ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา - ตอนที่ 130 ศิษย์เขาหลีซานอยู่ที่ใด
เมื่อคำพูดนี้ถูกพูดออกมา บนยอดเขาต่างเงียบสนิทกันหมด
ชิวซานจวินมองไปที่ทุกคนแล้วพูดขึ้น “อาจารย์ปู่เล็กเป็นบุคคลในระดับใด อย่าว่าแต่จะเคยมีอดีตกับองค์หญิงเผ่ามารเลย ต่อให้พานางแต่งเข้าเขาหลีซานแล้วจะทำไม”
เสี่ยวซงกงโมโหอย่างมาก ในใจคิดว่านี่ช่างเป็นคำพูดที่เหลวไหลขนาดไหนกัน ถึงจะเป็นพวกศิษย์เขาหลีซานก็ยังรู้สึกว่าศิษย์พี่ใหญ่ที่ตนเคารพรักพูดเรื่องนี้อย่างไร้เหตุผล
แน่นอนว่าชิวซานจวินสามารถรับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่หน้าถ้ำพำนัก ถึงได้พูดขึ้น “อาจารย์ปู่เล็กแต่งงานกับองค์หญิงเผ่ามาร ได้ทำให้มนุษย์เสียผลประโยชน์หรือไม่ ถ้าหากว่าไม่ได้มีผลกระทบอะไร เช่นนั้นจะถือว่าเป็นความผิดอะไร ในสายตาของข้ากลับเป็นฝ่ายมนุษย์ที่ได้เปรียบอย่างมหาศาล”
บนยอดเขามีคนที่ไม่พอใจ จึงตะโกนขึ้นมาเสียงดัง “คนกับมารไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ ไหนเลยจะสามารถแต่งงานกันได้”
ใบหน้าของเสี่ยวซงกงมืดคล้ำ แล้วพูดขึ้น “ช่างเหลวไหลอย่างถึงที่สุดจริงๆ!”
“ที่เรียกว่าเหลวไหล ก็เป็นเพียงเรื่องที่คนทั่วไปไม่กล้าทำ เป็นวิถีทางที่ไม่กล้าเดิน” ชิวซานจวินมองเสี่ยวซงกงแล้วพูดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “ตั้งแต่ที่บรรพชนพรรคกระบี่เขาหลีซานของเราเปิดสำนักจนมาถึงอาจารย์ปู่เล็ก แต่ไหนแต่ไรมาก็กล้าทำเรื่องที่คนบนโลกไม่กล้าทำ ถึงได้สร้างผลงานที่ไม่มีคนบนโลกกล้าจะสร้าง หากพูดว่าเหลวไหล ก็เป็นความเหลวไหลอย่างยอดเยี่ยม!”
หลังจากนั้นเขาก็มองไปยังศิษย์เขาหลีซานที่อยู่บนยอดเขา พลางพูดขึ้นเสียงเข้ม “อาจารย์ปู่เล็กกล้าสังหารราชาเผ่ามาร กล้าแต่งงานกับองค์หญิงเผ่ามาร นี่ถึงจะเป็นจิตวิญญาณของเขาหลีซาน พวกเจ้าเป็นศิษย์ของเขาหลีซาน ไม่รู้สึกเชิดหน้าชูตา แต่กลับมาทำหน้าตาอมทุกข์ เจตจำนงกระบี่ไม่นิ่ง ไหนเลยจะคู่ควรกับท่วงทำนองของเขาหลีซาน! ช่างทำให้ข้าผิดหวังอย่างมากจริงๆ!”
คำพูดของเขาเป็นดั่งกระบี่ ลงจากหน้าผาเป็นสายลม อาศัยค่ายกลกระจายเสียงจากค่ายกลใหญ่หมื่นกระบี่ ดังกระจายไปทั่วหุบเขา เข้าไปสู่หัวใจของศิษย์เขาหลีซานทุกๆ คน ราวกับเสียงระฆังที่ดังขึ้นมาก็ไม่ปาน ทำให้ทุกคนได้สติขึ้นมา
ผู้คนต่างพูดกันว่า กระบี่ของเขาหลีซาน ตัวกระบี่นั้นแสนแหลมคม จิตวิญญาณของเขาหลีซาน ท่วงทำนองของเขาหลีซาน ก็อยู่ที่คำว่าแหลมคมสองคำนี้! ความแหลมคมที่เผยออกมา เบื้องหน้ากระบี่ที่เยือกเย็น ไหนเลยจะยังมีกฎเกณฑ์อะไร ไหนเลยจะมีเหตุผลอะไร ไหนเลยจะใส่ใจว่าเรื่องใดเหลวไหล! ที่เขาหลีซานพูดก็คือเส้นทางหลักของเจตจำนงกระบี่ ไม่มีทางที่จะยอมถูกผูกมัดด้วยกรอบอันคร่ำครึ!
