ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2507 เขตราชวงศ์
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ข้ารู้สึกว่าพวกเจ้าเองก็มั่นใจในตนเองมากเกินไปเหมือนกัน! และแม้ว่าข้าจะไม่มีพลังวิญญาณ แต่ข้าก็สามารถทรมานพวกเจ้าโดยที่ไม่ต้องมีกา ารพูดคุยอะไรอีกแล้วได้เช่นกัน”
ปัง ปัง ปัง!
ทักษะวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมกันไว้อย่างหนาแน่นระเบิดออกมา แม้ว่ามันจะโจมตีโดนมู่เฉียนซี แต่มู่เฉียนซีก็ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้เพียงนิด
พวกเขาแต่ละคนตาเบิกโพลงด้วยความตื่นตกใจ “เป็นไปได้อย่างไร? นี่มันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด”
“ถึงพวกเจ้าจะมีพลังวิญญาณ แต่พวกเจ้าก็ยังคงเป็นเพียงขยะเช่นเดิมอยู่ดี!”
แกร่ก!
เงาสีม่วงสว่างวาบขึ้น มู่เฉียนซีลงมืออย่างรวดเร็วฉับไว และเห็นได้ชัดว่าผู้คุมเหล่านี้อ่อนแอยิ่งนักเมื่ออยู่ต่อหน้านาง
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “สภาพแวดล้อมและบรรยากาศของขุมนรกอสูรของพวกเจ้าก็ไม่ได้ดีเท่าไรนัก ข้าไม่อยากจะอยู่ที่นี่นานเกินไป และข้าก็อยากรีบจัดการเรื่องของข้าให้เร็วที่สุด ฉะนั้น นพวกเจ้ารีบทำงานให้ข้าเร็ว ๆ หน่อยเถอะ”
ผู้คนเหล่านี้รู้สึกว่ากำลังจะเป็นบ้าไปแล้ว นี่พวกเขาเป็นหายนะที่โผล่ออกมาจากที่ใดกันแน่เนี่ย?
ผู้คุมที่อยู่ในเขตล่าสัตว์ชั้นในเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุด และคนเหล่านี้หากอยู่ในแดนนรกก็จะมีระดับเทียบเท่าใต้เท้าระดับล่างนั่นเอง
ผู้ที่มีพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้เมื่อเผชิญหน้ากับนักโทษที่ไม่สามารถใช้พลังวิญญาณได้ ก็มักจะบดขยี้พวกเขาไปอย่างสมบูรณ์ แต่ทว่าในเวลานี้พวกเขากลับกำลังเผชิญหน้าอยู่กับการโจมตี ของคนที่ไม่สามารถใช้พลังวิญญาณได้คนหนึ่งแทน
อีกฝ่ายมีเพียงแค่สองคนเท่านั้น และคนที่ลงมือก็มีเพียงสาวน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะมีแค่นางคนเดียว แต่พวกเขาก็ถูกทุบตีจนไม่มีแรงที่จะโต้กลับเลยแม้แต่น้อย
เฟี้ยว เฟี้ยว เฟี้ยว!
เนื่องจากว่าอีกฝ่ายมีจำนวนคนมาก มู่เฉียนซีจึงได้ปล่อยเข็มยาออกไป แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้แบบหนึ่งต่อหลายคนแต่นางก็ยังอยู่ยงคงกระพันอยู่ดี
หากเจ้าคนพวกนี้ได้เจอกับพิษของนาง เช่นนั้นพวกเขาก็จะต้องกลายเป็นน่าสังเวชมาก
ปัง ปัง ปัง!
