ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 255 การทดสอบอันโหดหิน
มู่เฉียนซีเหลือบมองไปยังสวนสมุนไพรขนาดใหญ่ สมุนไพรมีพิษหลากชนิดบนโลกนี้อยู่ในสวนแห่งนั้น หากจะบอกว่าไม่ตื่นเต้นก็คงเป็นการโกหกกันอย่างแน่นอน
ทว่าสถานที่แห่งนี้แปลกประหลาดยิ่งนัก แล้วผู้เฒ่าผู้นี้ก็คงไม่ใช่คนดีอะไร นางรีบไปจากที่นี่คงจะดีกว่า
ผู้เฒ่าประหลาดกล่าวขึ้น “แม่สาวน้อย ขอเพียงแค่เจ้าผ่านการทดสอบที่สองนี้ สวนสมุนไพรใหญ่นี่ก็จะเป็นของเจ้าทั้งหมด”
ดวงตามู่เฉียนซีส่องประกายความต้องการออกมา หากสวนสมุนไพรใหญ่นี้ได้กลายเป็นของนาง ถึงตอนนั้นก็สามารถทำยาพิษออกมาเพื่อที่จะได้เอาไประเบิดใส่พวกคนชุดขาวกลุ่มนั้นให้ตายตกไป!
หัวใจของมู่เฉียนซีที่ถูกล่อลวงโดยผู้เฒ่าประหลาดนั้นเต้นแรง
เพราะถ้าหากออกไปตอนนี้ก็ต้องไปเจอการไล่ล่าจากพวกคนกลุ่มนั้น นั่นก็เป็นการเสี่ยงชีวิตอย่างมากอีกเช่นกัน แต่หากนางผ่านด่านทดสอบแล้ว นางก็จะมีทางจัดการกับกลุ่มคนชุดขาวน่ารำคาญนั้นได้
มู่เฉียนซีกล่าวถามขึ้น “ท่านผู่เฒ่า ที่ท่านบอกว่าการทดสอบด่านที่สองนั้น มันคืออะไรรึ ?”
“สาวน้อย ข้าจะบอกสูตรยาให้แก่เจ้าสูตรหนึ่ง แต่แน่นอนว่าสูตรยานั้นยังไม่สมบูรณ์ครบถ้วน หลังจากที่เจ้าฟังจบ เจ้าจะต้องไปเก็บสมุนไพรจากในสวนแล้วปรุงมันออกมาให้ถูกต้อง แต่ทว่าเวลาทั้งหมดในการหลอมปรุงมันขึ้นมาจะต้องไม่เกินหนึ่งชั่วยาม”
“หากว่าเจ้าทำไม่สำเร็จหรือว่าใช้เวลาเกิน สิ่งมีพิษในถ้ำหมื่นพิษนี้จะกัดกินเจ้าจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก”
มู่เฉียนซีกล่าวเสียงทุ้มต่ำ “อืม ข้ายอมรับการทดสอบด่านที่สอง ท่านจงอย่าได้กล่าววาจามากความอีกเลย รีบบอกสูตรยาแรกมาเถอะ”
“ได้!”
