ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2515 แข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว
ในตอนที่คนเหล่านี้ปรากฏตัวออกมา จิ่วเยี่ยก็กล่าวว่า “ซี ข้าว่าข้าควรจะลงมือได้แล้ว”
มู่เฉียนซีผงะไปครู่หนึ่ง มิแปลกใจเลยที่ผู้คุมปีศาจแห่งความมืดผู้พ่ายแพ้จะกล้าโจมตีเมืองหนามโลหิตของนางอย่างมั่นใจเช่นนี้ ที่แท้ก็พาผู้ช่วยมาด้วยมากมายนี่เอง!
“จิ่วเยี่ย เจ้าระวังตัวด้วย!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ
คนของเผ่าคำสาปเริ่มลงมือแล้ว ฉะนั้นมู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “จื่อโยว ฝูเซิง ฝากพวกเจ้าจัดการผู้คุมปีศาจแห่งความมืดด้วย ส่วนข้าจะไปจัดการกับคนของเผ่าคำสาปเหล่านั้นเอง”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ทานหลาง พวกเจ้าทั้งหกคนมาคอยคุ้มกันข้า”
พวกของเฉี่ยซื่อและคนอื่น ๆ จากคุกนรกในตอนนี้กำลังต่อสู้กับยอดฝีมืออยู่ แต่พวกของทานหลางกลับได้รับหน้าที่ในการคุ้มครองมู่เฉียนซี
แววตาของนักเล่นคาถาอาคมเหล่านั้นจ้องมองมู่เฉียนซีอย่างมืดมน “เจ้าคือพระชายาของคุกโลหิตอย่างนั้นหรือ ได้ยินมาว่าเจ้าหาคัมภีร์หมื่นคำสาปเจอแล้วอย่างนั้นหรือ?”
“ข้อมูลนี้เทพพยากรณ์อันดับหนึ่งของเผ่าเทพเป็นคนบอกพวกเจ้าสินะ มันจะเป็นข้อมูลเท็จไม่ได้เลยอย่างนั้นหรือ?” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา
เรื่องที่คัมภีร์หมื่นคำสาปอยู่ที่นางนั้นเป็นความลับ ฉะนั้นหากเผ่าคำสาปรู้เรื่องนี้ แน่นอนว่าอู๋หยาต้องเป็นคนเปิดเผยออกไปอยู่แล้ว
“คัมภีร์หมื่นคำสาปเป็นสมบัติอันล้ำค่าของเผ่าข้า หากเจ้ามอบมันออกมา ข้าจะให้เจ้าตายอย่างมีความสุขขึ้นอีกหน่อยก็ได้” เผ่าคำสาปกล่าวอย่างเคร่งขรึม
พวกเขาหาไปทั่วเผ่ามังกรและเผ่าหงส์แล้ว อีกทั้งยังทำลายเผ่ากิเลนไปแล้วด้วย แต่ก็หาคัมภีร์หมื่นคำสาปไม่เจออยู่ดี
คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกแม่สาวน้อยคนนี้หาเจอแล้ว ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาอยากที่จะกระอักเลือดออกมาจริง ๆ
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ช่างน่าขันจริง ๆ เผ่าคำสาปของพวกเจ้าไม่ได้รับคัมภีร์หมื่นคำสาป แต่กลับบอกว่าคัมภีร์หมื่นคำสาปเป็นของพวกเจ้า เผ่าคำสาปอย่างพวกเจ้ามี ยางอายหน่อยเถอะ!”
“อยากได้คัมภีร์หมื่นคำสาปอย่างนั้นหรือ? ข้าสามารถแสดงให้พวกเจ้าดูได้นะ”
มู่เฉียนซีได้เอาคัมภีร์หมื่นคำสาปออกมา และพลังคำสาปที่พิเศษนั้นก็ทำให้คนของเผ่าคำสาปเหล่านี้จ้องมองตรงมาด้วยตาลุกวาวทันที
นี่คือสมบัติอันล้ำค่าที่ทุกคนในเผ่าคำสาปของพวกเขาไล่ตามมาทั้งชีวิต และตอนนี้มันได้อยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว
และทันใดนั้นก็มีเสียงทุ้มต่ำเสียงหนึ่งดังออกมา “ไสหัวไปซะ! พวกเจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะมาเป็นเจ้านายของข้าได้!”
