ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] - บทที่ 346 ชักใยเบื้องหลัง
บทที่ 346 ชักใยเบื้องหลัง
บทที่ 346 ชักใยเบื้องหลัง
“จบแล้ว มันจบแล้ว! ประธานอวี้มีแฟนแล้ว!! พวกเราจะทำยังไงดี?”
“โธ่ อย่าฝันกลางวันน่า! ต่อให้ประธานอวี้จะไม่มีแฟน และหล่อนจะเด็กกว่านี้ ประธานอวี้ก็ไม่มีทางมองหล่อนหรอก!”
“สวยจริง ๆ หากมีเทพธิดาที่สวยขนาดนี้มาคล้องแขนของฉัน ต่อให้ฉันจะตายฉันก็คงตายตาหลับ!”
ถึงแม้ว่าเสียงของการกระซิบกระซาบทั้งหมดนี้จะเบามาก แต่เฉิงชิวอวี้ ก็ได้ยินพวกมันบ้างสองสามประโยค ซึ่งมันยิ่งทำให้รอยยิ้มของเธอยิ่งกว้างขึ้นมากกว่าเดิม
อวี้ฮ่าวหรานพูดไม่ออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ อีกฝ่ายจงใจอยากได้ผลลัพธ์แบบนี้ชัด ๆ เลย!
แม้แต่หลี่หรงก็ไม่เคยกล้าคิดริเริ่มที่จะคล้องแขนเขาในที่สาธารณะแบบนี้!
หลังจากที่ทั้งสองลงไปถึงข้างล่างแล้ว อวี้ฮ่าวหรานก็เปิดประตูรถให้อีกฝ่ายขึ้นรถของตัวเอง
รถซุปเปอร์คาร์สีเหลืองสดใสค่อย ๆ ขับออกจากประตูบริษัท
ภายในรถ
“ร้านที่ฉันอยากกินอยู่ไม่ไกลจากบริษัทของคุณเท่าไหร่หรอก!”
หลังจากขับรถไปสิบนาที เฉิงชิวอวี้ก็ชี้ไปทางหนึ่ง
แต่นาทีนี้! จู่ ๆ ร่างผอมบางก็ปรากฏขึ้นที่หน้ารถ!
โชคดีที่ในเวลานี้ อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้ขับเร็วสักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงเบรกทัน!
“บัดซบเอ๊ย! แกอยากจะฆ่ากันหรือไง? แกลืมตาอยู่หรือเปล่าตอนแกขับรถ!”
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอวี้ฮ่าวหรานเบรกทันซึ่งมันผิดแผนของชายร่างผอมไปหน่อย ชายร่างผอมจึงกระโดดเข้าไปหารถอวี้ฮ่าวหราน และแสร้งทำเป็นถูกชนพลางตะโกนร้องลั่น
แต่บริเวณโดยรอบนี้ไม่ใช่เขตชุมชน ดังนั้นจึงมีแค่พวกอวี้ฮ่าวหราน และอีกฝ่ายเท่านั้นที่อยู่ในบริเวณนี้
“นี่…นี่มันพวกสิบแปดมงกุฎหรือเปล่า?”
เฉิงชิวอวี้เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
เธอไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ แต่เธอก็เคยเห็นข่าวเกี่ยวกับพวกแกล้งถูกชนและเรียกร้องขอค่าเสียหายมาก่อน
อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเองก็ไม่คาดคิดเหมือนว่าจะเจอกับอะไรแบบนี้
ปัง!
หลังจากลงจากรถและปิดประตู เขามองดูชายหนุ่มร่างผอมที่แกล้งนอนสลบอยู่
ในขณะนี้ ชายหนุ่มร่างผอมเงยหน้าขึ้นและมองดูอวี้ฮ่าวหราน พอเห็นว่าชายหนุ่มลงจากรถแล้ว เขาก็ตะโกนร้องดังกว่าเดิม
อวี้ฮ่าวหรานยิ้มเย้ยอีกฝ่ายอยู่ในใจ แต่เมื่อชายหนุ่มกำลังจะเตะอีกฝ่ายออกไปให้พ้นทาง เขาก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ในตรอกเล็ก ๆ ข้าง ๆ นั้น พวกอันธพาลหลายคนกรูกันออกมา!
