ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2503 เจ้าครองแดนนรก
“อะไรนะ? นี่ก็เป็นร่างแยกของเขาหรือ!” จื่อโยวกล่าวอย่างตื่นตกใจ และผิดหวังเป็นอย่างมาก เดิมทีเขาคิดว่าจะสามารถจัดการเจ้าหมอนี่ได้แล้วเชียว!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าแน่ใจว่านี่จะต้องไม่ใช่ร่างหลักของเขาอย่างแน่นอน อู๋หยา ข้าไม่ปฏิเสธเลยว่าเจ้านี่ช่างยอดเยี่ยมมากจริง ๆ นอกจากนี้ข้ายังไม่สามารถฆ่าเจ้าได้อย่างสมบูรณ์ อีกด้วย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากเช่นกัน! แต่ข้าก็ไม่กลัวเจ้าหรอกนะ ในเมื่อข้าทำให้เจ้าพ่ายแพ้ได้ถึงสองครั้ง ฉะนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าต้องพ่ายแพ้จนกว่าข้าจะหาร่างจ จริงของเจ้าเจอ และวันนั้นเจ้าก็จะต้องตายอย่างสมบูรณ์”
ฟิ้ว!
เข็มปลิดชีวิตทั้งสามเล่มนั้นฝังลงไปบนจุดตายของอู๋หยาทันที
เป็นไปตามที่คาดไว้ร่างกายของอู๋หยาหายไปเหมือนกับคราวที่แล้วอย่างไรอย่างนั้นเลย และหลังจากนั้นมันก็กลายเป็นเพียงดวงดาวดวงเล็ก ๆ เท่านั้น
อู๋หยามีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก แม้จะมาถึงขนาดนี้แล้ว แต่เขาก็ไม่ยอมให้ร่างหลักออกมาปราฏตัวอยู่ดี
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเป็นกังวล “จิ่วเยี่ย เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่!”
จิ่วเยี่ยส่ายศรีษะพลางกล่าวว่า “ไม่มีปัญหา!”
ถึงอู๋หยาจะพาผู้คุ้มปีศาจแห่งความมืดไปแล้ว แต่กลับเหลืออ๋องแห่งคุกลับเอาไว้
เขาในเวลานี้หวาดกลัวเป็นอย่างมาก ชีวิตนี้ของเขาจะต้องจบเห่อย่างแน่นอน
“ท่านอ๋องจิ่วเยี่ย ไม่สิ…ฝ่าบาทจิ่วเยี่ย ได้โปรดปล่อยข้า ได้โปรดปล่อยข้าไปเถิดขอรับ!” อ๋องแห่งคุกลับกล่าวด้วยเสียงที่สั่นเทา
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ปล่อยเจ้าหรือ เจ้าคิดว่ามันเป็นไปได้หรือ? อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องตาย ยอมแพ้ซะเถอะ!”
อ๋องแห่งคุกลับรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก เขามองไปยังหวงจิ่วเยี่ยด้วยความหวังพลางกล่าวว่า “ฝ่าบาทจิ่วเยี่ย เห็นแก่ที่ข้าเป็นหนึ่งในคนของเผ่าเทพหงส์ที่เหลืออยู่ไม่มากนักเถิดข ขอรับ โปรดไว้ชีวิตข้าเถิด! ข้า…อย่างน้อยข้าก็แซ่หวงเช่นกัน”
จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ข้าได้ถูกขับไล่ออกมาจากเผ่าเทพหงส์นานแล้ว และเผ่าเทพหงส์ก็ได้ลบชื่อของข้าออกไปนานแล้วเช่นกัน แต่ถึงแม้ว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่ข้าก็ไม่สน นใจมันอีกแล้ว ฉะนั้นเจ้าตาย…”
“อ๊ากก!” แม้ว่าจะพูดถึงขนาดนี้ แต่อ๋องแห่งคุกลับก็ไม่เห็นว่าเขาจะปรานีเลยแม้แต่น้อย และเขาก็รู้ว่าตนเองกำลังจะต้องจบเห่อย่างแน่นอน
ดวงตาของเขาเบิกกว้าง เมื่อเห็นว่าร่างกายของตนเองถูกช่วงชิงไป จนเหลือเพียงกระดูก และถูกทำลายอย่างทรมาน มันก็ทำให้เขารู้สึกเสียใจภายหลังเป็นอย่างมากจริง ๆ
และอ๋องคนสุดท้ายของคุกนรกทั้งหกอย่างอ๋องแห่งคุกลับ ก็ได้ตายไปอย่างสมบูรณ์
จิ่วเยี่ยกล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “ซี พวกเราไปกันเถอะ!”
