ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] - บทที่ 145 ถูกหลอก
บรรยากาศภายในโต๊ะตอนนี้ไม่มีใครถือตัวว่าเป็นอาวุโสต่ออวี้ฮ่าวหรานอีกแล้ว
ในระหว่างที่งานเลี้ยงกำลังดำเนินไปอย่างรื่นเริง อวี้ฮ่าวหรานจึงหันมาถามหลินป๋อ
“ไม่ใช่ว่าวันนี้คุณให้ผมมาดูวัตถุโบราณให้ไม่ใช่เหรอ? มันล้ำค่าถึงขนาดยังเอาออกมาตอนนี้เลยไม่ได้หรือยังไง?”
อวี้ฮ่าวหรานรู้สึกสงสัย เพราะตั้งแต่มาถึงอีกฝ่ายไม่ได้พูดถึงวัตถุโบราณที่ต้องการให้เขาดูแม้แต่คำเดียว
ทางด้านของหลินป๋อ เมื่อได้ยินคำถามของอวี้ฮ่าวหราน เขาก็พลันยิ้มตอบกลับอย่างลึกลับ
“น้องอวี้ ฉันขอยอมรับตรงๆ ว่าของที่ฉันต้องการให้นายดูให้นั้นฉันเองเพิ่งได้มันมาและเปิดมันดูแค่เพียงแวบเดียวเท่านั้น แต่ฉันรับประกันได้ว่ามันเป็นของที่ล้ำค่ามาก วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันนำมันออกมาให้คนอื่นๆ เห็น และโดยเฉพาะนายที่ฉันอยากให้ตรวจสอบมันมากที่สุด!”
หลินป๋อพูดขึ้นด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
“บริกร หรี่ไฟลงเดี๋ยวนี้!”
หลังจากสิ้นเสียงคำสั่ง ไฟของห้องส่วนตัวก็ถูกหรี่ลงจนเหลือเพียงแค่แสงสลัวๆ
ต่อมา หลินป๋อเดินเข้าไปในห้องเล็กๆ อีกห้องหนึ่งของห้องส่วนตัวที่ทุกคนอยู่ จากนั้นอีกราวไม่เกิน 3 นาที หลินป๋อก็เดินออกมาพร้อมกับกล่องที่ทำขึ้นมาจากหยกซึ่งถูกสร้างมาอย่างประณีต
“น้องอวี้ ฉันมั่นใจในความสามารถของนายมาก และนี่คือสิ่งที่ฉันต้องการให้นายตรวจสอบดูให้สักหน่อย!”
ในทันทีที่พูดจบ หลินป๋อก็ค่อยๆ เปิดกล่องหยกออก ซึ่งในทันทีที่ฝากล่องถูกเปิด แสงสว่างสีเขียวก็พลันสาดไปทั่วทั้งห้อง!
“นี่มัน!”
“บ้าไปแล้ว นี่มันไข่มุกราตรีนี่นา แต่ทำมันถึงใหญ่ได้ขนาดนี้!?”
ทุกคนต่างตกตะลึงจนอ้าปากค้างเมื่อเห็นวัตถุทรงกลมเกลี้ยงขนาดเท่าฝ่ามือซึ่งมีแสงสีเขียวเรืองแสงออกมาราวกับว่ามีใครเอาหลอดไฟสีฝังเข้าไปในแก่นกลาง
“ฮ่าฮ่า ถูกต้องแล้ว นี่คือ ‘ไข่มุกราตรีโบราณ’ มันเป็นของที่ฉันต้องการเอามาแสดงให้ทุกคนเห็นในวันนี้! เอาล่ะทุกคนล้อมวงเข้ามาดูใกล้ๆ ได้เลย!”
หลินป๋อยิ้มร่าด้วยความภาคภูมิใจเมื่อเห็นสีหน้าของทุกคนที่กำลังตกตะลึง
“น้องอวี้ สิ่งนี้แหละที่ฉันต้องการให้นายดูให้!”
