ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2513 หลับลึกมาก
ยาลูกกลอนทั้งห้าล้วนเป็นยาที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน ฉะนั้นพวกเขาจึงอยากที่จะนำมาศึกษาด้วยเช่นกัน นอกจากนี้นี่ยังเป็นยาระดับสูงสุดอีกด้วย
ยาลูกกลอนขั้นสูง ในชีวิตของพวกเขากลั่นออกมาได้เพียงไม่กี่เม็ดเท่านั้น แต่หมอปีศาจผู้นี้กลั่นออกมาทุกเม็ดล้วนเป็นยาขั้นสูงทั้งนั้น
พวกเขาสำนึกผิดแล้ว ซึ่งการเสนอราคาที่สูงเพื่อซื้อยาลูกกลอนในครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะขอโทษหมอปีศาจ และหวังว่าท่านผู้สูงส่งจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับผู้น้อยอย่างพวกเขา
อันที่จริงแล้วคนเราไม่ควรมองคนจากภายนอก! แต่พวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าสาวน้อยที่ดูอายุน้อยและงดงามเช่นนี้ จะเป็นหมอปีศาจในข่าวลือคนนั้นได้
ทว่าตอนนี้คนอื่น ๆ อยากที่จะลากนักปรุงยาเหล่านี้ออกไปทุบตีสักรอบจริง ๆ นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ
หากต้องการยาลูกกลอนพวกเขาก็กลั่นเองได้มิใช่หรือ? เหตุใดถึงต้องมาแย่งกับพวกเขาด้วย
ยาทั้งสิบห้าขวดถูกประมูลจนเสร็จสิ้นไปอย่างรวดเร็ว มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “สินค้าที่จะนำมาประมูลลำดับต่อไป ก็ต้องกลั่นยาต่ออีก! หากทุกท่านทนรอไม่ไหวละก็ สามารถออกไปก่อนได้เลย”
“ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา!”
“ท่านหมอปีศาจ ท่านค่อย ๆ กลั่นไปได้เลยขอรับ”
“ถึงแม้ว่าจะต้องรอสิบวันหรือครึ่งเดือน พวกเราก็เต็มใจที่จะรอขอรับ”
คนที่ไม่รู้ตัวตนที่ชัดเจนของมู่เฉียนซีก่อนหน้านี้เหล่านั้นต่างก็รู้สึกว่าบางคนทำตัวประจบประแจงเกินไป แต่สุดท้ายแล้วตอนนี้ พวกเขาก็ได้เห็นว่านักปรุงยาแต่ละคนเปลี่ยนเป็นประจบประแจงยิ่งกว่าพวกเขาเสียอีก
การกลั่นยาของท่านหมอปีศาจใช้เวลาสั้น ๆ เพียงครึ่งชั่วยามเท่านั้น ซึ่งมันก็ทำให้ปรมาจารย์นักปรุงยาที่หยิ่งยโสของแดนนรกล้วนให้การยอมรับอย่างสมบูรณ์ และพวกเขาในเวลานี้ก็ทั้งชื่นชมและเลื่อมใสมู่เฉียนซีเป็นอย่างมาก
มีนักปรุงยาน้อยคนนักที่จะสามารถกลั่นยาต่อหน้าผู้คนมากมายได้! นอกจากนี้ยังเป็นนักปรุงยาที่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้อีกด้วย ฉะนั้นหากพวกเขาสามารถดูได้มากกว่านี้อีกสักหน่อย ไม่แน่ว่าอาจจะมองออกว่าหัวใจหลักคืออะไร และหลังจากนั้นก็จะสามารถบรรลุได้แล้ว
อย่างที่รู้กันว่ามีนักปรุงยามากมายติดอยู่ตรงคอขวดมานานหลายปีและไม่สามารถบรรลุได้เสียที
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ลำดับต่อไป ข้าต้องการจะกลั่นยาน้ำ!”
ยาน้ำอย่างนั้นหรือ!