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “ในบรรดาพวกเจ้า มีคนใดที่สามารถพาข้าไปพบเจ้านายของที่นี่ได้บ้าง เจ้าคนผู้นั้นมีชื่อว่าหลัวหวาง! หากพวกเจ้าทำไม่ได้ เช่นนั้นพวกเจ้าก็เตรียมตัวตายได้ เลย”
“ขะ…ข้าทำได้…ข้าสามารถหาหนทางได้! ข้าจะให้พวกเจ้าตามไปกับเหล่าของเล่นของท่านหลัวหวาง ที่พวกเรากำลังจะส่งไปยังเขตราชวงศ์ ดีหรือไม่?” คนที่มีความสามารถแข็งแกร่งที่สุดใน นนั้นกล่าวขึ้น ซึ่งเขาก็คือชายวัยกลางคนที่มีตำแหน่งสูงที่สุดนั่นเอง
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “ไม่ต้องวุ่นวายขนาดนั้นหรอก เจ้าแค่บอกข้าว่าทางเข้าไปยังเขตราชวงศ์อยู่ที่ใดก็เพียงพอแล้ว ข้าจะตรงเข้าไปเอง”
“เจ้า…นี่เจ้าต้องการที่จะบุกเข้าไปอย่างนั้นหรือ? อย่างที่รู้กันว่าคนเฝ้าประตูนั้นเข้มงวดมาก มีผู้แข็งแกร่งคอยเฝ้าอยู่มากมาย ความสามารถของผู้คุมเหล่านั้นแข็งแกร่งกว่าพวกเรามา ากนัก! ข้าคิดว่าเจ้าอย่าเสี่ยงเลย” หากบุกเข้าไปเช่นนี้ แม้ว่าทั้งสองคนนี้จะถูกฆ่าก็ไม่เป็นไร แต่มันอาจจะทำให้พวกเขาต้องเดือดร้อนไปด้วยน่ะสิ
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “คำพูดไร้สาระช่างเยอะแยะจริง ๆ! เจ้าจะนำทางข้าไปยังทางเข้าตอนนี้ หรือไม่อย่างนั้นก็เตรียมตัวตายกันทั้งหมดนี่แหละ”
ผู้คุมที่อยู่ในเรือนจำนรก ต่างก็เคยเห็นนักโทษที่หยิ่งผยองมาไม่น้อย แต่แน่นอนว่านี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเจอนักโทษที่หยิ่งผยองถึงขนาดนี้
มู่เฉียนซีไม่ได้เป็นนักโทษของที่นี่ และจุดประสงค์ที่พวกนางมาที่นี่ก็เพื่อมาสร้างปัญหา ฉะนั้นพวกนางไม่สนใจกฏระเบียบของที่นี่อยู่แล้ว
“เชิญทางนี้ขอรับ!” เพราะการข่มขู่ของมู่เฉียนซี ทำให้ผู้คุมเหล่านี้จำเป็นต้องยอมทำตาม และเชื้อเชิญมู่เฉียนซีพร้อมกับนำทางอยู่เบื้องหน้านางอย่างเชื่อฟัง
ทั่วทั้งขุมนรกอสูรนี้ เส้นที่ใช้แบ่งเขตระหว่างเขตล่าสัตว์กับเขตราชวงศ์ก็คือกำแพงสีดำสูงเสียดฟ้านั่น
กำแพงนี้มีความหนาเป็นอย่างมาก และคาดว่าที่นี่แม้แต่หลัวหวางผู้นั้นก็ไม่สามารถทำลายมันได้
กำแพงเมืองนี้มีทางเข้าเพียงทางเดียวเท่านั้น ซึ่งในเส้นทางก็มีผู้ตรวจการคอยตรวจคนเข้าเมืองอยู่นับไม่ถ้วน และในตอนนี้เส้นทางเส้นแรกของมู่เฉียนซีกับจิ่วเยี่ยก็ถูกผู้ตรวจคนเข้าเม มืองขวางเอาไว้เช่นกัน
“พวกเจ้าหยุดเดี๋ยว…” ยังไม่ทันที่ผู้คนผู้นั้นจะกล่าวจบ มู่เฉียนซีก็ได้เริ่มลงมือก่อนแล้ว
ตูมม!
มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวระเบิดออกมา ร่างกายของคนผู้นั้นถูกโยนออกไปราวกับลูกกระสุนของปืนใหญ่ก็มิปาน
“มีคนโจมตี โดนโจมตีแล้ว!”
“จับพวกเขาทั้งสามคน! จับพวกเขาเอาไว้”
ผู้คุมที่เป็นคนนำทางผู้นั้นอยากจะร้องไห้จริง ๆ เขาบริสุทธิ์ใจ เขาเพียงแค่ถูกบังคับมาเท่านั้น! เหตุใดแม้แต่เขาก็ยังต้องโดนจับไปด้วยเล่า
ยอดฝีมือของเส้นทางแรกนั้นมีจำนวนมากทีเดียว จิ่วเยี่ยจึงกล่าวขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ซี! พวกเราลงมือด้วยกัน เช่นนั้นมันจะเร็วขึ้นหน่อย!”
ในเวลานี้พวกเขาตกอยู่กลางวงล้อมแล้ว มู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “เช่นนั้นพวกเราร่วมมือกัน และจัดการพวกเขาให้ราบไปเลยเถอะ”
จิ่วเยี่ยพยักหน้าพล่างกล่าวว่า “อื้ม! แน่นอน!”
ปัง ปัง ปัง!
ทักษะวิญญาณเริงระบำอย่างบ้าคลั่ง และความหยิ่งผยองของมู่เฉียนซีกับจิ่วเยี่ยก็ได้ทำให้พวกเขาโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก
“ที่ผ่านมามีคนจากเขตล่าสัตว์มากมายที่ต้องการจะบุกเข้าไปในเขตราชวงศ์ แต่คนที่ทำสำเร็จนั้นมีน้อยนัก ขอเพียงพวกเจ้าสามารถบุกเข้าไปได้ พวกเจ้าก็จะกลายเป็นคนของเขตราชวงศ์! แต่ ก็ต้องดูก่อนว่า พวกเจ้าจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่!”
พวกเขาจ้องมองไปที่พวกของมู่เฉียนซีอย่างดูถูกเป็นอย่างมาก เพราะตลอดเวลาที่พวกเขาคอยเฝ้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ได้เคยเห็นคนที่คิดเพ้อฝันเช่นนี้มามากมายเหลือเกิน
คนที่ไม่สามารถใช้พลังวิญญาณได้เลยแม้แต่น้อย แต่ยังจะกล้ามาสู้กับพวกเขาอีก มันช่างเป็นความคิดเฟ้อฝันลม ๆ แล้ง ๆ เสียจริง ๆ
มู่เฉียนซีและจิ่วเยี่ยออกกระบวนท่าการโจมตีที่รุนแรงเป็นอย่างมาก ทั้งพิษและเข็มยาล้วนถูกนำออกมาใช้อย่างไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย
“บัดซบเอ้ย! มันคือยาพิษ!”
“คิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นปรมาจารย์พิษ ระวังด้วย อย่าให้ถูกโจมตีได้”
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
จิ่วเยี่ยคอยเฝ้าอยู่ข้างหลังของมู่เฉียนซี เขาสามารถจัดการศัตรูได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ซึ่งมันก็เป็นไปอย่างราบรื่นเป็นอย่างมาก
และด้วยวิธีการที่แข็งแกร่งเช่นนี้ก็ได้ทำให้ศัตรูของเขาหวาดกลัวเป็นอย่างมาก นี่มันสัตว์ประหลาด!
แต่เรื่องที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ ในเวลานี้จิ่วเยี่ยยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดของเขาเลยด้วยซ้ำ
ส่วนวิธีของมู่เฉียนซีได้ทำให้ผู้คุมเหล่านี้ยากที่จะป้องกันได้ และทำให้คนเหล่านั้นล้มลงต่อหน้าพวกเขาอย่างรวดเร็ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย พวกเราไปกันเถอะ!”
