ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 391 คำเรียกขานชวนอาเจียน
“พวกเจ้าระวังตัวด้วย” เมื่อมู่เฉียนซีกล่าวจบ เงาร่างสีม่วงก็พุ่งไปยังศาลาหยกขาว
อวิ๋นฮุ่ยที่ลุกขึ้นมาอย่างน่าสมเพชเห็นใบหน้าที่ดูสง่างามของสตรีผู้หนึ่ง สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปอย่างมาก “เป็นเจ้าอีกแล้ว”
นางตะโกนขึ้น “ท่านพ่อ รีบหยุดนางเอาไว้ อย่าให้นางเข้าไปใกล้ศาลาหยกขาวนั่นเด็ดขาดนะเจ้าคะ”
หม้อเทพใบนั้นยอมรับแต่สตรีงาม มู่เฉียนซีทำให้นางรู้สึกอันตรายเป็นอย่างมาก
เจ้าสำนักอวิ๋นกล่าว “ถ้าหากแม่หนูผู้นี้ทำได้ก็เป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง ขอแค่เพียงนางสามารถนำเอาหม้อเทพนิรันดร์ออกมาได้ พวกเราก็…”
เห็นได้ชัดว่าคนของหุบเขาหมอเทวดามีความคิดเช่นเดียวกับพวกเขา พวกเขามองมู่เฉียนซีด้วยดวงตาเป็นประกาย นางช่างเป็นสตรีที่งดงาม สมกับที่หม้อเทพนิรันดร์อาจจะเลือกจริง ๆ!
ในถิ่นทุรกันดารกลับมีบุคคลเช่นนี้ ทั่วทั้งแดนใต้นั้นยากที่จะหาสตรีใดที่เลอโฉมเช่นนางผู้นี้ได้
พวกเขามิเพียงไม่หยุดยั้งมู่เฉียนซี กลับกัน หากใครกล้าขวางมู่เฉียนซีหรือทำร้ายนาง เช่นนั้นพวกเขาได้สู้ตายกับคนผู้นั้นแน่นอน
คนของหุบเขาหมอเทวดาเหลือบมองไปที่อวิ๋นฮุ่ยและเจ้าสำนักอวิ๋นเยียนด้วยสายตาประหนึ่งกล่าวว่า ‘ก็ลองทำนางดูซี คงได้เห็นดีกันแน่นอน’
“แม่นางผู้เป็นที่รักของข้า ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏกาย มาสิ มาหาข้า…”
เมื่อมู่เฉียนซีเข้าใกล้ศาลาหยกขาว เสียงชั่วร้ายเสียงนั้นก็ได้ลอยออกมาอีกครั้ง
“แม่นางผู้เป็นที่รักของข้า ข้านึกว่าเจ้าคิดจะมองดูผู้อื่นยึดครองร่างกายของข้าไปเสียแล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้ามีชื่อ ข้าชื่อว่ามู่เฉียนซี”
เจ้าหม้อใบนี้เรียกขานเสียชวนอาเจียนเกินไป ใจของมู่เฉียนซีรับไม่ไหวจึงรีบแจ้งนาม
ก่อนหน้านี้เรียกว่าแม่นางคนงาม มาครานี้แม้แต่คำว่าแม่นางผู้เป็นที่รักยังเรียกออกมาได้
“แม่นางผู้เป็นที่รัก หรือว่าเจ้าไม่คิดว่าคำเรียกขานเช่นนี้น่ารักหรอกหรือ ?”
“เช่นนั้นข้าก็คงสามารถเรียกเจ้าว่าเจ้าหม้อน้อยจ๋าได้ใช่ไหมเล่า ?”
