ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 513 กุญแจเทพตกอยู่ในกำมือ
ตาเฒ่าบ้าหยิบกริชออกมาเล่มหนึ่งและเข้าหาหลินเอ๋อร์
ใบหน้าของหลินเอ๋อร์ซีดขาวราวกระดาษ “เจ้า นี่เจ้าจะทำอะไร ?อย่าเข้ามานะ”
“จะทำอะไรงั้นรึ ? ข้าสูญเสียพลังวิญญาณไปมากมายเช่นนั้น แน่นอนว่าเจ้าต้องช่วยทำให้ภารกิจของข้าสำเร็จ!”
ในขณะที่กริชเล่มนั้นกำลังจะฟันเข้าที่เส้นเลือดของหลินเอ๋อร์ แสงสีเงินก็สว่างวาบขึ้นมา
ติ๊ง! เสียงดังขึ้น และกริชเล่มนั้นก็ตกลงไปบนพื้น
แสงสีเงินนั้นหมุนวนและพุ่งเข้าหาตาเฒ่าบ้า ตาเฒ่าบ้ารับรู้ได้ถึงอันตรายจึงรีบหันหลบทันที!
ตูม!
ร่างในชุดม่วงเก็บเข็มยาเข็มนั้นกลับมา นางกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ตาเฒ่าบ้า เจ้าลองแตะต้องหลินเอ๋อร์ดูสิ”
ดวงตาของหลินเอ๋อร์เปล่งประกายขึ้น “พี่สาวมู่ พี่สาวมู่มาช่วยข้าแล้ว”
ตาเฒ่าบ้ากล่าวอย่างเย้ยหยันว่า “เจ้าหนู นางมาช่วยเจ้างั้นรึ เจ้าช่างไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!”
“นางก็ไม่ได้ต่างอะไรไปกับข้า กรีดเลือดของเจ้าแล้วเอาเจ้าไปบูชายัญ”
หลินเอ๋อร์กล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “ตาเฒ่า เจ้าพูดจาซี้ซั้ว พี่สาวมู่ไม่มีทางทำเช่นนั้นแน่นอน”
มู่เฉียนซีกล่าวติดตลกว่า “ตาเฒ่าบ้า เจ้าอายุแก่ปูนนี้แล้วยังจะมายั่วยุให้คนรุ่นหลังผิดใจกันอีกรึ เจ้าช่างทำตัวน่ารำคาญเสียจริง!”
ตาเฒ่าบ้ากล่าวอย่างโหดเหี้ยมว่า “ถึงแม้ว่าพลังของข้าจะลดลงไปมาก แต่พลังของเจ้าก็ลดลงไปมากเหมือนกัน เจ้าคิดว่าคนอย่างนะรึที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของข้า ?”
นางกินยาฟ้าดินซวนหวงไปถึงสามเม็ด พลังของมู่เฉียนซีตอนนี้ลดลงถึงขั้นราชาแห่งภูตระดับหกแล้ว ส่วนตาเฒ่าบ้าก็ไม่ได้ดีสักเท่าไหร่ พลังของเขาลดลงถึงขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่ง
ทว่า จักรพรรดิแห่งภูตคนหนึ่งคิดจะจัดการกับราชาแห่งภูตสักคนก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร
มู่เฉียนซีกลับยิ้มพลางกล่าวว่า “ตาเฒ่าบ้า เจ้าแก่มากแล้ว คงจะลืมอะไรบางอย่างไปกระมัง ถึงแม้ว่าพลังวิญญาณของข้าจะเทียบเจ้าไม่ได้ แต่พลังความแข็งแกร่งของสัตว์พันธสัญญาของข้านั้น แข็งแกร่งกว่าเจ้ามาก”
“อู๋ตี้ เสี่ยวหง ออกมา!”
มู่เฉียนซีพบว่า อู๋ตี้กับเสี่ยวหงไม่สามารถออกมาจากมิติได้
อาถิงกล่าวขึ้นมาว่า “นังผู้หญิงบ้า ตำหนักนี้ไม่ใช่มิติธรรมดาทั่วไปนะ เจ้าสองตัวนั่นออกไปไม่ได้ แต่สำหรับข้าแล้วมันไม่ใช่ปัญหาเลย เจ้าให้ข้าออกไปรับมือกับตาเฒ่านั่นเถอะ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ครั้งนี้ถ้าให้เจ้าออกมา ข้าก็ไม่ทางทำให้เจ้ากลับเข้าไปอีกครั้งแล้วใช่หรือไม่!”
“เจ้า……” อาถิงถึงกับพูดไม่ออก หญิงบ้านี่บทจะฉลาดก็ฉลาดขึ้นมาเชียว
“ข้าพูดถูกใช่ไหมล่ะ!”
