ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 25 อยากเป็นคุณหนูรุ่นสอง
ฮ่า! สามล้าน และเป็นเหรียญทองคำ!
ต่อให้เป็นช่วงที่ร้านค้าตระกูลมู่ทำกำไรได้มากที่สุด ต่อให้เวลาสามเดือนก็ยังไม่สามารถทำเงินมากเพียงนั้นได้ แต่นี่แค่สามวัน
มู่เฉียนซีเจ้าคงเสียสติไปแล้ว ไม่สู้ยอมรับเงื่อนไขลดค่าใช้จ่ายของพวกเขาไม่ดีกว่าหรือ ?
ผู้เฒ่าใหญ่คิ้วขมวดเล็กน้อย เขารู้สึกว่ามันไม่เรียบง่ายเพียงแค่นั้น “ท่านผู้นำตระกูลสามารถทำได้รึ ?”
มู่เฉียนซีเอ่ย แววตาเจือความมุ่งมั่นล้นเปี่ยม “หากข้าทำได้ ต่อไปทุกเดือนพวกท่านจะได้รับเงินคนละสิบเหรียญ และอำนาจจัดการในมือของพวกท่านต้องมอบให้แก่ข้า พวกท่านจะเล่นด้วยหรือไม่ ?”
“ซี๊ด!” ทุกคนต่างสูดลมเข้า
มู่เฉียนซีจะใช้การเดิมพันนี้กดดันพวกเขาและนำอำนาจกลับคืนมา
ผู้เฒ่าใหญ่รีบเอ่ย “ช้าก่อนผู้นำตระกูล… ถ้าหากว่าท่านนำสมบัติของตระกูลไปขายเพื่อแลกกับสามล้านเหรียญทองคำ นี่ไม่ถือว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับพวกเราอย่างนั้นหรือ ?”
มู่เฉียนซีกล่าวต่อ… “ข้าได้พูดไว้แล้วว่าข้าสามารถหาสามล้านเหรียญทองคำได้ภายในสามวัน โดยที่ข้าจะไม่ใช้อำนาจใด ๆ ของตระกูลมู่ คำตอบนี้ผู้เฒ่าใหญ่พอใจไหม ?”
ผู้เฒ่าใหญ่ครุ่นคิดถึงวิธีการ เขาคิดไม่ตกว่ามู่เฉียนซีจะหาเงินสามล้านเหรียญทองคำอย่างรวดเร็วได้อย่างไร ? หลังจากที่ครุ่นคิดเป็นเวลานาน เขาก็คิดได้สิ่งหนึ่ง…
“ผู้นำตระกูลไม่สามารถนำสมุนไพรวิญญาณที่นายท่านทิ้งไว้ให้ไปขายเป็นอันขาด!”
มู่เฉียนซีกะพริบตาก่อนจะพูดว่า… “ผู้เฒ่าใหญ่ เป็นไปได้ไหมที่ท่านสติเลอะเลือนจนหลงลืม สมุนไพรวิญญาณที่ท่านพ่อทิ้งไว้ให้ข้าได้ถูกมู่หรูเหยียนและมู่หรูอวิ๋นหลานสาวของพวกท่านเอาไปแล้ว และส่วนที่เหลือก็กลายเป็นค่าสินสอดถูกเก็บไว้ในท้องพระคลัง ตัวข้าล้วนไม่มีสิ่งของเหล่านี้”
“เช่นนั้น… หากคุณชายสามยื่นมือเข้าช่วย ผู้นำตระกูลจะทำอย่างไร ?” ผู้เฒ่าใหญ่เอ่ยถาม
“วางใจได้ มันเป็นเพียงแค่ทองคำสามล้านเหรียญ ข้าผู้นำตระกูลคนเดียวก็หาได้โดยง่าย ไม่จำเป็นต้องไปรบกวนท่านอาเล็กหรอก” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างมั่นใจ แววตาประกายระยิบ
ไม่มีใครเชื่อ แม้แต่ผู้เฒ่าเก้าเองก็ไม่เชื่อว่าเพียงนางคนเดียวจะสามารถหาเงินได้เป็นจำนวนมากในเวลาระยะสั้น ๆ
นอกจากคุณชายสามแล้ว ด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังของมูเฉียนซีย่อมไม่มีใครอยากให้เงินนางหยิบยืมเยอะแยะขนาดนี้ ทั้งสมุนไพรวิญญาณต่าง ๆ นางก็ไม่มี
ผู้เฒ่าใหญ่ชั่งน้ำหนักผลได้ผลเสียในใจสักพัก ก่อนตัดสินใจตอบตกลงในที่สุด
เด็กคนนี้นับวันยิ่งกล้าหาญมากขึ้น แต่นางหยิ่งผยองมากเกินไป ดูเหมือนจากที่นางวางเดิมพันอย่างหยิ่งผยอง เขาคงมองนางสูงไป
ผู้เฒ่าใหญ่กล่าวว่า… “เนื่องจากท่านผู้นำตระกูลสนใจ เช่นนั้นพวกเรามาพนันกัน! เพื่อป้องกันที่จะไม่ให้ผู้ใดผิดสัญญาในภายหลัง พวกเราควรเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร”
เป็นเพราะก่อนหน้านี้มู่เฉียนซีใช้วิธีการไร้ยางอาย ผู้เฒ่าใหญ่จึงต้องรอบคอบระมัดระวังตน
มู่เฉียนซียิ้มไม่สะทกสะท้าน “ตกลง!”