แววตาของผู้คนมากมายเปล่งประกายขึ้นมาทันที อย่างที่รู้กันว่ายาน้ำของหอหมอปีศาจมีเอกลักษณ์เฉพาะ นอกจากนี้ยังให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมมากอีกด้วย
การที่หมอปีศาจกลั่นยาน้ำต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ นี่นางไม่กลัวว่าจะมีคนแอบครูพักลักจำไปเลยหรือ?
ความเร็วในการกลั่นยาน้ำของมู่เฉียนซีนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก เทคนิคนั้นช่างทำให้ผู้คนตื่นตาตื่นใจมากจริง ๆ แต่นางต้องกลั่นยาน้ำมามากแค่ไหนถึงจะสามารถทำได้เร็วขนาดนี้ได้?
เห็นได้ชัดว่าแม่สาวน้อยผู้นี้มีอายุไม่ถึงยี่สิบปีเลยด้วยซ้ำ แม้ว่าจะเริ่มกลั่นยาน้ำในแผ่นดินใหญ่ แต่ก็คงไม่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้!
พวกเขารู้ดีว่า ท่านหมอปีศาจผู้นี้วิปลาสมากเพียงใด
หากต้องการจะแอบครูพักลักจำ มันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ปัญหาคือแม้แต่จะมองยังมองไม่ชัดเจน แล้วจะแอบครูพักลักจำได้อย่างไร?
มู่เฉียนซีใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ก็สามารถกลั่นยาน้ำทั้งห้าชนิดเสร็จเรียบร้อยแล้ว และนางก็กล่าวว่า “ตอนนี้ สามารถประมูลได้แล้ว”
ยาน้ำของหอหมอปีศาจมีขายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ในแดนนรก ซึ่งทุกคนต่างก็เคยเห็นถึงความยอดเยี่ยมของยาน้ำมาแล้วทั้งนั้น ดังนั้นการประมูลยาน้ำนี้จึงได้รับความนิยมพอ ๆ กับยาลูกกลอนเลย
แต่ทว่ายาน้ำส่วนใหญ่กลับถูกนักปรุงยาที่ไร้ยางอายเหล่านั้นแย่งไปจนหมดแล้ว
แต่หลังจากนั้น ยังมีต่อ!
พวกเขาค้นพบว่าถึงท่านหมอปีศาจจะกลั่นยาอย่างต่อเนื่องไม่หยุด ดังนั้นพลังจิตวิญญาณของนางควรจะถูกเผาผลาญไปเยอะแล้วมิใช่หรือ? ทว่ามันไม่ ไม่เลยแม้แต่น้อย?
อย่างที่รู้กันว่าการกลั่นยานั้นสิ้นเปลืองแรงเป็นอย่างมาก หากมีนักปรุงยาที่กลั่นยาระดับสูงถึงเพียงนี้ อย่างน้อยจะต้องพักผ่อนถึงครึ่งเดือนเลยทีเดียว
แต่ท่านหมอปีศาจ ไม่เพียงแต่ไม่พักผ่อนเท่านั้น แถมยังกลั่นยาต่ออีกด้วย
แน่นอนว่าปริมาณการกลั่นยาของมู่เฉียนซีนั้นมีจำนวนที่มหาศาลมาก ฉะนั้นวันนี้รายได้ของหอหมอปีศาจจึงน่าประทับใจเป็นอย่างมาก แต่ทว่าแขกที่มาที่นี่ต่างก็มีความกระตือรือร้นสูงมาก นอกจากนี้ยังมีคนมากมายที่ยังประมูลยาลูกกลอนไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงอยากที่จะให้มู่เฉียนซีดำเนินการต่อไปอีก
ถึงแม้ว่าคนเหล่านี้จะคิด แต่อ๋องจิ่วเยี่ยกลับไม่คิดเช่นนี้เลยแม้แต่น้อย
เวลานี้กลิ่นอายอันน่าสะพรึงได้ปรากฏขึ้น และร่างเงาสีดำร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาบนเวทีประมูลอย่างกะทันหัน
ทุกคนต่างพากันตื่นตกใจ และไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว ซึ่งมันก็ทำให้บรรยากาศงานประมูลที่เต็มไปด้วยความคึกคักเปลี่ยนเป็นเงียบสงัดขึ้นมาทันที
อ๋องจิ่วเยี่ย! ท่านอ๋อง!
