นักดาบนุ่มนิ่มกับพลังโจมตีศูนย์ ~ถูกออราเคิลเพื่อนวัยเด็กทิ้ง เข้าโรงเรียนเวทมนต์ และจบที่ดูแลเจ้าอสูร - ตอนที่ 103 ยูจีนไปร่วมสงครามศาสนา
- Home
- นักดาบนุ่มนิ่มกับพลังโจมตีศูนย์ ~ถูกออราเคิลเพื่อนวัยเด็กทิ้ง เข้าโรงเรียนเวทมนต์ และจบที่ดูแลเจ้าอสูร
- ตอนที่ 103 ยูจีนไปร่วมสงครามศาสนา
103 ยูจีนไปร่วมสงครามศาสนา
—ไม่กี่วันผ่านไปตั้งแต่เรามาถึงในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์อาชาม
เราทำการเตรียมการออกเดินทางสู่รังของสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่รามในชิชาปังม่า
ถึงพูดนั้น ไม่มีการเตรียมการมากที่จำเป็นต้องทำในฐานะนักเรียนของโรงเรียนเวทย์มนตร์ผู้คุ้นกับการสำรวจดันเจี้ยนสุดท้ายมาเป็นระยะเวลายาวนาน
ส่วนใหญ่ที่เราต้องทำคือซื้ออาหารสำรองจำนวนหลายวัน
ผมทักทายพ่อแม่ของซาร่าก่อนผมออกเดินทาง แต่พวกเขานั้นเป็นผู้ศรัทธาโบสถ์เทพธิดาที่เข้มงวด
ผมประหม่ามากและการคุยยาวนาน…
“ยูจีนคุง ความสัมพันธ์แบบไหนที่เธอมีกับซาร่า?”
“ติดตามเทพธิดาองค์ไหน?”
“เธอดูเหมือนเป็นนักดาบเวทมนตร์”
“ถ้าเธอจะแต่งงานกับซาร่า ถ้าเข้าเป็นคณะอัศวินศักดิ์สิทธิ์ล่ะดีมั้ย?”
“อา… ใช่ ผมจะคิดเกี่ยวกับมัน” (ยูจีน)
ผมถูกสาดด้วยคำถามต่างๆ
นั่นเหนื่อย…
หลังจากนั้น เราเข้าร่วมคณะอัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่จะไปปราบสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่ และมุ่งหน้าไปที่ภูเขาแห่งความตาย
รวมกันมี 3 หน่วยในคณะอัศวินศักดิ์สิทธิที่จะไปสงครามศาสนา
มันถูกก่อเป็นหน่วยไอน์, หน่วยซวาย, และหน่วยไดรแห่งคณะอัศวินศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเราอยู่ด้วยกัน
ชิชาปังม่าออกไปทางเหนือของกลางเทือกเขาทาร์ซิส
ไม่มีถิ่นฐานอยู่รอบๆ ดังนั้นเราค่อนข้างไปด้วยการผ่านทางเดินสัตว์และถนนของภูเขา
มันเป็นสามวันตั้งแต่เราออกเดินทางจากเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์
เราอยู่ ณ ระดับความสูงที่สูงและอากาศบาง
เรากำจัดมอนสเตอร์ที่โผล่มากลางถนนและมุ่งหน้าไปสู่เป้าหมายของเรา
ไม่มีมอนสเตอร์มากมาย แต่ถนนของภูเขาไม่ได้ทำให้แรงกายผมเสียไป
“ฮ่าาา… ฮ่าาา…” (ซูมิเระ)
สีหน้าซูมิเระดูแย่
ดูเหมือนเธอรู้สึกไม่ดีเพราะถนนของภูเขาที่ไม่คุ้นเคยและระดับความสูงที่สูง
“ซูมิเระ อยากยืมไหล่ฉันมั้ย?” (ยูจีน)
“เฮ้ ซูมิเระจัง อยากกลับไปที่เมืองมั้ย…?”
“…ม-ไม่ มันไม่เป็นไร ขอบคุณ ยูจี้คุงและซาร่าจัง ฉันจะคิดเกี่ยวกับมันที่จุดพักต่อไป” (ซูมิเระ)
ผมให้ความสนใจกับสภาพของซูมิเระขณะผมเดิมตามเส้นทางภูเขาต่อกับซาร่า
เห็นได้ชัดว่าซาร่าถูกสั่งให้อยู่ในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์เพราะเธอคือสตรีศักดิ์สิทธิ์คนต่อไป แต่เธอมาที่นี่เป็นผู้ช่วยจากโรงเรียน ดังนั้นเธอพูดว่ามันจะไม่ดูดีในฐานะประธานสภานักเรียนที่ไม่เข้าร่วมสงครามศาสนา และดังนั้นเอง เธอฝืนมาสงครามศาสนา
ในท้ายที่สุดเราไปถึงตำแหน่งที่มีเต็นท์หลายตัวตั้งอยู่
มันต้องเป็นหน่วยที่ 1 และหน่วยที่ 2 ที่อยู่ที่นี่ก่อน
มันก็เป็นเป้าหมายของเราวันนี้
“ทุกคน เราจะตั้งแคมป์กันที่นี่วันนี้! ในที่สุดเราก็ใกล้กับรามพรุ่งนี้แล้ว คิดว่าที่นี่เป็นที่สุดท้ายที่นายจะสามารถพักข้างใน!”
