ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] - บทที่ 477 เปิดประตูให้ผมหน่อย
บทที่ 477 เปิดประตูให้ผมหน่อย
บทที่ 477 เปิดประตูให้ผมหน่อย
อวี้ฮ่าวหรานสบถด่าด้วยความโมโห
เขาเปิดใช้เนตรเทวะทันที ไม่นานก็มองเห็นร่างของชายคนนั้น!
พลังวิญญาณมหาศาลไหลเวียนมารวมอยู่ที่มืออย่างรวดเร็ว วินาทีต่อมา พลังเหล่านั้นก็ซึมซาบลงไปในพื้นดิน!
“ตูม!
หลังจากเกิดระเบิดดังสนั่น พื้นดินไม่ไกลจากที่เขายืนอยู่ก็ปูดขึ้น!
จากนั้นร่างหนึ่งก็ระเบิดออกมาพร้อมสิ่งสกปรกนับไม่ถ้วน
“ตุบ!”
ทันทีที่ร่วงลงบนพื้น ร่างซูบผอมกระอักเลือดออกมาอย่างน่าสยดสยอง!
“แก…แกเป็นใคร? แข็งแกร่งเกินไป! แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
เขารู้สึกราวกับว่าอีกฝ่ายมีพลังมหาศาลราวกับเทพเจ้า ขณะที่มือทั้งสองข้างสั่นระริกไม่หยุด
“ฉัน…ฉันไปขัดขาใคร…?”
ใบหน้าซูบตอบและน่าเกลียดน่ากลัวเต็มไปด้วยความสิ้นหวังอย่างเห็นได้ชัด
“ตายซะ!”
อวี้ฮ่าวหรานก้มมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นเยียบ จากนั้นก็ส่งพลังวิญญาณออกไปคร่าชีวิตชายคนนั้นทันที!
“เฉิงชิวอวี้!”
ชายหนุ่มพึมพำก่อนจากไปอย่างรวดเร็ว
“อวี้ฮ่าวหราน เขา…เขาเคยเป็นแบบนี้มาก่อนไหมคะ?”
หลิวว่านฉิงถามขณะมองร่างไร้วิญญาณและหลุมขนาดใหญ่บนพื้น
“อืม ลูกพี่อวี้เป็นคนตรง ๆ และมุทะลุแบบนี้แหละครับ”
หวังเหยียนพยักหน้า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นอีกฝ่ายระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างนี้
“ต่างกับ…เวลาปกติมากเลยนะคะ”
หลิวว่านฉิงพึมพำ ท่าทางของอวี้ฮ่าวหรานเมื่อครู่ดูเหมือนมหาเทพผู้เย็นชา แตกต่างกับอวี้ฮ่าวหรานชายหนุ่มผู้อ่อนโยนและสง่างามอย่างสิ้นเชิง
“คุณต้องทำใจให้ชินครับ เพราะว่าเขาเป็นคนลึกลับมาก”
หวังเหยียนตอบด้วยท่าทางสบาย ๆ
“ไปกันเถอะครับ คุณเสียเลือดมากเกินไปแล้ว”
ตอนนี้ผ้าก๊อซพันแผลที่หน้าอกของอีกฝ่ายชุ่มไปด้วยเลือด ดูเหมือนว่าปากแผลของเธอจะฉีกขาดระหว่างหลบหนี
ทั้งสองออกจากสถานที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว
…
ภายในวิลล่าตระกูลเฉิง
หลังจากเฉิงชิวอวี้ขว้างสิ่งของใส่ค้างคาวตัวโตเป็นครั้งที่สาม เธอก็ตะโกนท้าทายพวกมัน
“เข้ามาสิ! พวกแกอยากกินเลือดฉันเหรอ! ฝันไปเถอะ!”
ทันใดนั้นเสียงแปลกประหลาดก็ดังขึ้น มีบางอย่างเกิดขึ้นกับหน้าต่างบานใหญ่!
“เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ…”
เฉิงชิวอวี้หันมองด้านข้าง เธอถึงกับตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าหน้าต่างบานใหญ่ถูกฝูงค้างคาวบินกระแทกจนเกิดรอยร้าวขนาดใหญ่!
“เป็นไปได้ยังไง นั่นไม่ใช่กระจกเทมเปอร์ปลอมสักหน่อย!”
เฉิงชิวอวี้พึมพำขณะพยายามข่มความกลัวในจิตใจ เธอจะต้องไม่แสดงท่าทีตื่นตระหนกต่อหน้าศัตรู!