จิ่วเยี่ยได้ดึงมู่เฉียนซีมาไว้ในอ้อมกอด และหลังจากนั้นก็กวาดสายตามองไปที่ทุกคนพลางกล่าวว่า “งานประมูลในวันนี้สิ้นสุดลงแล้ว ซีเหนื่อยแล้ว”
ทันทีที่พูดจบ หวงจิ่วเยี่ยก็อุ้มมู่เฉียนซีเอาไว้และหายไปในความว่างเปล่าทันที
จิ่วเยี่ยได้พามู่เฉียนซีกลับไปยังจวนเจ้าเมืองแล้ว แต่ทว่าคนอื่นกลับยังคงมึนงงอยู่ หลังจากนั้นเยาเยี่ยจึงกล่าวขึ้นมาว่า “แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน แขกท่านใดที่ไม่สามารถประมูลยาไปได้ ท่านสามารถไปดูที่หอหมอปีศาจของพวกเราได้ ที่นี่คือหอหมอปีศาจสาขาหลัก ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นยาลูกกลอนหรือยาน้ำล้วนมีเตรียมไว้อย่างครบครันแล้ว”
“ส่วนแขกท่านใดที่ชนะการประมูลเชิญตามข้ามา พวกท่านสามารถมารับยาของพวกท่านได้แล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดของเยาเยี่ย พวกเขาถึงได้มีสติกลับคืนมา และกล่าวว่า “ตกลง!”
วันนี้ไม่ว่าจะเป็นทักษะการกลั่นยาที่ทั้งน่าอัศจรรย์และแข็งแกร่งของหมอปีศาจ หรือว่าจะเป็นการปรากฏตัวของอ๋องจิ่วเยี่ย ต่างก็ทำให้พวกเขาตื่นตกใจมากจริงๆ
หลังจากที่งานประมูลสิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์แล้ว ก็มีผู้คนไม่น้อยที่แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน และพวกเขาก็ได้รับรู้เรื่องที่น่าเหลือเชื่อเรื่องหนึ่ง
พระชายาของอ๋องจิ่วเยี่ยของแดนนรกเท่ากับท่านเจ้าเมืองของเมืองหนามโลหิต และยังเท่ากับหมอปีศาจของหอหมอปีศาจอีกด้วย
นี่มันน่าตกใจจนตาจะถลนออกมาอยู่แล้ว! และไม่ว่าจะเป็นสถานะใด ต่างก็ทำให้พวกเขาตกใจเป็นอย่างยิ่ง
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสถานะพระชายาของแดนนรกเลย เพราะการที่สามารถทำให้ฝ่าบาทจิ่วเยี่ยผู้ไม่เคยเข้าใกล้หญิงสาวใดมาก่อนโปรดปรานได้เช่นนี้ มันก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากพออยู่แล้ว
นอกจากนี้เจ้าเมืองของเมืองหนามโลหิต ยังผูกพันธสัญญากับพืชกลายพันธุ์ขั้นเทวะที่เป็นถึงอดีตเจ้าแห่งคุกโลหิต และยังมีพืชกลายพันธุ์ระดับเจ็ดกลุ่มหนึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาอีกด้วย
หากไม่ใช่เพราะว่าท่านเจ้าเมืองผู้นี้กับท่านอ๋องจิ่วเยี่ยรักใคร่กันมากเป็นพิเศษ เพียงแต่เป็นคู่หมั้นคู่หมายที่ยังไม่ได้แต่งงานกันเท่านั้น พวกเขาก็คงไม่สงสัยเลยหากแดนนรกจะต้องพังทลายลงเพราะพลังของสองคนนี้
แต่ทว่าการรวมตัวกันของความแข็งแกร่งเช่นนี้ เกรงว่าตราบใดที่ท่านอ๋องจิ่งเยี่ยและพระชายายังคงอยู่ด้วยกันอย่างรักใคร่กลมเกลียว แดนนรกแห่งนี้ก็น่าจะยังคงเป็นหนึ่งเดียวกันต่อไป
ส่วนหมอปีศาจ ในการประมูลวันนี้พวกเขาได้เห็นความสามารถของหมอปีศาจกับตาของตนเองแล้ว ซึ่งถือได้ว่านางทรงพลังมากเหลือเกิน!