“ตกลง!” และหอคอยจำลองของหอคอยนิรันดร์ทั้งสามก็ได้ถูกมู่เฉียนซีเก็บเอาไว้ หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินออกไปจากมิติทลายนภาแห่งนี้ทันที
ถึงจะออกมาแล้ว แต่มันก็ยังคงเป็นกรงร้อยศึกอยู่ดี และกรงร้อยศึกที่เต็มไปด้วยการระเบิดของสงครามใหญ่ก่อนหน้านี้ก็ได้เปลี่ยนกลายเป็นสงบลงแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย พวกเราไปหาพวกเขากันเถอะ! หลังจากนี้พวกเราไปพาคนมาพร้อมกับชัยชนะอันยิ่งใหญ่กันเถอะ! นับจากวันนี้ไป ทั่วทั้งแดนนรกก็จะตกเป็นของเจ้าแล้ว”
จิ่วเยี่ยพยักหน้าเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “อื้ม! ทั่วทั้งแดนนรกแห่งก็เป็นของเจ้าเช่นกัน ซีอยากจะเปิดหอหมอปีศาจอย่างไรก็เปิดได้เลย ใครกล้ามีปัญหาก็ลองดู”
พวกของเฉี่ยซื่อรออยู่ที่เมืองซากโบราณที่เป็นที่อยู่ของอ๋องอัคคีเหลยถิงอย่างไม่สบายใจเล็กน้อย ก่อนหน้านี้พวกเขายังสัมผัสได้ถึงเสียงของการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก แต่ทว่าตอนนี้พวกเขาไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย…
เฉี่ยซื่อกล่าวว่า “พวกเราจะรออย่างนี้ต่อไปไม่ได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้านายเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”
เฉี่ยอี้กล่าวว่า “ไม่ได้ นี่คือคำสั่งของท่านเจ้าเมือง พวกเราไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้”
“แม้ว่าเจ้าเมืองออกคำสั่งเพื่อความปลอดภัย แต่นั่นก็เป็นเพราะว่าวิหคนรกแห่งความตายเหล่านั้น ทว่าตอนนี้นกเหล่านั้นได้หายไปหมดแล้ว พวกเราน่าจะสามารถออกไปดูได้แล้ว”
พวกเขาทั้งสองฝ่ายเกิดการโต้เถียงกัน และในเวลานี้ร่างสีม่วงเงินก็กล่าวขึ้นมาว่า “มีคนกำลังมา”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พวกเจ้าทั้งหลายออกมาได้แล้ว พวกเราชนะแล้ว สามารถกลับกันได้แล้ว กลับไปยังบ้านของพวกเรา”
น้ำเสียงของมู่เฉียนซีดังกังวานราวกับเสียงของฟ้าร้องก็มิปาน และพวกเขาก็ดีใจกันอย่างบ้าคลั่ง
“มันคือเสียงของท่านเจ้าเมือง!”
“เป็นเสียงของเจ้านาย!”
“พระชายามาแล้ว พระชายากลับมาแล้ว”
เฟี้ยว เฟี้ยว เฟี้ยว!
