ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 252 ตามมาได้เวลาเสียจริง ๆ
“อ๊ะ! ศิษย์พี่รองช่วยข้าด้วย”
เสียงกรีดร้องของคนผู้หนึ่งดังก้องขึ้น แมงมุมตัวใหญ่สีดำปรากฏตัวอยู่ด้านหลังเขา ใยแมงมุมนั้นกำลังจะพันร่างของเขาให้ตายอย่างน่าอนาถ
ศิษย์พี่รองผู้นั้นยังเอาตัวเองไม่รอด แล้วเขาจะมีปัญญาไปช่วยผู้อื่นได้อย่างไรกัน ?
“ตามไปฆ่ามัน ตามไปฆ่ามันให้ตาย !”
หลังจากที่พวกเขาไล่ตามไป มู่เฉียนซีกับชิงอิ่งก็ได้หลบหนีไปแล้ว
บึงหมื่นพิษสมกับเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดในทางตกของเซี่ยโจว ยิ่งเข้าไปลึกมากเพียงใด พิษก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเพียงนั้น
ชิงอิ่งไม่ใช่มนุษย์ แน่นอนว่าพิษนี้ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ แต่ทว่ามู่เฉียนซี… ในเวลานี้นางแทบจะอดทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว แม้ว่านางจะเชี่ยวชาญเรื่องหยูกยา อีกทั้งพิษหลายชนิดไม่อาจทำร้ายนางได้ แต่ถึงอย่างไรร่างของนางก็คือมนุษย์ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพิษรอบด้านที่รุนแรงเช่นนี้ ย่อมเป็นเรื่องยากที่คนคนเดียวจะรับมือเอาไว้ได้ไหว
ริมฝีปากของมู่เฉียนซีเริ่มกลายเป็นสีม่วงเล็กน้อย ชิงอิ่งเห็นท่าไม่ดี ชะงักการก้าวเท้าลงพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉียน…”
มู่เฉียนซี “พวกมันคงตามมาไม่ทันแล้ว เราหาที่ปลอดภัยแก้พิษกันก่อนเถอะชิงอิ่ง”
สำหรับนาง จัดการกับพิษยังง่ายกว่าจัดการกับคนพวกนั้นมากนัก ถึงอย่างไรเสียพิษก็คือสิ่งที่นางเชี่ยวชาญมากที่สุด
“อืม” ชิงอิ่งพยักหน้าก่อนจะวางร่างของนางเอนพิงใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
มู่เฉียนซีหยิบเอาสมุนไพรวิญญาณมากมายหลายชนิดออกมาจากมิติเก็บของของนาง และหญ้าพิษที่เก็บมาจากบึงหมื่นพิษก็ถูกหยิบมาด้วย
พิษนั้นฝังอยู่ลึกและมีฤทธิ์รุนแรงมาก อีกอย่าง พิษในบึงหมื่นพิษนั้นลามไปทั่วทั้งร่างกายของนางแล้ว เวลานี้หากต้องการรอดพ้นจากอันตราย ก็ต้องใช้พิษแก้พิษ
เปลวไฟจุดฉนวนความร้อนขึ้น สมุนไพรวิญญาณและหญ้าพิษผสมปรุงเข้าด้วยกัน จากนั้นไม่นานนักนางก็ปรุงยาออกมาได้และบรรจุลงขวดแก้วใส เพียงแต่ครานี้เมื่อนางฉีดยาเข้าร่างกาย มันทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดสุดขั้วหัวใจ
ชิงอิ่งเห็นใบหน้าของนางซีดเผือด เขาจับมือนางเอาไว้ จากนั้นมือเขาก็เปล่งแสงสีเขียวประหลาดน่าพิศวงออกมา
มันเป็นพลังของยาและพลังชีวิตอันแกร่งกล้า มู่เฉียนซีพบว่าร่างของชิงอิ่งเมื่อกินเม็ดยาวิญญาณเข้าไปแล้ว นอกจากจะเพิ่มพลังให้เขา ยังสกัดแก่นยาที่ดีที่สุดออกมาได้ดีอีกด้วย
มู่เฉียนซี “ชิงอิ่ง อย่าเลย… เปลืองพลังของเจ้าเปล่า ๆ”
ชิงอิ่งจับมือมู่เฉียนซีไว้แน่นพลางกล่าว “ข้าไหว”
“โดยปกติแล้วเวลาที่ข้าปรุงยาข้าก็มักจะลองกับตัวเองเสมอ เจ็บปวดแค่นี้ข้าทนได้หน่า…”
หยดเหงื่อซึมไปทั่วทั้งหน้าผากขาว ๆ เวลานี้ยากำลังกระตุ้นอยู่ภายในร่างกายของนางอย่างรุนแรง มู่เฉียนซีกัดฟันสู้ปรุงยาขวดที่สองออกมาอีกครั้ง เป็นยาระงับอาการจุกเสียดในร่างกาย
เมื่อยาขวดที่สองถูกฉีดเข้าไปในร่างกาย พิษในร่างของนางก็ได้แปรผันอีกครั้ง ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนี้เกือบจะทำให้นางเป็นลมหมดสติไป
นางพยายามฉีดยาเข้าร่างกายตัวเองเพื่อให้มีสติอยู่ตลอดเวลา และปรุงยาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อทดลองยา
เมื่อก่อนนางเคยปรุงยา ทดลองยากับตัวเองมาก่อน และครานี้นางจะต้องผ่านมันไปให้ได้เช่นกัน
นางไม่เชื่อว่านางจะรับมือกับพิษจากบึงหมื่นพิษนี้ไว้ไม่ได้!
ชิงอิ่งดูนางพยายามลองยาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะลงมือ แต่พลังของพันธสัญญานั้นไม่อาจขัดต่อเจตจำนงของนางได้
เวลาหนึ่งวันผ่านไป การพยายามซ้ำแล้วซ้ำเล่าของนางส่งผลให้ตอนนี้สีหน้าของนางเริ่มเขียว ริมฝีปากกลายเป็นสีม่วง และในที่สุดนางก็ปรุงยาออกมาอีกชุดหนึ่ง
“สิ่งนี้ต้องป้องกันพิษจากบึงหมื่นพิษได้แน่นอน” และแล้วนางก็ฉีดยานั้นเข้าไปในร่างกายอีกครั้ง จากนั้นพิษทั้งหมดในร่างกายก็สลายไป ความเจ็บปวดนั้นก็ได้หยุดลง
สำเร็จแล้ว!
หลังจากที่ทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดนางก็ปรุงยาป้องกันพิษจากบึงหมื่นพิษออกมาได้สำเร็จ ทว่าถึงแม้นางจะทำสำเร็จก็เสียพลังไปมาก ครั้นแล้วนางก็เป็นลมหมดสติไป
“เฉียน!”
ชิงอิ่งรีบเข้าประคองร่างนางไว้ เขาเฝ้าดูความปลอดภัยรอบ ๆ ให้กับนางราวกับเป็นเทพเจ้าคอยปกป้องนางด้วยพลังอันแข็งแกร่ง จะไม่มีสิ่งใดกล้าเข้ามาทำร้ายนางเด็ดขาด
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เมื่อมู่เฉียนซีฟื้นขึ้นมา ร่างกายของนางทุกส่วนก็ได้ฟื้นตัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม ดวงตาดำสนิทคู่นั้นเปล่งแสงเย็นวาบขึ้น มันเป็นประกายที่ดูเหมือนผู้กุมชัยชนะ
‘ในเมื่อพิษในบึงหมื่นพิษนี้ไม่มีผลกับข้าอีกต่อไป… พวกเจ้าอยากจะจับตัวข้าก็มาเลย ข้าก็จะคอยดู!’
มู่เฉียนซีกล่าว “ชิงอิ่ง ไป!”
ร่างของทั้งสองกะพริบออกไปจากบึงหมื่นพิษนี้ทันที
กลุ่มคนชุดขาวเหล่านี้ยังคงพยายามดิ้นรนไล่ตามหามู่เฉียนซีอย่างต่อเนื่อง หนึ่งคนในกลุ่มนั้นกล่าวขึ้นว่า “ศิษย์พี่ ข้าว่าเรารีบออกไปจากบึงพิษนี่กันเถอะ พิษในนี้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ขืนเข้าไปลึกกว่านี้มีหวังเราได้ตายอยู่ในนั้นกันหมดแน่”
ศิษย์พี่รอง “พวกเจ้าพูดบัดซบอะไรกัน ? ม้วนไม้ไผ่นั่นเป็นเบาะแสของหม้อเทพนิรันดร์อันล้ำค่า จะยอมปล่อยไปง่าย ๆ เช่นนี้ได้อย่างไรเล่า ?”