“ไม่ได้! ข้านั้นเป็นยอดแห่งหม้อทั้งปวงผู้มีนามว่าหม้อเทพนิรันดร์ ชื่อเรียกเช่นนั้นไม่เหมาะกับข้าเลย และข้าก็ไม่ได้เล็ก ไม่ว่าจะที่ใดก็ตาม เมื่อถึงตอนนั้นแล้วแม่นางผู้เป็นที่รักของข้าจะรู้เอง”
— ตึก! ตึก! —
มู่เฉียนซีถกเถียงกับหม้อเทพนิรันดร์ไปพลางขณะก้าวเดินเข้าไปในศาลาหยกขาว
นางก้าวเดินเข้าไปอย่างสบาย ๆ ราวกับว่าพลังแข็งกร้าวที่ตบพวกคนอื่น ๆ ที่พยายามจะเข้าไปหาหม้อกระเด็นออกไปนั้นไม่ได้มีอยู่เลย
อวิ๋นฮุ่ยริษยาจนแทบคลั่ง บัดซบดีแท้! เพียงเพราะนางผู้นั้นใบหน้างาม เจ้าหม้อนั่นจึงยอมให้เข้าใกล้ แต่นางกลับถูกไล่ตะเพิด
‘เจ้าหม้อบ้า! บังอาจมาทำกันเช่นนี้ได้’
มู่เฉียนซีเข้าไปใกล้หม้อเทพนิรันนดร์ แต่มันยังคงต่อต้านไม่ให้นางแตะต้องมันอยู่เช่นเดิม มันกล่าวขึ้นว่า “ตอนนี้ข้ายังไม่ถือว่าเป็นของเจ้า เช่นนั้นแล้วเจ้าไม่สามารถแตะต้องตัวข้าได้”
มู่เฉียนซี “เจ้าว่ามาเลย ข้าจะต้องทำเช่นไรเจ้าถึงจะยอมรับข้าเป็นนายท่านของเจ้า ถึงแม้ว่ายอมรับข้าเป็นนายท่านแล้ว อย่างน้อยเจ้าก็ต้องช่วยข้าจัดการเรื่องเรื่องหนึ่ง การทดสอบครั้งหนึ่งเมื่อก่อนหน้านี้เจ้ายังไม่พอใจอีกหรือ ?”
หม้อเทพนิรันดร์กล่าว “พอใจ แน่นอนว่าพอใจเป็นอย่างมาก ในใต้หล้านี้นอกจากข้านั้น เจ้าป็นนักปรุงยาที่มีพรสวรรค์ที่สุดแล้ว ข้าตั้งใจกับเจ้าไว้เป็นอย่างมาก”
“เช่นนั้นก็ยอมรับข้าเป็นนายท่านเร็วเข้าเถอะ”
“ฮ่า ๆ ๆ แม่นางคนงามนิสัยใจร้อนจริง ๆ รีบร้อนอยากที่จะครอบครองข้า แท้จริงแล้วข้านั้นไม่ใช่ว่าจะยอมให้ใครก็ได้”
มู่เฉียนซีรู้สึกเหมือนมีอีกามาบินอยู่บนหัวนางฝูงหนึ่งพลางร้อง กา! กา! นางกล่าวขึ้น “ข้าว่าเจ้านั้นมีชีพขึ้นมาได้แต่ไม่ใช่คน”
“แม่นางคนงามของข้ามีจิตใจเฉียบคมดีจริง ๆ ข้าเป็นผู้ที่กำเนิดขึ้นมา แน่นอนว่าไม่ใช่คน ข้าไม่ใช่คนตั้งแต่แรกแล้ว”
“เจ้านี่มากความเสียจริง จะอย่างไรก็ว่ามา สรุปแล้วเจ้าจะเอาอย่างไรกันแน่เจ้าหม้อเรื่องมาก ?”
“สำหรับข้า ความต้องการต่อผู้ที่จะมาเป็นนายท่านนั้น นอกจากจะต้องมีพลังจิตขั้นสุดแล้ว ยังจะต้องเป็นสตรีงามอย่างสุดขั้ว อ้อ ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น อย่างน้อยจะต้องวาดภาพพู่กัน เล่นหมากล้อม เล่นพิณ แต่ละอย่างต้องทำได้อย่างเชี่ยวชาญ”
ใบหน้าของมู่เฉียนซีหม่นคล้ำลง นางนั้นไม่ส่งเสียงอันใดออกมา ทั้งหมดที่หม้อกล่าวมา นางไม่ผ่านเลยแม้แต่อย่างเดียว
นางกล่าวขึ้น “เจ้ามีความต้องการมากเกินไป ข้านั้นทำให้เจ้าพอใจได้เพียงอย่างเดียว เจ้าบอกวิธีการแก้พิษโบราณมาให้ข้าก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องให้ข้าเป็นนายท่านก็ได้ เจ้าโลภมากเช่นนี้ข้าดูแลไม่ไหว”
“เจ้า… เมื่อเจ้าได้ฟังความปรารถนาของข้า เจ้ากลับไม่ต้องการข้าแล้วงั้นรึ ? เจ้าช่างใจร้ายนัก” หม้อเทพนิรันดร์กล่าวออกมาด้วยเสียงสั่นเครือราวกับกำลังสะอึกสะอื้น
มันนั้นเป็นถึงยอดแห่งหม้อทั้งปวง นักปรุงยาทั้งใต้หล้าไม่มีผู้ใดไม่อยากได้มันไป
ทว่าเมื่อเผชิญกับสาวน้อยผู้นี้ นางกลับขอแค่เพียงวิธีการแก้พิษโบราณเท่านั้น ล้อกันเล่นรึ ? ประโยชน์ของมันน้อยถึงเพียงนั้นเลยหรือ ?
