ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] - บทที่ 327 กระถางธูป
บทที่ 327 กระถางธูป
บทที่ 327 กระถางธูป
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าแล้วมองไปที่ชายชราที่ทุกคนเรียกว่าประธานเจ่า ซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ เขา
“ช่วงนี้ผมยุ่งนิดหน่อย จึงไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอะไรสักเท่าไหร่ ผมขอเสียมารยาทถามได้ไหมว่าคุณคือ?”
“ฮ่าฮ่า ฉันเป็นเจ้าของโรงแรมนี้ นอกจากนี้ ฉันยังมีโรงแรมอยู่ในเครืออีกหลายแห่งกระจายอยู่ในเมืองฮ่วยอัน และมีธุรกิจต่าง ๆ อีกนิดหน่อย น้องชาย นายรู้ไหมว่าฉันอยากจะเจอนายมาตั้งนานแล้ว!”
ประธานเจ่าหัวเราะเสียงดัง เมื่อได้ยินคำถามของอวี้ฮ่าวหราน จากนั้นเขาก็ตอบกลับอย่างเป็นกันเอง
ด้วยทัศนคติเชิงบวกขนาดนี้ ผู้คนรอบ ๆ ที่มองดูอย่างสนใจอยู่ก็รู้สึกไม่แปลกใจอีกแล้วว่าทำไม ประธานเจ่าถึงช่วยพูดให้กับชายหนุ่มคนนี้ กลายเป็นว่าทั้งสองรู้จักกันจริง ๆ
“อ้อ ที่แท้คุณคือประธานเจ่าผู้โด่งดังนี่เอง”
เมื่อรู้ถึงตัวตนอีกฝ่าย อวี้ฮ่าวหรานก็ยิ้มให้พร้อมกับพยักหน้าอย่างสุภาพ
ผู้คนรอบ ๆ เมื่อคลายสงสัยในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอวี้ฮ่าวหราน และประธานเจ่าแล้ว พวกเขาก็พากันแยกย้ายไปในทุกทิศทาง
ในขณะนี้ เฉียนเซายังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าว่างเปล่า สีหน้าของเขาซีดขาว และในใจก็รู้สึกไม่ยินยอมอย่างยิ่งยวด!
“แม่งเอ๊ย! ที่แท้ไอ้เวรนั่นมันรู้จักกับประธานเจ่านี่เอง! ฮึ่ม! แต่อย่าคิดว่าฉันจะยอมง่าย ๆ ฉันต้องแก้แค้นแกให้ได้!”
เขาพึมพำด้วยความอาฆาตแค้น
หากเขาไม่สามารถล้างแค้นเรื่องวันนี้ได้ มันจะเป็นแผลในใจที่เขาไม่อาจรักษาได้ตลอดชีวิต!
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกคนอื่นรังแก ตามปกติแล้วเขาต้องเป็นคนรังแกคนอื่นสิวะ!
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ อวี้ฮ่าวหรานและคนอื่น ๆ เดินห่างออกไปไกลแล้ว และไม่มีใครเห็นหัวของเขาเลยสักคน
“ฮ่าฮ่า จริงด้วย! จริงด้วย! น้องชายนี่เก่งในเรื่องดูโบราณวัตถุอย่างที่น้องหลินพูดจริง ๆ ด้วย!”
ยิ่งสนทนามากขึ้นเท่าไหร่ ประธานเจ่าก็ยิ่งรู้สึกถูกใจอวี้ฮ่าวหรานมากขึ้นเท่านั้น จนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเสียงดัง ซึ่งแสดงให้เห็นได้ชัดว่าเขากำลังมีความสุขมาก
เขาเป็นคนที่ชอบสะสมโบราณวัตถุอยู่แล้ว ดังนั้นการได้มาเจอกับอวี้ฮ่าวหรานที่มีความรู้เรื่องโบราณวัตถุมากมาย จึงยิ่งทำให้เขารู้สึกมีความสุขมากกว่าเดิม
“จริง ๆ แล้วการดูโบราณวัตถุก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่ แค่เราจำเป็นต้องศึกษาอ่านประวัติศาสตร์ให้มาก ๆ เท่านี้โอกาสที่จะดูของพลาดก็ลดลงแล้ว” อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยกลับ
แต่แล้วจู่ ๆ ในขณะเดียวกันนี้ เลขาหญิงคนหนึ่งก็เดินเข้ามากระซิบที่ข้างหูของประธานเจ่า
“อืม ๆ เข้าใจแล้วเธอไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันตามไป”
หลังจากฟังคำพูดของเลขาตัวเองจบ ประธานเจ่าก็โบกมือให้อีกฝ่ายออกไปก่อน แล้วจากนั้นเขาจึงหันมาหาอวี้ฮ่าวหราน ซูหว่านเอ๋อ และหลินป๋อ ด้วยท่าทางขออภัย
“เอาละ เดี๋ยวฉันคงต้องขอตัวไปเตรียมเริ่มงานประมูลก่อน ส่วนพวกนายทั้งหมดก็นั่งรอกันตรงนี้แหละ อีกสักเดี๋ยวการประมูลก็จะเริ่มแล้ว”
“ได้เลยครับ ประธานเจ่า เชิญตามสบายเลย!”
