ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 829 พลังแห่งมิติ
หินแห่งมิติจำนวนมากอีกทั้งสภาพของมันดูแล้วมีคุณภาพดีเป็นอย่างมาก
หอฉงโหลวบนเมฆากล่าว “นายท่าน อย่าเข้าไป มันมีอันตราย!”
มู่เฉียนซีมิได้เคลื่อนไหว แต่ผู้อาวุโสของหุบเขาหมอเทวดากลับมิอาจรอได้และพุ่งเข้าไป
หัวหน้าซือคงเองก็เป็นผู้ที่รอบคอบผู้หนึ่ง เขามิได้พุ่งตามเข้าไปด้วย
หลังจากที่พวกผู้อาวุโสกลุ่มนั้นพุ่งเข้าไป มิติในห้องแห่งนี้ก็พลันเกิดการบิดตัวขึ้นมา
มิติที่อยู่ผิดตำแหน่งแห่งหนึ่งได้ตัดตัวของพวกเขาขาดเป็นเสี่ยง ๆ
เลือดสด ๆ สาดกระเซ็นออกมา สายตาของมู่เฉียนซีได้ส่อแววของความตกตะลึงออกมาอยู่บ้าง!
ทักษะในการพิฆาตฆ่าของมิตินั้นกลับทำให้ผู้คนไม่ทันระวังตัวได้ อีกทั้งยังโหดร้ายเช่นนี้!
หอฉงโหลวบนเมฆากล่าว “นายท่าน ข้า…. ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่ควรที่จะให้ท่านมาที่หอศิลาแห่งนี้ ซึ่งมันไม่เหมือนกับข้าเลยแม้แต่น้อย!”
“มันสามารถฆ่าคนได้ มันไม่ใช่อะไรที่ดีงามเลย ข้าทำให้นายท่านต้องเข้ามาในสถานที่ที่อันตราย ทำให้นายท่านถลำลึกเข้ามาในพื้นที่เสี่ยง”
มู่เฉียนซีกล่าว “เข้ามาก็เข้ามาแล้ว เจ้าจะกลัดกลุ้มไปมากกว่านี้ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร อีกทั้งยังมีสุ่ยจิงอิ๋งที่มีความสามารถในเรื่องมิติเข้าระดับขั้นจักรพรรดิคอยปกป้องอยู่ พลังประหลาดของหอศิลาแห่งนี้คิดจะทำร้ายข้า มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเช่นนั้น”
หอฉงโหลวบนเมฆพยักหน้ากล่าว “อื้ม! ข้าเองก็จะช่วยเหลือนายท่าน!”
หุบเขาหมอเทวดาได้สูญเสียยอดฝีมือไปแล้วอีกหลายคน หัวหน้าหุบเขาซือคงเองก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุด
“หินแห่งมิตินี้เป็นกับดัก พวกเราไม่มีทางได้มันมาได้ อย่างไรเสียก็กลับไปกันเสียเถอะ! จะได้ไม่ต้องมีคนเอาชีวิตมาทิ้งอีก” หัวหน้าหุบเขาซือคงกล่าวอย่างจนปัญญา
แต่มู่เฉียนซีกลับกล่าวขึ้น “ช้าก่อน!”
“มีหินแห่งมิติจำนวนมากมายอยู่เบื้องหน้า จะไม่เอาไปได้อย่างไร” มู่เฉียนซีเปิดปากกล่าว
ว่าแล้วนางก็ได้เดินเข้าไปดื้อ ๆ จวินโม่ซีเองก็เดินตามนางเข้าไปโดยที่มิได้ถามไถ่อะไรทั้งสิ้น
หัวหน้าหุบเขาซือคงกล่าว “เจ้าบ้าไปแล้ว คิดจะไปหาที่ตายหรือไง?”
