นักดาบนุ่มนิ่มกับพลังโจมตีศูนย์ ~ถูกออราเคิลเพื่อนวัยเด็กทิ้ง เข้าโรงเรียนเวทมนต์ และจบที่ดูแลเจ้าอสูร - ตอนที่ 100 ยูจีนมาถึง ณ เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์
- Home
- นักดาบนุ่มนิ่มกับพลังโจมตีศูนย์ ~ถูกออราเคิลเพื่อนวัยเด็กทิ้ง เข้าโรงเรียนเวทมนต์ และจบที่ดูแลเจ้าอสูร
- ตอนที่ 100 ยูจีนมาถึง ณ เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์
100 ยูจีนมาถึง ณ เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์
เรือบินที่ออกเดินทางจากเมืองดันเจี้ยนผ่านดินแดนรกร้างที่ทำหน้าที่เป็นพรมแดนของจักรวรรดิและสหพันธรัฐบลูวอเตอร์
ดินแดนนี้ถูกรู้ว่าเป็นสนามรบระหว่างกองทัพของจักรวรรดิและสหพันธรัฐบลูวอเตอร์
มันก็ฝนตกไม่บ่อยด้วย และเป็นดินแดนว่างเปล่าแห่งหินและทราย ดังนั้นแทบไม่มีการตั้งถิ่นฐาน
พวกเดียวเท่านั้นที่อยู่ที่นี่น่าจะเป็นเหล่ามอนสเตอร์ที่ชอบพื้นที่แห้งและอาชญกรผู้กำลังซ่อนตัว
ดินแดนที่ไร้ชีวิตที่ยาวไปไม่จบไม่สิ้น
ทิวทัศน์นั้นดำเนินต่อไปในเรือบินประมาณหนึ่งวัน
เมื่อเราผ่านนั่นมา เราถูกทักทายโดยทะเลสาบใหญ่และเทือกเขาใหญ่ที่แทงทะลุก้อนเมฆกระทันหัน
น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่เดินทางจากภูเขาสูงสุดในทวีปทิศใต้, ยอดเขาแอนนา, และไหลยาวจากเทือกเขาสู่เทือกเทือกเขา สร้างทะเลสาบที่เหมือนพระจันทร์เสี้ยวนั่นคือทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในทวีป
ผมเห็นยอดเขาของเทือกเขาทาร์ซิสไม่ได้เพราะมันถูกซ่อนโดยเมฆ
คาลเดียถูกสร้าง ล้อมโดยเทือกเขา
เรือบินบินระหว่างภูเขาสูงอย่างช้าๆเหมือนเลี้ยวหลบพวกมัน
แล้วก็มีหมอกหนาอยู่ตลอดในเทือกเขาทาร์ซิสและมันถูกเรียกว่าป้อมปราการธรรมชาติ
เรือบินบินผ่านหมอกสีขาวโพลน
ซูมิเระและผมมาที่ดาดฟ้าเรือของเรือบินเพื่อมองดูทิวทัศน์ข้างนอก แต่สิ่งเดียวที่เราเห็นคือหมอกสีขาวโพลน
“ฉันไม่เห็นอะไรเลย…” (ยูจีน)
“เฮ้ ซาร่าจัง ฉันประทับใจที่กัปตันของเรือบินนี้บินข้างในหมอกนี้ได้” (ซูมิเระ)
“เพราะคนนึงเป็นกัปตันเรือบินของสหภาพศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ถ้าเธอทำนั่นไม่ได้ ซูมิเระจัง แล้วก็มันดีกว่าที่จะไม่เข้าหาราวจับมากเกินไป มอนสเตอร์เข้ามาใกล้ในหมอกและลากเธอลงไปได้” (ซาร่า)
“ฮิ๊!” (ซูมิเระ)
ซูมิเระรีบเคลื่อนที่หนี
“มันไม่เป็นไร ไม่มีมอนสเตอร์อยู่ใกล้” (ยูจีน)
ผมพูดนี่
ผมตรวจจับมานาได้ด้วยความสามารถนางฟ้าที่ผมสืบทอดมาจากแม่
