ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] - บทที่ 251 พ่อและลูกพบหน้ากันอีกครั้ง
บทที่ 251 พ่อและลูกพบหน้ากันอีกครั้ง
หลังจากที่กวาดสายตามองไปรอบ ๆ หวังเหยียนก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยเยินยออวี้ฮ่าวหราน
อย่างที่คาดเอาไว้ คนที่แข็งแกร่งแบบนี้ย่อมไม่จำเป็นที่จะขอความช่วยเหลือจากแก๊งของเขา แต่การที่เขาจำเป็นต้องมาก็เพื่อต้องการแสดงให้เห็นถึงความจริงใจที่แก๊งของเขามีต่อชายสุดแกร่งผู้นี้!
อวี้ฮ่าวหรานยังไม่ตอบ หวังเหยียนก็เดินเข้าไปในทันที เขาเบนสายตาไปที่สวีเซี่ยงจวิน ก่อนที่จะเบนสายตาต่อไปที่หวางเว่ยและพูดว่า
“หวางเว่ย คราวนี้ฉันจะปล่อยแกไป แต่แกจะต้องไม่ปล่อยให้สวีเซี่ยง จวินเข้ามาเล่นในบ่อนของแกอีก หากมีครั้งหน้าฉันเอาแกตายแน่!”
หลังจากพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็พ่นลมหายใจด้วยสีหน้าเย็นชา
ชายหนุ่มเบื่อที่จะต้องมาตามเช็ดก้นให้กับพ่อที่ไร้ความรับผิดชอบผู้นี้แล้ว
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวางเว่ยรีบพยักหน้าทันที
“แน่นอน! แน่นอน! นับจากนี้ทุกบ่อนของแก๊งวาฬยักษ์จะไม่มีวันปล่อยให้เขาเข้ามาเล่นอีกแน่นอน!”
หวางเว่ยพยักหน้าตอบรับรัว ๆ ราวกับกลัวว่าอวี้ฮ่าวหรานจะไม่พอใจขึ้นมาอีกรอบ
“ดี! จำคำพูดของแกเอาไว้ให้ขึ้นใจก็แล้วกัน! อ้อ ส่วนลูกน้องของแก จางไห่ ถ้าฉันเห็นมันในเมืองฮ่วยอันอีก ฉันจะมาเล่นงานแกเป็นคนแรกเช่นกัน!”
หลังจากพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานดึงตัวสวีเซี่ยงจวินที่ยังคุกเข่าอยู่ให้ลุกขึ้นและส่งสัญญาณให้เดินตามเขาออกไปอย่างหงุดหงิด
ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดสวีเซี่ยงจวิน
ไอ้คน ๆ นี้มันไม่น่าเป็นพ่อคนเลยจริง ๆ!
ทางด้านของหวังเหยียน เมื่อเห็นเช่นนี้ เขาก็พาพวกของเขาจากไปด้วยสีหน้าเย็นชา
เมื่อเห็นว่าคนนอกทั้งหมดจากไปหมดแล้ว หวางเว่ยก็ล้มตัวลงนั่งกับพื้นพร้อมกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขากลัวจนขาอ่อนไปหมด ขนแขนของเขายังคงลุกชูชันอยู่ หากเมื่อครู่มีอะไรผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว เขาคงกลายเป็นศพไปแล้ว!
แต่แล้วเมื่อคิดไปคิดมา เขาก็หันไปจ้องเขม็งที่จางไห่!
“ไอ้สารเลวเอ๊ย! แกเกือบทำให้ฉันตายแล้วแกเห็นไหม! ทำไมแกถึงไม่สืบมาให้ดี ๆ ว่าไอ้สวีเซี่ยงจวินมันมีคนหนุนหลังที่น่ากลัวขนาดนี้! แกอย่าได้คิดจะลุกไปไหนเชียวนะไอ้ลูกหมา! วันนี้แกจะต้องชดใช้กับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด!”
หวางเว่ยตะโกนขึ้นเสียงดังลั่นด้วยความเดือดดาล เขาไม่นึกเลยว่าแผนการที่เขาจะเล่นสนุกกับหญิงสาวคนหนึ่งกลับกลายเป็นหายนะแบบนี้!
