ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2542 เจอจิ่วเยี่ย
ผู้พิทักษ์ชั้นที่หกค้นพบว่ายาของมู่เฉียนซีให้ผลในการรักษาที่น่าอัศจรรย์มาก และเขาก็สามารถฟื้นฟูได้รวดเร็วกว่าที่คาดเอาไว้มากเลยทีเดียว
หลังจากที่ฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแล้ว เขาก็ควบคุมผึ้งพิษเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ด้านนอก และค้นพบว่าทั่วทั้งเหวนรกชั้นที่หกในเวลานี้ได้เต็มไปด้วยปีศาจเหวนรกแล้ว
เขากล่าวว่า “เจ้าปีศาจเหวนรกเหล่านั้น กำลังหาท่านไปทั่วทุกที่เลย”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ใช่แล้ว! ราชาปีศาจของพวกมันต้องการที่จะจับข้า และต้องการเอาข้าไปข่มขู่เพื่อให้จิ่วเยี่ยช่วยทำงานให้มัน”
“ข้าไม่มีทางปล่อยให้ท่านตกอยู่ในมือของปีศาจเหวนรกเหล่านั้นแน่นอน เพราะท่านคือคนที่ช่วยชีวิตข้าเอาไว้” เขากล่าวพลางกำหมัดแน่น
“อย่างไรเสียผู้พิทักษ์อย่างพวกท่านก็เป็นอมตะ จะมาพูดว่าข้าเป็นคนช่วยชีวิตได้อย่างไร”
“นั่นก็จริง! แต่ข้าก็จะช่วยท่านอยู่ดี”
แม้ราชาปีศาจเหวนรกจะสามารถใช้เนตรราชาปีศาจคอยจับตาดูพวกเขาได้ แต่ผู้พิทักษ์ชั้นที่หกก็สามารถใช้ผึ้งพิษในการจับตามองการเคลื่อนไหวของปีศาจเหวนรกเหล่านั้นได้เช่นกัน
และพวกเขาก็ค้นพบสถานที่ที่มีปีศาจเหวนรกน้อยกว่าที่อื่น ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงได้มุ่งหน้าไปที่นั่น
ผู้พิทักษ์ชั้นที่หกมีความคุ้นเคยต่อสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างมาก แม้ว่ามันจะเป็นถึงเส้นทางวงกตที่ซับซ้อน แต่สำหรับเขาแล้วสถานที่แห่งนี้ก็เปรีบเสมือนสวนหลังบ้านของตนเองก็มิปาน น
“ทันทีที่ออกไป ข้าก็จะตกอยู่ภายใต้การเฝ้ามองของเนตรราชาปีศาจอีกครั้ง ฉะนั้นท่านสามารถหาทางเข้าไปยังชั้นที่เจ็ดได้เร็วมากแค่ไหน?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ใช้เวลาไม่นานนัก เพราะตำแหน่งของทางเข้าอยู่ใกล้ที่นี่มาก!”
มู่เฉียนซีพยักหน้ากล่าวว่า “ดี! เช่นนั้นพวกเราต้องรีบแล้ว!”
เมื่อทางออกแห่งหนึ่งถูกเปิดออก คนแรกที่ขึ้นไปก็คือผู้พิทักษ์ชั้นที่หก และด้านบนนั้นไม่มีปีศาจเหวนรกอยู่เลย ฉะนั้นมู่เฉียนซีจึงพุ่งออกไปเช่นกัน
ผู้พิทักษ์ชั้นที่หกกล่าวว่า “ไปกันเถอะ!”
เฟี้ยว เฟี้ยว เฟี้ยว!
พวกเขาพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วที่รวดเร็วที่สุด
ส่วนการตอบสนองของราชาปีศาจเหวนรกเองก็รวดเร็วมากเช่นกัน ทันทีที่เขาค้นพบร่างของมู่เฉียนซี เขาก็ได้ระดมเหล่าเด็ก ๆ ของเขาให้มุ่งหน้าไปปิดล้อมมู่เฉียนซีเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว ว
พวกนางฝ่าวงล้อมที่แน่นหนานั้นออกไป และสามารถไปถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังชั้นที่เจ็ดถูกเปิดออก ผู้พิทักษ์ชั้นที่หกก็รีบผลักมู่เฉียนซีเข้าไป ส่วนตัวเขาก็อยู่เพื่อขัดขวางปีศาจเหวนรกเหล่านี้เพียงลำพัง
“ท่านซี ข้ามาส่งได้ท่านได้เพียงเท่านี้ หลังจากนี้ท่านจะต้องระวังตัวให้มาก ส่วนข้าจะคอยอยู่ที่นี่เพื่อพิทักษ์ชั้นที่หกเอาไว้” เขากล่าวกับมู่เฉียนซี
“ตกลง!”
หลังจากที่มู่เฉียนซีเดินออกมาจากเส้นทางนั้น ไม่นานนักนางก็ได้มาถึงเหวนรกชั้นที่เจ็ดแล้ว
ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็สัมผัสได้ถึงการถูกจับตามองอีกครั้ง ราชาปีศาจเหวนรกกำลังจับจ้องนางอีกแล้ว
ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกใจเลยที่หลังจากนี้มู่เฉียนซีจะต้องเผชิญหน้ากับการไล่ล่าของปีศาจเหวนรกกลุ่มหนึ่ง และปีศาจเหวนรกกลุ่มนี้ยังมีระดับที่สูงยิ่งขึ้น เก่งยิ่งขึ้น อีกทั้งยังจ จัดการได้ยากยิ่งขึ้นด้วย
“เสี่ยวเฉี่ย เปิดทาง!”
แม้ว่าจำนวนของพวกมันจะเยอะหรือเก่งกาจมากเพียงใด แต่มู่เฉียนซีก็ไม่มีทางปล่อยให้พวกมันจับนางไปได้ง่าย ๆ แน่ ฉะนั้นนางจึงพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วที่รวดเร็วที่สุด และแน่ นอนว่านางจะต้องไปตามหาจิ่วเยี่ยอยู่แล้ว
ตูมมม โครมมม!
มีเสียงระเบิดดังกึกก้องออกมา และนางก็เห็นว่าข้างหน้านั้นมีศัตรูเข้ามาปิดล้อมมากขึ้นเรื่อย ๆ มันช่างน่ารำคาญเสียจริง!
ในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังถูกล้อมด้วยปีศาจเหวนรกจนไม่สามารถหลบหนีได้ ทันใดนั้นปีศาจเหวนรกเหล่านั้นก็รีบพุ่งตรงไปยังทิศทางอื่นอย่างกะทันหัน คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะยอมแพ้เรื่องไล่ ล่านางแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน ความรู้สึกที่ว่ากำลังถูกจับตามองนั้นก็ได้หายไป
มู่เฉียนซีตะลึงงันไปครู่หนึ่ง “สิ่งที่สามารถทำให้ปีศาจเหวนรกเหล่านี้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของราชาปีศาจเหวนรกได้นั้น ก็มีความเป็นไปได้อยู่เพียงอย่างเดียว นั่นก็คือราชาปีศาจของพวก กมันได้รับบาดเจ็บ และเป็นเพราะว่าได้รับบาดเจ็บ เขาถึงไม่สามารถใช้เนตรราชาปีศาจในการเฝ้ามองนางได้”
คนที่สามารถทำให้ราชาปีศาจเหวนรกได้รับบาดเจ็บได้ ย่อมต้องเป็นจิ่วเยี่ยแน่นอนอยู่แล้ว หากตามเจ้าพวกปีศาจเหล่านี้ไป นางจะต้องหาจิ่วเยี่ยเจออย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีติดตามกองกำลังปีศาจเหวนรกขนาดใหญ่เหล่านี้ไปอย่างเงียบ ๆ ซึ่งในขณะนี้พวกมันกำลังรีบมุ่งหน้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง
ในเวลานี้มู่เฉียนซีค้นพบว่าสถานที่ที่ตนเองยืนอยู่นั้นไม่ใช่เหวนรกที่มืดมนอีกต่อไป แต่มันคือสถานที่ที่นางคุ้นเคย หรือก็คือตระกูลมู่ที่อยู่ในดินแดนทั้งสี่ทิศนั่นเอง
“ท่านผู้นำตระกูล...ท่านผู้นำตระกูล...” ทันใดนั้นที่ข้างหูของนางก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “มีเรื่องอะไร?”