“พิณ… หมากรุก… วาดภาพพู่กัน… ข้าเลือกวาดภาพ” มู่เฉียนซีกล่าวออกมา
“ได้! ข้ารอคอยเป็นอย่างมากว่าแม่นางผู้เป็นที่รักของข้าจะวาดภาพใด” หม้อเทพนิรันดร์กล่าว
มู่เฉียนซีหยิบเอาอุปกรณ์วาดภาพออกมาจากมิติเก็บของของนาง และเริ่มลงมือวาดภาพ
ผู้คนที่อยู่ด้านนอกนั้นรอคอยด้วยความสงสัยใคร่รู้ เมื่อเห็นมู่เฉียนซีจะวาดภาพ พวกเขาอดรู้สึกไม่ได้ว่าสมแล้วที่เป็นหม้อเทพนิรันดร์ หากคิดที่จะได้รับการยอมรับจากมัน คนผู้นั้นจะต้องมีความสามารถพิเศษในด้านต่าง ๆ
หวงฝูอวี้ถอนหายใจ เขากล่าว “แม่นางมู่มีใบหน้าที่งดงามอย่างนั้นก็เรื่องหนึ่ง ทว่าฝีมือการปรุงยาของนางยังเก่งกาจเสมือนเทพเทวดา อีกทั้งยังวาดภาพได้ ถ้าหากว่านายน้อยของเราได้ตบแต่งนางเข้าบ้าน ได้นางเป็นภรรยาก็คงดี”
“นายท่านรอง เช่นนั้นนายน้อยของเราต้องพยายามให้มากกว่านี้นะขอรับ สตรียอดเยี่ยมอย่างแม่นางมู่ คงจะมีบุรุษมากมายหมายปอง”
“อืม หลังจากที่เรากลับไปแล้ว เราจะสอนเสี่ยวอวี้ให้ดี”
หลังจากที่มู่เฉียนซีวาดเสร็จเรียบร้อย นางกล่าวถามขึ้น “ดูซะ และบอกข้าว่าเจ้าพอใจหรือยัง”
ในเวลานี้เอง ทั่วทั้งบรรยากาศสั่นสะเทือนไปด้วยเสียงหัวเราะอย่างใหญ่หลวงที่ลอยออกมา “ฮ่า ๆ ๆ พอใจ! ข้าพอใจอย่างมาก เจ้านั้นได้ใจข้าเป็นอย่างมาก”
ทุกผู้คนมองไปยังศาลาหยกขาวแห่งนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าแม่นางมู่วาดสิ่งใดถึงทำให้หม้อเทพนิรันดร์มีความสุขเช่นนั้น
ใบหน้าของมู่เฉียนซีเปลี่ยนกลายเป็นเย็นชา “เจ้านั้นลืมตัวปล่อยตัวมากไปเสียแล้ว กล่าววาจาอะไรก็ให้เบาหน่อยมิได้รึ ? เสียงดังไปกระมัง”
หม้อเทพนิรันดร์สื่อสารกับมู่เฉียนซีด้วยพลังจิต “แม่นางคนงาม ข้านั้นไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะมีความรู้ในด้านนี้ ข้ายิ่งชอบเจ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ เสียแล้ว ข้ายอมรับเจ้าเป็นนายท่านของข้าแน่แล้ว”
ทักษะการปรุงยาของมู่เฉียนซียอดเยี่ยม ส่วนเรื่องอื่น ๆ นั้นก็พอเรียนรู้มาบ้าง แต่นางไม่ใช่ระดับขั้นผู้เชี่ยวชาญ
เพื่อที่จะทำให้หม้อพึงพอใจ แน่นอนว่าต้องเอาใจให้ดี ดังนั้นแล้วมู่เฉียนซีจึงได้วาดสิ่งที่มันชอบดูเป็นอย่างมากออกมา