“““ครับ!”””
อัศวินทำการตอบคำพูดกัปตันอัศวินสั้นๆและเริ่มทำการเตรียมตั้งแคมป์อย่างเร็ว
ซาร่าและผมตั้งเต็นท์สำรวจที่เราทำปรกติ และให้ซูมิเระ, ผู้อิดโรย, นอนลง
“ไม่ได้ดูเหมือนว่าซูมิเระไหวแล้ว…” (ยูจีน)
“…ด-เดี๋ยว! แน่นอนว่าฉันจะดีขึ้นถ้าฉันพัก…!” (ซูมิเระ)
ซูมิเระลุกขึ้นและบอกผมว่าเธอไม่เป็นอะไร แต่เธอยังดูไม่ค่อยไหว
“ฉันจะอยู่ที่นี่และดูแลซูมิเระจัง ฉันถูกห้ามจากการเข้าร่วมแนวหน้าในฐานะสตรีศักดิ์สิทธิ์คนต่อไปอยู่ดีแหละ” (ซาร่า)
ซาร่าอาสา
“แต่… ฉันจะสร้างปัญหาให้เธอ…” (ซูมิเระ)
“ทำไมล่ะ? เราเป็นสหายกัน ถูกมั้ย? มาเร็ว รีบนอนๆ” (ซาร่า)
ซาร่าดันไหล่ของซูมิเระและให้เธอนอนลง
“…ฉันขอโทษ ซาร่าจัง” (ซูมิเระ)
“อย่าขอโทษกันเลย ซูมิเระจัง” (ซาร่า)
“ซาร่า ฉันจะปล่อยซูมิเระไว้ให้กับเธอนะ” (ยูจีน)
“ได้ พึ่งฉันได้เลย ยูจีน”
“ยูจี้คุง…ระวังนะ…” (ซูมิเระ
“ได้ เธอใช้เวลาเพื่อฟื้นตัวเถอะ ซูมิเระ” (ยูจีน)
ผมพูดนี่และออกจากเต็น์ แล้วมุ่งหน้าไปสู่เต็นท์ใหญ่ที่กัปตันของหน่วยที่ 3 อยู่
กัปตันอัศวินอยู่ในระหว่างการประชุมกลยุทธ์ ดังนั้นผมบอกอัศวินที่คุ้มกันว่าซูมิเระและซาร่าจะอยู่ที่นี่
มันดูเหมือนมันคือข่าวใหญ่มากที่สตรีศักดิ์สิทธิ์คนต่อไปซาร่าจะคงอยู่ที่นี่ ดังนั้นมันไม่ได้ใช้เวลานานที่จะได้คำตอบ
ผมคิดว่าพวกเขาจะพูดบางอย่างเกี่ยวกับซูมิเระ แต่พวกเขาไม่แตะต้อง ‘คนต่างโลกผู้มีค่า’ จากโบสถ์เทพธิดา
เมื่อผมบอกพวกเขาว่าซูมิเระรู้สึกไม่ดี พวกเขาเรียกหมอที่มาด้วยกับการเดินทางนี้ทันที
พวกเขาพูดว่ามันแค่ถนนของภูเขาที่ไม่คุ้นเคยและระดับความสูง ดังนั้นไม่มีความจำเป็นต้องกังวล
อย่างไรก็ตาม เธอจำเป็นต้องพัก
และดังนั้นเอง ผมจะทำอะไรคนเดียวตั้งแต่พรุ่งนี้
◇วันต่อมา◇
ผมจะลุยเดี่ยวแล้วตอนนี้ที่ซูมิเระและซาร่าจะอยู่ที่แคมป์
มันคือสถานการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยหลังๆ
(แต่ฉันไม่ได้รู้สึกใจวุ่นๆก่อนหน้า…) (ยูจีน)
ผมลุยเดี่ยวบ่อยก่อนเจอซูมิเระ แต่ผมไม่มีอะไรทำตอนนี้แล้วที่ผมอยู่คนเดียวอีกครั้ง
ผมเก็บสัมภาระให้น้อยที่สุด ดังนั้นการก้าวเท้าของผมเบาๆ
ผมตามหลังอัศวินศักดิ์สิทธิ์ระหว่างระวังสิ่งแวดล้อม
ผมถูกบอกว่าเราจะไปถึงรังของสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่ในไม่กี่ชั่วโมง
มันจะใช้เวลาสักพัก…คืออะไรที่ผมกำลังคิดและ…
“เฮ้ ยูจีนคุย”
บางคนคุยกับผมจากข้างหลัง
คนนั้นไม่ใช่อัศวินศักดิ์สิทธิ์ด้วยเสื้อผ้าแม่ชี
ถ้าผมจำไม่ผิด เธอเป็นหนึ่งในคนที่มาด้วยเพื่อรักษาผู้บาดเจ็บ
มันดูเหมือนเธอรู้ชื่อผม แต่ผมไม่รู้จักเธอ
“มีบางอย่างเหรอ?” (ยูจีน)