ร่างจำนวนนับไม่ถ้วนไหลทะลักออกมาจากเมืองซากโบราณแห่งนั้น เมื่อเห็นร่างที่คุ้นเคยทั้งสอง พวกเขาก็รีบทำความเคารพทันที
“คารวะพระชายา! คารวะนายท่าน!”
“คารวะพระชายา! คารวะนายท่าน!”
ด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลัง ทำให้มันดังกึกก้องไปทั่วกรงร้อยศึกเลยทีเดียว
ในเมื่อนายท่านและพระชายากลับมาอย่างปลอดภัย ฉะนั้นสงครามใหญ่ของแดนนรกคราวนี้ ก็ถือได้ว่าคุกโลหิตของพวกเขาชนะแล้ว
พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคุกโลหิตไม่เพียงแต่ชนะแล้วเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถเอาชนะได้อย่างงดงามอีกด้วย อ๋องของคุกนรกอื่น ๆ ทั้งหก ต่างก็ไม่มีชีวิตรอดเลยแม้แต่คนเดียว
จิ่วเยี่ยกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ไปกันเถอะ!”
“ขอรับ!”
ในสงครามใหญ่ของแดนนรกในครั้งนี้ ในตอนที่อ๋องจิ่วเยี่ยแห่งคุกนรกโลหิตนำกองกำลังของเขากลับไปยังคุกโลหิต และไม่มีข่าวคราวของอ๋องจากคุกนรกทั้งหก มันก็ได้ทำให้พวกเขารู้ว ว่าแดนนรกในตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว
คุกโลหิตไม่เพียงแต่ชนะเท่านั้น แต่ยังไม่มีผู้ที่รับบาดเจ็บล้มตายจนหนักหนาเกินไปอีกด้วย ส่วนตั้งแต่ระดับอ๋องไปจนถึงระดับเจ้าครองดินแดนของคุกนนรกทั้งหก ที่มุ่งหน้าไปยังกรง ร้อยศึกทั้งหมด ล้วนตายไปจนหมดสิ้น
คิดไม่ถึงว่าความสามารถของอ๋องจิ่วเยี่ยของคุกโลหิตจะน่ากลัวถึงเพียงนี้ ฉะนั้นคุกนรกทั้งหกจึงทำได้เพียงยอมรับชะตากรรมที่ต้องถูกควบคุมโดยอ๋องจิ่วเยี่ยแห่งคุกโลหิต และตั้งแต่ ตอนนี้เป็นต้นไปแดนนรกมีผู้ปกครองเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คืออ๋องจิ่วเยี่ยนั่นเอง
แม้ว่าจะมีคนบางคนที่ผ่านการฝึกฝนอย่างหนักมาเป็นเวลานานจนมาถึงระดับอ๋องได้ แต่ก็ไม่กล้าท้าทายอ๋องจิ่วเยี่ย และแย่งชิงหนึ่งในคุกทั้งเจ็ดมาอยู่ดี เพราะนั่นถือว่าเป็นการรนหาท ที่ตายอย่างแน่นอน
การควบคุมดูแลคุกนรกอีกหกแห่งเป็นงานที่ใหญ่มาก แต่ทว่ามู่เฉียนซีและจิ่วเยี่ยต่างก็เป็นคนไร้ยางอาย เพราะพวกเขาได้โยนปัญหาใหญ่นี้ให้กับจื่อโยวและฝูเซิงไปแล้วนั่นเอง
ฝูเซิงและจื่อโยวที่ร่วมทุกข์มาด้วยกันโมโหจนแทบจะกระอักเลือดเลยทีเดียว ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต่อต้าน แต่สุดท้ายพวกเขาก็ถูกจิ่วเยี่ยกำราบอย่างไร้ความปรานี และทำได้เพียงไปทำงานอย ย่างเชื่อฟังเท่านั้น
ส่วนมู่เฉียนซีและหวงจิ่วเยี่ย ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ที่หุบเขาลั่วซี และจิ่วเยี่ยก็อยู่ฝึกฝนเป็นเพื่อนมู่เฉียนซี แต่มู่เฉียนซีกลับเอาแต่ให้ความสนใจไปที่ร่างกายของเขาตลอดเวลา