ผมใช้มัน แต่ไม่มีมอนสเตอร์อยู่รอบเรือบิน
“อา เข้าใจแล้ว นั่นโล่งใจ” (ซูมิเระ)
“โอ้เหรอ นั่นหายากนะ” (ซาร่า)
ซาร่าเอียงหัวของเธอ
นั่นจริงๆ มีมอนสเตอร์อยู่เยอะในสภาพแวดล้อมของภูเขา
มันดูเหมือนมันจริงที่ว่าเทือกเขาทาร์ซิสนั้นอุดมสมบูรณ์ในธรรมชาติและมีมอนสเตอร์อาศัยอยู่เยอะ
ผมก็เคยได้ยินว่าเรือบินของสหภาพศักดิ์สิทธิ์ถูกโจมตีโดยมอนสเตอร์บ่อยครั้ง
แต่ไม่มีมอนสเตอร์ใกล้เรือบินนี้เพราะ…
“มันน่าจะเพราะพวกมันกลัวมานาอีฟริทของซูมิเระ” (ยูจีน)
“เอ๋?! จริงๆเหรอ ยูจี้คุง?!” (ซูมิเระ)
ซูมิเระตกใจ
“แต่ซูมิเระจังกำลังรั้งมานาเธอค่อนข้างเยอะแล้วนา” (ซาร่า)
“น-นั่นถูกแล้ว! ฉันควบคุมมานาฉันได้ด้วยผ้าคลุมเวททมนตร์อันที่อาจารย์ใหญ่ให้ฉันไว้” (ซูมิเระ)
“เขาให้เธอยืม ซูมิเระ” (ยูจีน)
“เธอแค่ยืมมัน ซูมิเระจัง” (ซาร่า”
ซาร่าและผมโต้ตอบเธอ ณ เวลาเดียวกัน
ซูมิเระกำลังใส่ผ้าคลุมซาลาแมนเดอร์
มันไม่ไหม้แม้ว่าด้วยมานามหาศาลของซูมิเระแล้วก็ยังช่วยควบคุมเวทมนตร์ได้ด้วย
พูดถึงแล้ว มันเป็นของโบราณที่มีค่าได้มากเท่าประเทศเล็กๆประเทศหนึ่งเลย
ภูติไฟเข้าหาหนึ่งคนแค่จากการใส่มัน ดังนั้นไม่ว่าใครที่ใส่มันยกเว้นซูมิเระเห็นว่าจะถูกเผาในทันที
“อา ใช่” (ซูมิเระ)
ซูมิเระทำหน้า ‘ทิฮิ๊☆’แล้วแลบลิ้นเธอออกมา
ดูเหมือนเธอคิดเต็มที่ว่ามันเป็นของเธอ
แต่ อืม ไม่มีใครนอกจากซูมิเระใส่มันได้
“แม้แต่ผ้าคลุมเวทมนตร์ก็รั้งมานาของซูมิเระไม่ได้” (ยูจีน)
“โฮ่ นั่นสะดวก รอบข้างเรือบินได้ถูกร่ายเวทมนตร์ป้องกันมอนสเตอร์ และกลิ่นที่มอนสเตอร์เกลียด แต่ประเด็นคือผลจะด้อยลงขณะการเดินทางดำเนินต่อไป ดูเหมือนไม่มีความจำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับมอนสเตอร์ที่มีซูมิเระจังอยู่ที่นี่” (ซาร่า)
“…หืมม เข้าใจแล้ว” (ซูมิเระ)
ซูมิเระทำหน้าตามีคำถาม
“พื้นฐานแล้วซูมิเระจังเป็นเครื่องประดับต้องสาปที่ขับไล่มอนสเตอร์ ฉันว่า?” (ซาร่า)
“มีความจำเป็นอะไรต้องพูดถึงในแบบไม่ดีมั้ยเล่า ซาร่าจัง?!” (ซูมิเระ)
“ม-มันเป็นมุขตลก! ดับลูกบอลไฟที่มือด้วย!” (ซาร่า)
“มันหนาวๆนะวันนี้ ให้ฉันได้กอดเธอเถอะนะ☆” (ซูมิเระ)
ซูมิเระและซาร่ากำลังเล่นไปทั่วเหมือนเคย
“กลับไปข้างในกัน ซูมิเระ ซาร่า” (ยูจีน)
ไม่มีจุดประสงค์กับการดูทิวทัศน์ขาวโพลน
“ได้~” (ซูมิเระ)
“อืมก็ว่า ทิวทัศน์นี้จะยาวไปอีกสักพักนึงแหละ” (ซาร่า)
เรากลับไปข้างในเรือบินและซาร่าสอนเราเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของสหภาพศักดิ์สิทธิ์