คัมภีร์หมื่นคำสาปรังเกียจเจ้าพวกคนกระจอกเหล่านี้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้พวกเขายังอยากจะแย่งมันไปอีกด้วย
เมื่อคัมภีร์หมื่นคำสาปเอ่ยปาก มันก็ทำให้พวกเขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก “นายท่าน ยังมีนักเล่นคาถาอาคมที่แข็งแกร่งอีกมายมายในเผ่าคำสาปของพวกเรา ไม่ว่าอย่างไรท่านก็ไม่สามารถเลื อกคนนอกได้นะขอรับ”
“คนนอกหรือ คนที่ข้าเลือกเป็นคนนอกอย่างนั้นหรือ? จัดการคนเหล่านี้ซะ! น่ารำคาญสิ้นดี” คัมภีร์หมื่นคำสาปกล่าวกับมู่เฉียนซี
เมื่อไม่ได้รับการยอมรับจากคัมภีร์หมื่นคำสาป คนของเผ่าคำสาปเหล่านี้ก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
พวกเขากล่าวว่า “นางต้องใช้วิธีอะไรสักอย่างควบคุมจิตใจของท่านคัมภีร์หมื่นคำสาปอย่างแน่นอน เพราะท่านคัมภีร์หมื่นคำสาปเป็นของพวกเราเผ่าคำสาป”
“ลงมือได้ แย่งมาให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน”
เฟี้ยว เฟี้ยว เฟี้ยว!
และร่างเงาจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งทะยานออกมา
เนื่องจากว่ามู่เฉียนซีได้นำเอาคัมภีร์หมื่นคำสาปออกมา มันจึงทำให้นักเล่นคาถาอาคมทุกคนล้วนต้องการคัมภีร์หมื่นคำสาป ฉะนั้นเรื่องนี้จึงสำคัญกว่าการจัดการฝ่าบาทจิ่วเยี่ยมากนัก
ทางด้านของจิ่วเยี่ยก็ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะถูกนักเล่นคาถาอาคมลอบกัดอีกแล้ว ซึ่งพวกเขาไม่สามารถทำให้เกิดสถานการณ์เหมือนในปีนั้นได้อีก มิเช่นนั้นคนกลุ่มนี้คงต้องเจอกับปัญหาใ ใหญ่เข้าแล้ว
ลำแสงสีดำและลำแสงสีขาวพัวพันกันในอากาศ และพวกเขาก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ดวงตาสีฟ้าเย็นยะเยือกคู่นั้นทั้งเย็นชาและกระหายเลือด พลันนั้นไอเย็นที่น่าสะพรึงกลัวก็ไหลทะลักไปทั่วท้องฟ้า
มีเรื่องหนึ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องยอมรับ นั่นก็คือฝ่าบาทจิ่วเยี่ยได้เปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นแล้วจริง ๆ
ก่อนหน้านี้ก็ว่าแข็งแกร่งมากแล้ว แต่ตอนนี้กลับแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก และพวกเขาก็คิดไม่ถึงเลยว่าฝ่าบาทจิ่วเยี่ยสามารถแข็งแกร่งมาจนถึงจุดนี้ได้อย่างไร?
พรวด พรวด พรวด!
หลังจากที่ต่อสู้กันนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดพวกเขาก็ถูกพลังนั้นของจิ่วเยี่ยทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ
แม้ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงชีวิต แต่พวกเขาก็รู้สึกราวกับว่าร่างกายของตนเองกำลังจะแตกสลายออกเป็นชิ้น ๆ อย่างไรอย่างนั้น
และสิ่งที่ทำให้หงุดหงิดก็คือ พันธมิตรของพวกเขาที่ควรจะมาจัดการกับฝ่าบาทจิ่วเยี่ยด้วยกัน อย่างพวกเขาที่โจมตีอย่างเปิดเผย ส่วนเผ่าคำสาปก็แอบโจมตีในที่มืด
แต่ผลสุดท้ายพวกเขาก็เอาแต่สนใจที่จะจัดการกับผู้หญิงที่เป็นราวกับมดปลวกผู้นั้น คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะไม่ยื่นมือออกมาช่วยเหลือกันจัดการกับฝ่าบาทจิ่วเยี่ยเลยแม้แต่คนเดียว น นี่พวกเขาบ้าไปแล้วหรือ?
