ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] - บทที่ 159 กลัวจนขาสั่น
“ลูกพี่! ลูกพี่! ช่วยผมด้วย! ไอ้เวรนี่มันน่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญกำลังภายในเหมือนลูกพี่ เมื่อกี้นี้มันอัดลูกน้องของผมจนยับเลย ลูกพี่ช่วยล้างแค้นให้ผมกับลูกน้องด้วยนะ!”
เมื่อเห็นเฉินซิวมาถึง ฮวงไห่ก็รีบตะโกนอธิบายอย่างคร่าว ๆ ทันทีโดยไม่ได้ทันสังเกตเลยว่าขณะนี้ลูกพี่ของตัวเองกำลังแสดงสีหน้าแบบไหนอยู่
สีหน้าของเฉินซิวยิ่งตื่นตูมกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำพูดของฮวงไห่…
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตกำลังภายในบิดาแกสิไอ้เวร! นี่แกลากฉันมาเจอกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตก่อรากฐานต่างหาก!
แกอยากให้ฉันตายใช่ไหม!?
“ไอ้ลูกหมา! ลูกพี่ของฉันมาแล้ววันนี้แกไม่ได้ตายดีแน่! วันนี้ฉันจะ…”
“พลั่ก!!”
ยังไม่ทันที่ฮวงไห่จะพูดจบประโยค เฉินซิวก็พุ่งตัวเข้ามาเตะท้องของเขาอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนกระเด็นไปไกล3เมตร
สารเลวเอ๊ย!! นี่แกยังกล้าปากดีอีกงั้นเหรอ!? แกกำลังวางแผนฆ่าฉันทางอ้อมอยู่แน่ๆ!!
แกเป็นบ้าอะไรถึงได้มาหาเรื่องปีศาจตัวนี้!
แกรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันกลัวจนขาสั่นไปหมดแล้ว!
“แค่ก แค่ก ล…ลูกพี่ พี่เตะผิดคนรึเปล่า? คนที่พี่ควรเตะมันอยู่อีกข้างไม่ใช่เหรอไง?” ฮ่วงไห่ยันตัวขึ้นนั่งด้วยความลำบากก่อนที่จะเอ่ยถามเฉินซิวด้วยสีหน้าสับสน
“ฉันไม่มีลูกน้องที่โง่เง่าอย่างแก!!”
เฉินซิวตวาดขึ้นเสียงดังด้วยน้ำเสียงเดือดดาลผสมหวาดกลัว เหงื่อเม็ดใหญ่ ๆ ผุดขึ้นเต็มหน้าผากของเขาในขณะนี้
หลังจากเหตุการณ์ที่ผับในวันนั้น แม้แต่หยวนหลงหัวหน้าแก็งค์ของเขายังกำชับให้ทุกคนห้ามล่วงเกินอวี้ฮ่าวหรานเด็ดขาด แล้วเขาที่อ่อนแกกว่าหัวหน้าแก็งค์ของเขาเป็นสิบ ๆ เท่าจะเอาปัญญาที่ไหนมาต่อกรกับตัวอันตรายแบบนี้?
“อ…เอ่อ…ส…สวัสดี…พี่อวี้…”
เฉินซิวเอ่ยขึ้นทักทายด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักจากความกลัว เขากลัวเหลือเกินว่าคราวนี้อวี้ฮ่าวหรานจะไม่ปล่อยให้เขารอดกลับบ้าน
“นายรู้ไหม เมื่อกี้ลูกน้องของนายบอกว่านายจะมาฆ่าฉัน เอาล่ะตอนนี้นายจะว่ายังไงดี?”
อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
“ไม่ใช่แน่นอนพี่อวี้! ผมจะไปกล้าทำอะไรแบบนั้นได้ยังไง? ทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะไอ้ลูกหมานั่นมันมีตาแต่ไร้แวว! พี่อวี้…ไม่ต้องเป็นห่วงหลังจากนี้ผมจะสั่งสอนมันให้หลาบจำความผิดนี้ไปตลอดชีวิตของมันแน่นอนนอกเหนือจากบทลงโทษเมื่อครู่นี้ที่ผมทำไปแล้ว!” เฉินซิวเอ่ยขึ้นเสียงดังพร้อมกับก้มหัวแสดงท่าทางขอโทษ “แต่ถ้าหากว่าพี่อวี้ไม่พอใจ พี่อวี้เอ่ยมาได้เลยว่าต้องการให้ผมจัดการยังไงต่อ!”