…
หลังจากออกมาจากผับ อวี้ฮ่าวหรานขอบคุณและบอกให้หวังเหยียน พาคนกลับไปให้หมดเพราะเขาเองก็จะกลับแล้วเช่นกัน
เมื่อร่ำลากันเรียบร้อย หวังเหยียนก็พาคนของเขาทั้งหมดจากไป ส่วนตัวเขานั้นมุ่งหน้าไปหาโจวเฟยหู่เพื่อรายงานเรื่องทั้งหมด
ทางด้านของอวี้ฮ่าวหรานก็ลากตัวสวีเซี่ยงจวินขึ้นรถ จากนั้นเขาก็ขับกลับไปที่บ้านของสวีรุ่ยทันที
หลังจากผ่านไปอีกเกือบหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดอวี้ฮ่าวหรานก็ขับรถไปถึงบ้านของสวีรุ่ย ซึ่งทันทีที่ชายหนุ่มเดินเข้าไปด้านในบ้าน ก็เห็นว่าสวีรุ่ย นั่งอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่นด้วยสีหน้าหม่นหมอง
“น…นี่คุณไปไหนมา? คุณหายไปไหนมาตั้งนาน?” เมื่อเห็นอวี้ฮ่าวหราน เดินเข้ามาในบ้าน สวีรุ่ยก็รีบลุกขึ้นยืนและเอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ผมไปหาคน ๆ หนึ่งมาน่ะ” อวี้ฮ่าวหรานยิ้มก่อนที่จะตอบกลับ
“หืม? คุณไปหาใครมางั้นเหรอ? มันเกี่ยวกับเรื่องของพ่อฉันหรือเปล่า?” สวีรุ่ยถามกลับด้วยแววตามีความหวัง
แม้ว่าเธอจะรู้อยู่เต็มอกว่าการหาพ่อของเธอนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มันไม่น่าจะเสร็จสิ้นภายในคืนเดียวแต่หญิงสาวก็ยังมีความหวัง เพราะอวี้ฮ่าวหรานเป็นคนที่เธอเทิดทูนและเชื่อมั่น
“หึหึ คนที่ผมออกไปหาก็คือพ่อของคุณนั่นแหละ!”
หลังจากพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานโบกมือส่งสัญญาณให้สวีเซี่ยงจวินเดินเข้ามา
สวีรุ่ยรู้สึกตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อได้ยินประโยคนี้และเมื่อเธอเห็นพ่อของเธอเดินเข้ามา น้ำตาก็เริ่มพรั่งพรูออกจากดวงตาของเธอ
“น…นี่ นี่มันเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ? พ่อ! พ่อหายไปไหนมา? พ่อรู้ไหมว่าฉันตามหาพ่อไปทั่วเลย! ฮือ…”
หลังจากพูดจบ สวีรุ่ยวิ่งเข้าไปโผกอดพ่อของเธอทันที
“รุ่ยเอ๋อร์…พ่อ…พ่อขอโทษลูกจริง ๆ…”
สวีเซี่ยงจวินโอบกอดลูกของเขาเอาไว้แน่นพร้อมกับร้องไห้ออกมาเช่นกัน
“พ่อ! พ่อร้องไห้ทำไม?”
เมื่อเห็นพ่อของตัวเองร้องไห้ สวีรุ่ยจึงรีบเช็ดน้ำตาของพ่อเธอ และนี่ทำให้เธอยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อเธอเห็นสภาพเสื้อผ้าพ่อของเธอที่ซอมซ่อ เธอยิ่งรู้สึกเศร้า
ก่อนหน้านี้พ่อของเธอคงลำบากมาก ๆ เลย…
หลังจากพ่อลูกกอดกันได้อยู่สักพัก สวีรุ่ยก็รีบวิ่งไปที่ห้องของพ่อเธอและจากนั้นไม่กี่อึดใจ เธอก็วิ่งออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าชุดใหม่
“พ่อ พ่อรีบไปอาบน้ำก่อนเถอะ พ่อคงจะหิวมากเดี๋ยวหนูจะรีบทำอะไรให้กินเดี๋ยวนี้!”
เมื่อพูดจบ สวีรุ่ยก็รีบวิ่งไปที่ห้องครัวและจากนั้นเสียงของหม้อและกระทะก็ดังลั่นอยู่ด้านใน
เมื่อเห็นว่าสวีรุ่ยเข้าไปในครัวแล้ว อวี้ฮ่าวหรานจึงหันไปที่สวีเซี่ยงจวิน และเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ผมจะไม่พูดถึงเรื่องหนี้พนันไร้สาระอะไรนั่น ส่วนคุณเองก็ควรจะเงียบปากเอาไว้ และต่อไปนี้อย่าทำอะไรที่ทำให้ลูกสาวของคุณต้องเสียใจอีก ถ้ายังมีคราวหน้าผมจะเป็นคนสั่งสอนคุณเอง!”