พวกเขาบ้าไปแล้วจริง ๆ และไม่ว่าอย่างไรก็ตามจะดูถูกแรงดึงดูดของคัมภีร์หมื่นคำสาปที่มีต่อเผ่าคำสาปไม่ได้อีกด้วย เพราะสิ่งนี้นั้นสำคัญยิ่งกว่าพันธสัญญาใด ๆ ทั้งสิ้นนั่นเอง
สถานการณ์ของสนามรบในตอนนี้ก็คือ กองกำลังของเมืองหนามโลหิตต่อสู้อย่างรุนแรงกับกองกำลังของเรือนจำปีศาจแห่งความมืด จิ่วเยี่ยต่อสู้อย่างดุเดือดกับคนในชุดขาวเหล่านั้น ส่วนมู่เฉ ฉียนซีก็เผชิญหน้ากับคนของเผ่าคำสาป
คนของเผ่าคำสาปได้ใช้ทักษะคำสาปขนาดใหญ่ในการจัดการกับมู่เฉียนซี และยังหวังด้วยว่าจะสามารถจัดการเจ้าหนูจอมเกะกะทั้งหกคนนี้ได้
แต่ทว่าพวกของทานหลางทั้งหกคนนั้นเป็นคนที่จัดการได้ยากมาก เพราะพวกเขาพยายามปกป้องมู่เฉียนซีทุกวิถีทางนั่นเอง
ทันทีที่ทักษะคำสาปขนาดใหญ่ถูกปล่อยออกมา เสียงของคัมภีร์หมื่นคำสาปก็ดังออกมาด้วย มันกล่าวว่า “ไม่ต้องการความช่วยเหลือของข้าจริง ๆ หรือ? คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าพวกนี้จะใช้ทักษะคำ ำสาปขยะเช่นนี้จัดการเจ้า มันช่างเป็นการดูถูกข้าจริง ๆ!”
“เช่นนั้นก็ทำให้ข้าดูหน่อยว่าเจ้าทำอะไรได้บ้าง! คัมภีร์หมื่นคำสาป” คนผู้นี้ผ่านอุปสรรคมามากมายเพื่อตามหาคัมภีร์หมื่นคำสาป แต่ทว่าเป้าหมายกลับมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น นั่น นก็คือการถอนคำสาปให้จิ่วเยี่ยเท่านั้น และดูเหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์อื่นอีกแล้ว
พลังจิตวิญญาณของมู่เฉียนซีระเบิดออกมา นอกจากนี้ยังมีคัมภีร์หมื่นคำสาปที่คอยช่วยอยู่ข้าง ๆ จึงทำให้ทักษะคำสาปขนาดใหญ่ของนักเล่นคาถาอาคมเหล่านี้เปราะบางราวกับเสือกระดาษที่ดูท ทรงพลังแต่ไม่มีอะไรเลยก็มิปาน
พรวด พรวด พรวด!
นักเล่นคาถาอาคมเหล่านั้นพากันกระอักเลือดออกมาทีละคน พวกเขาตื่นตกใจเป็นอย่างมาก
“ให้ตายเถอะ! นางสาวน้อยผู้นี้อาศัยที่ตนเองมีคัมภีร์หมื่นคำสาปอยู่ด้วย จึงทำให้ทักษะคำสาปไร้ผลต่อนางอย่างสิ้นเชิง!”
