ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] - บทที่ 44 อันตราย
บทที่ 44 อันตราย
ถึงแม้ว่าสิ่งที่อวี้ฮ่าวหรานทำต่อคู่กรณีมันจะดูรุนแรงไปสักหน่อย แต่บรรดาผู้คนที่มองอยู่รอบ ๆ นั้นไม่มีใครรู้สึกสงสารครอบครัวจอมไร้เหตุผลเลยสักนิด
“เหอะ! สมควรแล้ว อยากทำตัวงี่เง่ากันดีนัก ต้องโดนสั่งสอนซะบ้าง!”
“ครอบครัวเวรนี่ไม่น่ามีลูกเลยจริง ๆ พวกภัยสังคมเอ๊ย!”
“ทำตัวแบบนี้มาก ๆ อายุไม่ยืนหรอก!”
“…”
เมื่อจัดการกับพ่อแม่ลูกที่สุดแสนจะน่ารำคาญเรียบร้อย อวี้ฮ่าวหรานก็พาหลี่หรงและถวนถวนไปขึ้นรถกลับบ้านทันที เพราะถึงให้อยู่ต่อพวกเขาก็หมดอารมณ์จะเล่นสนุกต่อแล้ว
“พ่อจ๋า หลังจากนี้พ่อพาหนูกับแม่หรงออกมาเที่ยวกันแบบนี้บ่อย ๆ ได้ไหม?”
ถวนถวนเอ่ยขึ้นขณะนั่งซบไหล่หลี่หรงอยู่ในรถที่เบาะหลัง บางครั้งเธอก็มักจะเรียกหลี่หรงว่า ‘แม่หรง’ เพราะที่ผ่านมาหลี่หรงเลี้ยงดูเธอมาโดยตลอดตั้งแต่ที่เธอไม่มีทั้งพ่อและแม่
“แน่นอน พ่อจะพาลูกกับแม่หรงของลูกออกมาเที่ยวบ่อย ๆ แน่นอน” อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นพร้อมกับหัวเราะ
“เย้ เย้ พ่อแม่ครอบครัวสุขสันต์ ถวนถวนมีความสุขจังเล้ย!”
เมื่อได้ยินถวนถวนพูดแบบนี้หลี่หรงก็หน้าแดงด้วยความเขินอาย ความคิดของเธอเริ่มยุ่งเหยิงอีกครั้ง
พี่เขยนะพี่เขย! ฉันเป็นน้องภรรยา พี่พูดแบบนี้เดี๋ยวคนอื่นเขาเข้าใจผิดหมดหรอก!
อย่างไรก็ตาม หลี่หรงไม่ได้บ่นออกมาดัง ๆ เพราะในใจของเธอก็รู้สึกพึงพอใจกับคำพูดนี้ของถวนถวนเหมือนกัน
ในเวลาไม่นานถวนถวนก็ผล็อยหลับไปเนื่องจากความเหนื่อยที่เล่นมาทั้งวัน ส่วนหลี่หรงก็เผลอหลับไปเช่นกันที่เบาะหลัง
อวี้ฮ่าวหรานมองกระจกมองหลังไปที่หลี่หรงและถวนถวนด้วยสีหน้าเป็นสุข เขารู้สึกว่ามันคุ้มจริง ๆ ที่กลับโลกนี้มา ถึงแม้ว่าเขาจะต้องแลกด้วยการเสียพลังเกือบทั้งหมดไปก็ตาม
แต่แล้วในขณะที่เขาขับรถลงจากทางด่วนและผ่านไซต์งานก่อสร้างร้าง จู่ ๆ อวี้ฮ่าวหรานก็สัมผัสได้ถึงอันตรายร้ายแรงที่กำลังใกล้เข้ามา!
มาแล้ว!
อวี้ฮ่าวหรานหักพวงมาลัยเบี่ยงรถหลบอย่างรวดเร็วทันที ซึ่งในเวลาเดียวกันกระสุนปืนก็พุ่งผ่านกระจกรถไปโดยไม่โดนใครในรถ
ปืนไรเฟิลซุ่มยิง!