แต่เมื่อมู่เฉียนซีเดินเข้าไปกลับไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นเลยแม้แต่น้อย
หอฉงโหลวบนเมฆาได้บอกเอาไว้แล้วว่า พลังแห่งมิติในห้องแห่งนี้สามารถใช้เพื่อสังหารได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อใช้ไปครั้งหนึ่งแล้วจะไม่มีพลังให้สามารถใช้ได้อีกเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน
ในตอนนี้ห้องแห่งนี้จึงปลอดภัยเป็นอย่างมาก
และความจริงก็เป็นเช่นนี้ มู่เฉียนซียิ้มแล้วกล่าว “เจ้าตะกละ เก็บหินแห่งมิติในห้องแห่งนี้ไปทั้งหมด อย่าได้เหลือให้พวกเขาแม้แต่ก้อนเดียว”
จวินโม่ซียิ้มแล้วกล่าวตอบ “นั่นมันแน่นอน! คนโง่เท่านั้นที่จะเหลือพวกมันเอาไว้ให้ไอ้พวกขี้ขลาดพวกนั้น”
เมื่อถูกจวินโม่ซีกระตุ้น พวกเขาก็อยากที่จะเข้าไปด้วย
แต่หัวหน้าหุบเขาซือคงกล่าว “อย่าเข้าไป ให้พวกเขาเก็บไป! อย่างไรเสียหินแห่งมิติพวกนั้นก็จะเป็นของหุบเขาหมอเทวดาของพวกเราทันที จะอยู่กับใครก็ล้วนแต่เหมือนกัน!”
“ขอรับ!”
มู่เฉียนซีได้กวาดหินแห่งมิติที่อยู่ในห้องแห่งนี้ไปเสียเกลี้ยงจนเหลือแต่ความว่างเปล่า!
หลังจากที่เก็บรวบรวมเสร็จสิ้นแล้ว มู่เฉียนซีก็กล่าวขึ้น “ไปต่อกันเถอะ!”
ห้องถัดไปก็ยังคงเป็นห้องที่เหมือนกันกับห้องที่ได้เก็บหินแห่งมิติไปแล้ว
ถึงแม้ว่าจะมองเห็นหินแห่งมิติชนิดต่าง ๆ กองพะเนินอยู่ แต่หัวหน้าหุบเขาซือคงและเหล่าผู้อาวุโสก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปสักเท่าไร
มู่เฉียนซีเองก็มิได้เคลื่อนไหวอย่างบุ่มบ่าม เพราะครั้งก่อนหน้านางได้กลายเป็นเป้าของผู้อื่นไปแล้ว ครั้งนี้นางไม่ต้องการที่จะพุ่งเข้าเป็นเป้าซ้อมอีกครั้ง
หอฉงโหลวบนเมฆากล่าว “นายท่านสามารถเข้าไปได้”
มู่เฉียนซีตะลึงงันแล้วกล่าว “ข้าสามารถเข้าไปได้? จะต้องให้เจ้าและสุ่ยจิงอิ๋งออกมือช่วยหรือไม่ ข้านั้นไม่สามารถที่จะต้านทานพลังแห่งมิติอันแข็งแกร่งนี้ได้เลยแม้แต่น้อย”
หอฉงโหลวบนเมฆกล่าวว่า “นายท่านอย่าได้ดูถูกข้าเช่นนี้สิ! ข้านั้นเป็นถึงหอฉงโหลวบนเมฆา! แม้ว่าหอศิลาแห่งนี้จะโหดเหี้ยมกว่าข้า แต่ระดับของมันนั้นไม่อาจที่จะเทียบกับข้าได้เลย ประเดี๋ยวท่านลงไปแล้วข้าจะบอกเส้นทางที่ปลอดภัยแก่ท่าน ถึงต่อให้มันอยากที่จะทำร้ายท่าน มันก็ทำไม่ได้!”
มู่เฉียนซีกล่าว “เช่นนั้นข้าจะเชื่อเจ้าสักครั้งหนึ่ง!”
