ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] - บทที่ 474 โดนต้อนเข้าโกดังร้าง
บทที่ 474 โดนต้อนเข้าโกดังร้าง
บทที่ 474 โดนต้อนเข้าโกดังร้าง
เวลาเที่ยงคืน อวี้ฮ่าวหรานกลับมาที่ห้องนอนแล้วเข้าสู่การฝึกตน หลังจากฝึกตนไปได้สักพักหนึ่ง เสียงโทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มก็ดังขึ้น
“หวังเหยียน?”
เขามองรายชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ลูกพี่อวี้! ช่วยด้วย! พวกเราถูกฝูงค้างคาวโจมตี! ตอนนี้เรากำลังจะไปหาลูกพี่ที่บ้าน!”
“ค้างคาว?”
“ครับ! ผมกับหลิวว่านฉิงกำลังวิ่งหนีพวกมันอยู่!”
“โอเค ฉันจะขับรถไปหาพวกนายเดี๋ยวนี้แหละ”
หลังจากรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น อวี้ฮ่าวหรานก็กดวางสายแล้ววิ่งลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่หลี่หรงกลับเข้าห้องนอนและหลับไปแล้ว ดังนั้นตัวชายหนุ่มเองจึงไม่จำเป็นต้องอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้เธอฟัง
หลังจากลงมาถึงชั้นล่างและขึ้นรถแล้ว หว่างคิ้วของเขาก็ปรากฏร่องรอยความกังวล
นี่เป็นครั้งที่สองที่ชายหนุ่มได้ยินข่าวค้างคาวปีศาจ
ดูเหมือนว่าหลูชิงหยวนหัวหน้าองค์กรอสรพิษจะถูกค้างคาวกัดกินจนเหลือแต่กระดูก
วินาทีถัดมา แสงไฟหน้ารถสปอร์ตสีเหลือสดใสสว่างขึ้นพร้อมส่งเสียงคำราม ก่อนเคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
…
“พวกมัน…พวกมันกำลังไล่ตามพวกเราอยู่”
หลิวว่านชิงมองออกไปข้างนอกหน้าต่างด้วยสายตาตื่นกลัว หลังจากขับรถออกจากตัวเมือง สองข้างทางก็กลายเป็นป่ารกร้าง
ฝูงค้างคาวที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางท้องฟ้ามืดมิดยังคงตามไล่ล่าทั้งสองอย่างไม่ลดละ!
“ไม่เป็นไร ผมโทรขอความช่วยเหลือจากลูกพี่อวี้แล้ว เขากำลังมาช่วยเรา”
หวังเหยียนปลอบโยนอีกฝ่าย
แต่จู่ ๆ ก็มีของแข็งกระแทกกระจกรถจนเกิดเสียงดังลั่น!
“ตึง!”
เสียงสิ่งของบางอย่างชนกระจกดังซ้ำแล้วซ้ำเล่า และฉากต่อไปก็ทำให้หัวใจของหวังเหยียนหล่นไปที่ตาตุ่มทันที
ค้างคาวตัวแรกบินชนกระจก ตามด้วยตัวที่สองและตัวที่สาม…ไม่นานค้างคาวที่เหลือก็บินชนกระจกรถเขาเช่นกัน!
ไม่นานกระจกหน้ารถก็เกิดรอยร้าวขนาดใหญ่!
“แย่แล้ว! ผมมองไม่เห็นทางเลย!”
หวังเหยียนตื่นตระหนกอย่างมาก เขาไม่คิดว่าฝูงค้างคาวจะบินเร็วถึงขนาดแซงหน้ารถยนต์ได้
“ผมจะขับรถไปอีกสักระยะ แล้วหลังจากเราต้องวิ่งหนีสุดแรงเกิด!”
สถานการณ์กลับกลายเป็นวิกฤตอีกครั้ง!
ฝูงค้างคาวยังคงบินชนกระจกอย่างต่อเนื่อง ทำให้กระจกหน้ารถยนต์เกิดรอยร้าวมากขึ้นกว่าเดิม!
เลือดค้างคาวค่อย ๆ ซึมเข้ามาส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งน่าสะอิดสะเอียน!
ฝูงค้างคาวมีมากเกินไปจนมองไม่เห็นข้างนอก ขณะที่กระจกบานอื่น ๆ สามารถแตกออกได้ทุกเมื่อ
“ไป! ออกไป!”