แถมคนที่ยิงยังมีฝีมือฉกาจอีกต่างหาก!
อวี้ฮ่าวหรานประเมินความสามารถของฝั่งตรงข้ามได้ทันที เพราะถ้าหากเมื่อครู่เขาเบี่ยงรถหลบไม่ทันป่านนี้กระสุนคงโดนหัวเขาไปแล้ว
ถึงแม้ว่าเขาจะมีร่างเทวะ แต่มันก็ยังไม่ได้ฟื้นฟูสมบูรณ์เหมือนเมื่อก่อน หากเป็นกระสุนเจาะเกราะลูกใหญ่ ๆ มันก็ยังสามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้ถึงแม้จะไม่ตายก็ตาม
จากการหักรถหลบเมื่อครู่มันจึงทำให้รถเสียการควบคุมและพุ่งชนเข้าไปที่เสาไฟที่อยู่ข้างถนนจนหน้ารถพังยับ
โชคยังดีที่อวี้ฮ่าวหรานมีร่างกายที่เหนือมนุษย์ ดังนั้นเขาจึงไม่บาดเจ็บอะไรเลย แต่สิ่งที่เขาเป็นกังวลก็คือสองคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง
หลังจากที่อวี้ฮ่าวหรานลงจากรถไปเปิดประตูหลัง เขาก็เห็นว่าตอนนี้หลี่หรงและลูกสาวของเขากำลังหมดสติ!
แต่โชคยังดีที่หลี่หรงและถวนถวนคาดเข็มขัดนิรภัยเหมือนกัน ดังนั้นทั้งสองคนจึงไม่ได้บาดเจ็บอะไรร้ายแรง
เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงอะไร อวี้ฮ่าวหรานก็มีความคิดจะพาทั้งสองคนลงจากรถก่อน เพราะกลัวว่ารถจะโดนยิงอีก ซึ่งถ้าหากปล่อยให้ทั้งสองคนยังอยู่ในรถอาจจะเกิดอันตรายได้
แต่แล้วในขณะที่อวี้ฮ่าวหรานกำลังจะมุดตัวเข้าไปในรถเพื่ออุ้มหลี่หรงและถวนถวนออกมา เขาก็สัมผัสได้ถึงอันตรายอีกรอบ เขารีบเบี่ยงตัวหลบทันทีซึ่งมันเป็นเวลาเดียวกับที่กระสุนเฉียดคอของเขาไปเล็กน้อยพุ่งไปโดนพื้นแทน!
“ฟุ่บ!”
ในตอนนี้อวี้ฮ่าวหรานยังคงไม่สนใจว่าฝั่งตรงข้ามยังยิงเขาอยู่ เขารีบมุดเข้าไปในรถอีกรอบและอุ้มทั้งหลี่หรงและถวนถวนเอาไว้ในแขนทั้งสองข้าง และรีบแบกคนทั้งสองวิ่งเข้าไปในตึกร้างที่ยังสร้างไม่เสร็จเพื่อหลบแนวกระสุน
เมื่อช่วยหลี่หรงและถวนถวนพ้นจากแนวกระสุนได้สำเร็จ แววตาของอวี้ฮ่าวหรานก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาเหลือบมองไปที่ชั้นดาดฟ้าของตึกร้างที่เขาอยู่ เพราะมันเป็นจุดซ่อนของมือปืนที่กำลังยิงเขา
หลังจากโดนยิง 2 ครั้ง ตอนนี้อวี้ฮ่าวหรานรู้แล้วว่ามือปืนอยู่ที่ไหน!
อวี้ฮ่าวหรานพุ่งตัววิ่งขึ้นไปชั้นดาดฟ้าของตึกด้วยความเร็วเหนือมนุษย์!
ตึก 7 ชั้น แต่อวี้ฮ่าวหรานใช้เวลาแค่ 5 วินาทีเท่านั้นก็ขึ้นไปถึงชั้นดาดฟ้า!
