ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] - บทที่ 55 ข่าวคืบหน้าขององค์กรอสรพิษ
บทที่ 55 ข่าวคืบหน้าขององค์กรอสรพิษ
บรรดาบอดี้การ์ดที่อยู่ในสวนหน้าบ้านต่างวิ่งหนีแตกกระเจิง เมื่อเห็นว่าอวี้ฮ่าวหรานถีบประตูคฤหาสน์จนกระเด็นและค่อย ๆ เดินออกมา
เมื่อครู่พวกเขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้านในเช่นกัน เพราะพวกเขาต่างแอบดูเหตุการณ์จากนอกหน้าต่างตอนที่ได้ยินเสียงอึกทึกข้างใน
แน่นอนว่าเมื่อได้เห็นความแข็งแกร่งของอวี้ฮ่าวหรานเรียบร้อย มันก็ไม่มีใครในพวกเขาที่กล้าเผชิญหน้ากับอวี้ฮ่าวหรานอีก
อวี้ฮ่าวหรานเดินออกไปจากคฤหาสน์และเรียกแท็กซี่ กลับไปที่บ้านของเขาก่อนเพราะเขายังไปที่โรงพยาบาลในสภาพแบบนี้ไม่ได้ เสื้อเขาขาดยับเยินแถมยังมีเลือดของบรรดาศัตรูเปรอะอยู่มากมาย ส่วนเหตุผลที่แท็กซี่ยอมรับเขาขึ้นรถเป็นเพราะว่าเขาเสนอเงินก้อนโตให้
จากนั้นเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จและทิ้งเสื้อผ้าชุดเก่าไป อวี้ฮ่าวหรานก็เดินทางไปที่โรงพยาบาลอีกรอบพร้อมกับถุงอาหารเต็มมือ แน่นอนว่าเขายังไม่ลืมว่าจะต้องซื้อข้าวให้หลี่หรงกิน
-“ถวนถวน หนูคิดถึงพ่อรึเปล่า?”
“ช่าย! แม่หรง ถวนถวนคิดถึงคุณพ่อมาก ๆ เล้ย!”
ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องพิเศษที่ถวนถวนอยู่ อวี้ฮ่าวหรานก็ได้ยินเสียงพูดคุยของหลี่หรงและถวนถวนดังออกมาถึงนอกห้อง
“ถวนถวน หนูรู้ไหมว่าหนูทำให้แม่หรงเป็นห่วงแทบตาย วันหลัง หนูจะนอนหมดสติแบบนี้นาน ๆ ไม่ได้แล้วนะรู้ไหม”
ในระหว่างที่หลี่หรงและถวนถวนกำลังคุยกันอยู่ อวี้ฮ่าวหรานก็เปิดประตูเข้าไปในห้องด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มราวกับเมื่อครู่เขาไม่ได้เพิ่งฆ่า คนกลุ่มใหญ่มา
“พ่อ!”
ทันทีที่เห็นอวี้ฮ่าวหราน ถวนถวนตะโกนลั่นด้วยความดีใจ
ในทางกลับกันสีหน้าของหลี่หรงกลับเป็นกังวล เธอได้ยินมาเหมือนกันว่าเมื่อตอนเที่ยง อวี้ฮ่าวหรานถูกชายชุดสูทดำพาตัวไปจากหน้าโรงพยาบาล
แต่เมื่อเห็นตอนนี้เขากลับมาแล้วในสภาพที่ดูไม่เป็นอะไร เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
“พี่เขย พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
อวี้ฮ่าวหรานหัวเราะพร้อมกับพยักหน้า เขาเดินเข้าไปกอด ถวนถวน และพูดกับหลี่หรงว่า “พี่จะเป็นอะไรได้ยังไง ว่าแต่ถวนถวน ตอนนี้เป็นปกติดีแล้วใช่ไหม?”