“หญ้าหมื่นหยิน ผลสังหารวิญญาณ…”
เมื่อผู้เฒ่าประหลาดกล่าวชื่อยาชนิดสุดท้ายจบ ร่างของมู่เฉียนซีนั้นมุ่งตรงไปที่สวนสมุนไพรอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าแลบ
ความเร็วของนางนั้นจัดได้ว่าเร็วมาก นางสามารถหาสิ่งที่นางต้องการในสวนสมุนไพรแสนรกแห่งนี้ได้
ชิงอิ่งนั้นได้ติดตามนางเหมือนเงาตามตัว แต่ว่าเขาไม่รู้จักสมุนไพรชนิดใดเลยสักชนิดเดียว ทำได้เพียงแค่ตามมาเป็นเพื่อนและมองดูนางเก็บสมุนไพรอย่างบ้าคลั่ง แต่กลับช่วยอะไรไม่ได้
ทว่าถึงนางจะว่องไวปานใด สวนสมุนไพรแห่งนี้ก็มีขนาดใหญ่มาก จึงทำให้นางนั้นได้ใช้เวลาไปแล้วถึงครึ่งหนึ่งของที่กำหนดไว้เพื่อเก็บรวบรวมตัวยาสมุนไพร เมื่อเก็บครบ มู่เฉียนซีก็นำหม้อเทพปาฮวางชิงมู่ออกมาและเริ่มปรุงยาอย่างรวดเร็ว
เวลาที่เหลืออยู่อีกครึ่งชั่วยามใกล้หมดลง เม็ดยาพิษนั้นก็กำลังจะถูกหลอมปรุงออกมาเป็นรูปร่างแล้ว กลิ่นหอมของเม็ดยาพิษนั้นทำให้สมุนไพรพิษต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณโดยรอบที่แห่งนั้นได้เปลี่ยนเป็นเหี่ยวเฉาลงไป แสดงให้เห็นได้ถึงพิษร้ายของยานี้
เวลาครึ่งชั่วยามผ่านไปแล้ว มู่เฉียนซีได้หยิบเอาเม็ดยาพิษออกมา นางกล่าวขึ้น “ข้าทำสำเร็จแล้ว”
“แม่สาวน้อย เจ้าอย่าได้ดีใจเร็วไปนัก ครั้งนี้เจ้าเพียงแค่ใช้สมุนไพรพิษจากเพียงรอบนอกของสวนมาหลอมยาพิษเพียงระดับธรรมดาออกมาเท่านั้น หนทางที่เจ้าต้องเดินต่อไปยังมีอีกมากนัก แต่ทว่าสมุนไพรชั้นนอกสุดของสวนนั้น เจ้าสามารถเอามันไปได้แล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าว “ในเมื่อท่านกล่าวเช่นนี้ คำไหนต้องเป็นคำนั้น”
“แน่นอน!”
จากนั้นมู่เฉียนซีจึงได้นำรางวัลที่ได้รับมาย้ายเข้าไปไว้บนเกาะสองเกาะที่ยังไม่ได้ถูกปลูกสมุนไพรจนแน่น ในศาลานิรันดร์บนมิติแห่งทะเลสาบภูตวารีที่อาถิงได้เปิดขึ้นมาให้นางเมื่อก่อนหน้านี้
แต่นางคิดว่า เมื่ออาถิงตื่นขึ้นมาแล้วเห็นทะเลสาบภูตวารีเต็มไปด้วยสมุนไพรพิษที่นางปลูกไว้ คงจะต้องโกรธอย่างมากเป็นแน่
สมุนไพรที่อยู่รอบนอกของสวนมุนไพรใหญ่นั้นได้ถูกมู่เฉียนซีเก็บเอาไปแล้ว มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นว่า “ท่านผู้เฒ่า บอกข้อทดสอบต่อไปมาเถอะ”
ด้วยรางวัลที่มากมายยั่วเย้ายวนความต้องการ และการตั้งข้อทดสอบที่มีความท้าทายนั้น ได้ปลุกความตื่นตัวของนักสู้ในตัวนางขึ้นมา
ผู้เฒ่าผู้นั้นยิ้มออกมา “แม่สาวน้อย จงเตรียมตัวไว้ ต่อจากนี้ไปเจ้าต้องมีความว่องไวเพียงพอ…”
หลังจากที่ผู้เฒ่าบอกข้อทดสอบเสร็จเรียบร้อย มู่เฉียนซีใช้ความรวดเร็วขั้นสูงสุดไปรวบรวมสมุนไพรและปรุงยาออกมา การเคลื่อนไหวทั้งหมดของนางนั้นรวดเร็วถึงขีดสุดเหมือนกันทุกขั้นตอน
ท้ายที่สุดนางก็ผ่านไปได้อีกด่าน เมื่อผ่านด่านแล้วผู้เฒ่าประหลาดนั้นก็ไม่ได้ตระหนี่แต่อย่างใด เขามอบของรางวัลให้แก่นาง ในมิติของมู่เฉียนซีเวลานี้นั้น มีสมุนไพรเพิ่มขึ้นมาอีกจำนวนไม่น้อยเลย
ไม่นานนักมู่เฉียนซีก็ได้เข้าใกล้ชั้นในของสวนสมุนไพร ของมีค่าเหล่านี้ นางไม่อยากที่จะปล่อยให้มันหลุดมือไปแม้แต่อย่างเดียว
ผู้เฒ่าประหลาดกล่าวขึ้น “แม่สาวน้อย เจ้าอย่าได้ดีใจไวไป ต่อจากนี้ไปเวลาที่กำหนดให้จะลดลงครึ่งหนึ่ง”
มู่เฉียนซีตะลึงงัน “ครึ่งหนึ่งรึ ?! เช่นนั้นก็คือเวลาครึ่งชั่วยาม เวลาเพียงครึ่งชั่วยามอีกทั้งต้องหายาสมุนไพรและต้องปรุงยา ท่านผู้เฒ่ามิได้ล้อกันเล่นใช่หรือไม่ ?”