◇ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น◇
หมอกขาวโพลนค่อยๆจางลงไปอย่างช้าๆ
ผมเห็นเส้นทางจำนวนหนึ่งอยู่ภายในป่าข้างใต้
ผมเริ่มเห็นอาคารจากไกลๆ น่าจะเป็นถิ่นฐาน
“มันจะได้เวลาแล้ว…” (ซาร่า)
เรือบินลดความสูงอย่างช้าๆขณะเสียงซาร่าพูด
ตอนนี้เมื่อผมดูชัดๆ มีพื้นที่เปิดข้างหน้า
มีเรือบินจำนวนหนึ่งพร้อมเครื่องหมายสหภาพศักดิ์สิทธิ์นอกจากเรือที่เราอยู่
ดูเหมือนมันเป็นถิ่นฐานที่ทำหน้าที่เป็นจุดลงจอด
มีอาคารจำนวนหนึ่งที่ดูเหมือนโรงแรมและบ้านส่วนตัว
“เราจะอยู่ที่นี่คืนนี้” (ซาร่า)
“เอ๋?” (ซูมิเระ)
“จริงเหรอ?” (ยูจีน)
ซูมิเระและผมถามการประกาศของซาร่า
ผมคิดอย่างแน่ใจว่าเราจะมุ่งตรงไปเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ของคาลเดีย อาร์ชาม
ดูเหมือนมันไม่ได้เป็นเรือบินตรง
“ถ้าอย่างนั้นนายไม่รู้ว่าาอะไรๆมันทำงานกันยังไง”
“นี่ทำไมคนของจักรวรรดิมันแค่…”
“เขาน่าจะไม่สนใจอะไรเลยนอกจากจักรวรรดิ”
ผมได้ยินเสียงดูแคลน
คนที่พูดมันคือสมาชิกของแผนกผู้กล้าในตำนานที่มาเรือลำเดียวกันกับเรา
(นี่เป็นครั้งแรกที่มาที่นี่…) (ยูจีน)
ถ้าผมจำไม่ผิด ชื่อพวกเขาคือ
อัศวินฝึกหัด: ลิลลี่ซังและกาเรสคุง ผมเดาว่า?
แล้วก็มีนักบวชหญิงอารีน่าซัง
มันดูเหมือนพวกเธอรับคำร้องปราบนกแห่งความมืด ราม เพื่อประเทศพวกเธอเอง
“มันต้องห้ามที่จะบินในท้องฟ้าของเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ นั่นทำไมเราต้องมุ่งหน้าไปที่นั่นบนพื้น มีมอนสเตอร์อยู่เยอะตอนกลางคืน ดังนั้นเราจะมุ่งหน้าไปที่นั่นพรุ่งนี้เช้า” (ซาร่า)
“เข้าใจละ~” (ซูมิเระ)
“เข้าใจแล้ว” (ยูจีน)
ผมเข้าใจด้วยคำอธิบายของซาร่า
เราบินตรงสู่จักรวรรดิได้ แต่มันดูเหมือนวัฒนธรรมต่างกันในเมืองหลวงศักดิสิทธิ์
ซูมิเระ, ซาร่า, และผมได้ห้องต่างกันในโรงแรมเดียวกัน
แต่เห็นได้ชัดว่าซูมิเระและซาร่าตัดสินใจใช้ห้องเดียวกัน
เธอสองคนพูดว่าพวกเธอเหนื่อยจากการบิน พวกเธอจึงพักในห้อง
ผมอยากเคลื่อนไหวร่างกายนิดหน่อย ดังนั้นผมออกไปเพื่อดูถิ่นฐานเล็กๆ
ถึงพูดนั้น สิ่งที่มีนั้นมีแค่โบสเล็กๆอยู่ตรงกลาง, โรงแรม, บ้าน, และร้านแผงบ้างนิดหน่อยอยู่เท่านั้น
อีกอย่างหนึ่งเท่านั้นจะเป็นจุดลงจอดเรือบินใหญ่
ป่าทึบและภูเขาแพร่ไปกว้างและไกลทั่วไปหมด
(ภาพที่คนหนึ่งจะไม่เห็นที่จักรวรรดิ…) (ยูจีน)
แน่นอน มันก็ต่างจากเมืองดันเจี้ยน
“นายคือนึกผจญภัยรึ หนุ่มน้อย?”