ถึงชายชราไม่พูดเสนอให้ทำสัญญาลงนาม นางก็ต้องการจะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว นางลงสัญญาประทับตราประจำตระกูลมู่
ผู้เฒ่าแต่ละคนต่างประทับตราประจำตัวของตนเอง หากผู้ใดผิดสัญญา ก็เท่ากับเป็นการทรยศตระกูลมู่
หลุมขุดไว้แล้ว รอเพียงแต่คนชราเหล่านี้กระโดดลงไปฝังตัวเองทั้งเป็น
มู่เฉียนซีเอ่ย “ไม่มีอะไรแล้วใช่หรือไม่ ? ข้าจะได้กลับไปนอน”
เมื่อมองไปยังแผ่นหลังที่งดงาม ผู้เฒ่าใหญ่เกิดความรู้สึกไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก
หากนางพ่ายแพ้ นางเพียงแค่ใช้เงินน้อยลงหน่อย …แต่หากเป็นพวกเขาที่พ่ายแพ้ ไม่เพียงเงินทองที่ต้องสูญเสีย แม้แต่อำนาจก็ไม่มีเหลือ
พนันในครั้งนี้ความยุติธรรมกับพวกเขาหามีไม่ แต่เขาก็ไม่สนใจ คิดเพียงว่านางไม่มีทางทำได้
ผู้เฒ่าใหญ่จอมเจ้าเล่ห์รู้สึกเหมือนว่าเขากำลังตกลงไปในแอ่งหลุม แต่หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกว่าตนเองอาจจะคิดมากไป หาเงินสามล้านเหรียญทองคำภายในสามวันผู้อื่นทำไม่ได้ มู่เฉียนซียิ่งไม่สามารถทำได้
อีกเพียงแค่สามวัน… ค่าใช้จ่ายของนางก็จะถูกควบคุม และสิทธิ์ต่าง ๆ ของนางก็จะถูกควบคุมเช่นกัน นางจะกลายเป็นเพียงผู้นำตระกูลที่ไม่ใช่ผู้นำตระกูลอีกต่อไป
ตราบใดที่คุณชายสามยังอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลมู่ พวกเขาไม่มีใครกล้านั่งตำแหน่งผู้นำตระกูล แต่พวกเขาทนไม่ไหวที่จะเข้าไปเหยียบเด็กสาวผู้โง่เขลาไว้ใต้เท้า
มู่เฉียนซีตื่นจากการพักกลางวันก็มีคนเข้ามารายงานต่อนาง “ท่านผู้นำตระกูลน้อย คุณชายสามเชิญท่านไปพบขอรับ”
“อาเล็กเรียกข้าไปพบ”
เมื่อมู่เฉียนซีมาถึงเรือนอวู่โยวก็เห็นร่างสีขาวท่ามกลางต้นไม้ “ท่านอาเล็ก ท่านกินยาแล้วรึ ?”
มู่อวู่ซวงหันมายิ้มอ่อนโยน ใบหน้าเผยความใจดีแม้แววตามิอาจแสดงอารมณ์ “เรียบร้อย… คำสั่งของผู้นำตระกูลน้อย ข้ากล้าไม่เชื่อฟังด้วยหรือ ?”
“เหอะ ท่านรู้ก็ดีแล้ว” มู่เฉียนซีพึมพำเบา ๆ นางเดินมายืนข้างกายมู่อวู่ซวง เอ่ยถามว่า… “ท่านอาเล็กคงทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้แล้วใช่หรือไม่ ?”
“อืม เจ้าต้องการให้อาเล็กช่วยสิ่งใดไหม ?”