“หญิงบ้า หากเจ้าโดนตาเฒ่านี่ฆ่าตายก็อับอายขายขี้หน้าแย่นะสิ ให้ข้าออกไปเถอะ ดีกว่าเยอะ!” อาถิงตะโกนเสียงดัง
ตูม!
การโจมตีของตาเฒ่าบ้าได้ตกลงมา
“เหอะ เหอะ เหอะ! เป็นอะไรไปล่ะ ? หรือว่าเจ้าค้นพบแล้วว่าสัตว์พันธสัญญาของเจ้านั้นไม่อาจออกมาได้” ตาเฒ่าบ้ายิ้มอย่างน่ากลัว
“ต่อให้ข้าไม่มีสัตว์พันธสัญญา ก็ใช่ว่าเจ้าจะฆ่าข้าได้!”
พลังขั้นจักรพรรดิก็คือพลังขั้นจักรพรรดิ อย่างมากก็แค่กินยาฟ้าดินซวนหวงต่อ ยังไงเสียจะยอมให้ภารกิจนี้สำเร็จไปไม่ได้เด็ดขาด พลังความแข็งแกร่งยังคงต้องถดถอยกลับไป
“สาวน้อย ข้าไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าเจ้าจะมีความสามารถบีบบังคับเพิ่มพลังวิญญาณได้!”
ปัง ปัง ปัง!
จักรพรรดิแห่งภูตคนหนึ่ง มู่เฉียนซีคิดจะใช้ทักษะพันเงาเพื่อหลบหลีกเขานั้นนับว่าไม่ยาก!
กระบี่มังกรเพลิงถูกชักออกจากฝัก มู่เฉียนซีตะโกนขึ้น “มังกรเพลิงพิฆาต!”
“ทักษะตี้ซวน!”
ตูม ตูม ตูม!
“พลังเพียงแค่น้อยนิด ไม่ควรค่าที่จะเอ่ยถึงเลย!” ตาเฒ่าส่ายหน้าพลางกล่าว และในตอนนี้เองรัศมีกระบี่นับไม่ถ้วนรายล้อมรอบ ๆ มู่เฉียนซี ไม่ว่าทักษะของมู่เฉียนซีจะรวดเร็วเพียงใด รัศมีกระบี่อันแหลมคมโดยรอบนั้นกลับพร้อมทำร้ายนางได้
ฉึก!
รัศมีกระบี่ฟันเข้าที่แขนของมู่เฉียนซีจนเลือดไหลซิบออกมาเล็กน้อย ตาเฒ่าบ้ายิ้มพลางกล่าวว่า “สาวน้อย เจ้าอย่าได้ขัดขืนโดยไร้ประโยชน์เลย มาให้ข้าฆ่าซะโดยดีเถอะ ข้าจะได้ใช้เด็กผู้นี้ไปทำพิธีบูชายัญสักที!”
ใบหน้าของหลินเอ๋อร์ซีดเผือด เขาตะโกนขึ้นว่า “พี่สาว พี่สาวไม่ต้องเป็นห่วงข้า รีบหนีไปเถอะ!”
ตอนนี้ตาเฒ่าบ้านี่เป็นเพียงแค่จักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่ง ความเร็วของมู่เฉียนซีหากคิดจะหนีเอาตัวรอดก็มิใช่ปัญหา แต่นางจะยอมหนีเอาตัวรอดคนเดียวแล้วปล่อยให้หลินเอ๋อร์ถูกฆ่าตายได้อย่างไรกันเล่า
“ดูท่ามีเพียงแค่ทางนี้ทางเดียวแล้ว!”
“หญิงโง่! หญิงโง่เง่า เจ้าคิดว่ายาฟ้าดินซวนหวงนั่นได้มาฟรี ๆ งั้นรึ ? วันนึงถึงได้กินไปมากมายเช่นนั้น ต่อให้ไม่มีผลข้างเคียงกับตัวเจ้า แต่เจ้าไม่รู้สุกเลี่ยนบ้างรึไง! ให้ข้าออกไปยังจะดีซะกว่า”
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าไม่เก็บพลังเอาไว้รับมือกับจิ่วเยี่ยหรอกเหรอ ? ตะโกนเรียกร้องอยู่ได้!”
ในขณะที่มู่เฉียนซีกำลังจะกินยาฟ้าดินซวนหวงเข้าไป จู่ ๆ ก็เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น
ตูม!
