ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 596 จิ่วเยี่ยขอแต่งงาน
หลังจากที่กลีบดอกบัวกลางทะเลสาบหุบลง สัมผัสทั้งห้าของทุกคนก็ปั่นป่วนขึ้น
ตอนนี้มู่เฉียนซีพบว่าตนเองนั้นได้อยู่ในป่าดงพงไพรแห่งหนึ่ง และสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ตรงหน้าตัวหนึ่งก็พุ่งเข้ามา
พลังกดดันของสัตว์ใหญ่ตัวนี้น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง แข็งแกร่งกว่าเสี่ยวหงและอู๋ตี้มาก และแข็งแกร่งกว่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ในป่าโยวอ้านเสียอีก
มันเหมือนกับภูเขาที่สูงใหญ่ พุ่งเข้าหามู่เฉียนซีอย่างรุนแรงดุจดั่งพายุที่พัดโหมกระหน่ำมา
หลบ?
ต่อให้ฝึกฝนทักษะฝีเท้าได้แข็งแกร่งก็ไม่อาจหลบหลีกไปได้ คู่ต่อสู้ตรงหน้าแข็งแกร่งมากจนนางไม่มีแม้กระทั่งทางหนีทีไล่ที่จะตอบโต้ได้เลย
ความร้อนระอุที่สัตว์ใหญ่ตัวนี้พ่นออกมา ทำให้เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นบนหน้าผากของมู่เฉียนซี คมเขี้ยวอันแหลมคมที่ยื่นออกมานอกปากกำลังจะกัดคอนาง ทำให้นางต้องก้มหน้าลงไป
ทุกอย่างที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านั้นน่าหวาดเสียวเป็นอย่างมาก แต่ใจของมู่เฉียนซีกลับยิ่งนิ่งสงบขึ้นมากเมื่อมันใกล้เข้ามา
ในขณะที่คมเขี้ยวนั้นเหวี่ยงไปมา แต่กลับทะลุผ่านร่างของมู่เฉียนซี นางไม่ได้บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย แม้กระทั่งเลือดสักหยดก็ไม่มี
สัตว์ใหญ่ตรงหน้าได้อันตรธานหายไปแล้ว ทั้งหมดมันคือภาพลวงตา
มู่เฉียนซีหลับตาลง สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ไม่ได้มีอยู่ในเสียโจวเลย และหากสำนักศึกษาซวนเสียเอาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้มาทดสอบกับนักเรียน นั่นหมายความว่าไม่อยากให้ผู้ใดในเสียโจวสอบผ่านได้ ดังนั้นต้องมีปัญหาแน่ ทุกอย่างล้วนแต่เป็นภาพลวงตาทั้งสิ้น
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ความจริง แต่ฉากที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้กลับเหมือนจริงเป็นอย่างยิ่ง และทำให้คนตกใจหวั่นกลัวได้
หากไม่สามารถรักษาจิตใจที่กล้าหาญและองอาจเอาไว้ได้ ก็คงจะเป็นลมหมดสติไปแล้ว หากพ่ายแพ้ต่อภาพลวงตานี้ เช่นนั้นการทดสอบด่านที่สองนี้ก็คงจะพ่ายแพ้ลงไปด้วย
“เป็นไปได้ยังไงที่จะผ่านรอบแรกไปได้เร็วเช่นนี้!”
อาจารย์ที่เฝ้าดูการทดสอบอยู่ข้างทะเลสาบ เมื่อได้รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านในก็ตกใจผงะไปครู่หนึ่ง
“ผ่านการทดสอบรอบแรกไปเร็วเช่นนี้ แทบจะทำลายสถิติของสำนักศึกษาเราแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นอัจฉริยะน้อยผู้ใดที่มีจิตใจแข็งแกร่งถึงเพียงนี้” ดวงตาของอาจารย์ผู้คุมสอบเปล่งประกายขึ้น
ในขณะที่มู่เฉียนซีลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ทุกอย่างตรงหน้าก็พลันเปลี่ยนไป
การทดสอบด่านที่สองนี้ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิดไว้จริง ๆ รอบแรกเมื่อครู่นั้นเกรงว่าจะเป็นแค่การเรียกน้ำย่อยเท่านั้น ตอนนี้ น่าจะเป็นเวลาของอาหารจานใหญ่จริง ๆ เสียแล้ว
ด้านหน้ามีไอน้ำปกคลุมอย่างหนาทึบ ตูม! เสียงน้ำกระจายดังสนั่นขึ้น
เส้นผมดำขลับดุจดั่งผ้าไหมสยายยาวโค้งอย่างมีเสน่ห์อยู่กลางอากาศ ช่างสมบูรณ์แบบอย่างมิอาจเปรียบเทียบได้ ร่างกายกำยำล่ำสันเผยพลังอันแข็งแกร่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุดออกมา
ร่างนั้นขยับเล็กน้อย เผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามและมีเสน่ห์ ความเย็นชาและเสน่ห์อันน่าหลงใหลนั้นกลับเต็มไปด้วยความชั่วร้ายเข้าไปถึงกระดูก
เขาเปรียบดั่งจ้าวแห่งการเข่นฆ่าผู้ไร้ซึ่งความรู้สึก ต่อให้เป็นปีศาจที่ยั่วยวนชวนให้ผู้คนหลงใหล แต่ก็เทียบกับเสน่ห์อันชั่วร้ายของเขามิได้เลย
จิ่วเยี่ย!