“หมอบอกว่าถวนถวนเป็นปกติดีแล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หากพวกเราจะทำเรื่องกลับบ้านวันนี้เลยก็ยังได้”
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าตอบรับ จากนั้นพวกเขาจึงไปทำเรื่องขอออกจากโรงพยาบาล และเมื่อจ่ายเงินเสร็จพวกเขาก็พากันขับรถกลับคอนโด แต่แล้วในระหว่างที่อยู่บนรถ เมื่อหลี่หรงเห็นสองข้างทางมีดอกไม้ขึ้นอยู่มากมายตามรายทาง จู่ๆ เธอก็มีความคิดอยากได้ดอกไม้สักช่อ เอาไปจัดที่ห้อง “พี่เขย เดี๋ยวเราแวะที่ตลาดดอกไม้ก่อนจะได้ไหม ฉันอุดอู้อยู่แต่ในโรงพยาบาลมาหลายวัน ฉันอยากจะเอาช่อดอกไม้ ไปวางที่ห้องสักหน่อยเพื่อเสริมบรรยากาศ”
ถวนถวนตะโกนขึ้นเช่นกันเมื่อได้ยินคำพูดของหลี่หรง “เย้ เย้ หนูก็อยากได้ดอกไม้ ๆ”
“จ้า จ้า เดี๋ยวแม่หรงจะซื้อดอกไม้สีแดงช่อโต ๆ ให้กับถวนถวนนะ ดีไหม?” หลี่หรงเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
หลังจากนั้นไม่นาน อวี้ฮ่าวหรานก็ขับรถไปถึงตลาดดอกไม้
ถวนถวนและหลี่หรงต่างพากันเลือกดอกไม้อย่างสุขสันต์
“พ่อจ๋า เมื่อไหร่ที่หนูโตขึ้นหนูจะซื้อดอกไม้ให้พ่อเยอะ ๆ เล้ย!”
อวี้ฮ่าวหรานหัวเราะให้กับรอยยิ้มอันไร้เดียงสาของลูกสาวของเขา
“ได้เลย แล้วพ่อจะรอวันนั้นนะ!”
ภาพแบบนี้หากบรรดาพวกตัวตนระดับสูงในดินแดนแห่งเทพได้มาเห็นเข้า พวกเขาคงตะลึงกันจนอ้าปากค้าง
เมื่อไหร่กันที่จักรพรรดิเทพแห่งสวรรค์ชั้น 33 ผู้ซึ่งฆ่าสิ่งมีชีวิตไป นับไม่ถ้วนมีด้านที่อ่อนโยนแบบนี้ด้วย?
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง หลี่หรงและถวนถวนก็ได้ดอกไม้มาหลายช่อใหญ่พร้อมกับแจกันสลักลวดลายสวย ๆ หลายใบก่อนที่ พวกเขาจะขับรถมุ่งหน้ากลับคอนโดกันทันที
หลังจากกลับไปถึงห้อง พี่เลี้ยงหนิงพลันวิ่งเข้ามากอดหลี่หรงและ ถวนถวนด้วยสีหน้าดีใจ
ถึงแม้ว่าในระหว่างที่หลี่หรงและถวนถวนอยู่ที่โรงพยาบาลพี่เลี้ยงหนิงจะแวะไปดูทั้งคู่อยู่บ่อย ๆ แต่เมื่อเธอเห็นว่าทั้งคู่กลับมาบ้านโดยไม่มีอะไรบุบสลาย เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโล่งใจและดีใจ เป็นอย่างมาก
หลังจากถามไถ่กันเรียบร้อย หลี่หรงและพี่เลี้ยงหนิงก็พากันไป จัดดอกไม้และตกแต่งห้องจนสวยงาม
“เฮ้อเสร็จสักที พี่หนิง พี่รู้ไหมว่าฉันเบื่อมาก ๆ เลยตอนที่อยู่โรงพยาบาล ที่นั่นไม่มีอะไรให้มองให้ชื่นใจเลย”
เมื่อตกแต่งห้องเสร็จ หลี่หรงก็มองไปทั่วห้องด้วยสายตาอิ่มเอิบ จากนั้นเธอจึงชวนพี่เลี้ยงหนิงไปอุ่นกับข้าวที่อวี้ฮ่าวหรานซื้อมาในครัว
ในเวลาเดียวกันนั้น ทางด้านของอวี้ฮ่าวหราน จู่ๆ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
“ก่อนหน้านี้คุณบอกให้ผมสืบเรื่องที่อยู่ขององค์กรอสรพิษ ตอนนี้ผมมีความคืบหน้าแล้ว! หากพรุ่งนี้คุณว่างคุณเข้ามาดูรายละเอียดที่ออฟฟิศผมได้เลย!”
ปลายสายไม่ใช่ใครอื่น เขาคือเฉิงกัวอันนั่นเอง
อวี้ฮ่าวหรานเมื่อได้ยินเช่นนี้เขารู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก เขาไม่นึกเลยว่าเฉิงกัวอันจะหาข้อมูลมาให้เขาได้เร็วขนาดนี้ หลังจากวางสายไป อวี้ฮ่าวหรานก็กินข้าวมือเย็นกับหลี่หรง ถวนถวน และพี่เลี้ยงหนิง จากนั้นเขาขอตัวแยกเข้าไปในห้องนอนทันทีเพื่อที่เขาจะได้บ่มเพาะต่อ
เขาตั้งใจว่าพรุ่งนี้เมื่อเขาได้รู้ที่ซ่อนของไอ้พวกนักฆ่าสารเลวนั่น เขาจะไปถล่มพวกมันทันที เขาจะไม่ยอมให้คนเหล่านั้นมาสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของเขาอีกเป็นครั้งที่สอง!