เป็นเพราะความยั่วยวนของหม้อเทพนิรันดร์ ไม่ว่าผู้ใดก็ยอมที่จะเป็นแมงเม่าบินเข้าไปในกองไฟ พวกเขาก็เช่นกัน
“ผลหมื่นพิษ เติบโตขึ้นมาจากบึงหมื่นพิษ นึกไม่ถึงเลยว่าข้าจะได้เจอมัน” มู่เฉียนซีมองตรงไปยังผลรูปวงรีสามกลีบในที่ลุ่มตรงหน้าพลางกล่าวขึ้นอย่างช้า ๆ
ทว่านางไม่ได้พุ่งพรวดเข้าไปในทันที สมบัติพิษเช่นนี้แน่นอนว่าต้องล้อมรอบไปด้วยสัตว์วิญญาณที่คอยปกป้องอยู่
“วารีสะท้านสวรรค์!” มู่เฉียนซีรวบรวมพลังธาตุวารีลงมือโจมตีทันที
— ตูม! ตูม! ตูม! —
กระแสน้ำอันทรงพลังพุ่งไปบริเวณรอบ ๆ ผลหมื่นพิษ
“โฮกกกก!” เสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังขึ้น มีจระเข้สีดำตัวใหญ่ปรากฏตัวอยู่ใต้หนองน้ำนั่น
ดวงตาคู่นั้นโหดเหี้ยมยิ่งนัก มันจ้องมองผู้บุกรุกอย่างมู่เฉียนซี และมันก็พุ่งร่างขึ้นมาจากหนองน้ำอย่างรวดเร็ว
มู่เฉียนซีตะโกนขึ้น “อู๋ตี้เสี่ยวหง ลงมือ!”
ถึงแม้ว่าอู๋ตี๋กับเสี่ยวหงจะไม่สามารถเอาชนะสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามอย่างจระเข้สีดำตัวใหญ่นี้ได้ แต่หากพวกมันทั้งสองร่วมมือกันก็ไม่มีปัญหา
ชิงอิ่งเข้าไปช่วยสมทบจัดการกับจระเข้ดำตัวนั้น เพียงชั่วพริบตาเดียวมันก็ไม่สามารถปกป้องผลหมื่นพิษนั้นได้
— ตูม! ตูม! ตูม! —
เสียงดังกึกก้องจากหนองน้ำแห่งนี้เป็นเหตุที่ทำให้เหล่าคนชุดขาวพวกนั้นตามเป้าหมายอย่างมู่เฉียนซีเจอในที่สุด
“ตรงนั้น พวกมันอยู่ตรงนั้น!”
— พรวด! —
พวกเขารีบพรวดเข้าไปยังตำแหน่งที่ได้ยินเสียงอย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พวกเขาจะต้องจัดการกับเจ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ให้จงได้
ความสนใจทั้งหมดของจระเข้สีดำตัวนี้ไปตกอยู่ที่ร่างทั้งสามของศัตรู สำหรับมู่เฉียนซีเป็นเพียงแค่ปรมาจารย์ภูตระดับหนึ่งตัวเล็ก ๆ มันไม่ได้สนใจนางแล้ว
ร่างของนางกะพริบไปที่ผลหมื่นพิษในทันที รีบเอาถุงมืออกมาสวมไว้และเด็ดผลหมื่นพิษนั่น นางยิ้มพลางกล่าวว่า “สหาย มีเจ้าอยู่เช่นนี้ จักรพรรดิแห่งภูตเหล่านั้นก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว…”
หลังจากที่มู่เฉียนซีเด็ดผลหมื่นพิษและกลับมาได้สำเร็จ ในที่สุดจระเข้สีดำตัวนั้นก็พบความผิดปกติบางอย่าง
“โฮกกกก!”
“เจ้ามนุษย์เลวทรามต่ำช้า กล้าขโมยผลหมื่นพิษข้ารึ ?!”
มู่เฉียนซีรีบกล่าว “อู๋ตี๋ เสี่ยวหง ชิงอิ่ง หนีเร็ว!”
หลังจากที่ได้สิ่งที่ต้องการแล้ว มู่เฉียนซีก็ไม่ได้อยู่ต่อสู้กับจระเข้สีดำตัวนั้นเพราะศัตรูยังคงไล่ตามอยู่ด้านหลัง นางไม่ต้องการเพิ่มศัตรูคู่ต่อสู้อีก
มู่เฉียนซีไม่ต้องการที่จะต่อสู้กับมัน ทว่ามันก็ไม่ยอมปล่อยให้มนุษย์ที่ไร้ยางอายผู้นี้ขโมยของของมันแล้วหนีไปง่าย ๆ เช่นนี้แน่
มันไล่ตามมู่เฉียนซีอย่างสุดชีวิต
ส่วนกลุ่มคนชุดขาวเหล่านั้นก็ไล่ตามนางไปเช่นกัน พวกเขากัดฟันแน่นพลางตะโกนว่า “ตามมันไป มันไปทางนั้น อย่าให้มันหนีไปได้อีกเด็ดขาด”
— ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ! —
พวกเขาไล่ตามนางไปติด ๆ เมื่อมู่เฉียนซีรู้สึกว่าพวกเขาเข้ามาใกล้ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากนางทันที
ตามมาได้เวลาเสียจริง ๆ