ในใจของมู่เฉียนซีเรียกชื่อนี้ออกมาอย่างมิอาจควบคุมได้ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ?
ทุกอย่างล้วนเป็นแค่ภาพลวงตา! ใช่ มันคือภาพลวงตา!
ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นมองมาที่มู่เฉียนซี เขาเอ่ยปากกล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “ซี!”
“คิดถึงเจ้าแล้ว”
พลังอันแข็งแกร่งนั้นดึงมู่เฉียนซีเข้าไปในบ่อน้ำพุร้อน ความงดงามของคนตรงหน้าก็ขยายใหญ่ขึ้นภายในดวงตาของมู่เฉียนซี
กลิ่นอายที่คุ้นเคยทำให้มู่เฉียนซีรู้สึกว่านี่คือจิ่วเยี่ย เขาบุกเข้ามาในโลกมายาแห่งนี้ ผู้แข็งแกร่งเช่นเขา บางทีอาจจะทำได้ก็ได้
ดวงตาสีฟ้าที่เย็นยะเยือกคู่นั้นดูเหมือนว่าจะกลืนกินวิญญาณของมนุษย์ได้ก็มิปาน มองมู่เฉียนซีเช่นนี้ยิ่งทำให้นางจมดิ่งลึกเข้าไป
“แต่งงานกับข้า!” เสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น เขาก้มหน้าลงคิดอยากจะจูบลงบนริมฝีปากนั้น
ไม่ใช่……
ไม่ใช่แน่นอน!
มู่เฉียนซีกัดลิ้นตัวเอง กลิ่นคาวเลือดและความเจ็บปวดภายในปากทำให้นางได้สติขึ้น
ซู่! มู่เฉียนซีขยับตัวออกจากคนตรงหน้าผู้นี้
“อย่าได้มาขวางหูขวางตาที่นี่ จิ่วเยี่ยจะไม่ขอแต่งงานเช่นเจ้า เพราะฉะนั้น เจ้าไม่ใช่ตัวจริง”
มู่เฉียนซีหลับตาลง การโจมตีด้วยภาพลวงตาเช่นนี้ไม่ได้ผลกับนาง
ไม่คิด ไม่คะนึงถึง ทุกอย่างก็จะอันตรธานหายไปเอง
“รอบสอง ผ่านแล้ว ถึงแม้ว่าความเร็วจะช้าไปหน่อย แต่ก็ทำได้ไม่เลวเลย!”
“เหอะ เหอะ เหอะ! รอบที่สาม!”
ในขณะที่มู่เฉียนซีลืมตาขึ้น ก็พบว่าบริเวณรอบ ๆ มีเสียงจ้อกแจ้กจอแจขึ้น……
นางมองไปที่สถานที่ด้านหน้า ชิงช้าสวรรค์ เรือโจรสลัด ม้าหมุน รถไฟเหาะ……
เสียงกรีดร้องดังสนั่นขึ้น ครึกครื้นเป็นอย่างมาก
ตอนนี้มู่เฉียนซีพบว่าตนเองนั้นได้กลายเป็นเด็กวัยสามขวบ มือซ้ายถูกบุรุษผู้งดงามผู้หนึ่งจูงไว้ มือขวาก็ถูกหญิงสาวผู้สง่างามจูงเช่นกัน
“ซีเอ๋อร์ อยากเล่นอะไร ? แดดดี้กับหม่ามี๊จะไปเล่นเป็นเพื่อน ?”
“อยากเล่นอะไรก็เล่นได้ทั้งนั้นเลย!”
หลังจากที่เล่นมาทั้งวัน ครอบครัวทั้งสามคนก็ดูอบอุ่นเป็นอย่างมาก
หลังเลิกงานชายหนุ่มกลับบ้านตรงเวลาทุกวัน ไม่เคยกลับมาช้ากว่าหนึ่งชั่วโมงเลย หญิงสาวก็ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก
พวกเขาเฝ้าดูบุตรสาวค่อย ๆ เติบโตไปอย่างช้า ๆ เข้าเรียนชั้นอนุบาล มัธยมต้น มัธยมปลาย มหาวิทยาลัย……
นี่เป็นครอบครัวที่มีความสุขมากครอบครัวหนึ่ง!