ไป๋ไช่ฮึกเหิมอย่างถึงที่สุด ในใจคิดว่าสมแล้วที่เป็นศิษย์พี่ใหญ่ เมื่อฟื้นขึ้นมา ก็ทำให้ทั่วทั้งเขาหลีซานล้วนฟื้นขึ้นมาใหม่ เหล่าศิษย์จำนวนนับไม่ถ้วนกำลังลังเลกับเรื่องก่อนหน้า ถึงขนาดมีความคิดจะประนีประนอม ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกละอายใจ ถึงขนาดที่เหงื่อไหลเป็นน้ำ
ประมุขตระกูลชิวซานมองดูบุตรชายที่ใช้เพียงแค่ไม่กี่ประโยค ก็สามารถทำให้เขาหลีซานกลับมาเงียบสงบเยือกเย็นอีกครั้ง มองดูภาพของแสงกระบี่นับสิบสายที่สะท้อนใบหน้าที่ซีดขาวของเขา ความรู้สึกกลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก สีหน้าค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้นมา หลังจากนั้นก็มองไปที่ผู้ติดตามที่อยู่ข้างกายแวบหนึ่ง เขาไม่ชัดเจนว่าชิวซานจวินเตรียมตัวจะทำอะไร เพราะเหตุใดถึงทำเช่นนี้ แต่เขาต้องเตรียมการทำอะไรบางอย่าง ความรู้สึกของพวกเสี่ยวซงกงพลันเคร่งเครียดขึ้นมา จึงต้องเริ่มเตรียมการสำหรับการเจรจาในเวลาต่อไป แต่ระดับความเร็วของการพัฒนาของเรื่องราวกลับเหนือกว่าที่ทุกคนคาดคิด เพราะว่าเดิมทีชิวซานจวินก็ไม่คิดจะเจรจากับพวกเขา
ชิวซานจวินยกมือซ้ายขึ้นมา แตะไปที่แสงกระบี่นับสิบสายที่อยู่หน้าถ้ำพำนักเบาๆ ได้ยินเพียงเสียงพรึ่บดังขึ้นเบาๆ เจตจำนงกระบี่สายหนึ่งพลันออกมาจากปลายนิ้วของเขา พุ่งตรงเข้าไปหากระบี่เล็กเล่มหนึ่งที่มีรูปร่างโบราณซึ่งอยู่ภายในแสงกระบี่ กระบี่เล็กเล่มนั้นพลันออกมาจากแสงกระบี่ในทันที และพุ่งตรงไปยังท้องฟ้าสีครามที่อยู่เหนือยอดเขาหลัก
ในเวลานี้ทุกคนได้รู้กันแล้ว หัวหน้าพรรคเขาหลีซานได้แอบมอบค่ายกลใหญ่หมื่นกระบี่ให้กับชิวซานจวินตั้งแต่แรกแล้ว มองจากเรื่องนี้แล้ว ก่อนหน้านี้ที่พวกเสี่ยวซงกงกล่าวหาหัวหน้าพรรคว่าตั้งใจจะมอบตำแหน่งหัวหน้าพรรคให้กับชีเจียนไม่ใช่ชิวซานจวิน เรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องตลกไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงคิดไม่ถึงว่าชิวซานจวินจะถึงกับสามารถควบคุมกระบี่เล็กโบราณเล่มนั้นได้!
