ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 34 สะใจใช่ไหม
“มีสหายมอบมันให้ข้า” มู่เฉียนซีตอบง่าย ๆ
“สหายหรือ ? สหายของท่านผู้นำตระกูลที่เมืองหลวงคงไม่ได้ใจกว้างแบบนี้กระมัง” ผู้เฒ่าใหญ่กล่าวออกมาอย่างสงสัย
มู่เฉียนซีตอบออกไป “เป็นสหายเก่าที่รู้จักกันแต่ก่อน รู้จักกันตั้งแต่ยังไม่มาตระกูลมู่ เขาได้ยินมาว่าข้าต้องการเงินสามล้านเหรียญทองคำ จึงนำยาเหย้าจี้ที่เขาปรุงเองไปประมูล ขายได้ราคาดี แค่สามล้านเหรียญทองคำเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กน้อยสำหรับเขา ”
“ซี้ดดดด!”
ผู้เฒ่าหลายท่านต่างสูดลมเย็นเข้าไป
คนที่ทำยาเหย้าจี้แสนประหลาดนั้นเป็นสหายกับท่านผู้นำตระกูล หรือว่ามู่เฟิงอวิ๋นจะทิ้งยาไว้คอยช่วยเหลือมู่เฉียนซี ?
มีสหายเป็นหมอปรุงยาสนับสนุนมู่เฉียนซี มู่เฉียนซีย่อมอยากได้อะไรก็ได้
หากรู้แต่แรกว่ามีคนเช่นนี้หนุนหลังนางอยู่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามพวกเขาจะไม่ลงไปพนันด้วยเป็นอันขาด
“เนื่องจากท่านผู้เฒ่าทั้งหลายพ่ายแพ้ ก็เชิญพวกท่านทำตามที่ได้รับปากไว้ กระดาษขาวหมึกดำเขียนไว้ชัดเจน”
หนึ่งเดือน รับเงินเพียงสิบเหรียญ… อีกทั้งทุกคนต้องมอบอำนาจที่มีอยู่ในมือ
ต้องส่งมอบมันให้กับเด็กผู้หญิงตัวเล็กซึ่งเป็นผู้นำตระกูล ต่อให้เบื้องหลังของนางมีหมอยาลึกลับสนับสนุน เรื่องทำการค้า พวกเขามีความสามารถมากกว่า พวกเขาคิดว่าอีกไม่นานเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ต้องมาร้องขอให้พวกเขารับเอาอำนาจกลับไปเช่นเดิม
เมื่อไล่พวกผู้เฒ่ากลับไปแล้ว มู่เฉียนซีหันมององครักษ์เงาที่เฝ้าอยู่ทางประตู นางเอ่ยถาม “สะใจไหม ?”
องครักษ์เงามองหน้ากัน รู้สึกสะใจหน่อย ๆ เมื่อก่อนเห็นพวกผู้เฒ่าทำตัวไม่ดีหยิ่งยโสลำพองตน ก็ไม่พอใจ
เมื่อก่อนท่านผู้นำตระกูลไม่โต้ตอบ พวกเขาก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้
“เรียนท่านผู้นำ …สะใจ!” พวกเขาพูดพร้อมกัน
มู่เฉียนซีกล่าว “วันนี้พวกเราทำให้พวกผู้เฒ่านั่นรับมือไม่ทัน แต่หากพวกเจ้าไม่มีความแข็งแกร่ง ถึงมีเงินมากมาย ก็ไม่สามารถทำอะไรที่ดีกว่านี้ได้”
“พวกเจ้ายังอ่อนแอเกินไป อยากจะทำครั้งที่สอง คงต้องทำได้เพียงแค่นอนฝัน”
พวกเขากำมือแน่น แววตาเจือความไม่อยากเชื่อ
คนพวกนี้เป็นคนที่มู่เฟิงอวิ๋น ผู้นำตระกูลมู่คนก่อนคัดสรรมา ล้วนมีพรสวรรค์ที่ดี มีไหวพริบ มีรากฐานที่ยอดเยี่ยม
แม้ว่าพวกเขาภักดีต่อท่านผู้นำ แต่จะไม่ยอมถูกเหยียดหยามเช่นนี้
มู่เฉียนซีพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกเจ้าคิดว่าได้ฝึกจนถึงขั้นจอมยุทธ์และปรมาจารย์ภูตก่อนสามสิบมันเก่งกาจมากนักหรือ ?”
พรสวรรค์เช่นนี้ หากอยู่ในกลุ่มอำนาจฝ่ายใดในแคว้นจื่อเยี่ย จะได้รับความไว้วางใจ
“ฮ่า ๆ ๆ ช่างดีจริง ๆ พวกเจ้าทำอะไรอยู่ในตอนที่อาเล็กของข้าถูกนางมารนิกายอวิ๋นหยานใช้พิษจนทำให้ตาบอด ?”
