ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 481 เหมือนมนุษย์ยิ่งขึ้น
กลุ่มนักฆ่าเหล่านี้ มีเป้าหมายที่ชัดเจน นั่นก็คือมู่เฉียนซี
อาวุธลับ ลูกธนูอันแหลมคมล้วนแต่พุ่งไปทางมู่เฉียนซี
ความเร็วนั้นรวดเร็วมาก นักฆ่ามีพลังวิญญาณขั้นจักรพรรดิระดับเก้า ต่อให้มู่เฉียนซีเรียกสัตว์พันธสัญญาออกมาตอนนี้ก็ขัดขวางไม่ทัน
หากเชียนอ้าวเซี่ยลงมือเคลื่อนไหวก็สามารถขัดขวางได้ แต่แผนการทุกอย่างที่เขาทำมาก็จะพังทลายสิ้น
เชียนอ้าวเซี่ยจึงมีทางเลือกแค่ทางเดียวเท่านั้น เขารีบพุ่งเขาไปขวางหน้ามู่เฉียนซีเอาไว้และรับการโจมตีนั้นแทนนาง
ฉึก!
กระบี่พิษแทงทะลุหลังเชียนอ้าวเซี่ย สองเล่มติดต่อกัน
เชียนอ้าวเซี่ย “เสี่ยวซีเอ๋อร์ ข้าเป็นคนโง่นัก! ข้าเดาไม่ออกหรอกว่าเจ้าโกรธข้าเพราะอะไร แต่ไม่ว่าข้าจะเป็นสวะไร้ประโยชน์ หรือจะเป็นยอดฝีมือ ข้าก็จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเจ้าเด็ดขาด! ”
กลุ่มนักฆ่าเหล่านั้นก็จะลงมือซ้ำอีกครั้ง!
แต่ทันใดนั้นเอง แสงสีเขียวส่องสว่างวาบขึ้น
ตูมมมมมมม!
จู่ ๆ นักฆ่าเหล่านั้นก็ถูกโจมตีด้วยพลังอันรุนแรงจนร่างกระเด็นพุ่งไปในอากาศทันที
คนผู้นี้มีผมสีเขียวดุจดั่งแพรไหม ใบหน้าที่สวยงามนั้นดุจดั่งภาพวาดหมึก สวยงามอย่างสุดที่จะพรรณนา งดงาม หมดจด สมบูรณ์แบบ
ทว่า บนใบหน้าที่สวยงามเช่นนี้ กลับไม่มีร่องรอยการแสดงออกของมนุษย์เลย
นักฆ่าเหล่านั้นถูกฆ่าตายเรียบในขณะที่ชิงอิ่งได้ปรากฏตัวออกมา!
สีหน้าของน่าหลานอวี้กับเชียนอ้าวเซี่ยแข็งทื่อด้วยความตะลึงพรึงเพริด ชายหนุ่มผู้นี้โผล่มาจากไหนกัน?
เชียนอ้าวเซี่ยที่มั่นใจในความงดงามของตัวเองมาโดยตลอด ตอนนี้เขาจำใจต้องยอมรับจริง ๆ ว่าชายหนุ่มผู้นี้รูปร่างหน้าตางดงามไม่ได้แย่ไปกว่าเขาเลย ความงามที่เหมือนจะตกตะกอนไปตามกาลเวลา ดูมีเสน่ห์ที่ไปอีกแบบ
เมื่อเห็นร่างที่คุ้นเคยนี้ปรากฏอยู่ด้านหน้า ดวงตาของมู่เฉียนซีก็ฉายแววตื่นเต้นขึ้น “ชิงอิ่ง! เจ้าตื่นแล้ว! ”
ชิงอิ่งมายืนตรงหน้ามู่เฉียนซี และกล่าวว่า “เสี่ยวซี เสี่ยวซี……”
“อืม! ข้าอยู่นี่! ”
“ไม่เป็นอะไรนะ! ”
“ข้าไม่เป็นไร”
“หิว! ”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย นี่แหละ ประเด็นสำคัญ!
มู่เฉียนซีโบกมือ เอายาวิญญาณที่ติดตัวมาทั้งหมดออกมา และกล่าวว่า “กินเถอะ! ไม่ต้องเกรงใจ”
เม็ดยาวิญญาณอันล้ำค่าเช่นนั้นถูกกลืนลงไปราวกับน้ำดื่ม ทุกคนเห็นเช่นนี้ต่างก็อึ้งกันไป ต่อให้เป็นนักปรุงยาก็ไม่ควรที่จะฟุ่มเฟือยเช่นนี้!
“อ๊าาาาาา! เสี่ยวซีเอ๋อร์ ข้ากำลังจะตายแล้ว รีบช่วยข้าเร็ว! ”
การบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเช่นนี้ ไม่สามารถทำให้ผู้มีพลังวิญญาณขั้นมหาจักรพรรดิตายได้ ทว่า บนกระบี่นั่นมีพิษ
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้ารักษาเองเถอะ! คนไข้เช่นเจ้า ข้ารักษาไม่ลง! ”
ปังงง!
