีใจฉายวาบขึ้นมาในแววตาของผู้คุมปีศาจแห่งความมืด ไม่คิดมาก่อนเลยว่าคนที่มักจะไม่สนใจใครหน้าไหนอย่างหวงจิ่วเยี่ยจะทำถึงขนาดนี้เพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียว
ตูมมม!
เสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวดังกึกก้องออกมา และเมื่อจื่อโยวกับฝูเซิงได้เห็นฉากนี้ต่างก็เป็นกังวลมากเช่นกัน!
ตึงง!
ร่างเงาสีดำร่างหนึ่งถูกโจมตีจนลอยกระเด็นออกไป และส่วนต่าง ๆ บนร่างกายของเขาก็ได้เปลี่ยนกลายเป็นกระดูกขาว
แน่นอนว่าคนที่กระเด็นลอยออกไปก็คือผู้คุมปีศาจแห่งความมืด การโจมตีในครั้งนี้สำหรับผู้คุมปีศาจแห่งความมืดแล้วไม่ราบรื่นเลยแม้แต่น้อย และสีหน้าของเขาในตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นขาวซีดขึ้นมาทันที
“เจ้า…หวงจิ่วเยี่ย ข้ามองเจ้าผิดไปจริง ๆ! ที่แท้แล้วเจ้าก็ยังคงเป็นคนที่เย็นชาไร้น้ำใจเช่นเดิม เมื่อครู่นี้เจ้าหลอกข้า เจ้าไม่คิดที่จะปกป้องผู้หญิงคนนั้นเลย แต่เจ้าเพียงแค่หลอกล่อข้าเพื่อหาโอกาสลอบโจมตีข้า คิดไม่ถึงเลยว่าข้าจะโดนหลอก ให้ตายเถอะ!” ผู้คุมปีศาจแห่งความมืดกล่าว
“ผู้คุมปีศาจแห่งความมืด หรือเจ้าคิดว่าจิ่วเยี่ยจะไม่สามารถปกป้องข้าในขณะที่ทำร้ายเจ้าอย่างโหดเหี้ยมได้อย่างนั้นหรือ?” ในตอนที่พลังแห่งความมืดสลายไป และเศษหินต่าง ๆ ได้กระจายออกไป มู่เฉียนซีก็ยังคงยืนอยู่ที่นั่นอย่างปลอดภัยโดยไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
มีกลีบดอกบัวสีฟ้าอ่อนใบหนึ่งลอยอยู่เหนือศรีษะของนาง ซึ่งมันมีพลังแห่งมิติที่แข็งแกร่งมาก และมันก็ทำให้ราชาวิหคนรกแห่งความตายไม่สามารถทำอันตรายนางได้เลยแม้แต่น้อยอีกด้วย