ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] - บทที่ 300 การโต้กลับที่รวดเร็ว
บทที่ 300 การโต้กลับที่รวดเร็ว
บทที่ 300 การโต้กลับที่รวดเร็ว
เครือฮ่าวหรานเริ่มโต้กลับพร้อมกับบริษัทชิวเฮิงซึ่งให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน
ทั้งสองบริษัทเป็นบริษัทขนาดใหญ่ยักษ์ ดังนั้นเมื่อร่วมมือกัน สถานการณ์ต่าง ๆ จึงพลิกกลับอย่างรวดเร็วรวมไปถึงข่าวลือต่าง ๆ ก็ถูกลบหายไปราวกับว่าไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้น!
เวลาเก้าโมงเช้า หลี่อิงไห่ถูกปลุกให้ตื่นโดยโทรศัพท์ขณะที่เขายังหลับอยู่
“ย…แย่แล้ว…ท่านประธานหลี่! พวกเราแย่แล้ว!”
ทันทีที่รับสายโทรศัพท์ ปลายสายก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกทันที!
“เป็นบ้าอะไรถึงโทรมาร้องโหยหวนใส่ฉันตั้งแต่เช้าแบบนี้!”
หลี่อิงไห่ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินอีกฝ่าย และรู้สึกไม่พอใจกับผู้ใต้บังคับบัญชาคนนี้ในทันที
“แกรีบอธิบายมาให้ไวเลยว่าทำไมถึงโทรมาตะโกนใส่ฉันตั้งแต่เช้า ถ้าหากแกไม่มีเหตุผลที่ดีพอละก็….วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่แกทำงานให้ฉัน!”
เขาดื่มน้ำเย็นก่อนที่จะตัดสินใจไล่พนักงานคนนี้ออก
อย่างไรก็ตาม คำพูดถัดไปของอีกฝ่าย มันทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า!
“ท…ท่านประธาน! เครือฮ่าวหราน…เมื่อคืนที่ผ่านมาพวกเขาโต้กลับอย่างรุนแรง! แถมมีบริษัทใหญ่เข้าร่วมด้วย! เราสู้พวกเขาไม่ได้เลย!”
“อะไรนะ!!”
หลี่อิงไห่ที่กำลังโกรธอยู่อึ้งไปในทันที!
ผ่านไปครู่หนึ่ง เมื่อเขาได้สติ ก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยความโกรธ
“แกอธิบายมาให้ชัดเจน! เครือฮ่าวหรานเริ่มโต้กลับแล้วเหรอ?”
“ใช่แล้วท่านประธาน! พวกเขาเริ่มโต้กลับเราเมื่อคืนนี้อย่างฉับพลัน จนเราไม่มีแม้แต่เวลาจะได้ตั้งตัว และตอนนี้สถานการณ์ทางฝั่งของเรากำลังย่ำแย่อย่างหนัก!”
เสียงของปลายสายเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ซึ่งบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าบริษัทอิงเหมากำลังประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก
หลังจากที่ได้ยินคำยืนยันนี้ หลี่อิงไห่ที่เงียบไปอยู่นานเพราะความตกตะลึง
ก่อนหน้านี้เขาได้วางแผนกับแก๊งฉลามคลั่งและแก๊งวาฬยักษ์มาเป็นอย่างดีแล้ว แถมอีกฝ่ายสัญญาว่าจะกักตัวพวกผู้บริหารของเครือฮ่าวหรานเอาไว้อย่างน้อยสองเดือนเพื่อให้ตัวเขามีเวลาเพียงพอในการกวาดซื้อหุ้นและผนวกเครือฮ่าวหราน
แต่นี่น้อยกว่าวัน!!
แถมเป็นเขาเองที่กำลังจะย่อยยับ!
“ไม่…เป็นไปไม่ได้! เป็นไปได้ยังไง! แบบนี้ฉันจบเห่แน่!!”
เมื่อคิดเช่นนี้ ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน
แค่อิทธิพลและความใหญ่โตของเครือฮ่าวหราน ก็สามารถบดขยี้บริษัทของเขาได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้กลับมีอีกบริษัทใหญ่ช่วยเครือฮ่าวหรานรุมยำเขาอีก ต่อให้จะได้รับการสนับสนุนจากบริษัทขนาดเล็กหลายบริษัทของแก๊งฉลามคลั่ง มันก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
“มันจบแล้ว! คราวนี้ฉันจบแล้ว!”
