ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 37 ท่านผู้นำตระกูลจะถูกไล่ออก
น่าหลานอวี้ใบหน้าซีดขาว ไม่คิดว่าคุณชายมู่จะกล้าเอ่ยวาจาเช่นนี้ ทำฮั่วอวิ๋นเกิดอารมณ์กรุ่นโกรธ
น่าหลานอวี้รีบกล่าว “มู่ซี ข้าว่าพวกเรารีบไปเถอะ!”
“ถ้าเจ้าต้องการไปก็ไป แต่เจ้าเด็กนี่อยู่ที่นี่”
ฉับพลันทันใด ชายวัยกลางคนสวมเสื้อผ้าซอมซ่อหนวดเครารุงรัง ยืนขวางทางน่าหลานอวี้ไว้ มือแตะไหล่มู่เฉียนซี เขาจ้องมอง ‘หนุ่มน้อยมู่ซี’ ด้วยสายตาเย็นยะเยือก “เจ้าเด็กน้อยตัวกะเปี๊ยก ไหนเจ้าลองพูดมาอีกครั้งซิ”
มู่เฉียนซีมองสำรวจรอบตัวเขา นางกล่าว “จะบอกให้ว่าท่านถูกพิษอัคคี พิษนี้แทรกซึมเข้าสู่กระดูกแล้ว เกรงว่าจะอยู่ได้ไม่ถึงครึ่งเดือน หรือว่าข้าพูดผิดไป ไม่ ๆ ข้าเพิ่งพูดความจริง ถึงท่านจะฆ่าข้า ความจริงก็มิเปลี่ยนแปลง”
ฮั่วอวิ๋นมีสีหน้าแปลกใจ “เจ้ารู้ได้อย่างไร ?”
แม้แต่น่าหลานอวี้ยังรู้สึกประหลาดใจ เท่าที่เขารู้ มู่ซีจะต้องไม่เคยพบเจอฮั่วอวิ๋นมาก่อน เหตุใดจึงวิเคราะห์ได้ว่าถูกพิษอัคคี
มู่เฉียนซีค่อย ๆ อธิบาย “ท่านพูดจาด้วยอารมณ์โกรธเกี้ยว ทั้งยังหายใจไม่สะดวก ขาดช่วง ตอนท่านออกแรงจะหายใจไม่มั่นคง นอกจากนั้น… ใบหน้าของท่านไม่ปกติ มีรอยแดงเข้ม ใต้ตาปนสีแดงดำ นิ้วมือ…”
มู่เฉียนซีร่ายยาวตามการวิเคราะห์ นางสิ้นสุดด้วยวาจาสรุป “ข้าจึงคาดการณ์ว่าท่านถูกพิษอัคคี มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกินครึ่งเดือน”
น่าหลานอวี้กับหมอไป๋ถึงกับยืนอึ้งไป พวกเขารู้เพียงว่าคุณชายน้อยผู้นี้รู้วิธีปรุงยาเหย้าจี้อันแปลกประหลาด ไม่คิดว่าการแพทย์ของเขาก็ล้ำเลิศไม่แตกต่าง
ฮั่วอวิ๋นหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ทว่าดูอิดโรย “ฮ่า ๆ ๆ มีชีวิตอยู่ได้แค่ครึ่งเดือน อยู่ได้แค่ครึ่งเดือนเท่านั้น ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ”
มู่เฉียนซีขยับปาก “ดูจากท่าทางของท่านแล้ว คงยังไม่อยากตายล่ะสิ”
ฮั่วอวิ๋นเกรี้ยวกราด “เหลวไหล ก็ใช่สิ! มีชีวิตอยู่ดี ๆ ทำไมข้าต้องอยากตายด้วย ข้ายังไม่ได้เป็นช่างหลอมอาวุธขั้นสูงเลย ช่างหลอมอาวุธที่ข้าใฝ่ฝันถึง จะตายตาหลับได้อย่างไร เมื่อก่อนข้า ฮั่วอวิ๋นเป็นช่างหลอมอาวุธที่มีพรสวรรค์อยากจะเป็นช่างหลอมอาวุธขั้นปรมาจารย์”
มู่เฉียนซีกล่าว “เช่นนั้นก็ง่ายมาก ข้าแก้พิษให้ท่าน ช่วยชีวิตท่าน ส่วนท่านหลอมอาวุธให้ข้า การค้าขายแลกเปลี่ยนครั้งนี้คุ้มค่า”
ฮั่วอวิ๋นถลึงตาโตมองมู่เฉียนซี “หืม ? เจ้าตัวเล็กแค่นี้น่ะรึเสนอจะแก้พิษให้ข้า ข้าหาหมอปรุงยาขั้นสูงมาหลายท่าน พวกเขาล้วนบอกว่าไม่มีวิธีการใดรักษาได้”
“พวกเขาไม่มีวิธี แต่ข้ามี” มู่เฉียนซีกล่าวต่อท่าทางขึงขัง ยืดอก
“เด็กน้อย ข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไรล่ะ ?”