“ท่านอดีตผู้นำตระกูลและฮูหยินให้มาเชิญท่านไปพบขอรับ”
อดีตผู้นำตระกูลกับฮูหยินอย่างนั้นหรือ?
อย่างที่รู้กันว่าในตอนที่นางกลับมา ตระกูลมู่ก็เหลือเพียงแค่นางกับท่านอารองเท่านั้น!
มู่เฉียนซีเดินเข้าไป ตระกูลมู่ที่คุ้นเคย ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุ้นเคย
ทันใดนั้นนางก็มองเห็นชายที่รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา อย่างหาที่เปรียบมิได้คนหนึ่ง
ส่วนหญิงที่อยู่ข้างกายของเขาผู้นั้น นับได้ว่าเป็นมนุษย์ที่งดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์ก็มิปาน พวกเขาหันมามองมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “ซีเอ๋อร์!”
“ซีเอ๋อร์ พวกเรากลับมาแล้ว”
หลังจากนั้นชายหนุ่มที่ดูสูงศักดิ์คนหนึ่ง ชายหนุ่มที่งดงามอย่างหาที่เปรียบมิได้อีกคนหนึ่ง และอารองก็ปรากฏตัวขึ้น
นี่คือตระกูลมู่ เป็นตระกูลมู่ที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยในเวลาเดียวกัน
ครั้นถึงยามรับประทานอาหาร ทุกคนในครอบครัวล้วนมารวมตัวกัน อารองก็ไม่ได้รังเกียจท่านปู่ถึงขนาดนั้นแล้ว และท่านย่าก็ยังสบายดีอีกด้วย
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงตระกูลมู่ในดินแดนทั้งสี่ทิศ และไม่ได้สูงเกินเอื้อมอย่างตระกูลมู่ในราชวงศ์ตงหวง แต่ทั้งหมดนี้ก็ทำให้นางรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนในครอบครัวล้ว วนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ทุกคนล้วนอยู่ด้วยกัน!
“ในเมื่อซีเอ๋อร์หมั้นหมายกับองค์ชายเก้าแล้ว พวกเราก็ต้องหาฤกษ์แต่งองค์ชายเก้าเข้าตระกูลใช่หรือไม่” อดีตผู้นำตระกูลกล่าว
“ซีเอ๋อร์เลือกเป็นตอนไหนก็เอาเป็นตอนนั้น” นายหญิงกล่าว
อารองมู่จึงกล่าวว่า “หากซีเอ๋อร์ต้องการ อารองจะรีบไปพาตัวเขามาเดี๋ยวนี้ ได้ยินมาว่าองค์ชายเก้าหวงจิ่วเยี่ยรูปร่างหน้าตางดงามเป็นอย่างมาก!”
