ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 256 ด่านสุดท้าย
หลังจากที่มู่เฉียนซีฟื้นขึ้นมาและฟื้นฟูพลังกลับมาได้แล้ว นางกล่าวถามขึ้นว่า “ท่านยังมีกลอุบายอะไรอีก ? หากมีก็รีบ ๆ บอกมาเถอะ แต่หากไม่มีข้าจะได้ทำอย่างอื่น”
“เคี๊ยก ๆ ๆ มีแน่นอน! เจ้าคิดว่าการทดสอบของถ้ำหมื่นพิษของข้ามันจะเรียบง่ายเช่นนั้นรึ ?”
เรียบง่าย ?
นี่ยังคิดว่าเรียบง่ายอีกหรือ ? การทดสอบที่บีบบังคับและกดขี่เช่นนั้นสามารถทำให้คนบ้าคลั่งได้ อีกทั้งยังต้องปรุงยาท่ามกลางความบ้าคลั่งนั้น นี่มันเป็นการท้าทายที่เกินขีดจำกัดของมนุษย์ไปแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวถามขึ้น “ด่านทดสอบของท่านมีกี่ด่านกันแน่ บอกมาตรง ๆ เถอะ”
“เหอะ ๆ ๆ ไม่ได้มากมายอะไรนักหรอก ต่อไปด่านสุดท้ายแล้ว”
“ในเมื่อนี่เป็นด่านสุดท้าย เช่นนั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่า!”
“เจ้าเดินตรงไปด้านหน้า ข้างหน้าจะมีป่าอยู่” ผู้เฒ่าประหลาดกล่าว
มู่เฉียนซีเดินตรงไปที่ป่าแห่งนั้น ครานี้ผู้เฒ่าประหลาดผู้นั้นก็ได้ให้สูตรยามาเฉกเช่นเดิม
“ครานี้ให้เจ้าหาสมุนไพรในป่าแห่งนี้และหลอมยาออกมาโดยที่ครานี้ข้าไม่กำหนดเวลาแต่อย่างใด ขอเพียงเจ้าหลอมยาออกมาได้สำเร็จก็ถือว่าเจ้าผ่านด่านนี้แล้ว”
มู่เฉียนซีลอบคิดในใจว่าพื้นผิวโดยทั่วไป ถือว่าข้อกำหนดนี้เรียบง่ายกว่าด่านก่อนหน้านี้เสียอีก แต่ทว่ามู่เฉียนซีรู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ที่ด่านการทดสอบครั้งที่สามจะง่ายไปกว่าสอง ในขณะที่มู่เฉียนซีกำลังจะเก็บสมุนไพร ทันใดนั้นนางก็เจอกับปัญหาเข้าจนได้
สมุนไพรวิญญาณที่ต้องใช้เหล่านั้นล้วนแต่มีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามปกป้องอยู่ ดังนั้นการรวบรวมสมุนไพรวิญญาณของนางย่อมไม่ง่ายเลย
“เสี่ยวหง อู๋ตี๋ ชิงอิ่ง มาเร็ว”
ในเมื่อนางสู้เพียงลำพังไม่ได้ก็เห็นทีจะต้องรุม
เพียงแต่…
ผู้เฒ่าประหลาดผู้นั้นกล่าวว่า “ช้าก่อนแม่สาวน้อย… เจ้าต้องลงมือด้วยตัวเองเท่านั้นถึงจะถือว่าผ่านด่าน หากได้สมุนไพรวิญญาณมาโดยมีผู้ช่วย ก็ไม่นับว่าเจ้าผ่าน”
มู่เฉียนซีกล่าว ความโกรธเกรี้ยวปะทุขึ้นมา “อะไร! มันกฎบัดซบอะไรกัน ? ข้าเป็นเพียงปรมาจารย์ภูตระดับหนึ่ง แต่ท่านกลับให้ข้าต่อสู้กับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามเพื่อที่จะชิงเอาสมุนไพรวิญญาณมา ทำเช่นนี้ตั้งใจจะกลั่นแกล้งข้าหรืออย่างไร ?”