ทางด้านของมือปืนเองในตอนนี้รู้แล้วว่าอวี้ฮ่าวหรานเข้ามาในตึกที่ตัวเองอยู่ เขากำลังตื่นตระหนกกับความเร็วของอวี้ฮ่าวหราน ที่เมื่อครู่แบกคนสองคนแต่ยังวิ่งเร็วจนเขายิงตามไม่ทันจนมาถึงตึกที่เขาอยู่ได้
ในขณะที่เขากำลังเตรียมตัวจะลงไปสู้ระยะประชิดกับอวี้ฮ่าวหรานอยู่นั้น จู่ ๆ เขาก็รู้สึกหนาวสันหลังขึ้นมา สัญชาตญาณมันบอกว่าตอนนี้มีบางอย่างไม่ถูกต้องเกิดขึ้น!
“นี่มันเป็นไปได้ยังไง!”
เมื่อเขาหันหลังไป เขาก็พบว่าอวี้ฮ่าวหรานยืนอยู่ข้างหลังเขาเรียบร้อย!
จากถนนขึ้นมาถึงชั้นดาดฟ้าที่เขาอยู่ฝั่งตรงข้ามใช้เวลาไม่ถึง 10 วินาทีด้วยซ้ำก็ขึ้นมาถึงบนนี้ ฝั่งตรงข้ามของเขาบินขึ้นมาหรือไงกัน!?
“ใครส่งแกมา!” อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา
“ปัง ปัง ปัง!!”
มือปืนไม่ตอบกลับอะไรทั้งนั้น เขาชักปืนสั้นขึ้นมาและรัวยิงใส่หัวของอวี้ฮ่าวหรานทันที
แต่โชคร้ายที่อวี้ฮ่าวหรานหลบมันได้อย่างน่าอัศจรรย์ และพุ่งเข้ามาถึงตัวเขาในเสี้ยววินาที และแย่งปืนจากเขาไปภายในพริบตาและโยนทิ้ง
“น..นี่ แกหลบได้ยังไง มันเป็นไปไม่ได้!!”
ตอนนี้มือปืนรู้สึกตกตะลึงที่สุดในชีวิตตั้งแต่เขาเกิดมา ตอนแรกเขาก็ทึ่งมากอยู่แล้วที่ฝั่งตรงข้ามหลบกระสุนของเขาได้สองครั้งจากการซุ่มยิงในระยะไกล แต่ตอนนี้ในระยะประชิดฝั่งตรงข้ามก็ยังหลบกระสุนปืนสั้นของเขาได้อีก 3 นัด
นี่มันไม่ใช่ความสามารถของมนุษย์แล้ว!
อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นมืออาชีพเขาก็ได้สติอย่างรวดเร็ว เขารีบชักมีดสั้นที่เหน็บอยู่ที่เอวและแทงอวี้ฮ่าวหรานที่อยู่ในระยะประชิดทันที เขาไม่ยอมให้ตัวเองถูกจับได้แน่นอน วันนี้เขาต้องสู้ตาย
ต่อให้ฝั่งตรงข้ามจะดูเหนือมนุษย์แค่ไหนแต่ระยะประชิดแค่นี้ฝั่งตรงข้ามก็ไม่ควรจะหลบมีดของเขาได้จริงไหม?
น่าเสียดายที่ความเป็นจริงมันช่างโหดร้าย ก่อนที่ปลายมีดจะถึงตัว อวี้ฮ่าวหรานก็กำใบมีดเอาไว้ได้ทันและหักมันทิ้งออกจากด้ามจับ และแทงเข่าใส่หน้าท้องมือปืนไปเต็ม ๆ จนร่างของมือปืนลอยขึ้นสูงเกือบเมตรและร่วงลงกระแทกพื้นอย่างแรง
“แข็งแกร่งอะไรขนาดนี้!”
นี่คือสิ่งที่มือปืนคิดในใจ
ถึงแม้ว่าจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกันแต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะชมความเหนือมนุษย์ของอวี้ฮ่าวหราน