ที่ด้านข้าง
ซูหว่านเอ๋อจ้องมองไข่มุกราตรีด้วยดวงตาเบิกกว้าง ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยเห็นของอะไรที่มันดูมหัศจรรย์แบบนี้มาก่อน
เธอเคยได้ยินชื่อไข่มุกราตรีอยู่บ้าง แต่ผู้คนต่างร่ำลือกันว่ามันเป็นแค่เพียงตำนานที่ไม่มีจริง
แต่แล้ววันนี้เธอกลับเห็นมันด้วยตาตัวเอง!
เมื่อถูกเรียกชื่อ อวี้ฮ่าวหรานจึงเดินเข้ามาใกล้ๆ เพื่อดูมันทันที ในตอนแรกเขายังมองมันไม่ออกเช่นกัน แต่เมื่อเขาใช้เนตรเทวะเขาก็เห็นองค์ประกอบของมันอย่างชัดเจน
“คุณไปเอาไอ้เจ้าสิ่งนี้มาจากไหน?”
อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามขึ้น
“ผมได้มันมาจากบริษัทที่ผมเคยทำการค้าด้วย บังเอิญว่าตอนนี้บริษัทนั้นกำลังประสบปัญหาด้านการเงิน พวกเขาก็เลยเอาไข่มุกราตรีนี้มาขายให้ผม”
หลินป๋อพูดไปด้วยลูบกล่องหยกที่มีไข่มุกราตรีอยู่ข้างในไปด้วยสีหน้าพึงพอใจ
“ฉันไม่เคยเห็นไข่มุกราตรีมาก่อนในชีวิต ถึงแม้ว่าหากดูจากภายนอกมันจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ฉันก็ยังอดกังวลไม่ได้อยู่ดีดังนั้นฉันก็เลยชวนน้องอวี้ให้ช่วยมาดูมันให้หน่อยเพื่อที่ฉันจะได้วางใจได้สักที”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานถอนหายใจเบาๆ และถามกลับ “เฮ้อ…คุณจ่ายเงินซื้อไอ้เจ้าสิ่งนี้มาเท่าไหร่?”
“ไม่เท่าไหร่เลย ฉันจ่ายไปไม่กี่ล้านเท่านั้นเอง” อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นอาการของอวี้ฮ่าวหราน หลินป๋อก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและถามต่อ “ทำไมเหรอน้องอวี้? มันมีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?”
ปัญหางั้นเหรอ?
แน่นอน มันมีปัญหาแน่นอน!
อวี้ฮ่าวหรานส่ายหัวด้วยความรู้สึกเวทนาหลินป๋อ
“ที่นี่มีแอลกอฮอล์ความเข้นข้นสูงไหม?” อวี้ฮ่าวหรานหันไปหาเด็กเสิร์ฟและเอ่ยถาม
“อะ…เอ่อ ว่ายังไงนะครับคุณผู้ชาย?”
อวี้ฮ่าวหรานทวนคำพูดของเขาอีกรอบด้วยสีหน้าหนักแน่น
บริกรอึ้งไปในทันทีเมื่อได้ยินคำขอของอวี้ฮ่าวหราน จากนั้นเขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุภาพ “เอ่อ…คุณผู้ชาย ผมต้องขออภัยด้วยแต่ที่โรงแรมของเราไม่มีแอลกอฮอล์ความเข้มข้นสูงตามที่คุณผู้ชายขอหรอก”
“ถ้าไม่มีก็ไปหาซื้อมาซะ แล้วรีบกลับมาให้เร็วๆ ด้วย!”
อวี้ฮ่าวหรานออกคำสั่งเสียงดัง เขาหงุดหงิดเล็กน้อยที่บริกรของโรงแรมที่หรูที่สุดในเมืองคนนี้ไม่มีไหวพริบเอาซะเลย
ตามปกติแล้วโรงแรมระดับนี้ไม่ควรจะปฏิเสธลูกค้าหากไม่ใช่เรื่องที่เหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ
ในทางกลับกันทุกคนในห้องต่างมองหน้ากันด้วยสายตางุนงง
เด็กหนุ่มคนนี้กำลังจะทำอะไร?
สั่งแอลกอฮอล์ความเข้นข้นสูงมาทำไม?