แน่นอนว่า ไม่ได้มีเพียงพลังของคัมภีร์หมื่นคำสาปเท่านั้น เพราะหากมีเพียงคัมภีร์หมื่นคำสาป แต่ไม่มีพลังจิตวิญญาณที่เพียงพอแล้วละก็ นางก็คงไม่สามารถใช้พลังของคัมภีร์หมื่นคำส สาปที่สมบูรณ์ได้เช่นกัน
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พวกเจ้าใช้คำสาปมามากพอแล้ว เช่นนั้นต่อไปก็ควรจะถึงตาข้าแล้วสินะ”
มู่เฉียนซีได้เริ่มใช้ทักษะคำสาปที่แม้แต่คนในกลุ่มของพวกเขาร่วมมือกันยังไม่สามารถใช้ได้ เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังคำสาปที่หายใจไม่ออก สีหน้าของนักเล่นคาถาอาคมก็เผยท่าทางที่ดูต ตื่นตกใจออกมา
“บัดซบเอ้ย!”
นี่คือความสามารถทั้งหมดของคัมภีร์หมื่นคำสาปอย่างนั้นหรือ? ความแข็งแกร่งนี้มันเป็นเพียงแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น พวกเขาจะต้องเอามันมาให้ได้
ตอนนี้พวกเขาไม่คิดว่ามู่เฉียนซีคือคนของเผ่าคำสาปอีกแล้ว เพราะเหตุผลที่นางสามารถใช้ทักษะคำสาปได้นั้นเป็นเพราะคัมภีร์หมื่นคำสาปนั่นเอง
คัมภีร์หมื่นคำสาปสามารถทำให้คนที่ไม่ใช่คนของเผ่าคำสาปใช้ทักษะคำสาปได้ นอกจากนี้ยังแข็งแกร่งมากเป็นพิเศษอีกด้วย
ตูมม!
มีเสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหวออกมา นักเล่นคาถาอาคมเหล่านี้สัมผัสได้ถึงวิกฤติแห่งความตายที่กำลังจะเข้ามาถึง ซึ่งมันก็ทำให้คนหายใจไม่ออกเลยทีเดียว!
“ขวาง! ขวางเอาไว้!”
“หนี รีบหนีเร็วเข้า!”
“ถอยไป!”
“นางสาวน้อยสมควรตายนี่”
นักเล่นคาถาอาคมของเผ่าคำสาปอย่างพวกเขาใช้ทักษะคำสาปลึกลับเพื่อรังแก และลอบโจมตีคนอื่นมาตลอด แต่คิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้พวกเขากลับต้องถูกนักเล่นคาถาอาคมที่แข็งแกร่งถึงขนาดไร ร้คู่ต่อสู้คนหนึ่งรังแกเอาได้
ถึงครั้งนี้จะสามารถเอาชีวิตรอดได้ แต่มันก็ได้เกือบทำให้พลังคำสาปของพวกเขาแห้งเหือดไปเลยทีเดียว และตอนนี้พวกเขาก็ควักเอาสมบัติของตนเองออกมา
สมบัติชนิดนี้ก็คือมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพที่สามารถป้องกันไม่ให้ตนเองถูกทักษะคำสาปได้ และภายใต้สถานการณ์บางอย่างจึงทำให้คนในเผ่าไม่ต่อสู้กันเอง ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่ค่อยได้ใช้ มันเท่าไรนัก
แต่ทว่าตอนนี้กลับต้องใช้ของชิ้นนี้เพื่อเผชิญหน้ากับคนนอกคนหนึ่ง
“ใช้ทักษะคำสาปไม่ได้ การใช้ทักษะคำสาปไม่สามารถจัดการนางเด็กสาวคนนี้ได้ เราต้องใช้ทักษะวิญญาณโจมตีนางโดยตรง อย่างไรเสียความสามารถของนางเด็กน้อยคนนี้ก็อ่อนแอมาก”
ถึงมู่เฉียนซีจะอ่อนแอมาก แต่พวกเขาที่ได้รับการควบคุมพลังอาณาเขตเมื่อมาถึงแดนนรกแห่งนี้ก็ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่ากันเท่าไรนักเช่นกัน
โชคดีที่ก่อนหน้านี้อู๋หยาได้มอบผู้ช่วยมาให้นางถึงหกคน มิเช่นนั้นการเผชิญหน้ากับพวกเขาคงเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก แต่อย่างน้อยตอนนี้นางก็สามารถฝืนสู้กับพวกเขาได้บ้างแล้ว