ผู้เฒ่าประหลาด “ข้าจะต้องเลือกผู้สืบทอดที่พิเศษที่สุด แน่นอนว่าเงื่อนไขย่อมจะต้องโหดหินกันอยู่บ้าง หลายคนตายตั้งแต่ด่านทดสอบแรก แต่เจ้ากลับผ่านมาได้ถึงขั้นนี้ พรสวรรค์ของเจ้านั้นจะต้องเข้าขั้นปีศาจอย่างแน่นอน เจ้าผ่านมาได้ตั้งมาก นับประสาอะไรกับข้อทดสอบที่มีความยากเพียงเท่านี้ ?”
“แม่สาวน้อย หากเจ้ายอมแพ้เอาเวลานี้ เช่นนั้นเจ้าก็ต้องตายอยู่ที่นี่ ไม่มีอะไรสำเร็จเป็นเรื่องสักอย่าง เช่นนั้นแล้วเจ้าจะต้องสู้ บีบคั้นรีดเค้นความสามรถที่ซ่อนอยู่ในตัวของเจ้าออกมาเพื่อที่จะสู้ต่อ”
มู่เฉียนซีกัดฟันกล่าว “เรื่องเช่นนี้ข้านั้นรู้ดี ก็เช่นเคย ท่านเองก็อย่ามัวมากความ รีบบอกข้อทดสอบต่อไปมาเถอะ”
ผู้เฒ่าประหลาดยิ้ม กล่าวว่า “ได้ เจ้าจงจำเอาไว้ เจ้ามีเวลาเพียงครึ่งชั่วยาม”
จากนั้นเขาก็ได้ออกสูตรยาพิษมาอีกสูตร
พลังวิญญาณของมู่เฉียนซีโคจรจนถึงขีดสุด สายตาของนางมองกวาดผ่านไปบนสวนสมุนไพรอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าแลบแปลบปลาบ และเข้าค้นหาสมุนไพรที่ตนเองต้องการใช้
เวลาผ่านไปครึ่งหนึ่งของที่กำหนดแล้ว เวลาปรุงยาของนางนั้นเหลือแค่เพียงอีกครึ่งเดียว ช่างยากเย็นเสียจริง!
พลังจิตและพลังวิญญาณของนางโคจรอย่างบ้าคลั่ง มู่เฉียนซีแข่งกับเวลาทุก ๆ อึดใจเพื่อที่จะปรุงยาออกมา จนกระทั่งเวลาจวนจะหมดครึ่งชั่วยาม ในที่สุดยาของนางก็ได้ออกจากหม้อปรุงเสียที
เวลาอึดใจสุดท้ายที่เหลืออยู่ นางก็ได้ทำออกมาเสร็จสิ้นพอดิบพอดี บนหน้าผากของมู่เฉียนซีนั้นมีเหงื่อหยดใหญ่ไหลออกมา นางนั้นแทบจะเป็นลมล้มลงกับพื้นด้วยเพราะหมดเรี่ยวแรง
ชิงอิ่งที่ยืนอยู่เร่งรุดเข้าไปประคองด้านหลังของนาง เขากล่าวถามขึ้น “เฉียน เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม ?”