บางคนจากถิ่นฐานพูดกับผมระหว่าผมเดินไร้จุดหมายไปรอบๆ
นักผจญภัยคือคนที่อาชีพคือสำรวจดันเจี้ยนจากหลายๆที่, ปราบมอนสเตอร์, และหาสมบัติ
แต่ผมไม่ใช่นักผจญภัย…
“บางอย่างแบบนั้น สมาชิกปาร์ตี้ของผมคือนักเรียนและแม่ชี ดังนั้นผมมาด้วยกันกับพวกเธอ” (ยูจีน)
“เข้าใจแล้ว เขาใจแล้ว ถ้าอย่างนั้น ฉันไม่คิดว่าจะมีอะไรสักอย่างให้กังวล แต่รั้วรอบถิ่นฐานคือระยะของม่านพลัง มอนสเตอร์โผล่มานอกรั้ว ดังนั้นระวังด้วย”
“เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณสำหรับการเตือน” (ยูจีน)
“คนนั้นจากไปหลังจากผมขอบคุณ
(ม่านพลังของสหภาพศักดิ์สิทธิ์ หือ…) (ยูจีน)
ผมสนใจ
เพราะทั้งหมดปรกติผมไม่ได้มาที่นี่
ไปดูข้างนอกนิดหนึ่งเถอะ
ผมระแวดระวังสิ่งแวดล้อมระหว่างเข้าหารั้วที่อยู่ขอบของเวทมนตร์ม่านพลังและ…
“ทำอะไรน่ะ ยูจีน ซานตาฟิลด์?”
ผมถูกคุยจากข้างหลังโดยเสียงเหมือนไม่ค่อยชอบ
เพราะทั้งหมดคนนั้นน่าจะเกลียดผม
คนผู้พูดดกับผมคือลิลลี่ ไวท์วินด์ อัศวินศักดิ์สิทธิ์ฝึกหัดของแผนกผู้กล้าในตำนาน
เธอมีผมยาวมัดรวมกันและกำลังใส่เกราะเงินเหมือนอัศวินศักดิ์สิทธิ์
“ฉันมาเดินนิดหน่อย” (ยูจีน)
“ข้างนอกม่านพลังเป็นรังของมอนสเตอร์ รู้มั้ย มีแผนเรียกมอนสเตอร์มาที่นี่เรอะ?” (ลิลลี่)
“ไม่ นั่นไม่ใช่เจตนาฉัน…” (ยูจีน)
แต่มันจริงที่มอนสเตอร์จะมาถ้าผมออกจากม่านพลังขับไล่มอนสเตอร์
มันช่วยไม่ได้
มาล้มเลิกการออกไปนอกม่านพลังเถอะ
แต่ผมอยู่บนเรือบินตลอดเวลา ดังนั้นร่างกายผมทื่อ
“อย่าทำอะไรไม่จำเป็นและแค่พักผ่อนอย่างเชื่อฟัง” (ลิลลี่)
เพื่อนร่วมชั้นของผมพูดนี่และกำลังจะไป
ผมบอกได้ว่าเธอค่อนข้างมีทักษะแค่ดูจากการเดินของร่างกายของเธอ
“เฮ้ ลิลลี่ ไวท์วินด์” (ยูจีน)
ผมพูดกับเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ
“…อะไร?” (ลิลลี่)
เธอหันกลับด้วยความระวัง
“อยากดวลเพราะมีโอกาสไหม?” (ยูจีน)
ผมวางมือบนคาตานะขาว ณ เอวของผม
ผมคิดว่าเธอจะตอบตกลงเพราะเธอมั่นใจในทักษะเธอ แต่…
“ฉันไม่สนใจ” (ลิลลี่)
มันเป็นคำตอบเย็นชา
เธอจากไปแบบนั้นเลย
มันดูเหมือนเธอจะอยู่ต่างโรงแรมกับเรา
(ช่วยไม่ได้ มาพักที่โรงแรมสำหรับวันนี้เถอะ) (ยูจีน)
ผมกลับไปสู่โรงแรม
