ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 969 เพียงแค่อยากจูบเจ้า
หลงฉือยิ้ม “กู้ไป๋อีนะกู้ไป๋อี! ตอนนี้ในสายตาของข้า เจ้าเป็นเพียงแค่มดปลวกตัวหนึ่งเท่านั้น เจ้าจะเอาอะไรมากล่าวเงื่อนไขกับข้า”
เขาทิ้งตัวลงบนพื้นแล้วกล่าว “ถ้าหากว่าเจ้านำกุญแจเทพเผ่ามังกรออกมาตั้งแต่แรกก็คงจะไม่ต้องลำบากเช่นนี้ เจ้าดูตัวเจ้าเถิด เลือดไหลออกมามากมายเช่นนี้ สาวน้อยคนงามคงปวดใจแย่”
กู้ไป๋อีกล่าว “เจ้าต้องการอย่างไรกันแน่ถึงจะยอมปล่อยนางไป?”
“หลงฉือกล่าวทวน “ปล่อยไป?”
สายตาของเขาจับจ้องไปที่มู่เฉียนซี “กู้ไป๋อี ถ้าหากว่าเจ้ามอบกุญแจเทพเผ่ามังกรออกมาละก็ ข้าก็จะทะนุทนอมสาวน้อยคนงามเหมือนเช่นเจ้า อย่างไรเสียสาวน้อยคนงามก็มีพรสวรรค์ที่ดีเช่นนั้น อีกทั้งยังเป็นนักปรุงยาอีกด้วย ข้านั้นฆ่านางไม่ลงจริง ๆ”
“ถ้าหากว่าเจ้าไม่ตอบตกลง ข้าจะให้สาวน้อยคนงามได้ลิ้มรสของการมีชีวิตอยู่อย่างไม่สู้ตาย อย่างไรเสียสาวน้อยก็งดงามเช่นนี้ ไม่มีชายใดไม่ชอบหรอกจริงไหม?” หลงฉือยิ้มอย่างอันตรายยิ่งนัก
รูม่านตาของกู้ไป๋อีหดเล็กลงพลัน ดวงตาอันเย็นยะเยือกคู่นั้นได้แผ่จิตสังหารออกมา แต่ทว่าในตอนนี้เขากลับไม่สามารถทำอะไรได้ทั้งสิ้น
เมื่อเงาร่างสีม่วงเริ่มขยับ มู่เฉียนซีก็ได้พุ่งเข้าไปแล้วกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “หลงฉือ เจ้ารนหาที่ตาย!”
“ทักษะโยวหลัว!”
พลังของหลงฉือในตอนนี้มากมายกว่านางมากนัก เขาสามารถหลบหลีกไปได้อย่างง่ายดาย
“ช่างเป็นแมวป่าตัวน้อยแผงเขี้ยวแผงเล็บเสียจริงนะ! ถึงต่อให้พลังความสามารถของเจ้าจะเพิ่มขึ้นไปจนถึงขั้นจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่เก้าเต็มขั้นก็ยังมิใช่คู่ต่อสู้ของข้า”
“บัวแดงพิฆาต!” มู่เฉียนซีได้ระเบิดพลังกระบี่ออกไปอีกครั้ง
นางยังคงมิสามารถโจมตีได้ถูกเป้าอีกเช่นเดิม หลงฉือยิ้มแล้วกล่าว “สาวน้อยคนงาม ดูท่าแล้วข้าจะต้องสั่งสอนเจ้าเสียหน่อย เจ้ามันดื้อรั้น แต่สบายใจเถอะ! ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า”
ดาบสีดำเล่มนั้นได้พุ่งกวาดไปทางมู่เฉียนซี
กู้ไป๋อีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หลงฉือ เจ้ากล้าดีนัก!”
ดาบสีดำเล่มนั้นโจมตีไปทางเอวของมู่เฉียนซี ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับของกู้ไป๋อี ดวงตาของมู่เฉียนซีฉายแวมืดครึ้มออกมา
“คุณหนูใหญ่!” สายตาของกู้ไป๋อีมองไปยังมีดที่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บอย่างหนักเมื่อครู่นี้ที่กำลังจะทำร้ายมู่เฉียนซีอย่างรุนแรง
เมื่อนึกถึงตัวของนางที่จะลงไปนอนจมอยู่ในกองโลหิต บนหน้าของกู้ไป๋อีนั้นก็ไม่เหลือสีหน้าที่มีเลือดหล่อเลี้ยงแล้วแม้แต่น้อย
บึ้ม! เสียงดังสนั่นจากการโจมตีดังขึ้น แสงสีฟ้าได้ป้องกันดาบสีดำนั้นของหลงฉือเอาไว้
มู่เฉียนซีได้โคจรเคล็ดวิชาย่างก้าวเงาเทวาขึ้นมาและพุ่งไปทางหลงฉือ!