เมื่อรู้ว่าไม่มีอะไรที่จะสามารถทำได้อีก หลี่อิงไห่ก็วางสายและพึมพำอย่างสิ้นหวัง
เพื่อให้ได้ผลประโยชน์มากขึ้นจากโอกาสครั้งนี้ เขาได้ใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัททั้งหมดไปแล้ว
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เมื่อถูกโต้กลับ เขาจึงไม่สามารถดิ้นรนอะไรต่อได้เลย!
ไม่มีทางรอด!
ในเวลาเดียวกัน
หลังจากที่อวี้ฮ่าวหรานส่งถวนถวนเข้าเรียนเปียโนไปแล้ว ระหว่างทางไปบริษัท ชายหนุ่มโทรออกหาโจวเฟยหู่
“น้องอวี้! โทรมาหาฉันแต่เช้าเลย มีอะไรงั้นเหรอ?”
เสียงที่เบิกบานของอีกฝ่ายดังขึ้นทันที
“ใช่ ฉันมีเรื่องนิดหน่อย”
อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วเล็กน้อย เหตุผลที่ชายหนุ่มโทรหาอีกฝ่ายเป็นเพราะหลังจากเหตุการณ์เมื่อวาน เขาเริ่มคิดที่จะจัดการกับแก๊งวาฬยักษ์ให้เด็ดขาด
ถึงแม้ว่าครั้งนี้หลังจากที่ถูกลักพาตัว พวกผู้บริหารระดับสูงของเครือฮ่าวหรานจะยังคงภักดีและยินดีที่จะสู้ต่อเพื่อบริษัท
แต่ถ้าหากมันเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง…หรือครั้งที่สามล่ะ?
ต่อให้เขาจะสามารถช่วยชีวิตคนเหล่านั้นได้ทุกครั้ง แต่ใครจะอยากทำงานในสภาพแวดล้อมที่ต้องเสี่ยงภัยในทุก ๆ วัน?
เห็นได้ชัดว่า หลิ่วอวี้จิงไม่ใช่คนที่จะยอมปล่อยวางเรื่องความแค้นได้ง่าย ๆ หลังจากที่รู้ว่าแผนของตัวเองล้มเหลว คนของเขาอาจถูกลักพาตัวอีกครั้ง!
แก๊งวาฬยักษ์ต้องถูกกำจัด!
มิฉะนั้น เครือฮ่าวหรานอาจไม่สามารถพัฒนาได้อย่างสงบสุข
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ อวี้ฮ่าวหรานจึงบอกการตัดสินใจของตัวเอง
“ตอนนี้ฉันต้องการให้แก๊งพยัคฆ์เวหาของนายจัดการกับแก๊งวาฬยักษ์ ทันที หรือไม่อย่างน้อย ๆ ก็โจมตีบางพื้นที่ของอีกฝ่าย เพื่อดึงดูดความสนใจของพวกนั้นมาที่นายอย่างเต็มที่”
ประโยคนี้ดูเหมือนจะทำให้โจวเฟยหู่ตกใจพอสมควร เพราะเงียบไปหลายวินาทีก่อนที่จะถามกลับอย่างไม่แน่ใจ
“น้องอวี้ นายกำลังจะบอกว่าเราควรเริ่มโจมตีกลุ่มวาฬตอนนี้เลยงั้นเหรอ?”
“อืม!”
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าตอบโดยไม่กังวลว่าอีกฝ่ายจะไม่เห็นด้วย
เพราะเขาเดาได้ถึงลักษณะนิสัยของอีกฝ่าย
“นี่…นี่มันเยี่ยมไปเลย!! ฮ่า ๆๆ น้องอวี้ ไม่ต้องกังวล ฉันเองก็อยากจะสั่งสอนไอ้แก๊งวาฬยักษ์นั่นมานานแล้ว! ฉันแค่รอสัญญาณจากนายเท่านั้นเอง!”