อวี้ฮ่าวหรานใช้เนตรเทวะมองไปที่ร่างของฮวงไห่
เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าลูกเตะเมื่อครู่ของเฉินซิวที่เตะสั่งสอนมันทำให้ซี่โครงของฮวงไห่หักไป4ซี่
นับได้ว่าเฉินซิวลงมือกับลูกน้องของตัวเองเพื่อเขาหนักพอสมควร
ในขณะเดียวกันทั้งเฉินซิวและฮวงไห่ต่างก็รอคำตอบของอวี้ฮ่าวหราน อย่างใจระทึก
อย่างไรก็ตามอวี้ฮ่าวหรานกลับตอบเพียงแค่สั้น ๆ ก่อนที่จะเดินกลับรถและขับออกไปโดยไม่สนใจคนทั้งคู่อีก
“อย่าให้ฉันเจอหน้ามันอีกเป็นครั้งที่สอง!”
ภายในรถ
ขณะนี้ถวนถวนหยุดร้องไห้แล้วและกำลังจะผล็อยหลับไปอีกรอบ หลี่หรงซึ่งกำลังลูบหัวถวนถวนที่นอนอยู่บนตักเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อย
“พี่เขย…คนพวกนั้นจะตามมาหาเรื่องเราอีกหรือเปล่า?”
เธอเห็นแต่เหตุการณ์ภาพเคลื่อนไหวด้านนอก แต่เธอไม่ได้ยินเสียงพูดคุยดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าอวี้ฮ่าวหรานคุยอะไรกับคนพวกนั้นเรื่องถึงจบได้อย่างประหลาดแบบนี้…
“ไม่ต้องกังวล เรื่องทุกอย่างจบแล้ว”
อวี้ฮ่าวหรานตอบกลับอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เขาขับรถลงไหล่ทางอ้อมพวกรถตู้ที่จอดขวางถนนแล้วจากนั้นก็เร่งเครื่องจากไป
ทางด้านของเฉินซิวถอนหายใจยาวเมื่อเห็นว่าอวี้ฮ่าวหรานจากไปจริงๆ
ทุกครั้งที่เขาเจออวี้ฮ่าวหรานเขาอดไม่ได้ที่จะขาสั่นด้วยความกลัว
ภาพความน่ากลัวของชายหนุ่มคนนี้เขายังจำได้ไม่เคยลืม
“ล…ลูกพี่ ไอ้หนุ่มนั่นมันเป็นใครกันแน่? ทำไมพี่ถึงดูกลัวมันขนาดนั้น?”
เมื่อครู่นี้ตอนที่เขาโดนเตะ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าลูกพี่ของเขากำลังเตือนแบบอ้อม ๆ ว่าอย่าสะเออะพูดอะไรออกมาอีกเป็นอันขาด ดังนั้นเขาจึงปิดปากเงียบไม่พูดอะไรอีกมาถึงตอนนี้ที่เขาเห็นว่าอีกฝ่ายจากไปแล้ว
“แก!! แกรู้ไหมว่าแกเกือบทำให้ฉันถูกฆ่า!”
เฉินซิวตวาดลั่นด้วยความโมโหเมื่อได้ยินเสียงของตัวต้นเรื่องความวายวอดนี้!
“แม้แต่หัวหน้าแก็งค์ยังไม่กล้ามีเรื่องกับคน ๆ นี้ส่วนฉันยังไม่กล้าหายใจแรงต่อหน้าเขาด้วยซ้ำ แต่แกกลับขู่จะฆ่าเขาเนี่ยนะ? แม่งเอ๊ย!!!! หากแกอยากจะตายนักวันหลังแกก็ไปหาเรื่องเขาคนเดียวอย่ามาลากฉันเข้าไปเกี่ยวด้วย!”
“หา? นี่เขาแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยงั้นเหรอลูกพี่?”
