ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] - บทที่ 119 ไม่มีวันสงบสุข
ภาพเงาของอวี้ฮ่าวหรานเมื่อครั้งตอนที่ยังเป็นจักรพรรดิเทพปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคนอย่างเด่นชัด!
นี่ไม่ใช่การโจมตีทางจิต แต่มันเกิดจากพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ยังคงแฝงอยู่ในตัวของอวี้ฮ่าวหราน
“นี่มันบ้าอะไรกัน! แกเป็นตัวอะไรกันแน่!”
เมื่อเห็นปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้น ชายวัยกลางคนอดไม่ได้ที่จะอุทานขึ้นมาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
ไม่ใช่เพราะฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งมากเกินที่เขาจะหยั่งถึง แต่มันเป็นเพราะกลิ่นอายของฝั่งตรงข้ามที่ปลดปล่อยออกมามันให้ความรู้สึกน่าสยดสยองอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน!
เมื่อเทียบกับกลื่นอายสังหารที่น่าสมเพชของพวกเขา มันไม่ต่างอะไรกับพวกเขาเป็นเด็กหกขวบที่บังอาจไปท้าสู้นักมวยรุ่นเฮฟวี่เวท!
“นี่แกฆ่าคนตายไปกี่คนกัน? นี่มันเป็นไปได้ยังไง! มันเป็นไปได้ยังไง!”
“พระเจ้า! แรงกดดันแบบนี้เขาต้องเคยฆ่าคนไปหลายพันคนแล้วแน่ๆ ไม่งั้นมันไม่มีทางรุนแรงจนแทบหายใจไม่ออกแบบนี้!”
“บ้าเอ๊ย นี่มันไม่เป็นไปตามแผน พวกเราซวยแล้ว!”
คนขององค์กรอสรพิษทั้ง 5 คนนี้ต่างเป็นนักฆ่ามาทั้งชีวิตดังนั้นพวกเขาจึงคุ้นเคยกับเรื่องของกลิ่นอายสังหารเป็นอย่างดี ซึ่งมันทำให้พวกเขาเข้าใจได้อย่างชัดเจนเลยว่าเป้าหมายของพวกเขาคราวนี้ไม่ใช่ตัวตนที่พวกเขาจะเทียบด้วยได้!
“ฉันฆ่าไปแล้วกี่คนงั้นเหรอ? จำนวนก็น่าจะพอๆ กับคนทั้งหมดในโลกนี้เลยล่ะมั้ง?”
อวี้ฮ่าวหรานตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกพร้อมกับค่อยๆ เดินเข้าไปหาชายวัยกลางคนที่เป็นผู้นำกลุ่มนักฆ่ารอบนี้
ในช่วงเวลา 3 หมื่นปีที่เขาปกครองสวรรค์ชั้นที่ 33 มีนับครั้งไม่ถ้วนที่สิ่งมีชีวิตจากโลกอื่นๆ บุกรุกเข้ามาสร้างความวุ่นวายในสวรรค์ชั้นที่ 33 ของเขา ซึ่งในฐานะผู้ปกครอง เขาก็มักจะสังหารพวกมันไปพร้อมกับโลกของพวกมันทั้งหมดด้วยความหงุดหงิด!
“แม่งเอ๊ย…! ถึงแม้ว่าแกจะแปลก แต่ฉันไม่เชื่อว่าแกจะไร้เทียมทานถึงขนาดพวกฉัน 5 คนฆ่าแกไม่สำเร็จ! ทุกคนบุก!”
ขณะนี้ชายวัยกลางคนผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ เขาต้องการที่จะกำจัดชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าที่ทำให้เขาหวาดกลัวให้เร็วที่สุด
เมื่อได้รับคำสั่ง นักฆ่าอีกสี่คนที่ยืนล้อมอวี้ฮ่าวหรานอยู่เมื่อครู่ต่างก็พากันชักมีดออกมาจากเอวและพุ่งตัวเข้าหาอวี้ฮ่าวหรานทันที!