มู่เฉียนซีได้บอกกล่าวแก่จวินโม่ซีไป และถึงแม้ว่านางจะทำเรื่องอันตรายที่ถึงขั้นว่าหากไม่ระวังแม้เพียงนิดเดียวก็สามารถทำให้ร่างขาดออกจากกันได้ จวินโม่ซีก็เข้าไปเป็นเพื่อนมู่เฉียนซีโดยมิได้โต้แย้งแม้แต่อย่างใด
“ตามรอยของข้ามา ต้องตามให้ติด ๆ” มู่เฉียนซีกล่าว
“ได้!”
“เจ้าไม่ตาย ข้าก็ยิ่งไม่ตาย! มิเช่นนั้นแล้วจะต้องอดกินของอร่อยไปมากน้อยเพียงใดกันเล่า!” จวินโม่ซีกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“ที่พวกเจ้าทำอยู่นี้คือรนหาที่ตาย!” หัวหน้าหุบเขาซือคงเห็นมู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีจะไปเสี่ยงอันตราย เขาก็เบิกตากว้างโพลงแล้วกล่าวออกมา
มู่เฉียนซียิ้มแล้วกล่าว “ใช่แล้วหัวหน้าหุบเขา! พวกเราจะไปรนหาที่ตาย ท่านจะไปหรือไม่?”
“ข้านั้นไม่ไปทำเรื่องไร้สาระกับพวกเจ้าด้วยหรอก”
“เช่นนั้นก็น่าเสียดาย!” มุมปากของมู่เฉียนซียกขึ้นเล็กน้อย
พวกนางมีหม้อสามอสูรเป็นป้ายคำสั่งเอาไว้ปกป้องชีวิตได้ พวกนั้นจึงไม่อาจที่จะลงมือฆ่าพวกนางได้
ถ้าหากว่านางเข้าไปรนหาที่ตายเอง ท่านผู้เฒ่าเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะกล่าวโทษเขามิใช่หรือ?
หลังจากที่มู่เฉียนซีและจวินโม่ซีได้เข้าไปแล้ว ทั้งมิติก็ได้เกิดการบิดตัวอีกครั้ง จากนั้นก็ได้บิดตัด…..
แต่ทว่าพลังนั้นกลับเพียงแค่ฟาดฟันผ่านที่ข้างกายของมู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีเท่านั้น มันมิได้ทำอันตรายแก่พวกเขาเลยแม้แต่ขนเพียงเส้นเดียว
หัวหน้าหุบเขาซือคงเองก็ตะลึงค้าง เมื่อไรกันที่มิติแห่งนี้จะเลิกทำลายชีวิตคนได้ มันช่างชั่วร้ายนัก!
แต่มู่เฉียนซีและจวินโม่ซีสามารถเข้าไปได้อย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน จากนั้นก็ได้เก็บกวาดหินแห่งมิติจำนวนมากและออกมาได้อย่างปลอดภัย
หินแห่งมิติมากมายเช่นนี้เพียงพอที่จะส่งมอบให้พวกเขาหุบเขาหมอเทวดา และบางทีมันยังอาจจะเหลือให้แก่พวกเขาเองอีกไม่น้อยเลย
ส่วนที่เหลือจากการส่งมอบ หากผู้เฒ่าหมอเทวดาไม่เอ่ยปาก เช่นนั้นมันก็จะกลายเป็นของส่วนบุคคลของพวกเขาไปเสีย
มีหินแห่งมิติมากมายเพียงนี้ นั่นมันเป็นการพัฒนาชัด ๆ
ในตอนนี้แม้แต่หัวหน้าหุบเขาซือคงเองก็ยังอิจฉาจนตาแดงก่ำว่าทำไมพวกเขาถึงได้โชคดีเช่นนี้?
จากนั้นมู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีก็ได้เปิดห้องอีกแห่งหนึ่งออก มู่เฉียนซีและจวินโม่เดินเข้าไปอย่างเฉยเมย
หัวหน้าหุบเขาซือคงกลัวตาย แต่ทว่ามีคนบางคนที่ตามมู่เฉียนซีเข้าไปเพราะหวังที่จะได้รับผลประโยชน์
พลังแห่งมิติอีกกลุ่มหนึ่งได้ปรากฏขึ้น มิติที่แตกแยกนั้นได้เริ่มการบิดตัดขึ้น!