วันจัดงานแต่งงานได้มาถึงในชั่วพริบตา และมู่เฉียนซีก็ได้เจอกับจิ่วเยี่ย
เขายังคงงดงามเหมือนเช่นเคย แต่ทว่าเขาไม่มีคำสาปที่น่าสะพรึงกลัวอีกต่อไป และเขาก็ไม่ต้องถูกพลังคำสาปทำให้ทุกข์ทรมานอีกแล้ว
ในตอนที่เขาประทับจุมพิตลงมา มู่เฉียนซีกลับหลบเลี่ยงทันที “เจ้าไม่ใช่เขา ท่านพ่อก็ไม่ใช่ท่านพ่อตัวจริง อารองก็ไม่ใช่…”
“นี่คือภาพลวงตา และมันควรจะสิ้นสุดลงได้แล้ว” เปลวเพลิงอันน่าสะพรึงกลัวไหลทะลักออกมา และภาพลวงตานั้นก็แตกสลายไป
แม้ว่านั่นจะเป็นตระกูลมู่ที่นางต้องการ และคำสาปของจิ่วเยี่ยที่นางหวังให้มันไม่มีมาตั้งแต่แรก แต่อย่างไรเสียภาพลวงตาก็คือภาพลวงตา นางไม่สามารถจมดิ่งลงไปกับมันได้ เพราะของป ปลอมก็คือของปลอมอยู่วันยังค่ำ
ความสุขที่นางต้องการ ตนเองก็ต้องพยายามทำให้สำเร็จเอง
เมื่อผ่านด่านนี้ไปแล้ว มู่เฉียนซีก็สามารถเข้าไปในสถานที่ที่ผนึกราชาปีศาจเหวนรกไว้ได้อย่างราบรื่น และพระราชวังของราชาปีศาจเหวนรกก็อยู่ด้านหน้าของนางนี่เอง
ตูมมม โครมมม!
มีเสียงระเบิดดังกึกก้องออกมา ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็สัมผัสได้ถึงพลังที่แสนคุ้นเคย
“อ๊ากกกก! จะทุบจะตีก็อย่าตีที่หน้าได้หรือไม่! เลิกตีได้แล้ว!” มีเสียงร้องคร่ำครวญดังออกมา
“คำขอของข้ามันเกินไปหรือ! ขอเพียงแค่ท่านลงมือช่วยข้าคลายผนึก ข้าจะบอกท่านว่าหญิงสาวผู้นั้นอยู่ที่ไหน?”
ปังง!
ร่างของราชาปีศาจเหวนรกลอยกระเด็นออกไป
จิ่วเยี่ยเหลือบมองไปทางราชาปีศาจเหวนรกอย่างเย็นชาพลางกล่าวว่า “พูดมาเดี๋ยวนี้!”
พลังของหวงจิ่วเยี่ยนั้นน่ากลัวเเป็นอย่างมาก ราชาปีศาจเหวนรกกุมใบหน้าของตนเองเอาไว้พลางกล่าวว่า “สมกับที่สามารถเผชิญหน้ากับกิเลนแห่งนรกได้ ช่างเป็นพลังที่วิปลาสจริง ๆ! ข้ าจะบอกเจ้าให้ นี่เป็นเพราะผนึกของข้ายังไม่คลายออกอย่างสมบูรณ์หรอกนะ หากผนึกของข้าคลายออกแล้วละก็ เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าอย่างแน่นอน! ฉะนั้นเจ้าอย่าได้หยิ่งผยองเกินไป นักเลย”
“ซีอยู่ที่ไหน?” จิ่วเยี่ยกล่าวถามอย่างเย็นชา
“ข้ามีเนตรราชาปีศาจ ขอเพียงเจ้าไม่ลงมือกับข้า และตอบรับคำขอของข้า ข้าก็จะดูให้ว่านางอยู่ที่ไหน? มิเช่นนั้นเจ้าก็ไปค่อย ๆ หาเอาเถอะ!” ราชาปีศาจเหวนรกกล่าวกับจิ่วเยี่ย
ตอบรับคำขอของเขาอย่างนั้นหรือ? ถึงเขาจะไม่อยากถูกคนอื่นควบคุม แต่เขาก็อยากตามหาซีมากกว่า!
และในเวลานั้นเอง มู่เฉียนซีก็กล่าวขึ้นมาว่า “จิ่วเยี่ย ข้าอยู่นี่แล้ว!”