นางไม่เป็นไร! กู้ไป๋อีโล่งใจไปเปราะหนึ่ง
หลงฉือยิ้มแล้วกล่าว “นึกไม่ถึงเลยว่าบนตัวสาวน้อยคนงามจะมีอาวุธวิญญาณประเภทป้องกันอยู่ด้วย ลงดาบไปครานี้มิได้เห็นเลือดของเจ้า ช่างทำให้ข้าผิดหวังเสียจริง”
“เจ้าจะไม่ผิดหวังหรอก เพราะเจ้าจะได้เห็นเลือดของตัวเจ้าเอง”
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!
มู่เฉียนซีได้ขว้างยาทั้งหมดที่มีออกไปอย่างบ้าคลั่ง!
บึ้ม! ห่อพิษและกระสุนพิษแต่ละชนิดได้ถูกปล่อยออกไปอย่างเอาเป็นเอาตาย
“มังกรวารีพิฆาต!”
“บัวแดงพิฆาต!”
“ทักษะโยวหลัว!”
ระหว่างแสงสายฟ้าและศิลาเพลิง มู่เฉียนซีได้ใช้ทุกกระบวนท่าที่นางมีออกมาเพื่อโจมตีหลงฉือจนหมด
“แค่ก แค่ก แค่ก!”
ด้วยระดับที่ต่างชั้น ถึงแม้ว่ามู่เฉียนซีจะได้งัดไม้ตายที่เก็บงำเอาไว้ออกมา แต่ก็ยังคงทำอะไรหลงฉือไม่ได้อยู่เช่นเดิม
เขาก้าวออกมาก้าวใหญ่ ๆ แล้วพุ่งออกมาจากหมอกควันพิษนั้น
“ลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอก”
“ครานี้ข้าจะต้องให้สาวน้อยคนงามได้เห็นเลือดเสียหน่อย” จากนั้นดาบนั้นก็ได้ฟาดฟันเข้าไปอีกรอบ
มู่เฉียนซีกุมกระบี่มังกรเพลิงเอาไว้แน่นพร้อมกล่าว “มังกรเพลิง จงสู้จนถึงท้ายที่สุด!”
นางมีชิ้นส่วนของสุ่ยจิงอิ๋งอยู่สองชิ้น ซึ่งสามารถรับการโจมตีที่แข็งกล้าให้นางได้สองหน
เมื่อดาบที่คมกริบได้เข้ามาใกล้นางก็ได้ปรากฏแสงสีฟ้าขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
หลงฉือขมวดคิ้วเล็กน้อย “อาวุธวิญญาณป้องกันที่แข็งแกร่งเช่นนี้กลับสามารถป้องกันการโจมตีของข้าได้ถึงสองหน เป็นของที่ดีจริงเชียว!”
มู่เฉียนซีได้ฉวยโอกาสนี้รวบรวมพลังวิญญาณจากทั้งตัวแล้วใช้กระบวนท่าบัวแดงพิฆาต!
ตูม! ดอกบัวเพลิงสีแดงได้ถูกปล่อยออกไป
หลงฉือโบกมือขึ้น จากนั้นก็ปรากฏเป็นม่านป้องกันขึ้นมาแห่งหนึ่ง เปลวเพลิงที่เผาทำลายล้างได้ทำลายม่านพลังนั้นจนเกิดเป็นรูเล็ก ๆ ขึ้นมา
ฟึ่บ! เปลวเพลิงนั้นได้ตกไปอยู่บนเสื้อผ้าอาภรณ์ของเขาและเกิดการลุกไหม้
แควก! เมื่อเสื้อผ้าของตนได้ติดไฟขึ้นมา หลงฉือก็ได้ฉีกมันออกไปในทันที
เขามองไปทางมู่เฉียนซีอย่างชั่วร้ายแล้วกล่าว “นึกไม่ถึงเลยว่าการโจมตีของเจ้าจะสามารถทำลายเสื้อผ้าของข้าได้ ช่างนอกเหนือความคาดหมายเสียจริง ข้าไม่เชื่อว่าอาวุธวิญญาณป้องกันของเจ้าจะสามารถปกป้องเจ้าได้อยู่ตลอด”
เมื่อหลงฉือลงมืออีกครั้งก็พลันมีเสียงอันเย็นยะเยือกและโหดเหี้ยมลอยมา
“ข้ามาแล้ว เจ้าคิดว่ายังจะต้องใช้เครื่องป้องกันมาป้องกันอีกหรือ?”
แสงสีฟ้าอ่อนได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของมู่เฉียนซี เงาร่างที่สูงใหญ่นั้นก็ได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของนางเช่นนี้ และกันอันตรายทุกสิ่งอย่างให้แก่นาง
จิ่วเยี่ยมาแล้ว สุ่ยจิงอิ๋งได้ป้องกันการโจมตีที่แข็งแกร่งให้แก่มู่เฉียนซีถึงสองหน เขาเองที่มีชิ้นส่วนของสุ่ยจิงอิ๋งอีกชิ้นส่วนหนึ่งไฉนเลยจะรับรู้มิได้
“เจ้าเป็นใครกัน?” หลงฉือมองบุรุษตรงหน้าผู้สวมหน้ากากผีที่ราวกับเทพมารก็มิปาน
การมาถึงของจิ่วเยี่ยทำให้กู้ไป๋อีโล่งอก
ราชาจิ่วเยี่ยมาถึงแล้ว เช่นนั้นก็ควรที่จะสามารถรับมือกับหลงฉือได้แล้วกระมัง!