ตอนนั้นเองค้างคาวที่อยู่ในห้องพุ่งเข้าโจมตีเธออย่างรวดเร็ว!
“ฉัวะ!”
กรงเล็บค้างคาวคมกริบราวกับมีดสั้น กรงเล็บแหลมคมเฉือนชุดนอนและเสื้อคลุม ก่อนจะทะลุเข้าไปสัมผัสกับต้นแขนเฉิงชิวอวี้ ทำให้เลือดไหลเป็นทาง!
“โอ๊ย! ไอ้พวกค้างคาวผี!”
เธอสะดุ้งตกใจอย่างแรง ในที่สุดความกลัวก็เข้ากัดกินจิตใจเธอ
เสียงกระแทกข้างนอกหน้าต่างดังขึ้นเรื่อย ๆ ค้างคาวเหล่านั้นไม่กลัวตายแม้แต่น้อย ขณะนี้หน้าต่างบานใหญ่ได้อาบไปด้วยเลือดของสัตว์เดรัจฉานเหล่านั้น ทำให้เฉิงชิวอวี้หวาดกลัวอย่างมาก
วิ่ง!
ตอนนี้ความตื่นตระหนกแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายเธอแล้ว เฉิงชิวอวี้ยอมแพ้ให้กับฝูงค้างคาว เธอขว้างหนังสือขาดรุ่งริ่งในมือไปที่ค้างคาวตัวหนึ่งแล้ววิ่งไปทางประตูทันที!
อย่างไรก็ตามค้างคาวอีกหนึ่งตัวที่เหลือบินตามเธอมาติด ๆ ขณะที่ประตูกำลังปิดลง หัวค้างคาวโผล่ออกมาครึ่งหนึ่งจนถูกประตูหนีบ!
“อะไรกันเนี่ย?”
เฉิงชิวอวี้ขมวดคิ้วแน่น หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ตัดสินใจใช้มือดันหัวค้างคาวที่น่าเกลียดกลับเข้าไปในห้องจนเกือบถูกกัด
“โอ๊ย!”
หญิงสาวกรีดร้อง นิ้วบอบบางหดกลับอย่างรวดเร็วราวกับถูกไฟฟ้าช็อต
โชคดีที่เธอผลักหัวค้างคาวเข้าไปในห้องแล้ว
“ตึง!”
เธอปิดประตูห้องนอนอย่างรวดเร็ว
เฉิงชิวอวี้ที่กำลังตื่นกลัวทรุดลงนั่งกับพื้นทันที
บาดแผลบนแขนยังมีเลือดไหลไม่หยุด ซึ่งทำให้เธอรู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อย
ถึงอย่างนั้นเสียงกระแทกข้างนอกหน้าต่างก็ทำให้เธอรู้สึกหมดหนทาง ก่อนหาทางหนีอีกครั้ง
เธอหยุดยืนอยู่หน้าประตูบ้านชั้นหนึ่ง ขณะชั่งใจว่าจะหนีออกไปดีหรือไม่ แต่จู่ ๆ ประตูก็ถูกบางอย่างกระแทกจนเสียงดังสนั่น!
“ตึง! ตึง…”
ท่ามกลางความมืด ร่างกายเฉิงชิวอวี้สั่นเทาด้วยความกลัว!
“ตึง!”
แสงจันทร์ส่องสว่างเผยให้เห็นค้างคาวตัวโตกำลังบินกระแทกประตูอย่างแรง หัวของมันโชกไปด้วยเลือดสีแดงฉาน!
เมื่อเห็นอย่างนั้น ใบหน้าของเธอจึงซีดขาวด้วยความตกใจ ร่างกายสั่นสะท้าน จากนั้นจึงตัดสินใจวิ่งหนีทันที
เธอคุ้นเคยกับวิลล่าหลังนี้ดี หลังจากครุ่นคิดชั่วครู่ เธอก็นึกขึ้นได้ว่าที่นี่มีห้องใต้ดิน
ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีแค่ห้องใต้ดินที่ปลอดภัยที่สุด
เธอไม่มีเวลาคิดอีกต่อไป เมื่อค้างคาวตัวใหญ่บินกระแทกประตูจนพังเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ถึงประตูบานนั้นจะสวยงามแต่กลับบอบบางจนไม่สามารถขวางกั้นสิ่งอันตรายเอาไว้ได้
“ตึง!”