ผู้เฒ่าประหลาดผู้นี้กล่าวราวกับผู้ไม่มีความผิดใด “มิได้กลั่นแกล้ง เพียงแต่ข้าเองก็นึกไม่ถึงว่าจะมีเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเจ้าบุกเข้ามา เดิมทีข้าคิดว่าผู้ที่จะบุกเข้ามาถึงที่นี่ได้จะเป็นจักรพรรดิแห่งภูต เพราะฉะนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนี้ เจ้าพยายามหน่อยก็แล้วกัน ต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเอง”
สีหน้ามู่เฉียนซีเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ผู้เฒ่าบัดซบ! สมควรตายยิ่งนัก
เดิมทีเขาคิดว่าหากเป็นผู้ที่มีพลังวิญญาณระดับจักรพรรดิแห่งภูตก็จะสามารถผ่านด่านนี้ไปได้ ทว่านี่นางเป็นเพียงปรมาจารย์ภูตระดับหนึ่งเท่านั้น อีกทั้งยังไม่สามารถใช้สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของตนเองเข้าช่วย มันยากนักสำหรับนาง
ช่างตึงมืออย่างแท้จริง!
ผู้เฒ่าประหลาดกล่าว “แม่สาวน้อย เจ้าอย่าลืมไปล่ะว่าเจ้ามีความสามารถเรื่องพิษ ตลอดเส้นทางกว่าจะมาถึงตรงนี้ เจ้าคงจะเรียนรู้พิษจากข้าไปไม่น้อยแล้ว”
มู่เฉียนซีกัดฟันกล่าว “อืม! ข้าเข้าใจ ดูเหมือนว่าจะต้องสู้จนตัวตายแล้ว”
นางรวบรวมพลังวิญญาณทั้งหมดจนถึงขีดสุด และตะโกนอย่างเย็นชา “โล่มังกรวารี!”
— ปัง! —
หากสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องสมุนไพรวิญญาณนี้ถูกทำลายโดยการโจมตีของปรมาจารย์ภูตได้ นั่นเป็นเรื่องแปลกประหลาดอย่างยิ่ง
กระบี่มังกรเพลิงออกมาจากฝัก มู่เฉียนซีฟันมันอย่างไม่เกรงใจ “หลงเหยียนพิฆาต!”
— ปัง! ปัง! ปัง! —
มู่เฉียนซีนางโจมตีอย่างบ้าคลั่ง กระบวนท่าที่รุนแรงของนางถือว่าดี แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ได้
“โฮก โฮก โฮก!” ในที่สุดสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้เริ่มบันดาลโทสะ มันเริ่มไล่ฆ่ามู่เฉียนซีอย่างบ้าคลั่ง
“นายท่าน!” เสี่ยวหงอู๋ตี๋สองสัตว์พันธสัญญาต่างพากันอกสั่นขวัญหาย แม้กระทั่งชิงอิ่งยังวางแผนที่จะเคลื่อนไหวเข้าไปช่วยนาง
มู่เฉียนซีตะโกน “เสี่ยวหง อู๋ตี๋ พวกเจ้าสกัดกั้นด้านหลังไว้ ข้าจะไปตั้งหลักก่อน”
สู้ไม่ได้ก็เผ่นหนีเสียก่อนคือสิ่งที่นางคิดในใจ เวลานี้นางจะต้องคิดหาวิธีรับมือให้ได้แล้วจึงค่อยมาจัดการใหม่
ผู้เฒ่าบอกว่าไม่ให้สหายของนางช่วยเก็บสมุนไพร แต่นี่นางหนีเพื่อเอาชีวิตรอด ให้พวกมันช่วยก็คงจะไม่เป็นไรกระมัง ?!