นี่คือชีวิตธรรมดาและชีวิตที่มีความสุขที่นางเคยต้องการ
ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะมีความสุขมาก แต่มู่เฉียนซีก็ไม่ได้ติดอยู่กับมันจนหาทางออกมาไม่ได้ ถึงแม้ว่าภาพลวงตานั้นจะแข็งแกร่ง แต่ความทรงจำที่ผ่านมาก็ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อนาง ต่อให้ภาพในวันนี้จะมีความสุขมากเพียงใด แต่นางก็มิอาจลืมภาพที่นองเลือดในค่ำคืนนั้นไปได้
“หม่ามี๊ อย่าทิ้งหนูไว้คนเดียว!”
ในตอนนั้นนางขอร้องอ้อนวอนอย่างที่สุด แต่ดูเหมือนว่าผู้หญิงผู้นั้นไม่ได้ยินสิ่งใดเลย คิดเพียงแค่ว่าอยากจะจากไปพร้อมกับชายที่ตนเองรักที่สุด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความรักหลงเหลืออยู่แล้วก็ตาม
เลือดสีแดงสดไหลย้อมชุดกระโปรงของนาง นางทำได้เพียงแค่มองดูผู้หญิงตรงหน้าค่อย ๆ หมดลมหายใจไปอย่างช้า ๆ ไม่สามารถทำสิ่งใดได้เลย
ในตอนนั้น ภายสมองของนางว่างเปล่า ราวกับวิญญาณได้หลุดออกจากร่างไปแล้วก็มิปาน
เสียงแก่ชราเสียงหนึ่งดังขึ้น “ช่างเป็นกลิ่นคาวเลือดที่มีความแค้นรุนแรงยิ่งนัก! คฤหาสน์ธรรมดาเช่นนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีกลิ่นคาวเลือดรุนแรงเช่นนี้”
ชายชรากระโดดบนหน้าต่าง ได้เห็นกับภาพที่เศร้าสลดด้านในนั้น เขาก็กล่าวอย่างทอดถอนใจว่า “เพียงแค่คำว่ารักคำเดียว หากลุ่มหลงจนลึกเกินไป แม้แต่คนธรรมดาก็ลุ่มหลงจนมิอาจฟื้นคืนได้ ตลอดไป”
ใช้ชีวิตมาเนิ่นนานมากแล้ว เขามองความรักในโลกนี้ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ทว่า สาวน้อยผู้ที่ดูเหมือนจะสูญเสียวิญญาณไปผู้นั้น กลับทำให้ดวงตาของเขาเปล่งประกายขึ้น
เขาตบไหล่นางและกล่าวว่า “สาวน้อย ตื่น ตื่น หากเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่กลายเป็นผักปลาก็ต้องกลายเป็นคนสมองทึ่มแน่!”
มู่เฉียนซีลืมตาและมองไปที่ชายชราผู้แปลกประหลาด เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งราวกับขอทานก็มิปาน
“บ้านหลังนี้เหลือเพียงแค่เจ้าผู้เดียวแล้ว เจ้ายอมไปกับข้าหรือไม่ ?”
“ทำไมต้องไปกับท่าน ?”
“ข้าจะสอนทักษะแพทย์ให้กับเจ้า คนที่เจ้าอยากจะช่วย แม้แต่เทพแห่งความตายก็มิอาจเอาไปได้!”
นางมองไปที่ผู้หญิงที่ไร้ซึ่งลมหายใจตรงหน้า และกล่าวถามว่า “ท่านพูดจริง ๆ เหรอ ?”
“ข้าไม่เคยโกหกใคร”
ภายในชั่วพริบตาในรัตติกาลนั้น ได้สูญเสียพ่อแม่ไป ญาติสนิทมิตรสหายรอบ ๆ ต่างก็เห็นอกเห็นใจเป็นอย่างมาก ทว่า กลับไม่มีผู้ใดยินดีรับภาระนี้ไว้เลย
เป็นเพียงแค่เด็กสามขวบ แต่ภายในชั่วข้ามคืนก็ดูเหมือนจะเติบโตขึ้นแล้ว มองทุกอย่างได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
เปลวเพลิงได้แผดเผาทุกอย่างในบ้านจนหมดสิ้น ความสุข บาปชั่ว ทุกอย่างได้หมอไหม้เป็นเถ้าถ่านดิน
“สาวน้อย ไปกันเถอะ!” ชายชรากล่าว
“อืม!”
ทว่า ในโลกมายานั้น ผู้เป็นแม่กำลังช่วยนางสวมชุดแต่งงาน นางกล่าวว่า “ซีเอ๋อร์เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในโลกเลย!”
ดวงตาของมู่เฉียนซีนั้นดูสดใส นางคือหมอปีศาจมู่เฉียนซี เหตุการณ์ในอดีตไม่สามารถโค่นล้มชีวิตใหม่ของนางได้ จากนี้ต่อไป มีเพียงแค่ทางที่นางเลือกเดินเอง!
มู่เฉียนซีกล่าวเบา ๆ ว่า “ถึงเวลาแล้ว ควรจะหายไปได้แล้ว!”