“อ๊าก!”
เสียงกรีดร้องดังออกมา ภายในพริบตาผู้อาวุโสที่ตามเข้าไปนั้นก็ได้ตายไปอย่างที่ไม่อาจจะตายได้อีกครั้งแล้ว
คนอื่น ๆ นั้นแอบบังเกิดความยินดีกับตนเองที่โชคดีไม่ตามพวกนางเข้าไป
เมื่อหัวหน้าหุบเขาซือคงเห็นมู่เฉียนซีได้แบกหินแห่งมิติกลับมาอย่างเต็มพิกัดก็กล่าวขึ้น “สาวน้อย เจ้ากลับสามารถทำให้พลังแห่งมิติไม่สามารถทำอันตรายแก่เจ้าได้ เจ้ามีเคล็ดลับใช่หรือไม่? สามารถบอกแก่ข้าได้หรือไม่!”
มู่เฉียนซียกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ใช่แล้ว! มีเคล็ดลับ!”
ใบหน้าของหัวหน้าหุบเขาซือคงฉายแววแห่งความยินดีออกมา แต่มู่เฉียนซีกลับกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงอันชั่วร้ายว่า “แต่ทำไมข้าต้องบอกท่านด้วย! บุตรชายของท่านเกือบทำให้ข้าต้องตาย!”
“เจ้า…..” สายตาของหัวหน้าหุบเขาซือคงนั้นอยากที่จะฉีกนางออกเป็นชิ้นๆ
“พวกเราล้วนแต่เป็นสมาชิกของหุบเขาหมอเทวดา เช่นนั้นมิควรที่จะร่วมมือกันหรือ? หากมีหินแห่งมิติเหล่านี้หุบเขาหมอเทวดาของพวกเราจะต้องสามารถเหยียบสำนักเฟินเทียนเอาไว้ใต้เบื้องบาทาได้อย่างแน่นอน มิเพียงแต่จะสามารถเป็นสำนักปรุงยาอันดับหนึ่งแห่งแดนใต้ได้ อีกทั้งยังสามารถกลายเป็นสำนักนิกายระดับสามเพียงแห่งเดียวของแดนใต้ได้อีกด้วย”
หลังจากที่ได้เห็นความแข็งแกร่งของตำหนักเป่ยหานและตำหนักตงจี๋มาแล้วนั้น มู่เฉียนซีรู้สึกว่าการที่หัวหน้าหุบเขาซือคงคิดที่จะพัฒนาให้หุบเขาหมอเทวดากลายเป็นสำนักนิกายระดับสามนั้น มันช่างเป็นความเพ้อฝันของผู้โง่เขลาเสียจริง
จวินโม่ซีกล่าว “เก็บหินแห่งมิติมันก็มิใช่งานอะไรที่หนักหนาสากรรจ์ ทุกท่านนั้นมีอายุมากแล้ว อย่างไรเสียก็พักผ่อนอยู่ด้านข้างมองดูเอาก็พอแล้ว!”
คิดที่จะมาแบ่งถ้วยรางวัล ฝันไปเถอะ!
พวกเขานั้นมิใช่สมาชิกของหุบเขาหมอเทวดา หากแต่เป็นผู้มาล้างแค้นที่ต้องการจะทำลายล้างหุบเขาหมอเทวดา!
ต่อจากนั้น พวกเขานอกจากมองมู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีที่ได้เก็บหินแห่งมิติมาอย่างมากมายด้วยความอิจฉาจนตาแดง พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
มู่เฉียนซีได้กวาดหินแห่งมิติไปทั้งหมดจนห้องว่างเปล่าอีกครั้งหนึ่ง และตอนที่นางเตรียมตัวจะออกจากห้องแห่งนี้ไป หอฉงโหลวบนเมฆากลับกล่าวขึ้น “ช้าก่อนนายท่าน…..”