ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2530 ใครกำลังเฝ้าดู
มู่เฉียนซีกล่าวกับพวกเขาว่า “ปีศาจเหวนรกที่เหลือของชั้นที่สามที่ยังไม่ได้จัดการได้มารวมกันอยู่ที่นี่ทั้งหมดแล้ว ไม่ให้พวกเรามาที่นี่แล้วจะให้พวกเราไปที่ไหน?”
“นอกจากนี้หากพวกท่านถูกปีศาจเหวนรกเหล่านี้ทำให้บาดเจ็บปางตาย ข้าจะไปหาคนนำทางพาข้าไปถึงชั้นที่สี่ได้จากที่ไหนกันล่ะ!”
“อะไรนะ? ที่เหลืออยู่ที่นี่ทั้งหมดแล้วอย่างนั้นหรือ แต่ปีศาจเหวนรกที่อยู่ที่นี่ส่วนใหญ่มีความเป็นไปได้มากว่าน่าจะหนีลงมาจากชั้นที่สี่ และปีศาจเหวนรกที่ข้าเก็บกวาดไปก่อนหน้า านี้ก็มีไม่มากด้วย ฉะนั้นชั้นที่สามของข้าจะมีปีศาจเหวนรกเพียงน้อยนิดแค่นั้นได้อย่างไรกัน?” ผู้พิทักษ์ชั้นที่สามกล่าวอย่างเหลือเชื่อ
มู่เฉียนซีกล่าวตอบว่า “เพราะว่าพวกเราทำลายไปแล้วน่ะสิ และมันก็มีจำนวนเยอะกว่าที่ท่านเก็บไปมากอีกด้วย”
“พวกเจ้าเอาพวกมันไปซ่อนไว้ที่ไหนอย่างนั้นหรือ?” พวกเขากล่าวถาม
“ซ่อนหรือ ไม่มีนะ!”
“เช่นนั้น…”
พวกเขาอยากที่จะถามต่ออีก ทว่าสุดท้ายแล้วก็หยุดเสียก่อน
ใช่แล้ว เพราะพวกเขารู้คำตอบแล้วอย่างไรล่ะ
เพราะมีพลังแห่งความมืดที่น่าสะพรึงกลัวและลึกลับมากพลังหนึ่ง ได้กลืนกินปีศาจเหวนรกเหล่านั้น หลังจากนั้นพวกมันก็ถูกทำลายลัาง ไปจนไม่เหลือแม้แต่ซากเลยด้วยซ้ำ
พวกเขาแต่ละคนต่างจ้องมองฉากอันน่ามหัศจรรย์นี้ด้วยความตกตะลึง และกล่าวด้วยเสียงอันสั่นเครือว่า “ขะ…เขาสามารถทำให้ปีศาจเหวนรกหายไปได้อย่างสมบูรณ์”
ฉึก ฉึก ฉึก!
และในเวลานี้มู่เฉียนซีก็หาโอกาสเข้าไปใกล้พวกเขาได้แล้ว
อาการบาดเจ็บของพวกเขาสาหัสมาก มู่เฉียนซีจึงฉีดยาที่ออกฤทธิ์รักษาได้อย่างรวดเร็วให้พวกเขาอีกสองสามเข็ม
“หรือพวกท่านไม่สามารถทำให้ปีศาจเหวนรกเหล่านี้หายไปได้อย่างนั้นหรือ?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ทำไม่ได้ แน่นอนว่าทำไม่ได้อยู่แล้ว! หากสามารถทำให้พวกมันหายไปได้อย่างสมบูรณ์ พวกเราจะมาทนลำบากจับพวกมันมาขังไว้ในกรงทีละตัวทำไม หลังจากนั้นยังต้องพามันไปยังสถานที่ปิ ดผนึกพร้อมกันและต้องผนึกมันเอาไว้ด้วย! ยุ่งยากจะตายไป!”
“ยุ่งวุ่นวายยังไม่เท่าไร นอกจากนี้ยังมีบางสถานการณ์ที่พวกมันสามารถหนีออกมาได้ด้วย แม้ว่าสถานการณ์เช่นนี้อาจจะเกิดขึ้นได้สักครั้งในรอบพันปีก็ตาม แต่มันก็ยังเป็นปัญหามากอย ยู่ดี”
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากกำจัดปัญหาบ้า ๆ อย่างปีศาจเหวนรกให้ได้อย่างสมบูรณ์ แต่เป็นเพราะว่าพวกเขาไม่สามารถทำได้ต่างหาก!