“ตามที่ตัวข้าไม่เคยพบเจอท่านมาก่อนแต่สามารถบอกอาการของท่านได้ และมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินครึ่งเดือนไม่สู้ครั้งสุดท้าย ท่านก็ไม่พอใจ ดังนั้นท่านควรเชื่อข้า”
มู่เฉียนซีในคราบหนุ่มน้อยมู่ซีพูดออกมา ท่าทางมั่นใจ ดวงตาสีเขียวอ่อนเปล่งประกายแสงแห่งความเชื่อมั่น
น้ำเสียงสดใสแฝงความภูมิใจ สายลมพัดเส้นผมสีเขียวอ่อนพลิ้วไหว ใบหน้างดงามราวรูปสลัก ทว่ากลิ่นอายเจือความร้ายเจ้าเล่ห์ราวปีศาจ ทรงเสน่ห์ดึงดูดใจผู้คน เหมือนมีแรงดึงดูดทำให้พวกเขาไม่อาจละสายตาไปได้
ฮั่วอวิ๋นสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนกล่าว “ได้ ข้าจะลองเชื่อเจ้า …ขอเพียงเจ้าช่วยข้าได้ เจ้าต้องการอาวุธแบบไหน ข้าทำให้โดยไม่คิดราคา”
มู่เฉียนซียกยิ้มมุมปาก นางกล่าว “ท่านพูดเองนะ น่าหลานอวี้ เจ้าเป็นพยานให้ข้าด้วย”
“ได้” น่าหลานอวี้ยิ้ม พยักหน้ารับ
“ยังจะให้คนเป็นพยานอีกเรอะ ? ข้าฮั่วอวิ๋นพูดคำไหนเป็นคำนั้น”
มู่เฉียนซีหัวเราะ “หึ ๆ กับคนเจ้าเล่ห์อย่างท่าน ไม่ใช่ว่าต้องมีพยานค้ำประกันหรือไร ?”
“พูดจามากความ เมื่อไหร่เจ้าจะถอนพิษให้ข้า ?”
“อืม ยิ่งทิ้งเวลาไว้นานยิ่งแก้ยาก ข้าจะแก้พิษให้ตอนนี้”
“ตอนนี้เลยรึ ?” ลูกตาของฮั่วอวิ๋นแทบถลนออกนอกเบ้า ความตกใจฉายชัดทั่วใบหน้า
“ใช่ ตอนนี้แหละ”
ชายคนนี้โชคไม่ดี นางพกเข็มเงินติดตัวมาชุดเดียว มู่เฉียนซีทำได้เพียงฝังเข็มสกัดพิษออกมาเท่านั้น
เนื้อตัวของเขาเต็มไปด้วยเข็มเงิน ร่างกายรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอันน้อยนิด ทุกครั้งที่เข็มหมุน เขารู้สึกได้ว่าร่างกายทุกส่วนผ่อนคลายไม่น้อย
หลังจากที่ฝังเข็มเสร็จแล้ว มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าขอยืมพื้นที่ในการปรุงยา”
“ยกเว้นห้องหลอมอาวุธที่อยู่ตรงแล้ว ห้องอื่นเจ้าสามารถเลือกได้ตามต้องการ” ฮั่วอวิ๋นเอ่ยตอบ
มู่เฉียนซีหยิบยาเหย้าจี้มาหนึ่งขวด หันมองชายหนวดเครารุงรัง “เอ้า ดื่มนี่เสีย จะช่วยท่านชะล้างพิษที่ตกค้างอยู่”
อึก ๆ… เสียงกลืนเป็นจังหวะ ฮั่วอวิ๋นไม่พูดอะไร ฉวยเอายาประหลาดกระดกดื่ม
ยาไหลลงคอ ผ่านไปสักพักฤทธิ์ยาก็ออกอาการ ฮั่วอวิ๋นรู้สึกว่ารูขุมขนทั่วทั้งร่างกายสบายขึ้น จนอยากจะตะโกนดัง ๆ ออกมาสักสามที
“ฮ่าห์ ฮ่าห์ ฮ่าห์!”