ฮวงไห่เบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำพูดนี้ในสายตาของเขา หยวนหลงคือคนที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นตัวตนที่เขาเชิดชูว่าไร้เทียมทาน แต่ตอนนี้ลูกพี่ของเขาเพิ่งจะบอกว่าชายหนุ่มเมื่อครู่แข็งแกร่งกว่าหัวหน้าแก็งค์เนี่ยนะ?
ชายหนุ่มคนนั้นเป็นใครมาจากไหนกัน? นี่เขาเกือบทำให้ตัวเองถูกฆ่าจริง ๆ งั้นเหรอ?
เฉินซิวพ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิดเมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนเป็นหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ของฮวงไห่
“เฮอะ! ทีนี้แกเริ่มกลัวแล้วสิ? โชคยังดีที่หัวของแกยังไม่หลุดออกจากบ่า! ไป…กลับไปกับฉันไปหาหัวหน้าแก็งค์ให้เขาตัดสินใจอีกทีว่าเราควรทำยังไงกันต่อ!”
หลังจากนั้นเฉิววิวและฮวงไห่ต่างก็สั่งให้ลูกน้องบางคนที่ยังคงพอพยุงตัวลุกขึ้นเดินได้ให้เก็บกวาดร่างของพวกเดียวกันเองขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากทุกคนจากไปหมดแล้ว ภายใต้ความมืดมิดและความเงียบสงัด ห่างจากจุดเกิดเหตุราว500เมตรที่ใต้ต้นไม้ใหญ่มีชายชราคนหนึ่งกำลังหรี่ตามองสถานที่เกิดเหตุเมื่อครู่ด้วยสีหน้าครุ่นคิด
ภาพเหตุการณ์ต่อสู้เมื่อครู่เขาจับตามองมันอย่างตั้งใจโดยไม่กระพริบตาแม้แต่ครั้งเดียว
ชายชราคนนี้คืออาจารย์ของหยวนหลง ปรมาจารย์คงเหอ!
ที่อีกด้านหนึ่ง
กว่าอวี้ฮ่าวหรานจะขับรถถึงคอนโดก็ปาเข้าไป5ทุ่มกว่า
อวี้ฮ่าวหรานพาถวนถวนเข้าไปหลับในห้องก่อนเป็นอันดับแรก พรุ่งนี้เด็กน้อยยังต้องไปเรียนดังนั้นนี่จึงเป็นเวลาที่เด็กน้อยควรจะหลับ
จากนั้นเมื่อเขาพาถวนถวนไปนอนเรียบร้อย ตัวเขาเองก็กลับเข้าไปในห้องเพื่ออาบน้ำ แต่หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จและออกมาจากห้องเพื่อที่จะไปหยิบน้ำดื่มจากห้องครัว เขากลับพาว่าหลี่หรงในขณะนี้กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์บนโซฟาและอยู่ในชุดนอน
“นี่มันดึกมากแล้วทำไมเธอยังไม่ไปนอนอีก?”
อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย พลางเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหยิบน้ำส้มออกมารินใส่แก้ว
“ฉันจะนอนหลับได้ยังไง ภาพที่ศิลปินในดวงใจของฉันจูบแก้มพี่ยังติดตาฉันอยู่เลย!”
หลี่หรงหันมาจ้องอวี้ฮ่าวหรานด้วยสายตาหลากอารมณ์พร้อมกับตอบเสียงแข็ง
“มันก็แค่เรื่องบังเอิญ พี่แค่บังเอิญช่วยชีวิตอีกฝ่ายเอาไว้ก็เท่านั้น ไม่ได้รู้จักอะไรกับผู้หญิงคนนั้นเป็นการส่วนตัวหรอก” อวี้ฮ่าวหรานตอบกลับด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ…
“จริงเหรอ? พี่ไม่ได้รู้จักกับฟ่านซีเหยียนมาก่อนจริง ๆ นะ?”
หลี่หรงเอ่ยถามกลับทันทีด้วยสีหน้าทั้งยินดีทั้งโล่งใจ
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าด้วยสีหน้าจนใจมากกว่าเดิม สีหน้าของน้องภรรยาเขาตอนนี้มันดูน่าตลกมาก ๆ จนเขาแทบจะกลั้นขำไม่อยู่
การเป็นคนธรรมดามันก็มีเรื่องยากเหมือนกันสินะ!