จู่ ๆ พื้นของหอนี้ก็แตกระแหง และมีแสงสีเขียวส่องประกายออกมาจากพื้นด้านล่าง
ตาเฒ่าบ้าเห็นแสงสีเขียวที่ส่องประกายนี้ ดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นมาทันที และลืมที่จะโจมตีมู่เฉียนซีไปในชั่วขณะ
เขาเอาตำราเก่าแก่สีเหลืองที่ขาดรุ่งริ่งออกมาอ่าน และพึมพำกับตัวเองว่า “แสงสีเขียวส่องประกาย กุญแจแห่งหอเทพจะปรากฏ ใช่แล้ว ใช่แล้ว……”
“แต่เทพบุตรยังไม่ได้ทำพิธีบูชายัญเลย กุญแจเทพจะเปิดผนึกออกมาได้ยังไง” เขาเหลือบไปมองเลือดที่หยดลงบนพื้น จากนั้นก็พลิกแผ่นหนังสือตำราไปอีกหน้า ดวงตาของเขาเบิกกว้างจนแทบถลนออกมานอกเบ้า “ผู้ที่ขึ้นไปในชั้นเจ็ดของหอเทพ ได้รับเลือดของหอเทพโดยสมบูรณ์ มิต้องทำพิธีบูชายัญ เพียงแค่กรีดเลือดเพียงเล็กน้อยก็สามารถครอบครองกุญแจเทพ และจะกลายเป็นนายของหอเทพ”
มู่เฉียนซีได้ยินคำพูดนี้ของเขาก็สามารถเข้าใจได้ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง!
มิน่าล่ะว่าทำไมกลไกวิญญาณของหอเทพไม่ได้กล่าวถึงเรื่องพิธีบูชายัญอะไรนี่ นางนั้นได้ผ่านด่านทดสอบชั้นที่เจ็ดของหอเทพแล้ว ดังนั้นนางจึงได้รับการยอมรับจากหอเทพมากกว่าเทพบุตร
ใบหน้าของตาเฒ่าบ้าโหดเหี้ยมขึ้นมาทันใด “เจ้า นังเด็กสาว นี่เจ้า……เจ้าขึ้นไปถึงชั้นเจ็ดของหอเทพแล้ว!”
แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีใครขึ้นไปถึงชั้นเจ็ดของหอเทพมาก่อน คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเด็กสาวผู้นี้จะทำได้
หากความจริงมิได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาเช่นนี้ ไม่ว่าอย่างไร เขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด
“เจ้าจะเอายังไง ?”
“เช่นนั้น ข้าจะฆ่าเจ้า! ขอเพียงแค่ข้าฆ่าเจ้า หอเทพก็จะยอมรับนายใหม่!” ตาเฒ่าบ้าพุ่งเข้าหามู่เฉียนซีราวกับสัตว์เดรัจฉานก็มิปาน ท่าทางโหดเหี้ยม หวังจะคร่าชีวิตมู่เฉียนซีให้ได้
มู่เฉียนซีหลบหลีก และในตอนนี้เอง กุญแจเทพก็ได้ลอยมาปรากฏอยู่ตรงหน้ามู่เฉียนซีด้วยตัวเอง แสงสีเขียวส่องประกายและได้ห่อหุ้มร่างของมู่เฉียนซีเอาไว้ จากนั้นก็ได้ขับตาเฒ่านั่นกระเด็นออกไป
ปัง!
ร่างของตาเฒ่าบ้ากระเด็นลอยไปอย่างรุนแรง
มู่เฉียนซีจับเอากุญแจเทพนี้และปกป้องมันไว้ นางกล่าวว่า “ตาเฒ่าบ้า เจ้าตัดใจเสียเถอะ! เจ้าไม่อาจฆ่าข้าได้ และไม่มีทางที่จะครอบครองหอเทพได้!”
“ตั้งแต่ที่ข้าได้ตำราโบราณเล่มนี้มา การจะได้กลายเป็นเจ้าของหอเทพ มันเป็นความปรารถนาอันยาวนานของข้า ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นเพราะเจ้าคนเดียว หากไม่ใช่เพราะเจ้า ภารกิจอันยิ่งใหญ่ของข้าก็คงจะสำเร็จไปแล้ว”
“วันนี้ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็ไม่ยอมให้หอเทพตกไปอยู่ในกำมือเจ้าเป็นอันขาด!”
ตาเฒ่าบ้า สมกับเป็นตาเฒ่าบ้าเสียจริง ชั่วครู่หนึ่งเขาก็ได้รวบรวมพลังอันน่าสะพรึงกลัวทั้งหมด เขาคิดจะทำลายตัวเองงั้นรึ ?
สีหน้าของมู่เฉียนซีพลันเปลี่ยนไปในทันที นางรีบดึงหลินเอ๋อร์ได้ด้านหลังนาง พลังการปกป้องของกุญแจเทพนั้น นางก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทรงพลังมากแค่ไหน ไม่รู้ว่ามันจะต้านทานพลังที่น่าสะพรึงกลัวในการทำลายตัวเองของตาเฒ่าบ้านี้ได้หรือไม่ หากมิอาจต้านทานได้ ก็คงต้องยุ่งเหยิงเป็นแน่!