“บ้าเอ๊ย! แกขับรถชนน้องชายของฉันแบบนี้ได้ไงวะ? แกอยากตายมากใช่ไหม!”
หัวหน้ากลุ่มเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างกำยำ เขาตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าโกรธจัด
“พี่ใหญ่…พี่ใหญ่…ไอ้ผู้ชายคนนี้มันกำลังจะเตะฉันด้วยเมื่อกี้!”
ชายหนุ่มร่างผอมเหมือนลิงตะโกนร้องขึ้นเสียงดังพยายามแสร้งว่าตัวเองน่าสงสารจนเกินจริง
อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนว่าไอ้พวกนี้จะไม่ใช่สิบแปดมงกุฎธรรมดา!
“บัดซบ! นี่แกชนน้องฉันแล้ว ยังจะกล้าเตะน้องชายฉันอีกงั้นเหรอวะ? แกไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วใช่ไหม!”
ชายวัยกลางคนดูเหมือนว่าจะเคยฝึกฝนทักษะการต่อสู้มาก่อน เนื่องจากเขาวิ่งเข้ามาใกล้อวี้ฮ่าวหรานได้อย่างรวดเร็วกว่าที่คนธรรมดา ๆ จะทำได้
หลังจากนั้น พวกนักเลงมากกว่าหนึ่งโหลก็วิ่งกรูกันเข้ามาล้อมอย่างรวดเร็ว
“พวกแกเป็นใคร?”
อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่ชายวัยกลางคนอย่างสงสัย
“ไอ้ลูกหมา! แกขับรถชนน้องชายของฉันแต่กลับมาถามว่าฉันเป็นใครเนี่ยนะ? แกอยากตายหรือไง?!”
ชายวัยกลางคนแสดงสีหน้าโกรธทันที
แต่แน่นอนว่าทุกอย่างเป็นการแสดง
“แกต้องการเงิน?”
อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่คนเหล่านี้ และไม่ค่อยแน่ใจในเจตนาของอีกฝ่ายในเวลานี้
“เงิน? แกดูถูกบิดาคนนี้งั้นเหรอถึงถามอะไรหมา ๆ แบบนี้!?”
ชายวัยกลางคนแสดงสีหน้าโกรธมากกว่าเดิม ราวกับว่าเขาเพิ่งถูกทำให้ขายหน้า
“ทุกคนเอามัน! เอามันให้พิการ!!”
หลังจากได้ยินคำสั่งจากชายวัยกลางคน นักเลงมากกว่าหนึ่งโหลก็ชักมีดและพุ่งเข้าหาอวี้ฮ่าวหราน
เมื่อเห็นฉากนี้ เฉิงชิวอวี้ที่อยู่ในรถก็ตกใจทันที เธอไม่เข้าใจเลยสถานการณ์มันเลยเถิดมาเป็นแบบนี้ได้ยังไง
“ฮ่าวหราน ระวัง!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ หญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนเตือน
แต่อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้กลัวมีดนับสิบเล่มที่ฟันเข้ามาแม้แต่น้อย เขาปล่อยให้อีกฝ่ายฟันมีดมาที่เขาอย่างไม่แยแส!
หมับ!
วินาทีถัดมา ชายวัยกลางคนถึงกับหน้าเปลี่ยนสีกับภาพที่ได้เห็น!
อวี้ฮ่าวหรานจับมีดของลูกน้องเขาง่าย ๆ ด้วยมือเปล่า!
“น…นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน!”
“เฮอะ! เป็นแค่มดแมลง กล้ามากวนประสาทฉัน!”
อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่อีกฝ่ายอย่างดูถูกก่อนที่จะบีบใบมีดจนแหลกคามือ จากนั้นเขาก็ระเบิดคลื่นพลังวิญญาณกระจายออกไปยังทิศทางที่พวกนักเลงกำลังวิ่งเข้ามาหา!
พวกนักเลงที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเจอกับอะไร เมื่อโดนคลื่นพลังวิญญาณปะทะเข้าเต็ม ๆ ร่างของพวกเขาก็ปลิวกระเด็นกลับไปอย่างไม่สามารถควบคุมได้และร่วงลงกระแทกกับพื้น!
แค่เสี้ยววินาที สถานการณ์ทุกอย่างพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ บรรดากระเด็นกระดอนและบาดเจ็บสาหัสไปถึงเจ็ดหรือแปดคน
ทางด้านของชายวัยกลางคน ถึงแม้ว่าจะรอดพ้นจากคลื่นพลังวิญญาณ แต่ในตอนนี้เขาไม่มีความคิดที่อยากจะหาเรื่องอวี้ฮ่าวหรานอีกต่อไปแล้ว
ตลกเถอะ!
ลูกน้องของเขาสิบกว่าคนเพิ่งกระเด็นปลิวราวกับถูกรถไฟชนจากอะไรก็ไม่รู้ ถ้าขืนเขายังหาเรื่องชายคนนี้ต่อไปมันไม่เท่ากับว่าเขากำลังรนหาที่ตายงั้นเหรอ?
อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้ลงมือต่ออีก เนื่องจากเขายังต้องหาคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้
คนพวกนี้เขาไม่คุ้นหน้าเลย ไม่รู้ว่าทำไมคนพวกนี้ถึงมาหาเรื่องตัวเองแบบไร้เหตุผลเช่นนี้
เขาเดินไปหาชายวัยกลางที่กำลังยืนอึ้งอยู่และกำคอของอีกฝ่าย
“พวกแกหยุดรถฉันทำไม?”
“ก…ก็…คุณชนน้องชาย…”
ชายวัยกลางคนอยากจะเล่นลิ้น แต่เมื่อเห็นสายตาเย็นยะเยือกของอวี้ฮ่าวหราน ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกกลัวความตาย!
ดวงตาคู่นี้มันน่ากลัวจนทำให้เขาแทบฉี่ราด!
“ผ…ผมขอโทษ! ก…ก่อนหน้านี้มีคนให้เงินเรา…”
ขณะที่สั่นกลัว เขาก็เล่าความจริงอย่างตะกุกตะกัก
แต่แล้วในขณะเดียวกันนี้! อวี้ฮ่าวหรานรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังแอบมองเขาอยู่!
เขาเบนสายตามองขึ้นไปยังชั้นบนสุดของตึกที่อยู่ไม่ไกล!
ภายในอาคาร
“ไอ้เด็กนี่ไม่เลวเลย ประสาทสัมผัสของมันเฉียบแหลมจริง ๆ!”
เมื่อเห็นว่า อวี้ฮ่าวหรานรู้ตัวแล้วว่าถูกเขากำลังจับตาดูอยู่ ชายชราที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ถอนสายตากลับมาและมองไปที่คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
“ฮึ่ม ถ้าผมเป็นพี่ ผมคงลงไปฆ่ามันแล้ว! ผมไม่มีทางรอให้ไอ้พวกแก๊งพยัคฆ์เวหามีเวลาหายใจหายคอได้แบบนี้!”
อีกคนที่นั่งบนโซฟาแสดงสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย
คนสองคนนี้คือกงซุนซาและหลิ่วอวี้จิง เนื่องจากพวกเขาประกาศแล้วว่าแก๊งของพวกเขารวมเป็นหนึ่งเดียว ดังนั้นหลิ่วอวี้จิงจึงนั่งอยู่ที่นี่ในฐานะรองหัวหน้าแก๊งฉลามคลั่ง