“เขาจะเก่งกาจมากเกินไปแล้ว ทั่วทั้งเหวนรกแห่งนี้มีเพียงสองคนเท่านั้นที่มีวิธีทำลายปีศาจเหวนรกให้หายไปอย่างสมบูรณ์ได้ คนหนึ่งก็คือท่านผู้นั้น ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือท่าน กิเลนแห่งนรก แต่ว่าทั้งสองท่านไม่มีทางลงมืออย่างแน่นอน ดังนั้นข้าจึงได้แต่ไล่จับมันเท่านั้น…” และพวกเขายังรู้สึกด้วยว่าเพลิงศักดิ์สิทธิ์ของตนเองยากที่จะบังคับได้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หากว่าสามารถฆ่าทิ้งได้โดยไม่มีปัญหา เช่นนั้นก็ไม่ต้องไว้ชีวิตพวกมันแล้ว”
“ใช่แล้ว! หากไม่เหลือรอดเลยสักตัวจะดีกว่า พวกเราเห็นด้วยอย่างยิ่งเลย” พวกเขากล่าว
ตูมมม โครมมมม!
จิ่วเยี่ยต่อสู้กับปีศาจเหวนรกส่วนใหญ่ ส่วนมู่เฉียนซีกับผู้พิทักษ์ทั้งสามคนก็ร่วมมือกันต่อสู้กับปีศาจเหวนรกที่เหลือกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง
ตูมมม โครมมม!
พวกเขายังไม่ทันจัดการไปได้ถึงครึ่งหนึ่งเลยด้วยซ้ำ แต่ปีศาจเหวนรกที่อยู่ทางจิ่วเยี่ยทั้งหมดกลับถูกจัดการจนไม่เหลือซากแล้ว
มุมปากของผู้พิทักษ์ทั้งสามกระตุกขึ้นอย่างรุนแรง “นะ…นี่มันจะวิปลาสเกินไปแล้ว!”
จิ่วเยี่ยมองไปทางมู่เฉียนซีพลางกล่าวถามว่า “ซี ต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่?”
ผู้พิทักษ์ทั้งสามอยากจะพยักหน้าเป็นอย่างมาก แต่มู่เฉียนซีกลับบอกว่า “ทางนี้แค่พวกเราก็พอแล้วล่ะ”
“เพลิงนภาพิฆาต!” เปลวเพลิงอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมา จากนั้นก็มีหลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาบนร่างของปีศาจเหวนรกที่อยู่ตรงหน้า
“โฮกกก!” ซึ่งมันก็ได้ทำให้ปีศาจเหวนรกเหล่านี้โกรธมากขึ้นไปอีก และผลสุดท้ายเข็มยาจำนวนนับไม่ถ้วนก็โจมตีเข้าใส่พวกมัน
พรวด พรวด พรวด!
พิษร้ายได้หยั่งรากลึกเข้าไปในร่างกายของมัน สุดท้ายปีศาจเหวนรกตัวนั้นก็ล้มลง และตายไปในที่สุด
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พวกท่านควรบอกแต่แรกว่าไม่ต้องไว้ชีวิตพวกมัน ข้าจะได้ไม่ต้องควบคุมพิษให้อยู่ในขอบเขตที่ไม่ทำให้ถึงตาย เช่นนั้นคงจัดการพวกมันได้สะดวกขึ้นมาก”
แค่หวงจิ่วเยี่ยวิปลาสคนเดียวยังไม่เท่าไร ตอนนี้ผู้พิทักษ์ทั้งสามได้ค้นพบว่าแม่สาวน้อยที่ดูเหมือนว่าจะมีความสามารถไม่สูงเท่าไรนักอย่างมู่เฉียนซีผู้นี้ ก็เป็นคนที่วิปลาสด้วยเช ช่นกัน!
แนวคิดเรื่องการกลั่นยาพิษที่สามารถฆ่าปีศาจเหวนรกได้นั้นคืออะไรกัน พิษนี้มันแข็งแกร่งเพียงใดกัน! น่ากลัว…
ปัง ปัง ปัง!
หลังจากที่ต่อสู้กับปีศาจเหวนรกเหล่านี้มานับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดก็สามารถกำจัดพวกมันได้แล้ว ผู้พิทักษ์ทั้งสามต่างก็เหน็ดเหนื่อยจนล้มลง ส่วนมู่เฉียนซีก็เหนื่อยมากเช่นกัน แต่ เนื่องจากมีจิ่วเยี่ยเฝ้าอยู่ มู่เฉียนซีจึงพักผ่อนอยู่ในอ้อมกอดของเขา และเข้าสู่ห้วงนิทราไปทันที
หลังจากที่พักผ่อนเพียงพอแล้ว มู่เฉียนซีก็ตื่นขึ้นมา และทันที่ที่นางตื่นขึ้นมาก็ตระหนักได้ว่ามีใครบางคนกำลังเฝ้าดูพวกเขาอยู่
พลังจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งปะทุออกมาอย่างเต็มกำลัง แต่นางก็ยังคงไม่สามารถหาได้ว่าคนที่กำลังเฝ้าดูพวกเขาอยู่นั้นอยู่ที่ใดกันแน่?
เนื่องจากพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งได้ทำให้คนที่กำลังหลับอยู่ทั้งสามคนต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที “มีศัตรูที่แข็งแกร่ง มีศัตรูที่แข็งแกร่ง!”