มู่เฉียนซีสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ ก่อนจะกล่าวเสียงแผ่ว “ข้าไม่เป็นไร แต่ว่าผู้เฒ่าประหลาดนั่นช่างทรมานข้าเสียจริง ข้า…”
เห็นได้ชัดว่าผู้เฒ่าประหลาดผู้นั้นคิดที่จะทรมานกันให้ถึงที่สุด เขากล่าวขึ้นอีกว่า “แม่สาวน้อยรับรางวัลของเจ้าแล้วไปด่านต่อไปกันเถอะ อย่าได้คิดว่าข้าจะมีเมตตามีเวลาให้เจ้าได้พักบ้างสักหน่อย”
มู่เฉียนซีกลืนยาเข้าไปหลายเม็ดเพื่อฟื้นฟูพลังวิญญาณของนางเอง ยิ่งท่านผู้เฒ่าประหลาดทดสอบนางอย่างโหดหินมากขึ้นเท่าไร เจตจำนงในการต่อสู้ของมู่เฉียนซียิ่งมากขึ้นเท่านั้น
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา “ผู้เฒ่า ไม่ว่าจะมีข้อทดสอบอะไรก็งัดออกมาให้หมดเถอะ ข้าไม่กลัวท่านหรอก ก็แค่ปรุงยาพิษ ข้าไม่ได้แพ้ง่ายดายเช่นนั้น”
“เคี๊ยก ๆ ๆ แรงดีเช่นนี้ไม่เลว เช่นนั้นพวกเราไปกันต่อ”
ในที่สุดมู่เฉียนซีก็ได้ผ่านการทดสอบที่รอบวงในชั้นกลางไปได้ จากนี้ไปจะเป็นการทดสอบชั้นวงในสุดซึ่งยากที่สุด
“เอาล่ะ เวลาจะลดลงไปอีกครึ่ง เหลือเป็นหนึ่งในสี่ของหนึ่งชั่วยาม เจ้าเตรียมตัวให้ดีล่ะ”
เวลาเพียงหนึ่งในสี่ของชั่วยาม ทั้งให้สูตรยาที่ไม่สมบูรณ์ไป แล้วยังต้องไปหาวัตถุดิบด้วยตนเอง นี่ช่างเป็นความยากลำบากของผู้แข็งแกร่งเสียจริง!
เวลาเพียงแค่นี้ ถึงต่อให้ท่านผู้เฒ่าให้สูตรยาที่สมบูรณ์มา หรือหาวัตถุดิบเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ก็ยังมิอาจทีจะหลอมเม็ดยาออกมาได้
ทว่ามู่เฉียนซีในตอนนี้นั้นไม่มีแรงเหลือพอที่จะไปโกรธเคืองผู้เฒ่า สิ่งที่นางต้องการก็คือแรงเฮือกหนึ่งที่จะพุ่งไปให้ถึงจุดสุดท้าย
มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านผู้เฒ่า เช่นเคยอีกนั่นแล ท่านอย่าได้มากความ จงรีบบอกข้อทดสอบมาเถอะ”
“ได้!”
เวลาเพียงแค่หนึ่งในสี่ของชั่วยามที่จะต้องหลอมเม็ดยาออกมา มู่เฉียนซีได้เข้าสู่ภาวะความบ้าคลั่งอย่างสมบูรณ์ ในใจของนางนั้นไม่คิดสิ่งอื่นใดนอกจากจะต้องผ่านด่านนี้ไปให้ได้
นางพยายาม
พยายาม…
พยายาม…
เวลาหนึ่งในสี่ชั่วยาม ในที่สุดมู่เฉียนซีก็ทำได้สำเร็จ ด้วยความสำเร็จหลายต่อหลายครั้ง ทำให้นางผ่านการทดสอบชั้นวงในสุดไปได้
มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นว่า “ท่านผู้เฒ่า สวนสมุนไพรนี้เป็นของข้าทั้งหมดแล้ว” จากนั้นไม่มัวพูดพร่ำ นางโบกมือแล้วได้เอาทั้งสวนนั้นเก็บไป
หลังจากที่สวนที่อยู่ตรงหน้าทั้งสวนได้หายไป มู่เฉียนซีก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
นางหมดเรี่ยวแรงล้มลง
ผู้เฒ่าประหลาดผู้นั้นกล่าวเสียงแผ่วเบา “แม่สาวน้อย เจ้าจงพักผ่อนชั่วครู่ การทดสอบต่อไป จะหนักหน่วงยิ่งขึ้นกว่านี้นัก”
.