ยังมิหนำใจ ขออีกหนึ่งที
“ฮ่าห์!”
หมอไป๋ขมวดคิ้วถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เอ่อ ท่านฮั่ว พิษถูกถอนแล้วรึ ?”
“อืม” ฮั่วอวิ๋นกล่าวตอบ สีหน้าสบายใจ
หมอไป๋รู้สึกว่าเด็กหนุ่มมู่ซีผู้นี้ช่างแปลกประหลาดดีจริง ๆ ขนาดฮั่วอวิ๋นหานักปรุงยาขั้นสูงมามากยังไม่สามารถพบเจอวิธีถอนพิษได้ เจ้าเด็กคนนี้แค่ทำอะไรนิดหน่อย เขาให้ท่านฮั่วกินยาเหย้าจี้ก็ถอนพิษได้แล้ว
น่าหลานอวี้กล่าวชม “มู่ซี เจ้าเก่งกาจนัก เก่งมากกว่านักปรุงยาขั้นสูงอีก”
มู่เฉียนซี “ไม่ใช่ว่าข้าจะเก่งกว่านักปรุงยาขั้นสูง เพียงแต่ข้ามีความเชี่ยวชาญด้านยาพิษ ท่านก็รู้ดี”
“ถูก” น่าหลานอวี้ยิ้ม ครั้งนั้นตัวเขาก็โดนวางยาไปเหมือนกัน
ฮั่วอวิ๋นรอดตายมาได้ก็ตื่นเต้นดีใจไปสักพัก พอมีสตินึกได้ก็หันมาถาม “เด็กน้อย ข้าพูดจริงทำจริง บอกมาได้เลย เจ้าต้องการให้ข้าหลอมอะไร ?”
มู่เฉียนซีหยิบแบบรูปมา ฮั่วอวิ๋นได้เห็นถึงกับอึ้งงัน
“หืม! นี่มันคืออะไร ข้าหลอมอาวุธมานานหลายปี ไม่เคยเจอสิ่งนี้มาก่อนเลย”
มู่เฉียนซี “อย่าเพิ่งถามว่านี่คืออะไร สำคัญคือท่านสามารถทำมันได้หรือไม่ ?”
“ของแบบนี้ทำไม่ยาก เจ้ามีข้อกำหนดอะไรหรือเปล่าล่ะ ?”
มู่เฉียนซีกล่าว “เข็มต้องทำให้บางและคม ขนาดใหญ่หรือเล็กต้องตรงตามขนาด ห้ามขาดห้ามเกิน และยังมี…”
สำหรับคำร้องขอของมู่เฉียนซี ฮั่วอวิ๋นกล่าว “เรื่องพวกนี้ย่อมทำได้ แต่… ช่วงนี้ข้าไม่มีแร่ดี ๆ อยู่ในมือเลย”
มู่เฉียนซีนำก้อนแร่บางส่วนที่ได้รับมาจากการประมูลออกมา “เอ้านี่ ท่านเลือกดูเอาแล้วกัน”
“สวรรค์! เจ้านำสิ่งของล้ำค่าพวกนี้มาจากไหน ?” ฮั่วอวิ๋นรีบเข้าไปดู เสมือนคนหื่นกามเจอสาวสวยก็ไม่ปาน
“ยอดมาก ยังมีแร่ดาราสวรรค์รวมอยู่ด้วย” ดูเหมือนว่าวันนี้ฮั่วอวิ๋นจะพานพบความตื่นเต้นที่สุดในชีวิต เขาดีใจน้ำตาใสแทบไหลริน
มู่เฉียนซีกล่าว ท่าทีสบาย ๆ “หากท่านชอบก้อนแร่พวกนี้ เช่นนั้นนำมันหลอมหม้อปรุงยาขั้นสูงให้ข้าอีกอย่างได้หรือไม่ ?”