“เป็นพลังจิตวิญญาณที่น่ากลัวจริง ๆ ข้าเองก็เคยสัมผัสจากท่านผู้ยิ่งใหญ่ท่านนั้นเพียงเท่านั้น!”
“……”
พวกเขาลืมตาทั้งสองข้างขึ้น และคนพบว่าบริเวณโดยรอบไม่มีคนอื่นอยู่เลย
มู่เฉียนซีเอ่ยปากว่า “ในเมื่อพวกท่านตื่นขึ้นมาแล้ว ข้าก็มีเรื่องที่อยากจะถามพวกท่านเรื่องหนึ่งพอดี”
“มีเรื่องอะไรอย่างนั้น เจ้าพูดมาเถอะ!” พวกเขากล่าว
“ที่เหวนรกนี้ของพวกท่าน มีคนที่รับผิดเรื่องเฝ้าดูความเคลื่อนไหวโดยเฉพาะใช่หรือไม่?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ไม่มีนะ! แต่ละชั้นมีเพียงผู้พิทักษ์เท่านั้นแหละ ไม่มีผู้สังเกตการณ์หรอก” พวกเขาทั้งสามคนให้คำตอบเดียวกัน
“แค่ว่าข้าสัมผัสได้ หากไม่ใช่ผู้มีอำนาจที่แข็งแกร่งของเหวนรกของพวกท่าน เหตุใดต้องคอยเฝ้าดูพวกเราอยู่ตลอด และไม่ถูกพวกข้าค้นพบอีกด้วย” สีหน้าของมู่เฉียนซีแสดงท่าทางที่จริ งจังออกมา
ศัตรูซ่อนอยู่ในที่ลับ พวกเขาอยู่ในที่แจ้ง แม้ว่าคนผู้นั้นจะไม่แสดงเจตนาร้ายออกมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นมิตรต่อกัน
“มีคนกำลังเฝ้าดูพวกเราอยู่อย่างนั้นหรือ? เหตุใดพวกเราถึงไม่สังเกตเห็นเลยล่ะ?” และถึงพวกเขาจะพยายามสัมผัสมัน แต่ก็ไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย
“หรือเป็นเพราะว่าช่วงนี้เจ้าจะไล่ล่าปีศาจเหวนรกจนเหนื่อยล้าเกินไป มันจึงปรากฏเป็นภาพลวงตาหรือไม่?” พวกเขากล่าวถาม
“ข้าเองก็สัมผัสได้เช่นกัน ไม่ใช่ภาพลวงตาหรอก มีคนคอยเฝ้าดูข้ามาตลอดแต่ข้ากลับหาไม่เจอ อีกฝ่ายไม่ธรรมดาเลยล่ะ เขาใช้ประโยชน์จากความพิเศษของเหวนรกแห่งนี้ทำให้ข้าไม่สามาร รถหาเขาเจอได้ แสดงว่าต้องมีความคุ้นเคยต่อเหวนรกเป็นอย่างมากแน่” จิ่วเยี่ยกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ
แม้แต่คนแข็งแกร่งอย่างจิ่วเยี่ยยังพูดเช่นนี้ ดูเหมือนว่าจะมีคนแบบนั้นอยู่จริง ๆ แต่มันจะเป็นใครกันล่ะ…
ทันใดนั้นดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างขึ้น และนึกถึงคนคนหนึ่ง พวกเขากล่าวว่า “เป็นไปไม่ได้ จะต้องไม่ใช่ท่านผู้นั้นอย่างแน่นอน”
“ท่านผู้นั้นเองก็ไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้อยู่แล้วมิใช่หรือ?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ท่านผู้นั้นคือใครกัน? สถานการณ์เช่นนี้เพิ่งมีตอนมาถึงชั้นที่สาม ไม่สิ น่าจะเกิดขึ้นตอนที่จิ่วเยี่ยเริ่มเคลื่อนไหว”
“พวกเราเองก็ไม่รู้ว่าท่านผู้นั้นคือใครกันแน่? เพียงแต่ความสามารถของเขาแข็งแกร่งมาก เขามักจะขังตนเองไว้ในเหวนรกแห่งนี้ แต่พวกเราก็รู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นเขาไปได้ เพราะเ เขาไม่เคยมีความสนใจต่อสิ่งใดในโลกนี้เลย อีกอย่าง เขาเฝ้าดูคนอื่นไปทำไมกันล่ะ?” ผู้พิทักษ์ชั้นที่สามกล่าว
มู่เฉียนซีและจิ่วเยี่ยลองดูอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถหาได้ว่าคนผู้นั้นซ่อนตัวอยู่ที่ใด? ทว่าความรู้สึกที่ถูกเฝ้ามองเช่นนี้ มันไม่เคยหายไป ซึ่งนี่ก็เป็นความรู้สึกที่แย่เอ อามาก ๆ อีกฝ่ายมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?