เช้าวันต่อมา
อวี้ฮ่าวหรานขับรถตรงไปที่บริษัทของเฉิงกัวอันอย่างรวดเร็วหลังจากส่งถวนถวนเข้าโรงเรียนเสร็จ
ที่ชั้นบนสุดของบริษัท เฉิงกัวอันในตอนนี้กำลังแสดงสีหน้าจริงจังในระหว่างที่เขาเผยข้อมูลขององค์อสรพิษให้กับอวี้ฮ่าวหรานฟัง
“องค์กรอสรพิษนั้นไม่ธรรมดาเลย จากที่ผมสืบมา องค์นี้มีสาขา ปกคลุมไปทั่วทั้งประเทศของเรา ซึ่งในเมืองฮ่วยอันของเรานั้นก็มี สาขาหนึ่งของพวกเขาตั้งอยู่”
“มันอยู่ที่ไหน?” อวี้ฮ่าวหรานถามกลับทันที เขาประหลาดใจเล็กน้อยที่องค์กรนี้มันใหญ่กว่าที่เขาคิด
“มันอยู่ที่อาคารก่วงผิง องค์กรอสรพิษสาขาในเมืองฮ่วยอัน ตั้งบริษัทขึ้นมาบังหน้าที่ด้านล่างของตึก จากข้อมูลที่ผมสืบทราบมาบรรดาคณะบริหารทั้งหมดของบริษัทที่นั่นล้วนแล้วแต่เป็นคนขององค์กรอสรพิษกันทั้งนั้น”
“คุณอวี้ ผมพูดตามตรง ไม่ว่าคุณจะมีความบาดหมางอะไรกับองค์กรอสรพิษ ผมไม่อยากให้คุณบุกเข้าไปที่นั่นตรงๆ ตอนนี้เลย องค์กรอสรพิษนั้นเป็นองค์กรที่โหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก ผมเกรงว่าหากมีเรื่องขึ้นมาจริง ๆ แม้แต่ผมเองก็คงช่วยคุณไม่ได้”
หลังจากบอกที่ตั้งแล้ว เฉิงกัวอันก็เอ่ยเตือนขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“หึ! พวกมันก็แค่องค์กรนักฆ่าธรรมดาๆ คุณไม่ต้องกังวลหรอกในเมื่อพวกมันบังอาจมาทำร้ายครอบครัวของผม ผมไม่มีทางปล่อย พวกมันไปแน่นอน!”
อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา เขาตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะต้องเอาคืนหนี้แค้นนี้ให้ได้
เมื่อเห็นท่าทีที่แน่วแน่และมั่นใจของอวี้ฮ่าวหราน เฉิงกัวอัน จึงไม่พูดอะไรต่ออีก แถมมันยังพาลทำให้เขารู้สึกมั่นใจไปด้วย อีกต่างหาก
ไม่แน่ว่าผู้ชายคนนี้อาจจะจัดการกับองค์กรอสรพิษสำเร็จก็เป็นได้?
ต้องรู้ว่าบรรดาบริษัทใหญ่ทั้งหลายในเมืองล้วนแล้วแต่หวั่นเกรงการดำรงอยู่ขององค์กรอสรพิษในเมือง เพราะเมื่อในอดีตองค์กรนี้เคย ฆ่าล้างบริษัทใหญ่ในเมืองมาแล้ว
หากอวี้ฮ่าวหรานสามารถกำจัดองค์กรนี้ได้สำเร็จจริงๆ เฉิงกัวอันจะโล่งใจเป็นอย่างมาก หลังจากได้ข้อมูลเรียบร้อย อวี้ฮ่าวหรานก็ไม่รั้งรออะไรอีกต่อไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปที่ตึกก่วงผิงทันที!
อวี้ฮ่าวหรานแทบจะทนไม่ไหวต้องการกำจัดองค์กรอสรพิษออกไปเร็ว ๆ เพราะเขาไม่รู้ว่าองค์กรนี้จะโจมตีเขาอีกรอบเมื่อไหร่ ดังนั้นเขา จึงต้องเป็นฝ่ายลงมือปิดฉากฝั่งตรงข้ามก่อน!