“เหอะ ๆ ๆ เจ้าช่างเป็นเด็กที่ฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก ข้านึกไม่ถึงว่าเจ้าจะพบช่องโหว่ของกฎจนได้ แต่ต่อให้หนีเพื่อเอาตัวรอดมันยังไม่พอ ถึงอย่างไรเจ้าก็ต้องเก็บสมุนไพรวิญญาณอยู่ดี”
“ข้ารู้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ท่านมาพล่ามไร้สาระอยู่ที่นี่หรอก”
กว่ามู่เฉียนซีจะวิ่งหนีมาหลบอยู่ในที่ที่ปลอดภัยได้นั้นไม่ง่ายเลย ภายในมิติเก็บของของนางมีวัตถุดิบทำยาพิษจำนวนไม่น้อย ทั้งหมดนี้เป็นรางวัลที่นางได้มาจากการผ่านด่านที่สอง
นางนำออกมาเพื่อที่จะทำเป็นผงพิษ ยาพิษชนิดเม็ด และยาพิษชนิดน้ำ เตรียมเอาไว้เพื่อที่จะจัดการกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามตัวนั้น
หลังจากที่เตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย มู่เฉียนซีก็กลับไปยังที่ที่นางหนีมาอีกครั้ง
เมื่อสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยปรากฏอยู่ตรงหน้า มันก็กลายเป็นสัตว์ที่น่ากลัวขึ้นมา
“เจ้ามนุษย์ เจ้ายังกล้าโผล่หน้ามาให้ข้าเห็นอีกรึ ?”
มู่เฉียนซี “แล้วเจ้ามีอะไรให้ข้ากลัวรึ ? ที่นี่มีสิ่งที่ข้าต้องการ แน่นอนข้าต้องมา”
มู่เฉียนซีแกว่งมือ จากนั้นเข็มยาจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกไปทันที
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “มนุษย์เอ๋ยมนุษย์… เจ้าช่างไร้เดียงสายิ่งนัก! เจ้าคิดว่าสิ่งเล็ก ๆ สิ่งนี้มันจะทำอะไรข้าได้รึ ?!”
— ตูม! ตูม! ตูม! —
ในขณะที่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์กำลังจะเข้ามาใกล้ มู่เฉียนซีก็โรยผงพิษไป จากนั้นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ก็สำลักในทันที
“โฮก! แค่ก ๆ ๆ”
“เจ้ามนุษย์วายร้ายช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก!”
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามโกรธจนถึงขีดสุด พลันพุ่งพรวดเข้าจู่โจมมู่เฉียนอย่างดุเดือด
— ฉัวะ! —
ต้นไม้ที่อยู่รอบ ๆ ถูกตัดออกเป็นเสี่ยง ๆ ด้วยพลังอันรุนแรงนี้ สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ต้องการที่จะฉีกเนื้อของมู่เฉียนซีออกเป็นชิ้น ๆ
มู่เฉียนซีรู้สึกกลุ้มใจเล็กน้อย นางมั่นใจในยาพิษของนางมาก แต่กว่ายาจะออกฤทธิ์กับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์นี้ดูเหมือนจะช้าไป
มู่เฉียนซีถูกสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ไล่ล่าอีกครั้ง ทั้งเวลายังค่อย ๆ ผ่านไปอย่างช้า ๆ สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ก็รู้สึกว่าร่างกายของมันหมดเรี่ยวแรงลง
— ตุบ! —
ร่างอันใหญ่โตและถึกทนของมันล้มกระแทกลงบนพื้นดิน ดวงตาของมันจ้องไปที่มู่เฉียนซีอย่างดื้อดึง
“มนุษย์สารเลวบัดซบหน้าไม่อาย กล้าตลบหลังข้า! เจ้าคนชั่วช้าต่ำทราม!”
มู่เฉียนซี “ใช่ ข้าตลบหลังเจ้าแล้วเจ้ามีปัญหาอะไรรึ ?! ข้าเป็นเพียงปรมาจารย์ภูตระดับหนึ่ง หากไม่วางแผนตลบหลังเจ้าจะให้ข้าต่อสู้จนตัวตายกับเจ้ารึ เจ้าคิดว่าข้าจะโง่มากนักหรือไร ?”