ในฐานะที่นางเป็นหมอยา จึงรอบรู้ในร่างกายของคนเป็นอย่างดี กอปรกับในยุคสมัยใหม่มี ‘อินเทอร์เน็ต’ ให้นางได้ดู ดังนั้นเมื่อวาดออกมาแล้วจึงทำให้เจ้าหม้อถึงกับใจเต้น
นางวาดสตรีงามเปลือยกาย… เห็นได้ชัดว่านางนั้นเดิมพันถูกทางแล้ว เจ้าหม้อนี้ถูกใจภาพวาดนางยิ่งนัก
มู่เฉียนซีกล่าว “ในเมื่อเจ้าพอใจในภาพวาดของข้า เช่นนั้นเจ้าจะบอกถึงวิธีแก้พิษโบราณชนิดนั้นแก่ข้าได้หรือยัง ?”
หม้อเทพนิรันดร์ “แท้ที่จริงแล้วเจ้ายังสามารถขอสิ่งที่มากเกินไปกว่านี้ได้อีก อย่างเช่นบอกให้ข้ายอมรับเจ้าเป็นนายท่าน เพียงเจ้าได้ครอบครองข้า อย่าว่าแต่พิษโบราณร้ายเพียงชนิดเดียว ถึงต่อให้เป็นพิษร้ายโบราณทั้งหมดทั้งมวล จะแก้พิษนั้นก็เป็นเรื่องเบาสบาย”
มู่เฉียนซี “ข้าไม่อยากที่จะมีผู้ที่กล่าวคำชวนอาเจียนใส่หน้าข้าให้ข้าฟังทุกวัน”
“อ่า! เช่นนั้นข้าเปลี่ยนคำ จาก ‘ที่รัก’ เป็น ‘ยาหยี’ เจ้าจะว่าอย่างไร ?”
“หุบปาก!”
“เช่นนั้นเปลี่ยนเป็นหวานใจ!”
“พอเลยเจ้าหม้อ เจ้าบอกข้ามา” มู่เฉียนซีเริ่มจะหมดความอดทน “บอกวิธีแก้พิษโบราณชนิดนั้นมา…”
มู่เฉียนซีชักจะทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ นางกำลังจะบังคับให้หม้อเปิดปากตอบคำถามนาง ปรากฏว่าทันใดนั้น มีแสงสีขาวแสงหนึ่งปรากฏขึ้นมาห่อหุ้มร่างนางเอาไว้
เสียงหนักอึ้งดังมา ประหนึ่งมาจากสมัยโบราณ “หม้อเทพนิรันดร์ ยอดหม้อแห่งหม้อทั้งปวง ยอดยาแห่งใต้หล้า วิญญาณของข้าจะอยู่กับเจ้า ทำสัญญาวิญญาณกับข้าผู้นี้ เจ้ายอมรับหรือไม่ ?”
มู่เฉียนซีรังเกียจเจ้าหม้อนี้เล็กน้อย เจ้านี่บีบบังคับจะทำพันธสัญญากับนาง! นางจึงได้อยู่ห่างจากมันออกมาหน่อย ทำให้หม้อเทพนิรันดร์ทำเสียงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน มันกล่าว “หากเจ้าไม่ทําพันธสัญญากับข้า อย่าได้คิดจะถามข้าถึงวิธีการล้างพิษโบราณจากปากของข้าเลย”
มันนั้นหลับใหลมานานเกินไป หรือว่าโลกนี้นั้นเปลี่ยนแปลงไวเกินไป มันถึงกับต้องบีบบังคับเพื่อให้บุคคลหนึ่งทำพันธสัญญากับมัน
เรื่องนี้ช่างทำให้ชื่อเสียงของมันเสียหายเสียจริง