ผู้ตรวจคนเข้าเมืองทั้งหมดได้ถูกมู่เฉียนซีกับหวงจิ่วเยี่ยกวาดออกไปหมดแล้ว หลังจากนั้นพวกเขาก็รีบเข้าไปในเขตราชวงศ์อย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนว่าภายในเขตราชวงศ์ จะทำให้โลกทั้งใบนี้ดูสว่างไสวขึ้นมาทันตาเลยทีเดียว
ตอนนี้มีบางคนที่ไล่ตามหลังพวกเขาเข้ามาด้วย หลังจากที่เห็นว่าพวกเขาเข้ามาเหยียบในอาณาเขตนี้ได้แล้ว คนพวกนั้นก็หยุดการไล่ล่า และกล่าวเพียงว่า “เช่นนั้นก็ยินดีกับพวกเจ้าด ด้วย พวกเจ้านี่ช่างวิปลาสมากจริง ๆ! แต่ว่าพวกเจ้าอย่าได้ไปยั่วยุหลัวหวางเลยจะดีกว่า เพราะเขาผู้นั้นก็เป็นคนวิปลาสที่น่าสะพรึงกลัวมากคนหนึ่งเช่นกัน หากเขาสนใจในตัวพวกเจ้ า เช่นนั้นจุดจบของพวกเจ้าได้มาถึงแน่”
มู่เฉียนซีกล่าวตอบว่า “ช่างน่าเสียดายมากจริง ๆ เพราะข้าต้องการที่จะไปยั่วยุเขาพอดี! แต่เมื่อถึงเวลานั้นมันก็คือจุดจบของเขา ไม่ใช่จุดจบของพวกเราหรอก”
“เจ้าอย่าได้อวดดีไปนักเลย! พวกเจ้าไม่รู้ว่าท่านหลัวหวางเป็นคนที่วิปลาสมากเพียงใด! เขาไม่ใช่คนที่พวกเราจะสามารถเทียบได้หรอกนะ!”
ภายในเขตราชวงศ์แห่งนี้ การตามหาหลัวหวางไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่ถามคนที่เดินไปมาตามท้องถนนก็สามารถรู้ที่อยู่ของท่านหลัวหวางได้แล้ว
แต่ผลปรากฏว่าทันทีที่มู่เฉียนซีถามทาง มันกลับดึงดูดความสนใจของผู้คนในทันที “น้องสาวผู้นี้ช่างหน้าตางดงามจริง ๆ! จะตามหาหลัวหวางไปทำไมล่ะ? หลัวหวางชอบที่จะเล่นสนุกอยู่กับ การละเล่นของเขามานับหมื่นปีแล้ว เขาไม่สนใจผู้หญิงอย่างเจ้าหรอก ไม่อย่างนั้นเจ้ากับพี่ชาย…”
ก่อนที่ชายผู้มีรอยยิ้มชั่วร้ายมากผู้นี้จะกล่าวจบ เขาก็สัมผัสได้ถึงไอเย็นยะเยือกที่มาจากคนที่อยู่ข้างกายมู่เฉียนซีผู้นั้น และดวงตาสีฟ้าเย็นยะเยือกคู่นั้นก็จ้องมองเขาอย่าง งน่ากลัวเป็นอย่างมาก
เขากล่าวว่า “โอ้! น้องชาย ที่แท้นางก็คือผู้หญิงของเจ้าสินะ! เช่นนั้นคงต้องแสดงออกสักหน่อยแล้ว ให้น้องสาวผู้นี้ได้เห็นว่าใครคือชายชาตรีมากกว่ากัน เจ้าอย่าได้ถูกคนที่สวมห หน้ากากให้ดูลึกลับแต่กลับเป็นชายที่สวยแต่รูปคนหนึ่งหลอกเอาได้เชียวล่ะ”