หลังจากหยุดรถ หวังเหยียนก็ยกเท้าขึ้นถีบประตูให้เปิดออก!
ใบหน้าหลิวว่านฉิงซีดขาว เธอเพิ่งได้รับการผ่าตัดมาไม่นาน ร่างกายจึงอ่อนแอและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย
“ไม่ต้องห่วงฉัน หนีไปเถอะ”
เธอรู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นตัวถ่วง ภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ ถ้าเขาเอาแต่ห่วงหน้าพะวงหลัง หลิวว่านฉิงกลัวว่าจะไม่มีใครหนีรอดน่ะสิ!
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว! ผมมีหน้าที่ปกป้องคุณ!”
หวังเหยียนถอนหายใจเบา ๆ ก่อนปล่อยกระแสพลังวิญญาณไปทางฝูงค้างคาว ทำให้ค้างคาวสองสามตัวที่พุ่งเข้าหาพวกเขากระเด็นออกไปไกล
“มา! ไปกันเถอะ!”
พูดจบ เขาก็อุ้มหลิวว่านฉิงหนีออกจากรถ
ตอนนั้นเองค้างคาวกลุ่มใหญ่ได้พุ่งลงมาจากท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วยความเร็วสูง!
สถานการณ์เลวร้ายเกินไปแล้ว!
โชคดีก่อนที่ค้างคาวเหล่านั้นจะเข้าใกล้รถ หวังเหยียนก็ยกเท้าขึ้นถีบประตูรถอย่างเต็มแรงจนกระเด็นแล้ววิ่งหนีเอาตัวรอด!
วินาทีถัดมา กระจกหน้ารถแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ทันที!
ฝูงค้างคาวบินรุมล้อมพวกเขาเอาไว้ ไม่ช้าคนทั้งสองก็เจอทางหนี
เมื่อเห็นอย่างนั้นหวังเหยียนก็ระเบิดพลังภายในทันควัน ก่อนวิ่งเข้าป่ารกข้างทางโดยไม่ลังเล
สองข้างทางเป็นพื้นที่รกร้าง วัชพืชหลายชนิดมีความสูงเท่ากับเอวทำให้วิ่งได้ช้าลง
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถวิ่งไปตามถนนสายหลักได้ เพราะค้างคาวเหล่านั้นกระจายตัวไปรอบ ๆ แล้ว
“ปล่อยฉัน ฉัน…ฉันไม่อยากเป็นตัวถ่วง”
หลิวว่านฉิงโพล่งออกมาด้วยความตื่นตระหนก
“ไม่! ครั้งนี้ผมจะไม่ปล่อยคุณไปเด็ดขาด!”
หวังเหยียนกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ถึงจะวิ่งช้าลง แต่เขาไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยคนในอ้อมแขนไป
“อะไรนะ?”
หลิวว่านฉิงรู้สึกงุนงงเมื่อได้ยินอย่างนั้น เธอและอีกฝ่ายเพิ่งรู้จักกันแค่ไม่กี่วันเท่านั้นเอง!
“คุณไม่สงสัยเหรอว่าทำไมผมถึงทำดีกับคุณ?”
หวังเหยียนระเบิดพลังภายในออกมาอีกครั้ง ทันใดนั้นวัชพืชรอบตัวพวกเขาก็ถูกลมกระโชกแรงพัดจนราบเป็นหน้ากลอง
“ทำไมคะ?”
“คุณมีหน้าตาคล้ายกับคนที่ผมรู้จักมาก ต่างกันแค่คุณยังมีชีวิตอยู่ แต่เธอคนนั้นตายแล้ว”
หลังจากอธิบาย หวังเหยียนก็ปิดปากเงียบอีกครั้ง ขณะที่ฝูงค้างคาวไล่ตามเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ!
สุดท้ายแล้วสองเท้าของมนุษย์ก็เทียบปีกค้างคาวไม่ได้!