“กระบี่คำสั่งหัวหน้าพรรค” สีหน้าของเสี่ยวซงกงเปลี่ยนไปในทันที จึงตะโกนขึ้นเสียงดัง และปล่อยกระบี่ยาวที่อยู่ข้างเอวให้ออกจากฝักไป เพื่อที่จะสกัดไม่ให้กระบี่เล็กเล่มนั้นบินออกจากยอดเขา
แต่ชิวซานจวินได้เตรียมการไว้ตั้งแต่แรกแล้ว แขนเสื้อพลันโบกสะบัดขึ้นเบาๆ แสงกระบี่นับสิบสายได้ออกห่างจากถ้ำพำนักไป และพุ่งตรงไปยังเสี่ยวซงกง! แสงกระบี่นับสิบสายนี้เป็นถึงส่วนหนึ่งของค่ายกลใหญ่หมื่นกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาหลีซาน อานุภาพน่าหวาดกลัวจนยากจะจินตนาการ เสี่ยวซงกงหวาดกลัวอย่างมาก ไหนเลยจะไปสนใจขวางกระบี่เล็กเล่มนั้นอีก เขารีบดึงกระบี่ยาวกลับมารับเอาไว้
เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง!
เสียงของกระบี่คมที่ปะทะกันดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
แสงกระบี่นับสิบสายลอยกลับไปอยู่ที่ด้านหน้าของถ้ำพำนัก
บนชุดของเสี่ยวซงกงปรากฏรอยกระบี่อยู่หลายรอย เลือดสดๆ ก็ค่อยๆ ไหลออกมา ใบหน้านั้นน่าเกลียดอย่างถึงที่สุด ถึงเขาจะเป็นผู้อาวุโสที่มีวัยวุฒิสูงที่สุดในเขาหลีซาน ระดับการบำเพ็ญก็ไปถึงระดับรวบรวมดวงดาวขั้นสูงตั้งนานแล้ว ตอนนั้นในวังหลวงของจิงตู เขาก็เป็นรองเพียงแค่ขุนพลปีศาจในตำนานอย่างจินอวี้ลวี่ แต่ก็ยังคงไม่อาจเป็นคู่มือของค่ายกลใหญ่หมื่นกระบี่ของเขาหลีซานได้ ถ้าหากไม่ใช่ว่าอานุภาพส่วนใหญ่ของค่ายกลใหญ่หมื่นกระบี่ ล้วนใช้ไปกับค่ายกลกระบี่ที่กลางเขาเพื่อเตรียมการส่งยอดฝีมือของพรรคกระบี่เขาหลีซานส่งไปช่วยเหลือซูหลีทางตอนเหนือ จึงเหลือเพียงแสงกระบี่นับสิบสายนี้ ก็เกรงว่าในตอนนี้เสี่ยวซงกงจะต้องตายอยู่ที่นี่เสียแล้ว!
กระบี่เล็กเล่มนั้นได้พุ่งไปที่กลางอากาศ ศิษย์เขาหลีซานที่มีสายตาดีอยู่บ้างก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ในนาทีสุดท้าย กระบี่เล็กเล่มนั้นถึงกับแบ่งออกเป็นสามทาง และมุ่งหน้าไปยังสถานที่สามแห่ง
ผู้อาวุโสโถงบทบัญญัติแซ่หงผู้นั้นตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ “ชิวซาน เจ้าถึงกับกล้าลงมือกับผู้อาวุโส ช่างเนรคุณอย่างมากจริงๆ!”
ชิวซานจวินจ้องไปที่เขาแล้วตะโกนขึ้นเสียงดัง “หงจือโจว เจ้าถึงกับกล้าพาคนนอกบุกยอดเขาหลัก ทำร้ายหัวหน้าพรรค ช่างเนรคุณอย่างมากจริงๆ!”