น้ำเสียงที่ปลายสายของโทรศัพท์ตื่นเต้นขึ้นมาทันใด
ตามที่อวี้ฮ่าวหรานคาดไว้ โจวเฟยหู่ตั้งตารอสัญญาณจากเขาจริง ๆ ดังนั้นไม่แปลกเลยที่อีกฝ่ายจะหัวเราะด้วยความปีติยินดีเมื่อได้ยินเรื่องนี้
“ดีมาก คืนนี้ฉันอยากได้ยินข่าวว่าแก๊งพยัคฆ์เวหามีชัยในทุกพื้นที่”
“ไม่มีปัญหา! น้องอวี้! การยึดพื้นที่ไม่ใช่เรื่องยาก ฉันจะแจ้งข่าวให้นายรู้ทันทีเมื่อทุกอย่างสำเร็จลุล่วง!”
ถ้ดมา หลังจากที่ทั้งสองคุยรายละเอียดเพิ่มเติมกันอีกเล็กน้อย โทรศัพท์ก็ถูกวางสาย
หลังจากวางสายไปได้เพียงครู่เดียว อวี้ฮ่าวหรานก็ขับรถถึงเครือฮ่าวหราน
วันนี้ต่างจากบรรยากาศที่ตื่นตระหนกของเมื่อวาน ทุกสิ่งทุกอย่างในบริษัทดูเหมือนจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง…
เมื่อชายหนุ่มเข้ามาถึงในออฟฟิศ ทันทีที่อวี้ฮ่าวหรานนั่งลง ผู้จัดการหวังก็เคาะประตูและเดินเข้าไปพร้อมกับเอกสารปึกใหญ่
“ท่านประธานอวี้ เมื่อวานพวกเราทำงานหนักกันทั้งคืน เราได้ร่วมมือกับบริษัทชิวเฮิงเพื่อตอบโต้”
“อืม คุณและคนอื่น ๆ ทำได้ดีมาก”
อวี้ฮ่าวหรานมองเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของผู้จัดการหวังซึ่งมันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชม
“ขอบคุณครับท่านประธาน สำหรับคำชม แต่เช้านี้ สิ่งต่าง ๆ คืบหน้ามากกว่าเดิมยิ่งขึ้นไปอีก”
“บอกรายละเอียดมาให้ผมฟังที”
“หลังจากทำงานหนักมาทั้งคืน ทันทีที่ตลาดหุ้นเปิดในเช้าวันนี้ ราคาหุ้นของบริษัทอิงเหมาดิ่งลงเป็นประวัติการณ์ เราได้ร่วมมือกับบริษัทชิวเฮิง เพื่อซื้อหุ้นของอีกฝ่ายเป็นจำนวนมหาศาล”
ผู้จัดการหวังเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น
“ยิ่งไปกว่านั้น พวกผู้บริหารและพวกผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทอิงเหมาที่รู้ว่าเรือใกล้จะล่มแล้วต่างก็รีบเสนอขายหุ้นของพวกเขาให้กับเราเพื่อเอาตัวรอด”
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าอีกครั้งพร้อมกับยิ้มอย่างสะใจ นี่เป็นข่าวดีจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม จริง ๆ แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ บริษัทของหลี่อิงไห่จะสามารถต่อสู้กับเครือฮ่าวหรานและบริษัทชิวเฮิงได้ยังไงจริงไหม?
…
ไม่นานก็ถึงเวลาเที่ยง
ในขณะนี้ในอาคารสำนักงานของบริษัทอิงเหมา
“จบแล้ว…ทุกอย่างมันจบแล้ว…ฉันไม่น่าเอาตัวไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย!”
หลี่อิงไห่เอนหลังพิงเก้าอี้ผู้บริหารและมองเพดานอย่างสิ้นหวัง
เขารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งในเวลานี้ ไม่คิดเลยว่าพวกแก๊งใหญ่จะเชื่อถือไม่ได้ขนาดนี้
พวกมันบอกว่าจะยื้อเอาไว้ได้สองหรือสามเดือน แต่นี่มันแค่วันเดียวเอง! แค่วันเดียว…เครือฮ่าวหราน ร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่อีกแห่งโต้กลับอย่างบ้าคลั่ง!!
ถึงแม้ว่าบริษัทของเขาจะไม่ใช่บริษัทไก่กา แต่เมื่อเผชิญหน้ากับสองยักษ์ใหญ่ เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้เลย!