มู่เฉียนซีโยนเชียนอ้าวเซี่ยให้กับน่าหลานอวี้
ไม่ว่ายังไงก็เป็นสหายที่เติบโตมาด้วยกัน น่าหลานอวี้จึงเอายาวิญญาณที่ดีที่สุดออกมาเพื่อรักษาอาการของเขา
อวิ๋นปู้ป้ายกล่าวถามว่า “แม่นางมู่ ไม่รู้ว่าตอนนี้ศิษย์สำนักอวิ๋นเยียนของข้าเป็นยังไงบ้าง? ”
น่าหลานอวี้กล่าว “รองเจ้าสำนักอวิ๋น นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าท่านอยู่ที่นี่ แต่กลับปล่อยให้นักฆ่าเหล่านั้นเข้ามาฉวยโอกาสเช่นนี้ได้ สำนักอวิ๋นเยียนทำได้แค่นี้เหรอ ตอนนี้องค์รัชทายาทบาดเจ็บสาหัส พวกเราจำเป็นต้องรีบนำตัวองค์รัชทายาทกลับไปรักษา ส่วนท่านก็อยู่รอศิษย์สำนักท่านที่นี่ก็แล้วกัน! ”
ศิษย์สำนักอวิ๋นเยียน ถ้าหากไม่ได้อะไร ก็ไม่สมควรมีชีวิตรอดกลับมา อวิ๋นปู้ป้ายรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง!
เมื่อพวกเขากลับมาที่เซี่ยตู ชิงอิ่งเองก็ตามกลับด้วย น่าหลานอวี้มาหามู่เฉียนซีด้วยความเร่งรีบ “ซีเอ๋อร์ นักฆ่าเหล่านั้นใช้พิษร้ายแรงมาก แต่ข้าไม่มียาแก้พิษเลย! ”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า “ข้ารู้! ”
น่าหลานอวี้เงียบไป ทำให้ซีเอ๋อร์โกรธนี่แย่จริง ๆ เลยเชียว!
มู่เฉียนซีกล่าว “ไปดูเขาสักหน่อยก็ได้! ข้าก็ไม่อยากปล่อยให้ยอดฝีมือมหาจักรพรรดิคนเดียวของเซี่ยโจวตายไปอย่างกล้ำกลืนได้”
เชียนอ้าวเซี่ยเดิมทีถูกพิษนั้นทรมานให้เจ็บปวดจนชีวิตเหลือเพียงแค่ครึ่งชีวิต แต่เมื่อได้เห็นมู่เฉียนซีอาการป่วยก็ดีขึ้นขึ้นมาทันที ทำแผลเสร็จ นางก็ฉีดยาให้เชียนอ้าวเซี่ย และทุกอย่างก็ได้รับการแก้ไข
เข็มยาสิบเข็มนั้นทิ่มแทงลงไปทุกบริเวณที่เขาบาดเจ็บ ทำให้เชียนอ้าวเซี่ยกรีดร้องดังลั่นด้วยความเจ็บปวด
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าว “เสี่ยวซีเอ๋อร์ ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้วจริง ๆ”
“ข้าเกิดมาเส้นปราณพลังก็ถูกตัดขาดตั้งแต่กำเนิด แต่แคว้นเฉียนเซี่ยกลับมีศัตรูอยู่รอบด้าน เสด็จแม่ของข้าถูกคนที่ส่งมาจากสำนักอวิ๋นเยียนทำพิษใส่ทรมานจนตาย ใต้หล้านี้จะอยู่อย่างไร้พลังวิญญาณไร้ความแข็งแกร่งไม่ได้”
“ข้าบังเอิญพบเคล็ดวิชาบางอย่างบางที่ซุกซ่อนโดยราชสำนัก มันทำให้อายุขัยของข้าลดลงเหลือเพียงแค่ยี่สิบปี แต่มันทำให้ข้ามีพลังวิญญาณขั้นจักรพรรดิระดับเก้า ข้าคิดว่ายี่สิบปีก็เป็นเวลาที่เพียงพอสำหรับการแก้แค้น และปกป้องเสด็จพ่อของข้าได้ แต่นึกไม่ถึงเลย ว่าข้าจะได้เจอกับเจ้า……”
“เจ้าต่อชีวิตให้กับข้าอีกสามปี แต่ข้ากลับยิ่งละโมบโลภมาก ข้า……”
“เสี่ยวซีเอ๋อร์ ข้าทำผิดต่อเจ้า เจ้าอุตส่าห์พยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะต่อชีวิตให้ข้า แต่ข้ากลับทำลายตัวเอง! ”
ใช่ เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเสี่ยวซีเอ๋อร์ถึงได้โกรธเขามากมายเช่นนั้น
มู่เฉียนซีกล่าว “รักษาตัวก่อนเถอะ! ส่วนเรื่องทำลายล้างสำนักอวิ๋นเยียนค่อยคิดหาวิธี วันเกิดครบรอบสามสิบปีของอวิ๋นเฟิ้งใกล้จะมาถึงแล้ว! ”
ใบหน้าของเชียนอ้าวเซี่ยฉายแววดีใจขึ้น ถึงแม้ว่าใบหน้าของเสี่ยวซีเอ๋อร์ยังคงเย็นชาอยู่ ทว่า เห็นได้ชัดว่าความโกรธของนางนั้นได้ลดลงมากแล้ว