หวังเหยียนได้กลิ่นคาวเลือดมาจากข้างหลัง ตอนนี้เขารู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เขาจะถูกสัตว์ร้ายตามทันและถูกแทะกินจนเหลือแต่กระดูกภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีแน่นอน
จู่ ๆ หลิวว่านฉิงที่เงียบไปนานก็อุทานเสียงดัง
“ข้างหน้ามีโกดัง”
หวังเหยียนมองไปข้างหน้าแล้วพบว่ามีโกดังร้างตั้งอยู่ท่ามกลางความมืด
แต่เมื่อพิจารณาจากความแข็งแกร่งของฝูงค้างคาวแล้ว โกดังร้างคงต้านพวกมันไม่อยู่แน่
“ป้อนยาให้ม้าตาย*[1]”
หวังเหยียนไม่มีเวลาให้คิดมากแล้ว ทันใดนั้นเขาก็ระเบิดพลังภายในออกมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว!
“ตึง!”
หวังเหยียนวิ่งเข้าไปในโกดังอย่างไม่ลังเล จากนั้นเขารับหันหลังกลับไปมองประตูโกดัง
“แปะ ๆๆๆ”
เสียงค้างคาวบินชนประตูโกดังดังขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับเม็ดฝน หลังจากใช้พลังภายในอย่างมหาศาล ใบหน้าของหวังเหยียนก็ซีดเผือด
ระหว่างหลบหนีเขาใช้พลังภายในมากเกินไป
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาบรรลุขอบเขตพลังภายในขั้นสูงสุดเมื่อไม่กี่วันก่อน หวังเหยียนคงไม่สามารถเอาชนะค้างคาวกระหายเลือดเหล่านั้นได้
ไม่นานเสียงกระแทกข้างนอกประตูก็เงียบลงราวกับสวรรค์มาโปรด
เมื่อเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ เสียงกระพือปีกด้านนอกก็หายไปเช่นกัน
“พวกมัน…ไปแล้วเหรอ?”
ทั้งสองคนหันมองหน้ากัน ขณะที่หลิวว่านฉิงมีสีหน้าไม่เชื่อ
หวังเหยียนขมวดคิ้วแน่น เขารู้ดีว่าเรื่องนี้คงไม่จบลงง่าย ๆ แน่นอน
ดูจากพฤติกรรมของพวกมันก่อนหน้านี้แล้ว เรื่องนี้ต้องมีคนบงการแน่นอน
“ผมจะออกไปดูสักหน่อย”
เขาหันหลังกลับแล้วเดินไปแง้มประตูโกดังเพื่อสำรวจข้างนอก
สิ่งที่เห็นต่อไปนี้กลับทำให้เขารู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัว!
ค้างคาวเหล่านั้นไม่ได้หนีไปไหน แต่พวกมันบินวนอยู่ข้างนอกโกดังเหมือนกับกำลังรอบางอย่าง
ตอนนั้นเอง!
เขารู้สึกว่าชายเสื้อถูกกระตุกเบา ๆ เมื่อหันกลับไปมองพบว่าหลิวว่านฉิงกำลังมองบางอย่างที่อยู่หน้าโกดังด้วยสายตาหวาดกลัว!
“น…นั่นใครน่ะ?”
หลิวว่านฉิงพึมพำขณะก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว
หวังเหยียนมองตามสายตาอีกฝ่าย ก่อนรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว!
คืนนี้มีเรื่องแปลก ๆ มากมายที่ทำให้เขาตกใจ แต่เมื่อเทียบกับภาพตรงหน้าแล้ว เหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่มีอะไรน่ากลัวสักนิด!
“แกเป็นใคร!”
คนผู้หนึ่งเดินออกมาท่ามกลางความมืดมิด!
ชายปริศนามีดวงตาแดงก่ำ รูปร่างซูบผอม ถ้าสังเกตจากคำพูดหยอกล้อ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายกำลังรอพวกเขาทั้งสองคนอยู่!
“ฮ่า ๆ พวกแกคิดว่าจะหนีพ้นเหรอ?”
เสียงเหน็บแนมดังขึ้นท่ามกลางความมืด เสียงนั้นแหบแห้งน่าสยดสยองอย่างมาก
“ฉันถามว่าแกเป็นใคร?”
หวังเหยียนแผ่พลังภายในออกมาล้อมรอบร่างกายอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เดินไปขวางหลิวว่านฉิงเอาไว้
“แกเป็นคนบงการค้างคาวพวกนี้ใช่ไหม?”
[1] ป้อนยาให้ม้าตาย เปรียบเปรยถึง พยายามทำสิ่งอย่างเพื่อเอาตัวรอดในสถานการณ์สิ้นหวัง