ในทางกลับกัน สีหน้าของอวี้ฮ่าวหรานไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อยแม้จะถูกโจมตีจากทุกทิศ ในวินาทีที่มีดทุกเล่มกำลังจะสัมผัสตัวของเขา อวี้ฮ่าวหรานตะโกนขึ้นเสียงดังอีกครั้ง
“ไร้สาระ!”
อึดใจต่อมา อวี้ฮ่าวหรานโคจรพลังวิญญาณอย่างรวดเร็วแล้วปลดปล่อยมันออกจากร่างอย่างฉับพลัน ส่งผลให้เกิดคลื่นพลังวิญญาณกระจายออกไปเป็นวงกว้างรอบตัว
บรึ้ม!!
“อั่ก!!”
บรรดานักฆ่าทั้งหลายที่โดนคลื่นพลังวิญญาณในระยะประชิดต่างกระเด็นกระดอนกันออกไปคนละทิศละทาง พวกเขาทุกคนต่างกระอักเลือดออกมาคำโตและสิ้นใจไปในทันทีก่อนที่ร่างของพวกเขาจะหล่นลงถึงพื้นซะอีก!
ทางด้านของชายวัยกลางคนเมื่อเห็นภาพเช่นนี้ก็ได้แต่ตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก
“เอาล่ะถึงตาแกลงมือเองบ้างแล้ว ไหนแกบอกว่าจะฆ่าฉันไม่ใช่เหรอไง?”
หลังจากฆ่าพวกลิ่วล้อไปเรียบร้อย อวี้ฮ่าวหรานก็หันความสนใจไปที่ชายวัยกลางคนซึ่งเป็นผู้นำกลุ่ม
“เป็นไปไม่ได้! ทำไมแกถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้ นี่มันเป็นไปไม่ได้!!”
ในตอนนี้ชายวัยกลางคนไม่หลงเหลือสีหน้าหยิ่งผยองอีกต่อไป ขณะนี้ใบหน้าของเขามีแต่ความสยดสยอง!
นี่มันภารกิจลอบสังหารแบบไหนกัน!
นี่มันภารกิจฆ่าตัวตายชัดๆ!
อย่างไรก็ตามในเมื่อสิ่งต่างๆ ดำเนินมาถึงจุดนี้ เขาก็รู้ตัวดีว่าฝั่งตรงข้ามคงไม่ปล่อยเขาไปแน่ๆ
“แกอย่าได้ใจไป! คนอย่างแกที่ยั่วยุองค์กรอสรพิษซ้ำแล้วซ้ำเล่าจะต้องไม่พบจุดจบที่ดีแน่!”
หลังจากพูดจบ ชายวัยกลางคนโคจรพลังปราณในร่างของเขาทั้งหมดและปรี่เขาไปหาอวี้ฮ่าวหรานสุดแรงเกิดราวกับว่านี่คือศึกสุดท้ายของชีวิตตัวเอง
แน่นอนว่าเขาคิดเรื่องนี้ถูก นี่คือศึกสุดท้ายของเขาจริงๆ
ปัง!!
ยังไม่ทันที่เขาจะวิ่งเข้าไปถึงตัวของอวี้ฮ่าวหราน จู่ๆ ร่างของ อวี้ฮ่าวหรานก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขาอย่างฉับพลัน และตบเข้ามาที่ใบหน้าจนเกิดเสียงดังลั่น ร่างของเขาลอยละลิ่วกระแทกไปกับพื้นถนนหลายตลบถึงจะหยุดลง
แค่การตบนี้เพียงครั้งเดียวมันทำให้ฟันของเขาร่วงจนแทบหมดปากรวมไปถึงยาพิษที่ซ่อนอยู่ในปากก็กระเด็นหลุดหายไปไหนไม่รู้
นี่ฝั่งตรงข้ามจงใจหยอกล้อเขาด้วยการตบงั้นเหรอ?
“แก! แกแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง! แกอายุยังไม่ถึง 25 แท้ๆ มันเป็นไปได้ยังไงที่คนวัยอย่างแกแข็งแกร่งได้ขนาดนี้!?”