“ด…ได้ คุณอวี้! ผ…ผมสาบานว่าต่อไปผมจะไม่ทำให้รุ่ยเอ๋อร์ผิดหวังอีกแล้ว!”
สวีเซี่ยงจวินรู้สึกหนาวไปทั่วทั้งร่างเมื่อได้ยินคำพูดของอวี้ฮ่าวหราน และในเวลาเดียวกันความรู้สึกสำนึกผิดก็ผุดขึ้นมาในใจของเขาเต็ม ๆ เขาสาบานกับตัวเองว่า นับจากนี้เขาจะไม่มีวันไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันอีกแน่นอน
ไม่นานต่อมา อาหารหลายอย่างก็ถูกเอาออกมาวางที่โต๊ะอาหาร
แน่นอนว่าสวีรุ่ยก็ไม่ลืมที่เชิญให้อวี้ฮ่าวหรานอยู่กินด้วยกัน
อวี้ฮ่าวหรานยังไม่ได้กินข้าวเช่นกัน ดังนั้นจึงพยักหน้าตกลงด้วยความยินดี
หลังจากกินอาหารกันเสร็จเรียบร้อย สวีรุ่ยที่ยังคงคาใจก็เอ่ยถามขึ้น
“พ่อ ทำไมก่อนหน้านี้พ่อไม่กลับบ้าน?”
หญิงสาวไม่เข้าใจว่าพ่อของเธอหายไปไหน เธอไปตามหาทุกบ่อนแล้วแต่ก็ไม่เจอพ่อของเธอเลย ดังนั้นจึงไม่แน่ใจว่าเขาไปเล่นพนันอีกหรือไปมีปัญหากับใครที่ไหน
“พ่อ…”
เมื่อเผชิญกับคำถามนี้ สวีเซี่ยงจวินก็ไม่รู้ว่าจะตอบว่ายังไง
อย่างไรก็ตาม อวี้ฮ่าวหรานก็พูดแทรกขึ้นก่อน
“ให้ผมตอบแทนก็แล้วกัน มันเป็นเรื่องของหนี้รอบที่แล้วที่ยังไม่ได้ใช้คืน ดังนั้นพ่อของคุณจึงไม่กล้ากลับบ้านเพราะเขาถูกพวกแก๊งอันธพาลขู่ แต่ตอนนี้ผมแก้ปัญหาเหล่านั้นให้ทั้งหมดแล้ว”
อวี้ฮ่าวหรานหาเหตุผลที่ดูเข้าท่ามากที่สุดขึ้นมาอ้าง
สวีเซี่ยงจวินรับเอ่ยเสริมทันทีเพื่อทำให้เรื่องดูสมจริง
“ช…ใช่ มันเป็นเพราะคราวที่แล้วพ่อยังไม่ได้ใช้เงินคนพวกนั้น ดังนั้นพวกมันก็เลยมาตามทวงพ่ออีก พ่อก็เลยไม่กล้ากลับบ้านเพราะกลัวว่าลูกจะเดือดร้อนไปด้วย แต่ตอนนี้ฮ่าวหรานช่วยพ่อสะสางปัญหาให้หมดแล้ว…”
เขารู้สึกซาบซึ้งในสิ่งที่อวี้ฮ่าวหรานทำให้กับเขามาก ๆ เรื่องนี้มันจบอย่างยอดเยี่ยมที่สุดจนแม้แต่เขาเองยังไม่กล้าจะฝันถึง
นี่มันคือโอกาสให้เขากลับตัวอีกครั้ง
เมื่อได้ยินคำอธิบายนี้ สวีรุ่ยจึงหมดความสงสัยในทันทีเพราะผู้ชายทั้งสองคนนี้คือคนที่เธอเชื่อใจมากที่สุด
หลังจากทานอาหารเสร็จ อวี้ฮ่าวหรานจึงขอตัวจากไป
แต่แล้วเมื่อเขาเดินไปถึงรถของตัวเอง เขาก็เห็นหวังเหยียนกำลังยืนรออยู่
“น้องอวี้ หัวหน้าโจว ฝากบอกมาว่าหากมีเรื่องอะไรที่นายไม่สะดวกจะแก้ปัญหาเอง นายสามารถโทรมาหาพวกเราได้เสมอ พวกเรายินดีแก้ปัญหาให้นายทุกอย่าง!”