หลินป๋อตอบกลับอย่างสุภาพในทันที
เมื่อประธานเจ่าจากไปได้แค่เพียงไม่นานการประมูลก็เริ่มขึ้น!
บรรดาเศรษฐีที่มาเข้าร่วมการประมูลต่างก็มานั่งลงทีละคนที่เก้าอี้ซึ่งถูกจัดวางเป็นแถวเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ ส่วนอวี้ฮ่าวหรานและคนอื่น ๆ ก็นั่งอยู่ที่เดิมเพื่อรอการประมูลที่กำลังจะเริ่ม
“สวัสดีแขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย! การประมูลของชิ้นแรกของวันนี้ ผมขอภูมิใจนำเสนอ! กระถางธูปหยกเคลือบทองคำสมัยราชวงศ์หมิง! ต่อให้จะไม่นับคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เอาแค่นับมูลค่าด้านฝีมือและวัสดุเพียงอย่างเดียว กระถางใบนี้ก็มีมูลค่าอย่างน้อยหลายล้านหยวน!”
พิธีกรจัดการประมูลบนเวทีแนะนำโบราณวัตถุชิ้นแรกของการประมูลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
หลังจากนั้นแค่เพียงอึดใจเดียว กระถางธูปหยกที่ลงลวดลายด้วยทองคำอย่างวิจิตรงดงามก็ถูกนำมาวางบนโต๊ะที่ตั้งอยู่บนเวทีอย่างรวดเร็ว อวี้ฮ่าวหรานเปิดใช้เนตรเทวะของเขาด้วยความสนใจอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่ของชิ้นนี้ไม่มีพลังวิญญาณแฝงอยู่เลย
เมื่อเห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็ไม่สนใจมันในทันที
ในทางกลับกัน ซูหว่านเอ๋อที่อยู่ข้าง ๆ กลับแสดงสีหน้าตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าขาว ๆ ของเธอในตอนนี้เปลี่ยนเป็นแดงเล็กน้อย
“นี่…มัน…มันสวยมาก ๆ เลย!”
เมื่อเห็นภาพนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มที่มุมปาก
ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาตอนนี้ช่างเป็นคนที่แปลกประหลาดจริง ๆ มีน้อยมากที่คนอายุน้อยแบบนี้จะชอบสะสมของเก่า
และยิ่งไปกว่านั้น เธอถึงขนาดมีห้องเก็บโบราณวัตถุอยู่ในบ้านอีกต่างหาก!
เขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าใครเป็นคนปลูกฝังความสนใจนี้ให้กับสาวน้อยคนนี้?
แต่ในขณะเดียวกันนี้ การประมูลได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!
“กระถางธูปหยกที่ถูกเคลือบด้วยทองจากสมัยหมิงไท่จูของราชวงศ์หมิง นี่นับได้ว่าเป็นของหายาก…”
หลังจากที่การบรรยายแนะนำกระถางธูปจบลง บรรยากาศในห้องประมูลก็ดุเดือดขึ้นมาทันใด
“ราคาเปิดประมูลของกระถางธูปนี้คือ 10 ล้าน! แขกผู้มีเกียรติทุกท่านเชิญประมูลกันตามปรารถนาได้เลย!”
ทันทีที่พิธีกรประกาศจบ บรรดาเศรษฐีทั้งหลายต่างก็เริ่มเสนอราคาอย่างรวดเร็ว
“สุภาพสตรีหมายเลข 32 ประมูล 11 ล้าน!”
คนที่ยื่นข้อเสนอครั้งแรกคือซูหว่านเอ๋อซึ่งถูกใจกับกระถางนี้เป็นอย่างมาก
เธอเพิ่มราคาขึ้นมาหนึ่งล้านทันที
สิ่งนี้ทำให้อวี้ฮ่าวหรานประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าที่บ้านของอีกฝ่ายจะเอ็นดูลูกสาวของตัวเองขนาดนี้จนให้เงินมาใช้ซื้อของเก่าราคาเป็นสิบล้านได้โดยไม่คิดอะไรมาก
“ฉัน… ฉัน…ที่ฉันมีเงินเยอะมันเป็นเพราะ…ที่ผ่านมาพอฉันโชคดีได้ซื้อของแท้มาในราคาถูก ๆ บางทีฉันก็เอาไปขายทำกำไรต่อ ดังนั้นฉันก็เลยพอจะมีเงินเก็บบ้าง…”
เมื่อเห็นชายหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ เหล่มองดูเธออย่างสงสัย ซู่หว่านเอ๋อก็รีบอธิบายอย่างร้อนรนทันที
หลินป๋อที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็พูดติดตลก
“น้องอวี้ นายรู้รึเปล่าว่า ถึงแม้หว่านเอ๋อร์จะอายุแค่นี้ แต่ในแง่ของความรู้ในการดูพวกโบราณวัตถุนั้นสาวน้อยคนนี้แก่กล้ากว่าฉันอีก ฮ่าฮ่า”
“ไม่จริงสักหน่อย…ลุงหลินเก่งกว่าหนูตั้งเยอะ!”