“หากนิกายที่มีอำนาจเช่นนิกายอวิ๋นหยานเผชิญกับตระกูลมู่ของเราอีกครั้ง พวกเจ้าสามารถทำสิ่งใดได้บ้าง ?”
ขาของอาเล็กเป็นเช่นนี้ตั้งแต่วัยเด็ก แต่ดวงตาคู่นั้น…
มู่เฉียนซีกำมือแน่น สองสามวันมานี้นางสืบเรื่องราวได้ เรื่องที่เกิดขึ้นกับอาเล็กนางรับรู้มาหมดแล้ว
นิกายอวิ๋นหยาน เป็นนิกายที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยโจว และเป็นนิกายเดียวที่ติดอันดับในเซี่ยโจว คุณหนูใหญ่ของพวกเขาชอบผู้คนที่ใบหน้า เมื่อมาแคว้นจื่อเยี่ยเพื่อฝึกฝน นางก็ชอบอาเล็ก แน่นอนว่าอาเล็กปฏิเสธนางไป…
นางมารบอกว่าอาเล็กมองไม่เห็นความสวยของนาง มีตาแต่ไร้แวว หลังจากนั้น นางจึงวางยาพิษใส่ดวงตาทำให้อาเล็กมองไม่เห็น
มู่เฉียนซีแผ่ความเยือกเย็น ใบหน้าหม่นคล้ำ ไอสังหารหลั่งไหล เรื่องนี้อาเล็กไม่เคยบอกนางมาก่อน แต่ไม่ได้แปลว่านางจะจำแค้นครั้งนี้ไม่ได้
องครักษ์เงาทุกคนกำหมัดแน่น
เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน พบกับอำนาจพวกนี้ ความแข็งแกร่งของพวกเขาล้วนไม่มีประโยชน์อันใด มันไม่สามารถปกป้องคุณชายสามและตระกูลมู่ได้
มู่เฉียนซีพูดเสียงเย็น “บอกกับข้า พวกเจ้าอยากแข็งแกร่งหรือไม่ ?”
“แข็งแกร่งคือไม่ว่าจะเป็นกับตระกูลมู่ หรือพบเจอศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า เราสามารถทำให้พวกเขากลายเป็นเถ้าถ่านได้”
แต่เดิมไร้เรี่ยวแรง ตอนนี้ถูกจุดประกายฮึกเหิม ดวงตาของพวกเขาลุกโชนดั่งไฟร้อน พวกเขากล่าวพร้อมกัน “อยาก!”
“แล้วเสียงล่ะ ท่าทางล่ะ นี่คือการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นของพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ ?”
“อยาก! ต้องการ! ต้องการมาก!” พวกเขาพูดเสียงดัง เน้นย้ำคำเสมือนให้คำสาบาน
มู่เฉียนซียิ้ม “นอกจากผู้ที่อยู่ดูแลอารักขาอาเล็กแล้ว ข้าจะเรียกกลับมาทั้งหมด วันนี้เที่ยงคืน มาหาข้าที่เรือน”
ตระกูลมู่เป็นตระกูลที่อยู่แคว้นจื่อเยี่ย แคว้นเล็ก ๆ ของเซี่ยโจว นอกจากมีเงินแล้วก็ไม่มีอำนาจใด ๆ ผิดกับนิกายอวิ๋นหยานที่เป็นนิกายใหญ่ของเซี่ยโจว มันใหญ่กว่าหอการค้าอันดับหนึ่ง
ตราบใดที่นางมีเวลา นางจะทำให้พวกที่ทำร้ายอาเล็กต้องชดใช้เป็นพันเท่าหมื่นเท่า
…
“คุณชายสาม ท่านจะหยุดผู้นำตระกูลน้อยหรือไม่ ?” องครักษ์เงากลับมารายงาน
“ซีเอ๋อร์นับวันยิ่งคล้ายพี่ใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ ชอบคุ้มครองคนของตนเอง” มู่อวู่ซวงถอนหายใจ ไม่รู้ว่านิสัยแบบนี้ดีกับผู้หญิงหรือไม่
“ให้ซีเอ๋อร์ทำไปเถอะ แต่หากใครทำร้ายนาง ข้า มู่อวู่ซวงจะทำให้แน่ใจว่าพวกมันได้ชดใช้ในราคาที่หนักหน่วง”
ร่างกายอ่อนแอนี้ ภายในพริบตาพลันแผ่รังสีอำมหิตออกมาไม่ต่างจากหลานสาวสุดรักสุดห่วงใย
…
เที่ยงคืน…