ผมกินเสร็จ, บำรุงรักษาคาตานะดำและขาวเสร็จ, ตรวจอุปกรณ์เวทมนตร์, และแค่เมื่อผมกำลังคิดเกี่ยวกับการนอน ซูมิเระและซาร่าโผล่มาในห้องผม และผมนอนทันทีหลังจากนั้นไม่ได้
◇วันต่อมา◇
เราใช้เรือบินไม่ได้ ดังนั้นเราจะไปเดินไป
มีสัตว์ที่ขี่ได้บนเส้นทางภูเขา แต่การไปที่เมืองหลวงถูกพิจารณาว่าเป็นการฝึกสำหรับคนของสหภาพศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นมันเป็นธรรมเนียมที่จะเดิน
นี่น่าจะเป็นทางที่ซาร่าเดินมานับครั้งไม่ถ้วน เธอดูไม่สะทกสะท้าน
ผมไม่มีประสบการณ์มากกับการเดินเส้นทางภูเขา แต่ผมรู้สึกว่ามันจะเป็นการฝึกที่ดี
มันดูเหมือนซูมิเระไม่ชินกับความสูง ผมเลยถือสัมภาระเธอให้เธอ
“ซาร่าจัง เราจะไปถึงที่นั่นเมื่อไหร่?” (ซูมิเระ)
“แค่อีกนิด… ทำเต็มที่นะ ซูมิเระจัง!” (ซาร่า)
“เธอพูดนั่นมาตลอดเวลาสักพักแล้วนะตอนนี้” (ซูมิเระ)
ซูมิเระกำลังตามเราโดยไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังระหว่างบ่น
เราผ่านทางชันยาวและประตูสีขาวใหญ่มาให้เห็น
เมื่อเราผ่านนั่น…
“ว้าาา… ช่างเป็นเมืองที่สวยงาม” (ซูมิเระ)
ซูมิเระปล่อยเสียงประทับใจ
“…ใช่” (ยูจีน)
ผมเห็นด้วยกับนั่น
แอ่งใหญ่มากล้อมโดยเทือกเขา
มีทิวทัศน์ของเมืองที่มีแค่สีขาวแพร่อยู่ต่อหน้าเรา
ความสูงของอาคารและการออกแบบเป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งเมืองน่าจะทำงานไปด้วยกันกับม่านพลังที่ล้อมมัน
มีรูปปั้นหินยักษ์ที่มองเห็นจากทุกมุมดั่งเพื่อมาตัดกับอาคารที่ความสูงเดียวกัน
สิ่งนี้ที่ใหญ่กว่าต้นไม้ยักษ์คือรูปปั้นของ 7 เทพธิดา
อะไรที่อยู่ ณ ใจกลางเมืองสุดคือโบสถ์ยักษ์ที่เข้าใจผิดว่าเป็นปราสาทได้: โบสถ์อันยิ่งใหญ่ นักบุญแอนนา
โบสถ์อันยิ่งใหญ่คือที่สตรีศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 8 ผู้ที่เป็นผู้นำของโบสถ์เทพธิดา ควรจะอยู่ข้างใน
นี่คือที่เรามาถึงเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ของสหภาพศักดิ์สิทธิ์ อาร์ชาม ได้อย่างไร
■ตอบความคิดเห็น:
>ไม่ใช่ว่ามีแผนที่ซูมิเระกับซาร่าจะไปคุกปิดผนึกที่ 7 ในตอนก่อนหน้าหรือ?
-พวกเธอทำได้ถ้าพวกเธออยากทำ แต่สองคนไม่รู้สึกอยากทำ
■ความคิดเห็นจากผู้แต่ง:
เราได้มาถึง 100 ตอนแล้วครับ!
ผมจะทำเต็มที่จากตอนนี้ต่อไปด้วย