ความรู้สึกสยองขวัญถาโถมเข้ามาในหัวใจของเขามากกว่าเดิม
ชายหนุ่มคนนี้น่ากลัวเกินไป!
“เร็วสิ โคจรพลังอีกเร็ว อยากฆ่าฉันไม่ใช่เหรอ?”
อวี้ฮ่าวหรานพุ่งตัวเข้าไปคว้าคอชายวัยกลางคนแล้วยกขึ้นพร้อมกับพูดจาเยาะเย้ย
ด้วยความแข็งแกร่งของเขาเองในตอนนี้ ต่อให้นักฆ่าพวกนี้มีระดับการบ่มเพาะอยู่ในขอบเขตก่อรากฐาน เขาก็ยังสามารถฆ่าได้ง่ายๆ ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่านักฆ่าพวกนี้ยังไม่มีใครทะลวงมาอยู่ขอบเขตก่อรากฐานเลยสักคน!
ด้วยความแข็งแกร่งแค่นี้ มดพวกนี้บังอาจมาตะโกนไร้สาระขู่ฆ่าลูกของเขาเนี่ยนะ?
“ครั้งนี้แกชนะแล้ว! แต่อย่าลืมว่าจากนี้ไปแกคือศัตรูขององค์กรอสรพิษทั้งหมด แกไม่มีวันได้อยู่อย่างสงบแน่นอน!”
เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองสู้ไม่ได้ ดังนั้นชายวัยกลางคนจึงเลือกที่จะขู่อวี้ฮ่าวหรานอย่างไม่กลัวตายต่อไป เขาพร้อมแล้วที่จะตายด้วยน้ำมือของฝั่งตรงข้าม
“พวกแกต่างหากที่จะไม่ได้อยู่อย่างสุขสงบไม่ใช่ฉัน!”
อวี้ฮ่าวหรานตอบกลับด้วยสีหน้าเย็นชา จากนั้นเขาหักคอฝั่งตรงข้ามทันที เขารู้ดีว่านักฆ่ามากประสบการณ์ผู้นี้ต่อให้ถามอะไรไปมันก็คงไม่ตอบข้อมูลที่เป็นประโยชน์กลับมา คนๆ นี้เตรียมใจที่จะตายเอาไว้อยู่แล้วดังนั้นเขาจึงตัดสินใจฆ่าทิ้งซะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาต่อไป
หลังจากจัดการนักฆ่าทั้งหมดเรียบร้อย อวี้ฮ่าวหรานก็ขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว เขาคิดว่าอีกไม่นานผู้คนในองค์กรอสรพิษน่าจะแห่กันมาที่นี่เพิ่ม ซึ่งถ้าเขายังอยู่ต่อไปลูกสาวของเขาอาจเป็นอันตรายจากลูกหลงได้
แต่แล้วหลังจากขับรถออกไปได้เพียงครู่เดียว โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
“เฮ้ น้องอวี้พรุ่งนี้ว่างไหม?”
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์เป็นเสียงของหวังเหยียน ลูกน้องของโจวเฟยหู่
“อืม คุณมีอะไรจะคุยงั้นเหรอ” อีกฝ่ายช่วยเขาเอาไว้สองครั้งแล้ว ดังนั้นทัศนคติของอวี้ฮ่าวหรานจึงค่อนข้างเปิดกว้างกับคนของแก็งค์พยัคฆ์เวหา
“ฮ่าฮ่า ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่เห็นว่าน้องอวี้ชอบสะสมของเก่า ฉันก็เลยโทรมาบอกว่าวันพรุ่งนี้จะมีงานประมูลของเก่าจัดขึ้นที่เดิมที่นายเคยไปกับฉันครั้งก่อน นายน่าจะสนใจแน่เลย… ว่าแต่พรุ่งนี้นายว่างไปร่วมงานรึเปล่า?”
สีหน้าของอวี้ฮ่าวหรานเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเขาได้ยินประโยคนี้ แน่นอนว่าเขาอยากไปอยู่แล้ว ดังนั้นจึงตอบตกลงทันที