คำพูดที่ออกมายังคงเหมือนกระบี่ แข็งแกร่งตั้งตรง กระจ่างดั่งถูกชำระล้าง ถึงแม้ระดับพลังของเขายังเทียบไม่ได้กับผู้อาวุโสของเขาหลีซานเหล่านี้ แต่ไม่ว่าจะเป็นความแหลมคมในคำพูดหรือการต่อสู้ ก็ไม่ได้ด้อยกว่าแม้แต่น้อย อำนาจที่ออกมาก็เต็มเปี่ยมยิ่งกว่า
ผู้อาวุโสโถงบทบัญญัติผู้นั้นหยุดนิ่ง ไม่รู้ว่าควรจะตอบโต้เช่นไร
ชิวซานจวินก้าวขึ้นหน้าไปหนึ่งก้าว และพูดขึ้นด้วยเสียงกระจ่างใส “พวกเสี่ยวซงกงทั้งสามคนบุกรุกยอดเขาหลัก ทำร้ายหัวหน้าพรรค สมคบคิดคนนอก เท่ากับการทรยศ ข้ารับคำสั่งจากหัวหน้าพรรค ถืออำนาจดูแลค่ายกลใหญ่หมื่นกระบี่ และตำแหน่งหัวหน้าพรรคเป็นการชั่วคราว ตามกฎของเขาหลีซาน ให้ขับไล่ทั้งสามคนออกจากเขาหลีซาน และส่งหนังสือไปยังเทือกเขาเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์ พรรคฉางเซิง พระราชวังหลี และนำเรื่องในวันนี้ประกาศแจ้งแก่ทั่วแผ่นดิน!”
เมื่อได้ฟังคำพูดเหล่านี้ ทุกคนล้วนตกตะลึงจนพูดไม่ออก ไหนเลยจะคาดถึงว่าชิวซานจวินจะดำเนินการได้เด็ดขาดจริงจังเพียงนี้ ไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายได้เจรจาใดๆ เลยแม้แต่น้อย และทำการขับไล่ผู้อาวุโสทั้งสามออกจากเขาหลีซานไปเลยตรงๆ! กระบี่คำสั่งหัวหน้าพรรคของเขาหลีซานพุ่งไปยังมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามแห่งแล้ว เรื่องนี้ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะแก้ไขอีกแล้ว เท่ากับว่าได้ตัดความเป็นไปได้ในการประนีประนอมทั้งหมดไปแล้ว!
สีหน้าของประมุขตระกูลชิวซานเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดอย่างน่าประหลาด จนกระทั่งถึงตอนนี้ เขาก็ยังคงไม่รู้ว่าบุตรชายของตนเตรียมการที่จะทำอะไร แต่ว่าชิวซานจวินได้พูดคำว่าคนนอกสองคำนี้มาถึงสองครั้งแล้ว ความหมายในนั้นช่างชัดเจนอย่างมากแล้ว…ไม่ว่าจะเป็นพรรคหลักในนามอย่างพรรคฉางเซิง หรือจะเป็นตระกูลชิวซานซึ่งเป็นสถานที่ให้กำเนิดอย่างแท้จริง ทว่าในเขาหลีซานก็ล้วนเป็นคนนอกทั้งนั้น เช่นนั้นแล้วก็สามารถนับได้ว่าเป็นศัตรู!
ชิวซานจวินกวาดมองไปยังภูเขารอบๆ แล้วถามขึ้น “ศิษย์เขาหลีซานอยู่ที่ใด ตามข้ามาขับไล่ศิษย์ทรยศกับศัตรูเหล่านี้ออกจากเขาหลีซาน!”
นี่ยังคงเป็นกระบี่ เป็นกระบี่ที่ทะลุทะลวงอย่างถึงที่สุด! ชิวซานจวินไม่ต้องการความคิดเห็นของสหายร่วมสำนัก เพียงแค่ต้องการให้พวกเขาตัดสินใจ และนี่ก็บังเอิญตรงกับเจตจำนงกระบี่ของเหล่าศิษย์เขาหลีซานพอดี สหายร่วมสำนักจะไม่ตอบรับได้อย่างไร ถึงจะเป็นศิษย์นับร้อยคนนั้นที่ติดตามพวกผู้อาวุโสเสี่ยวซงกงทั้งสามคนบุกขึ้นยอดเขา บนใบหน้าก็อดไม่ได้ที่จะเผยความลังเลไปจนถึงความละอายใจออกมา
ศิษย์เขาหลีซานอยู่ที่ใด ในแต่ละยอดเขาได้มีเสียงตอบรับดังขึ้นมา! นั่นคือเสียงของกระบี่!
กระบี่นับไม่ถ้วนได้ออกจากฝัก กลิ่นอายกระบี่ล้นทะลักออกมา พุ่งตรงไปยังท้องฟ้า!