ท้ายที่สุด เธอก็ปิดประตูห้องใต้ดินทันเวลาก่อนที่ค้างคาวจะแทรกตัวเข้ามาในห้องสำเร็จ
ห้องใต้ดินมืดมากจนไม่สามารถมองเห็นแม้แต่นิ้วมือ
ร่างกายของเฉิงชิวอวี้อ่อนยวบลงกับพื้น เธอรู้สึกอ่อนเพลียเหลือเกิน
ตอนนั้นเอง! ท่ามกลางความมืดและบรรยากาศเงียบสงัด เสียงกระแทกดังมาจากข้างนอกประตู!
“จบแล้วสินะ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เฉิงชิวอวี้รู้ทันทีว่าฝูงค้างคาวหาตัวเธอเจอแล้ว
ความสิ้นหวังพลันกัดกินหัวใจเธอ
เธอทำดีที่สุดแล้ว ท่ามกลางความมืดที่ดำเนินไปอย่างช้า ๆ ใครจะมาช่วยเธอได้ล่ะ?
เมื่อนึกภาพตัวเองถูกค้างคาวกันกินทั้งเป็น เธอก็อดหวาดกลัวไม่ได้
หยดน้ำตาค่อย ๆ ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยหยดแล้วหยดเล่า
“ฉันต้องตายในสภาพน่าอนาถแบบนั้นจริง ๆ เหรอ? ถ้าฮ่าวหรานเห็น เขาต้องคิดว่าฉันน่าเกลียดแน่นอน”
ภายใต้ความมืดมิด เธอจดจำใบหน้าอ่อนเยาว์และหล่อเหลาของเขาได้อย่างชัดเจน
“ถ้า…ถ้าเขาอยู่ที่นี่…”
ขณะที่เฉิงชิวอวี้ตกอยู่ในภวังค์ เสียงกระแทกข้างนอกประตูก็ยิ่งรุนแรงกว่าเดิมราวกับมันสามารถพังได้ทุกเมื่อ!
“ถ้าฮ่าวหรานอยู่ที่นี่ เรื่องทุกอย่าง…คงจบไปแล้ว…”
ตอนที่เธอกำลังคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ จู่ ๆ เสียงข้างนอกก็เงียบลง!
“ตึก ตึก”
ตามมาด้วยเสียงฝีเท้า
“ก๊อก ก๊อก!”
เสียงเคาะประตูห้องใต้ดินดังขึ้น!
เฉิงชิวอวี้ตัวสั่นงันงก ในใจเธอรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก เธอคิดว่าคนบงการทุกอย่างมาตามล่าตัวเองถึงที่นี่แล้ว
ค้างคาวพวกนั้นจะหยุดกะทันหันแบบนี้ได้ยังไง?
“ฉันต้องตายแล้วเหรอ?”
ท่ามกลางความมืด เธอควานไปเจอเศษกระจกแล้วออกแรงบีบมันอย่างแรงจนเลือดหยดลงบนพื้น!
“ถ้าจะตาย ฉันขอตายด้วยน้ำมือตัวเองดีกว่า”
เฉิงชิวอวี้สิ้นหวังมากจนคิดฆ่าตัวตาย
ในเมื่อสุดท้ายแล้วต้องถูกค้างคาวกัดตายอยู่ดี ดังนั้นการฆ่าตัวตายจึงถือเป็นทางเลือกที่ดี
ขณะที่หญิงสาวกำลังคิดสั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นที่ข้างนอกประตู!
“ชิวอวี้ ผมเอง เปิดประตูให้ผมหน่อย”
เสียงนั่นแผ่วเบาอย่างมาก เมื่อเฉิงชิวอวี้ได้ยิน เสียงนั้นก็ดังก้องอยู่ในหัวของเธอไม่รู้จบ!
เขา…อยู่ที่นี่…
ในที่สุดเขาก็มาแล้ว…!
เศษกระจกร่วงหล่นจากมือของหญิงสาวตกลงบนพื้นจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ
ประตูห้องใต้ดินถูกเปิดออก
แสงจันทร์ส่องสว่างเข้ามาในห้อง ทำให้อวี้ฮ่าวหรานเห็นใบหน้าอีกฝ่ายอย่างชัดเจน
ใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าซีดเซียวอย่างมาก แถมยังมีท่าทีตื่นกลัวอีกด้วย
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่สามารถบดบังความงามของเธอได้แม้แต่น้อย
“ผมมาแล้ว”
เมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่าย อวี้ฮ่าวหรานก็อดกังวลไม่ได้
มนุษย์ไม่ใช่ต้นหญ้าหรือตอไม้ที่ไร้ความรู้สึก หลังจากใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เป็นเวลานาน เขาก็รู้สึกได้ว่าตัวเองไม่ใช่มหาเทพคนเดิมอีกต่อไป