คำสาปเงียบสงบราวกับไม่เคยมีมาก่อนก็มิปาน หากอยู่ ๆ จิ่วเยี่ยมีพลังที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นจนสามารถปราบคำสาปได้ นี่ก็จะต้องเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือการคาดเดาของอู๋หยาแน่นอน ดังนั้นอู๋หยาจึงพ่ายแพ้ แม้ว่าอยากจะทำให้ร่างแยกร่างหนึ่งของเขาพ่ายแพ้ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่ดี
คราวที่แล้วเขายอมให้ตนเองถูกจับโดยละม่อม แต่ทว่าคราวนี้กับไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ถึงคำสาปจะเปลี่ยนเป็นสงบขึ้นมาก แต่มันกลับไม่ได้ทำให้มู่เฉียนซีสบายใจขึ้นเลย ตราบใดที่ยังคงมีอันตรายอันน่ากลัวซ่อนเร้นอยู่ภายในร่างกายของจิ่วเยี่ย มันก็ถือว่าเป็นระเบิดเวลา ดี ๆ นี่เอง
จิ่วเยี่ยลูบไปบนคิ้วที่ขมวดมุ่นของมู่เฉียนซี พลางกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ซี ข้าไม่เป็นอะไร! อย่ากังวล…”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้ากลัว…”
“อื้อ…”
มู่เฉียนซีกลัว แต่จิ่วเยี่ยไม่อยากให้นางกลัว ฉะนั้นเขาจึงอยากให้นางลืมเรื่องเหล่านี้ไป และมันคงจะดีกว่าถ้าคิดถึงแต่เขา
ดอกไม้สดบานสะพรั่งและล่อยลอยไปทั่วทุกหนแห่งในหุบเขาลั่วซี
ส่วนจื่อโยวและฝูเซิงต่างก็ยุ่งจนหัวหมุน และในที่สุดเรื่องของแดนนรกก็ถูกจัดการอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว
ในแดนนรก ผู้ที่แข็งแกร่งจะได้รับการเคารพนับถือ และอ๋องจิ่วเยี่ยที่มีพลังแข็งแกร่งขนาดนั้น พวกเขาไม่กล้าที่จะไม่ยอมจำนนอยู่แล้ว
แดนนรกไม่เคยมีปรากฏการรวมเป็นหนึ่งเดียวมาก่อน คุกนรกทั้งเจ็ดไม่สามารถถูกควบคุมโดยคนคนเดียวได้ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะไม่เคยมีคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้นมาก่อนนั่นเอง
ทั้งการปรากฏตัวของจิ่วเยี่ย และสงครามใหญ่ของแดนนรกที่เกิดขึ้นในกรงร้อยศึก ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป
ตอนนี้จิ่วเยี่ยได้กลายเป็นเจ้านายของแดนนรก เป็นเจ้านายเพียงคนเดียวเท่านั้น ตอนนี้หอหมอปีศาจได้เปิดทำการอีกครั้ง เดิมทีก็มีชื่อเสียงอยู่แล้ว แต่เมื่อยิ่งมีการสนับสนุนจากอ๋อง งจิ่วเยี่ย ทั้งหมดล้วนเป็นไปได้อย่างราบรื่นมาก
คนของเมืองหนามโลหิตต่างก็แยกย้ายกันไปตามที่ต่าง ๆ เพื่อรักษาความมั่นคงในการพัฒนาหอหมอปีศาจเอาไว้
หลังจากสงครามใหญ่ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างเงียบสงบ แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และความสงบเช่นนี้ก็เป็นเพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “ยังไม่มีข่าวคราวของหอคอยนิรันดร์อีกอย่างนั้นหรือ?”