สายตาของจิ่วเยี่ยจับจ้องที่ตัวของหลงฉือ “คนของเผ่าคำสาปมีกลิ่นอายที่ทำให้ข้าขยะแขยงอยู่อย่างหนึ่ง”
“เจ้า…เจ้ารู้…”
“วันนี้ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครก็ไม่สามารถหยุดยั้งมิให้ข้าคว้ากุญแจเทพเผ่ามังกรมาได้” ใบหน้าของหลงฉือกลายเป็นใบหน้าที่โหดร้ายขึ้นมาและพุ่งไปทางจิ่วเยี่ย
“ในที่นี้ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร! พลังความสามารถนั้นจะถูกจำกัดเอาไว้ที่ระดับจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่เก้าสูงสุดเท่านั้น เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าอย่างแน่นอน” หลงฉือยิ้มเยาะ
“ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมดปลวกเช่นเจ้า เจ้าคิดว่าเป็นไปได้หรือ?”
เงาร่างสีดำได้ขยับกายอย่างรวดเร็ว จิ่วเยี่ยได้ก้าวออกไป!
พลังอันมืดมนที่สามารถทำลายล้างทุกสิ่งอย่างได้พุ่งเข้าไปทางหลงฉือเช่นกัน
มิผิดที่พลังความสามารถของจิ่วเยี่ยนั้นได้ถูกจำกัดเอาไว้แล้ว แต่พลังวิญญาณที่เขามีพร้อมทั้งพลังทำลายล้างนั้นช่างน่าตกตะลึงยิ่งนัก
“อ๊าก!” เมื่อถูกพลังของจิ่วเยี่ยโจมตีเข้าไปก็ไม่มีที่ให้หลงฉือนั้นได้ตอบโต้เลยแม้แต่น้อย
เขาเบิกตากว้างโพลงแล้วกล่าว “เป็นไปได้อย่างไร? เจ้า…เจ้าเป็นใครกันแน่? หรือว่า…หรือว่าเจ้า…เจ้าคือ…”
จากนั้นเงาร่างของหลงฉือก็ได้ถูกความมืดมิดทำลายไปอย่างสมบูรณ์
ราชทินนามเฮยเองก็รู้สึกหวั่นกลัวเล็กน้อย เมื่อครู่นี้ฝ่าบาทหลงฉือนั้นมีพลังเกินขอบเขตที่ยากที่จะต้านทานไปแล้ว และเห็นได้ชัดว่าบุรุษผู้นี้ก็ได้ถูกจำกัดขีดพลังความสามารถไปแล้วเช่นกัน แต่เขากลับสามารถแค่เพียงโบกสะบัดมือก็ทำให้หลงฉือนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้
ช่างวิปริตอะไรเช่นนี้!
“นายท่าน ข้ารู้ผิดแล้ว” เมื่อฝ่าบาทหลงฉือนั้นได้สิ้นชีพไปแล้ว มาตอนนี้ราชทินนามล่วนจึงทำได้เพียงแต่คุกเข่าอ้อนวอน
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ราชทินนามเฮย ฆ่าเสีย ข้าไม่อยากจะเก็บผู้รอดชีวิตเอาไว้!”
“รับทราบ!” ทันใดนั้นราชทินนามเฮยก็ได้ฆ่าเขาเสียอย่างเหี้ยมโหด
มู่เฉียนซีกล่าว “ไป๋อีต้องการรักษา พาเขาไปพักผ่อน”
บัดนี้หลงฉือได้ตายไปแล้ว เมืองเฮยตูเองก็มิได้อันตรายดังก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นมู่เฉียนซีก็เลยจะอยู่รักษาบาดแผลเสียที่นี่ก่อน
ในตอนนี้เอง จิ่วเยี่ยได้นำมู่เฉียนซีเข้าไปไว้ในอ้อมอก
“ซีมาถึงสถานที่อันตรายเช่นนี้เลย?” จิ่วเยี่ยกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ
มิเพียงแค่มาเท่านั้น อีกทั้งยังปะทะเข้ากับคนของเผ่าคำสาปเสียด้วย
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าดีใจยิ่งนักที่ข้ามาที่นี่ ข้าได้สิ่งที่ไม่ธรรมดาเป็นอย่างมากมาสิ่งหนึ่ง จิ่วเยี่ยเจ้าอยากจะรู้หรือไม่?”
จิ่วเยี่ยโน้มตัวเข้าไปใกล้มู่เฉียนซีแล้วกล่าว “ข้าไม่อยากรู้ข่าวดีอะไรทั้งนั้น ข้า…”
“เพียงแค่อยากจูบเจ้า!”
“อื้อ!” ทันทีที่จูบลงไปนั้น จิ่วเยี่ยก็ได้ช่วงชิงเอาอากาศของนางไปเสียจนหมด
มู่เฉียนซีไร้เรี่ยวแรงเป็นอย่างมาก เจ้าหมอนี่ไม่ออกไพ่ตามหลักธรรมดาทั่วไปเลยสักนิด!
.
.