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ได้ยินเช่นนี้กรุ่นโกรธแทบจะกระอักเลือกออกมาเยี่ยงมนุษย์
มู่เฉียนซียกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “หึ! ขอให้เจ้าอิ่มอร่อยกับอาหารที่ข้าเตรียมเอาไว้ให้เถอะ ส่วนสมุนไพรวิญญาณที่เจ้าเฝ้าอยู่นี้ข้าขอเอาไปก่อน”
หลังจากที่มู่เฉียนซีเก็บสมุนไพรวิญญาณเสร็จและรีบจากไปอย่างรวดเร็ว เสียงคำรามของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ดังไล่หลัง “เจ้ามนุษย์! เจ้าจงจำเอาไว้ว่าข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปเด็ดขาด ไม่มีวัน!”
— ตูม! ตูม! ตูม! —
เสียระเบิดดังสนั่นขึ้นกลางป่า
เมื่อจัดการกับคู่ต่อสู้ได้ มู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “พลังระเบิดพิษนี้ไม่เลวเลย มันน่าจะเพิ่มให้แข็งแกร่งกว่านี้ได้อีก”
การโจมตีด้วยพิษของมู่เฉียนซีกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ สัตว์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นยังคงอยู่ต่อได้อีกช่วงหนึ่งหากมันเตรียมพร้อมรับมือเอาไว้ก่อน แต่หากโดนมู่เฉียนซีลอบโจมตีเช่นนี้แล้ว พวกมันก็ยากที่จะรอด
ต่อให้มีบางครั้งที่พลาดท่า แต่นางก็ยังมีเสี่ยวหง อู๋ตี๋ และชิงอิ่งคอยช่วยสกัดกั้นให้อยู่ด้านหลัง นางสามารถถอยไปตั้งตัวได้
มู่เฉียนซียิ้ม กล่าวว่า “ในที่สุดก็ได้สมุนไพรมาครบ ต่อไปก็เริ่มปรุงยา แค่นี้ก็ผ่านด่านไปได้แล้ว”
ผู้เฒ่าประหลาดหัวเราะชอบใจ “ฮ่า ๆ ๆ! แม่สาวน้อย ทักษะการวางยาพิษของเจ้านั้นยอดเยี่ยมขึ้นมาก ประสิทธิภาพการต่อสู้กับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เจ้าก็สูง แต่คิดจะหลอมยาออกมาให้สำเร็จนั้น มันคงไม่ง่ายอย่างที่เจ้าคิด!”
มู่เฉียนซีผงะไปครู่หนึ่ง “ผู้เฒ่า ท่านจะกลั่นแกล้งอะไรข้าอีกเล่า ?”
ผู้เฒ่าประหลาดกล่าว “มันเป็นเพียงแค่ขั้นตอนที่จำเป็นก็เท่านั้น การได้สมุนไพรวิญญาณมาจากการปกป้องของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์มันไม่ใช่เรื่องยาก สิ่งที่ยากนั่นก็คือการหลอมยาออกมาให้สำเร็จต่างหากเล่า ไม่รู้ว่าเจ้าจะต้องล้มเหลวอีกสักกี่ครั้งถึงจะหลอมยาออกมาสำเร็จ หรือไม่แน่เจ้าอาจจะไม่มีวันหลอมออกมาสำเร็จก็เป็นได้”
“ผู้เฒ่า ท่านก็ชอบขู่ขวัญให้ตกใจเกินไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นยาระดับสูง แต่ข้าก็ไม่ล้มเหลวหลายครั้งดั่งที่ท่านว่าแน่นอน”
มู่เฉียนซีเอาหม้อเทพปาฮวางชิงมู่ออกมาและหลอมยาอย่างใจจดใจจ่อ แต่เมื่อมาถึงขั้นตอนการหลอมที่สำคัญ ทันใดนั้นบริเวณรอบ ๆ มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
.