เหล่าองครักษ์เงามองสาวน้อยในชุดสีม่วงสง่างามที่ยืนอยู่ด้านหน้าของพวกเขา ความรู้สึกเหมือนครั้งแรกที่ได้ดึงพวกเขาออกจากสถานการณ์สิ้นหวัง
มู่เฉียนซีโยนกระดาษออกไป “นี่คือเนื้อหาการฝึกของพวกเจ้า ดูเสีย”
พวกเขาเปิดอ่าน ถ้าทำตามแผนการฝึกฝน แม้พวกเขามีร้อยชีวิตก็คงใช้ไม่พอ อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาต้องการความแข็งแกร่ง แม้ต้องตาย จะกลัวความเจ็บปวดไปไย
“วางใจเถอะ ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเจ้าตายหรอก ท่านพ่อทิ้งพวกเจ้าไว้ให้กับข้าและอาเล็กเพื่อคอยคุ้มภัย” มู่เฉียนซียิ้มอ่อน นำยาเหย้าจี้ออกมาหลายขวด
“ยาเหย้าจี้นี้ ขณะที่พวกเจ้าฝึกฝนอยู่สามารถใช้แทนน้ำดื่ม จะช่วยเพิ่มความเร็วในการฝึกฝน และยานี่ใช้ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บภายนอก อันนี้ใช้รักษาการบาดเจ็บภายใน…”
คลื่นอารมณ์ตกใจแผ่คลุมองครักษ์เงาทั้งหลาย พวกเขามองยาเหย้าจี้พวกนี้ที่มีราคาสูง ใช่ยาที่กำลังเป็นที่ฮือฮาในแคว้นจื่อเยี่ยหรือไม่ ? ได้ยินมาว่าต้องประมูลด้วยราคาสามล้านเหรียญทองคำ แต่ท่านผู้นำให้พวกเขานำยาเหย้าจี้นี้ใช้แทนน้ำดื่มกิน
พวกเขาฟังไม่ผิด …ใช่ไหม ?
มู่เฉียนซีเอ่ย “ไม่ต้องสงสัยคำพูดของข้า ข้าบอกให้แทนน้ำดื่มก็แทนน้ำดื่ม”
“แต่ท่านผู้นำ ตระกูลมู่เราถึงมีเงินมากแต่ก็ไม่ควรใช้เงินประหนึ่งเทน้ำทิ้ง ถ้าหากว่าเพื่อฝึกฝนพวกเราแล้วต้องให้ตระกูลมู่เสียเงินเสียทองมากมาย พวกเรายอมตายเสียดีกว่า”
“ใครบอกพวกเจ้าว่าต้องใช้เงิน ยาพวกนี้ในสายตาข้าคือน้ำ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินมาก ดังนั้นพวกเจ้าอย่าลังเลใจ สิ่งที่ข้าต้องการคือให้พวกเจ้าเลื่อนขั้นเป็นราชายอดยุทธ์ ราชาแห่งภูต”
“พวกเจ้าได้ยินไหม ?”
“ได้ยินขอรับ!” ทุกคนตอบเสียงเข้ม มีดวงตาที่มุ่งมั่น การเลื่อนขั้นเป็นราชายอดยุทธ์ให้เร็วขึ้น พวกเขายังไม่กล้าคิด
แต่วันนี้ท่านผู้นำตระกูลนำยาเหย้าจี้ที่เทียบเท่ากับยาระดับสองมาสนับสนุน ไม่แน่พวกเขาอาจจะพัฒนาได้ในไม่ช้า
“ยังยืนทำอะไรกันอยู่อีก ? รีบใช้เวลาเสียสิ เหย้าจี้ไม่พอมาเอาที่ข้า”
“ขอรับ”
— ฟิ้ว! —
พวกเขารีบไปฝึกฝน ไม่ต้องการเสียเวลาแม้เพียงเล็กน้อย
ในวันต่อมา มู่เฉียนซีทำยาเหย้าจี้ได้มากมาย อย่าว่าแต่ดื่มกินเลย แค่ให้องครักษ์เงาเก้าสิบเก้าคนใช้แทนน้ำอาบก็ยังเพียงพอ
หากว่าให้พวกที่ยอมล้มละลายเพื่อที่จะมาซื้อยาเหย้าจี้หนึ่งขวดมารับรู้สถานการณ์ตระกูลมู่ พวกเขาคงกระอักเลือดตายด้วยความโมโหโกรธาแกมริษยาเป็นแน่
ยาเหย้าจี้พร้อมแล้ว ต่อไปมู่เฉียนซีก็จะเริ่มเตรียมปรุงยา นางมองดูเนื้อหาวิธีการปรุงยาหนึ่งรอบ ใช้สิบล้านเหรียญเงินซื้อมา ช่างคุ้มค่าดีแท้ แต่มู่เฉียนซีก็ไม่ได้มีโชคดีอะไรเรื่องการปรุงยา นางเริ่มเรียนปรุงยาระดับหนึ่ง
ผลลัพธ์ที่ได้…
— ปัง! —
เสียงและแสงสว่างระเบิดออกมา จวนมู่ถึงกับสั่นสะเทือน
.