ได้รับสามล้านเหรียญทองคำภายในสามวัน แม้แต่พี่ใหญ่ก็ยังทำไม่ได้ในแคว้นจื่อเยี่ยนี้
“มิได้ …ข้ารับปากกับพวกผู้เฒ่าไว้ว่าจะไม่ให้ท่านอาเล็กช่วยข้า”
“ข้าสามารถทิ้งสมุนไพรวิญญาณสองสามต้นลงบนถนนได้ ซีเอ๋อร์ก็แค่โชคดีมาพบเข้าจึงเก็บได้ พวกเขาไม่มีหลักฐานแน่ว่าข้าช่วยเจ้า” มู่อวู่ซวงกล่าวเสียงเรียบ
มุมปากมู่เฉียนซีกระตุกยกเป็นรอยยิ้ม เป็นวิธีการที่ดี
อาเล็กของนางทั้งฉลาดหลักแหลมและเจ้าเล่ห์ การที่นางเป็นเช่นอา บางทีอาจเพราะกรรมพันธุ์ก็เป็นได้
ผู้เฒ่าใหญ่ได้คิดพิจารณาถึงช่องโหว่ต่าง ๆ ก่อนทำการเดิมพัน แต่เขาคงคิดไม่ถึงว่าท่านอาเล็กจะมีวิธีหลากหลาย หากผู้เฒ่าใหญ่รู้เข้า คงจะอาเจียนเป็นเลือดด้วยความโกรธขึ้ง
มู่เฉียนซียิ้ม “ท่านอา ข้าเดิมพันกันอย่างโจ่งแจ้ง ข้าจะต้องปฏิบัติตามกฎ”
“ดูเหมือนซีเอ๋อร์มีวิธีการของตนเองแล้ว” มู่อวู่ซวงพูดด้วยน้ำเสียงสงสัยใคร่รู้
“ท่านอาต้องรอดู” มู่เฉียนซีส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้ผู้เป็นอา แม้ท่านอาจะรับรู้ไม่ได้ด้วยตา แต่นางคิดว่าท่านอารับรู้ด้วยใจ
อาหลานพูดคุยกันสักพัก มู่เฉียนซีก็ถอนหายใจ “เฮ้ออออ”
มู่อวู่ซวงขมวดคิ้ว “ซีเอ๋อร์ เหตุใดถึงได้ถอนหายใจยาวเช่นนั้น ?”
เขาหวังว่าซีเอ๋อร์จะมีความสุขไม่ถูกผูกมัด
มู่เฉียนซีดันรถเข็นมู่อวู่ซวงเข้าไปในห้องพัก “ท่านอา คนหนุ่มสาวในเมืองหลวงอายุเท่าข้าเป็นรุ่นที่สองเหมือนกับท่าน แล้วเหตุใดข้าถึงได้ข้ามขั้นตอนมาเป็นผู้นำตระกูลเรา ? ทุกวันถูกคนชราพวกนั้นจุดชนวนความรำคาญ ไหนเลยยังจะต้องมาจัดการเก็บกวาดทำความสะอาดกับพวกคนเหล่านั้นอีก”
“ซีเอ๋อร์อยากออกไปจากตระกูลมู่หรือ ?” มู่อวู่ซวงถาม
“ไม่ถึงกับต้องการจากไป ที่นี่เป็นที่ที่ท่านพ่อข้าทิ้งไว้ให้ ทรัพย์สินเงินทองมากมาย กินดีอยู่ดี เพียงแต่ข้าอยากสัมผัสชีวิตแบบคุณหนูรุ่นที่สองบ้าง ข้าไม่หวังว่าท่านพ่อจะกลับมารับตำแหน่ง ดังนั้นท่านอาต้องหายไว ๆ จะได้มารับตำแหน่งท่านผู้นำตระกูล แล้วข้าจะไปลองมีชีวิตแบบคุณหนูรุ่นที่สองบ้างสักที” มู่เฉียนซียิ้ม
นางตัดสินใจแล้ว เพื่อวันเวลาอันแสนสบายของนาง นางจะต้องรักษาอาเล็กให้หายดี
มือเย็นของมู่อวู่ซวงจับมืออันอบอุ่นของหลานสาว ถูกต้อง! หากไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ซีเอ๋อร์คงได้เป็นเสมือนองค์หญิงน้อยอันเป็นที่รักของทุกคน แต่มาวันนี้…
มู่อวู่ซวงพยักหน้า “อาเล็กจะหายไว ๆ ซีเอ๋อร์หลานสาวอาจะได้ทำตามใจปรารถนา”
มู่เฉียนซีจับมือผู้เป็นอาไว้แน่น “อืม พวกเราจะพยายามด้วยกันนะท่านอา เมื่ออาเล็กหายดีก็มีคนมาคอยปกป้องตัวข้ามู่เฉียนซีแล้ว”
อาเล็กนอกจากนางแล้ว ก็ไม่มีใครที่อาเล็กดูแลห่วงใย
นี่คือญาติของนางที่ต้องพึ่งพากันและกัน นางต้องการให้เขามีชีวิตที่ดี
…
“มู่เฉียนซีทั้งวันไม่ออกไปข้างนอก นางกำลังทำสิ่งใด ?” ผู้เฒ่าใหญ่ขมวดคิ้วถาม
.