เนื่องจากแขกเหล่านี้มาเข้าร่วมงานประมูล จึงทำให้เมืองหนามโลหิตคึกคักเป็นอย่างมาก และสำหรับเรื่องหมอปีศาจก็ได้แพร่สะพัดไปทั้วแดนนรกด้วยเช่นกัน
ส่วนมู่เฉียนซีในตอนนี้ ก็กำลังถูกจิ่วเยี่ยบังคับให้พักผ่อน
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “แค่กลั่นยาเล็กน้อยเท่านั้นเอง ไม่ได้เหนื่อยอะไรขนาดนั้นเสียหน่อย”
มันก็แค่เล็กน้อยเท่านั้นหรือ หากพวกนักปรุงยาเหล่านั้นมาได้ยินเข้าคาดว่าต้องกระอักออกมาเป็นเลือดแน่
คาดว่าในชีวิตของพวกเขาอาจจะไม่มีสามารถกลั่นยาขั้นเทวะระดับสูงออกมาได้มากมายขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ แต่คนที่อยู่ตรงหน้านี้กลับบอกว่าเล็กน้อยเท่านั้น!
จิ่วเยี่ยกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “แต่ข้าเหนื่อยแล้ว นอนเถอะ!”
มู่เฉียนซีพิงอยู่ในอ้อมแขนของจิ่วเยี่ยพลางกล่าวว่า “อื้อ! เอาอย่างนั้นก็ได้! นอนเถอะ พวกเขาน่าจะจัดการเรื่องที่เหลือได้”
จิ่วเยี่ยยังคงหลับสนิทในตอนที่มู่เฉียนซีตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น นางลูบไล้ไปบนขนตายาว ๆ ของจิ่วเยี่ย และได้ค้นพบว่าจิ่วเยี่ยเป็นชายหนุ่มที่หลับได้งดงามมากจริง ๆ
ดวงตาของนางหรี่ลงเล็กน้อย นี่มันผิดปกติ? จิ่วเยี่ยกลายเป็นคนหลับลึกขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?
มู่เฉียนซีคว้าข้อมือของจิ่วเยี่ย เพื่อตรวจดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่?
ในเวลานี้จิ่วเยี่ยได้ลืมตาขึ้นมาอย่างกะทันหัน และมู่เฉียนซีก็รู้สึกว่าโลกหมุนไปชั่วขณะหนึ่ง ทว่าหลังจากนั้นจิ่วเยี่ยก็ได้ขังนางเอาไว้ทันที
“จิ่วเยี่ย เจ้า…”
“อุ้บ!” จิ่วเยี่ยปะทับจูบลงไปทันที และเขาก็ได้ปิดปากของมู่เฉียนซีเอาไว้ จนทำให้นางพูดออกมาไม่ได้เลยแม้แต่ประโยคเดียว
และในตอนที่พวกเขาแยกออกจากกัน มู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “จิ่วเยี่ย นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเจ้าหลับลึกขนาดนี้”
“อื้ม! เพราะมีซีอยู่ข้างกายข้างอย่างไรล่ะ”
ไม่ใช่! ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ได้เป็นเช่นนี้เสียหน่อย
ด้วยเหตุนี้ทำให้ภายในใจของมู่เฉียนซีมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบ้างอย่าง และทันใดนั้นที่นอกเมืองก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมา!
.