“ฮ่าฮ่า อย่าถ่อมตัวไปเลย อันที่จริงแล้วบางทีลุงก็เคยคิดเล่น ๆ เหมือนกันว่าถ้าหากผู้ชายคนไหนได้แต่งงานกับหว่านเอ๋อร์ ผู้ชายคนนั้นคงโชคดีสุด ๆ เพราะนั่นหมายถึงว่าเขาจะได้โบราณวัตถุในบ้านตระกูลซูไปครอบครอง และเขาก็คงรวยเละเลยละ ถ้าหากกอบโกยพวกมันไปขายทั้งหมด! ฮ่าฮ่า”
“ลุงหลิน!!”
ซูหว่านเอ๋ออดไม่ได้ที่จะเขินอายเมื่อได้ยินคำพูดนี้ แก้มของเธอแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด
“ฮึ่ม! หนูไม่พูดกับลุงหลินแล้ว!”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หลินป๋อก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม
ในตอนนี้ราคาของกระถางธูปหยกได้พุ่งขึ้นมาเป็น 18 ล้านแล้ว
“สุภาพสตรีหมายเลข 32 ประมูล 19 ล้าน!”
ซูหว่านเอ๋อหันศีรษะกลับมาดูการประมูลอีกครั้ง และยกป้ายขึ้นทันทีด้วยความคาดหวังว่าเธอจะได้มันมาครอบครองในราคาที่ไม่แรงเกินไปนัก
“คงจะดีถ้าไม่มีใครแข่งมันกับฉัน”
เธอมองดูกระถางธูปหยกสีทองอันวิจิตรงดงามบนเวทีด้วยสายตาโหยหา และอดไม่ได้ที่จะพูดพึมพำ
“สุภาพบุรุษหมายเลข 22 เสนอราคา 21 ล้านหยวน!”
อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ความหวังของเธอพังทลายอย่างรวดเร็ว เมื่อมีคนยกป้ายแข่งราคากับเธอ
ต่อมาไม่นานนักราคาก็พุ่งไปถึง 24 ล้าน ซูหว่านเอ๋อจึงอดไม่ได้ที่จะยกป้ายสู้ราคาขึ้นอีกรอบ
“สุภาพสตรีหมายเลข 32 เสนอราคา 25 ล้าน!”
เมื่อราคาสูงขึ้นไปถึงยี่สิบล้าน เสียงของผู้เข้าร่วมสู้ราคาก็เริ่มเบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ยี่สิบห้าล้านนั้นก็ยังไม่ใช่ขีดจำกัดในใจของใครหลาย ๆ คน
ในไม่ช้าก็มีคนยกป้ายสู้ราคาขึ้นอีก
“หมายเลข 18 เสนอราคา 26 ล้าน!”
ทันทีที่ราคานี้ถูกขาน ซูหว่านเอ๋อก็แสดงสีหน้าผิดหวังอย่างชัดเจน
เธอก้มศีรษะลง และพลิกดูโบรชัวร์การประมูลในมือ ดวงตาของเธอที่ดำราวกับไข่มุกดำมองดูที่รายชื่อสิ่งของการประมูลอันต่อไปอย่างไม่เต็มใจนัก
เมื่อเห็นภาพนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็รู้ว่าราคาของกระถางธูปนี้มันเกินขีดจำกัดความอดทนของซูหว่านเอ๋อแล้ว ดังนั้นต่อให้เขาช่วยเธอไป เธอก็คงจะไม่ดีใจสักเท่าไหร่
แต่ในเวลานี้ หลินป๋อที่อยู่ข้าง ๆ เขากลับพูดขึ้นเป็นคนแรก
“หว่านเอ๋อร์ หนูอยากได้กระถางนี้มาก ๆ เลยใช่ไหม? มา ๆ เดี๋ยวลุงซื้อให้เอง!”
เขามองหน้าสาวน้อยที่เขารักเหมือนหลานแท้ ๆ และพูดด้วยรอยยิ้ม
“หืม? ม…ไม่…ลุงหลิน อย่าเลยหนู…”
ซูหว่านเอ๋อ ตกตะลึงทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย และเธอก็รีบปฏิเสธ
แต่ก่อนที่เธอจะทันได้ปฏิเสธจบ หลินป๋อก็ได้เสนอราคาไปแล้ว
“สุภาพบุรุษหมายเลข 33 เสนอราคา 30 ล้าน!”
แน่นอนว่าเมื่อราคาดีดไปเป็นสามสิบล้าน ทุกคนในห้องก็เงียบเสียงไปทันที!