เชียนอ้าวเซี่ยยิ้มพลางกล่าว “เสี่ยวซีเอ๋อร์ ตอนนี้ข้าได้รับพลังวิญญาณขั้นมหาจักรพรรดิเป็นมรดกจากบรรพบุรุษของข้าแล้ว สำนักอวิ๋นเยียนข้าจัดการคนเดียวได้ เจ้า……”
เขายังพูดไม่ทันจบ มู่เฉียนซีก็พูดตัดบทขึ้นว่า “เชียนอ้าวเซี่ย เจ้าคิดว่ามีแค่เจ้าคนเดียวเหรอที่มีความโกรธแค้นต่อสำนักอวิ๋นเยียน? ความแค้นบางอย่าง ข้าจะเอาคืนด้วยตัวข้าเอง”
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าว “ได้! เสี่ยวซีเอ๋อร์ว่ายังไงก็เอาตามนั้น”
หลังจากที่รักษาอาการบาดเจ็บของเชียนอ้าวเซี่ยเสร็จ มู่เฉียนซีก็ตะโกนเรียก “ชิงอิ่ง มานี่! ”
ชิงอิ่งนั้นเดินมาที่มู่เฉียนซีอย่างเชื่อฟัง มู่เฉียนซีเอาเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตออกมา แสงสีเขียวขจีเปล่งประกาย พลังแห่งชีวิตนั้นทำให้ชิงอิ่งเข้าไปสัมผัสมันโดยไม่ได้ตั้งใจ
เดิมทีเขาไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้เร็วเช่นนี้ แต่เป็นเพราะพลังของเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตนี้ที่ทำให้เขาตื่นขึ้นมาเร็วขึ้น
มู่เฉียนซีกล่าวถาม “ชิงอิ่ง สิ่งนี้มีประโยชน์กับเจ้าหรือไม่? ”
“อืม! ”
“ข้าให้เจ้า”
ชิงอิ่งอยากจะเอามันมา ทว่า เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และเงยหน้าขึ้นมองมู่เฉียนซี แต่เขากลับเรียบเรียงคำพูดออกมาไม่ได้
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้ารู้ว่าสิ่งนี้เป็นของล้ำค่ามาก แต่ต่อให้มันมีค่ามากแค่ไหนก็ไม่อาจเทียบกับเจ้าได้ ไม่ว่าเจ้าจะเป็นคนหรือจะเป็นหุ่นเชิด แต่เจ้า ก็เป็นสหายที่สำคัญกับข้ามากไม่ใช่เหรอ? ”
ดวงตาที่สงบของชิงอิ่งมีร่องรอยของคลื่นเล็กน้อย เขารับเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตมาจากมู่เฉียนซี จากนั้น……
กลืนมันลงไป?
ไม่ใช่เช่นนั้น มือของชิงอิ่งแทงเข้าไปที่หัวใจของตัวเอง!
เดิมทีร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งไม่มีสิ่งใดต้านทานได้ แต่ตอนนี้โดนตัวเองแทงแล้ว ต่อมาเขาก็เอาเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตนั้นวางลงไป
หลังจากนั้นร่างกายของเขาก็ปั่นป่วนอย่างสมบูรณ์อีกครั้ง ชิงอิ่งมองมู่เฉียนซีและกล่าวว่า “เสี่ยวซี ข้าจะหลับใหลลงอีกครั้ง! ”
“รอให้ข้าตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็น่าจะเป็นเหมือนเสี่ยวซีแล้ว”
“เหมือนข้า! ”
“เหมือนมนุษย์ยิ่งขึ้น! ”
เดิมทีชิงอิ่งไม่มีความคิดที่จะเป็นมนุษย์เลย เป็นเพราะมู่เฉียนซีต้องการเปลี่ยนหุ่นเชิดที่ไร้ความรู้สึก ไร้ความคิด ไร้ความรัก และไร้หัวใจให้กลายมาเป็นมนุษย์คนหนึ่ง
มู่เฉียนซีกล่าว “อืม! ข้าจะตั้งตารอ เจ้าพักผ่อนรักษาตัวดีดีเถอะ! ”
ตุบบบบ!
ร่างของชิงอิ่งล้มลงไปกับพื้นอีกครั้ง มู่เฉียนซีจึงนำเขากลับเข้าไปอยู่ในมิติ
“ซีเอ๋อร์! ” ตอนนี้เองน่าหลานอวี้ก็มาหามู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “น่าหลาน ได้เรื่องแล้วใช่ไหม นักฆ่าเหล่านั้นมาจากไหน แล้วใครส่งพวกมันมา! ”
.