นี่มันเกี่ยวข้องกับไข่มุกราตรีรึเปล่า?
ถึงแม้ว่าทุกคนจะสงสัย แต่หลังจากที่อวี้ฮ่าวหรานแสดงความสามารถให้เห็นไปแล้ว พวกเขาทุกคนจึงไม่มีใครกล้าตั้งข้อสงสัยในการกระทำของอวี้ฮ่าวหรานอีก
อย่างไรก็ตาม หลินป๋อผู้ซึ่งเป็นเจ้าของไข่มุกราตรีย่อมอยู่เฉยไม่ไหว เขาถามขึ้นอีกรอบด้วยสีหน้าที่เริ่มจะตื่นตระหนก “น้องอวี้ นี่นายกำลังจะทำอะไร? หรือว่าไข่มุกราตรีอันนี้เป็นของปลอม?”
“เดี๋ยวคุณก็รู้เอง… ตอนนี้คุณรอก่อน” อวี้ฮ่าวหรานยังไม่ยอมเฉลยอะไรทั้งนั้น
หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง บริกรคนเดิมก็ค่อยๆ นำขวดแอลกอฮอล์ความเข้มข้นสูงเข้ามาในห้องส่วนตัว
“ขออภัยที่ให้รอนาน แต่คุณผู้ชายโปรดระวังสักหน่อยเพราะสิ่งนี้ติดไฟง่ายมาก”
บริกรเอ่ยเตือนด้วยสีหน้าประหม่า เขาไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โรงแรมแห่งนี้ต้องไหม้เป็นจุณ
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้า จากนั้นเขาค่อยๆ เทแอลกอฮอล์ความเข้มข้นสูงลงไปในชามเปล่า และต่อมามือของเขาก็คว้าไข่มุกราตรีมาอย่างกะทันหันและวางมันลงไปในชามที่เต็มไปด้วยแอลกอฮอล์ความเข้นข้มสูง
หลินป๋อขนหัวตั้งในทันทีเมื่อเห็นภาพนี้ มือของอวี้ฮ่าวหราน ไวเกินกว่าที่เขาจะห้ามทัน
“รอสักครู่แล้วจะเห็นผลที่ตามมา”
หลังจากผ่านไปราว 5 นาที อวี้ฮ่าวหรานก็หยิบไข่มุกราตรีออกมาจากชามแล้ววางลงบนโต๊ะ
วินาทีถัดมาทุกคนต่างก็อ้าปากค้าง เพราะไข่มุกราตรีที่เคยมีแสงสีเขียวเรืองรองเมื่อครู่ตอนนี้จู่ๆ แสงของมันหม่นลงอย่างรวดเร็วและท้ายที่สุดก็ดับไปอย่างไร้ร่องรอย!
ในทางกลับกัน ตอนนี้แอลกอฮอล์ที่อยู่ในชามกลับมีแสงสีเขียวเรืองออกมา ซึ่งเฉดสีของแสงสีเขียวนี้มันเป็นแบบเดียวกับที่เคยเรืองออกมาจากไข่มุกราตรีไม่มีผิดเพี้ยน
“คุณโดนคนขายหลอกเอาแล้ว ไอ้สิ่งนี้ที่คุณเรียกว่าไข่มุกราตรีจริงๆ แล้วมันเป็นเพียงแค่มุกหยกธรรมดาๆ แถมเนื้อหยกของมันก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่อีกต่างหาก อย่างมากราคาของมันก็น่าจะอยู่ที่ราวหลักร้อยหยวน” อวี้ฮ่าวหรานอธิบายด้วยท่าทีสบายๆ
“ราคาแค่ไม่กี่ร้อยหยวน?”
หลินป๋อทวนคำพูดนี้ด้วยสีหน้าตกตะลึง ในใจของเขาตอนนี้รู้สึกเจ็บปวดจนอยากจะตะโกนให้ลั่นห้อง
เขาซื้อไอ้ของสิ่งนี้มาตั้งหลายล้าน!
แต่แท้จริงแล้วมันมูลค่าแค่ไม่กี่ร้อยหยวนเนี่ยนะ!?