หม้อปรุงยาของตระกูลมู่คุณภาพต่ำเกินไป ควรที่จะเปลี่ยนให้ดีขึ้น
“ไร้ปัญหา”
“เช่นนั้นข้าก็ขอบคุณท่านฮั่ว”
มู่เฉียนซีตอนนี้มีความสามารถอันน้อยนิด หม้อยาเทพนิรันดร์ยังห่างไกลจากนางนัก
สีสันของท้องนภาเบื้องบนบอกเวลาเย็นแล้ว ฮั่วอวิ๋นให้มู่เฉียนซีมาเอาของหลังจากเจ็ดวัน ส่วนหม้อต้องรออีกครึ่งเดือน
ตลอดทางกลับเข้าเมือง น่าหลานอวี้ซักถาม “นี่มู่ซี ข้าคิดมาตลอดว่าตัวข้ารอบรู้ทุกอย่าง แต่ข้าไม่รู้จักสิ่งของนั้นที่เจ้าให้ปรมาจารย์ฮั่วอวิ๋นทำ มันคืออะไรรึ ?”
รอยยิ้มยากที่จะเดาอารมณ์ปรากฏบนใบหน้ามู่เฉียนซี “หึ ๆ สิ่งนั้นเป็นของหากินของข้า ไม่ว่าจะฆ่าคนหรือช่วยคน ก็ไม่สามารถขาดเข็มยาได้”
บนโลกนี้ ยาระดับสูงมิได้สมบูรณ์แบบเสมอไป ยาเหย้าจี้ของนางสามารถนำมาแทนสิ่งที่ขาดหายไปได้ ทำทั้งสองอย่างถึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
“เข็มยา” น่าหลานอวี้พึมพำสามคำนี้ แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่ามันคือสิ่งใด คุณชายน้อยผู้นี้ช่างลึกลับ เขามีความลับมากมายเกินไป
หลังจากกลับมาที่บ้านประมูลอันดับหนึ่ง มู่เฉียนซีเตรียมตัวลากลับกับน่าหลานอวี้
“เจ็ดวันให้หลัง ข้าไปเป็นเพื่อนเจ้าเอง” น่าหลานอวี้รีบกล่าว
มู่เฉียนซีโบกมือ เอ่ยขึ้น “ไม่ ๆ ไม่ต้องหรอก เจ้าเป็นถึงนายน้อยของบ้านประมูลอันดับหนึ่ง ยังมีงานให้สะสางอีกมาก เวลาเป็นเงินเป็นทอง ข้ารู้สถานที่แล้ว ข้าไปเองได้”
“แต่ว่า…”
ทว่าเขายังไม่ทันได้พูดจบ มู่เฉียนซีก็หายไปต่อหน้าต่อตาเขาแล้ว
ชายน้อยคนนี้มีวิทยายุทธต่ำกว่าเขาไม่น้อยเลย หากแต่วิชาด้านอื่น ๆ กลับเร็วกว่ามาก
จัดการเรื่องเข็มยาเรียบร้อย มู่เชียนซีก็ได้ทราบข่าวไม่ค่อยดีนัก
“ท่านผู้นำตระกูล สำนักศึกษาเตือนมาว่า ถ้าท่านยังหนีเรียน พวกเขาจะไล่ท่านออก” มู่เอ๋อร์รายงาน
.