“ชื่อของฉันคืออุลริกา ผู้จะเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์เหมือนซาร่าอ๊ะ เธอไม่ใช่ผู้จะเป็นอีกแล้วแต่เป็นคนต่อไป ถูกมั้ย ยินดีที่ได้รู้จัก ยูจีนคุง”
“ยูจีน ซานตาฟิลด์… มันไม่เป็นไรที่ผู้จะเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์มาไกลถึงที่นี่เหรอ?” (ยูจีน)
ผมคิดแน่นอนว่าผู้จะเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์จะอยู่ข้างหลังในแคมป์เหมือนซาร่า ดังนั้นผมตกใจที่นี่
“สาวคนอื่นๆไม่ได้มา แต่…แม้ว่าจะมา ฉันก็คิดว่ามันคุ้มค่าที่จะมา” (อุลริก้า)
“เธอกล้าหาญนะ” (ยูจีน)
รามถูกปฏิบัติเป็นสัญลักษณ์ของความกลัวในสหภาพศักดิ์สิทธิ์เหมือนที่จักรวรรดิทำกับฮาเก็นติทุกอย่าง
แม้แต่ซาร่าก็พูดว่าเธอไม่อยากเข้าไปใกล้
“แหม นั่นเพราะผู้กล้าผู้ยิ่งใหญ่ที่เอาชนะสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่ในจักรวรรดิอยู่ที่นี่กับเรา ไม่มีความจำเป็นต้องกลัว ถูกมั้ย?” (อุลริกา)
“นั่นเพราะฉันได้ความช่วยเหลือจากคนชั้นสูงของกองทัพจักรวรรดิ์ ผู้กล้าดาบซามะและปา—ดาบจักรวรรดิ์ซามะ” (ยูจีน)
แน่นอนว่ามันไม่ใช่พลังของผมเอง
“ฟุฟุฟุ แต่นายเป็นคนที่จบชีวิตมัน ถูกมั้ย?” (อุลริกา)
“…อืม เธอพูดถูก” (ยูจีน)
รายละเอียดของการปราบฮาเก็นติเป็นที่รู้กันดี
ตัวจักรวรรดิเองไปคุยอย่างเยอะกับต่างประเทศหลังจากทั้งหมด
มีแม้แต่คนที่รู้จักผมเพราะนั่น
แต่มันถูกแต่งเติมรายละเอียดนิดหน่อย
เห็นว่าคนที่แต่งเติมเรื่องราวคือเพื่อนวัยเด็กของผมและคนต่อไปของบัลลังก์ ไอริ
พูดตรงๆผมอยากให้เธอหยุด
“เฮ้ เฮ้! มันจริงมั้ยที่ว่าเธอฟันภูเขาแยกเมื่อเธอเหวี่ยงดาบมานา?” (อุลริกา)
“ไม่มีทาง!” (ยูจีน)
เฮ้ย เพื่อนวัยเด็ก แค่เธอแต่งเติมแค่ไหนกัน?!
เมื่อผมทำการคุยไม่มีเป้าหมายนั้นพอดี…
*…ตุ้บ!!!*
เสียงของบางอย่างใหญ่โตลงพื้นและแผ่นดินสั่นเล็กน้อย
“““…”””
ความตึงเครียดแล่นผ่านทั้งทีมเดินทาง
มีเงาใหญ่ยืดออกไป ข้างหน้าผม
ต้นเหตุของเสียงคือศพของสัตว์อสูร
“กริฟฟิน…?”
“มันไม่ได้ดูเหมือนเป็นสัตวอสูรแถวนี้ กริฟฟินปีกดำคือสายพันธุ์สัตว์อสูรที่โผล่มาในทวีปทิศเหนือบ่อย”
“ตัวหลง หือ… และถ้าอย่างนั้น มันเข้าถิ่นของรามโดยไม่ได้ตั้งใจเหรอ?”
“แม้อย่างนั้น…การสืบสวนปีที่แล้วบอกว่าบริเวณนี้ไม่ใช่ดินแดนของสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่”
“ดินแดนมันขยายเหรอ…?”
“แต่ไม่ได้มีเปลี่ยนแปลงใดๆใน 3 ปี”
ผมได้ยินการสนทนาจากอัศวินศักดิ์สิทธิ์
พวกเขาพูดเกี่ยวกับที่เราควรไปต่อแบบนี้หรือหยุดก่อนสำหรับตอนนี้
ดูเหมือนมันจะใช้เวลาก่อนพวกเขาไปถึงการตัดสินใจ
ผมทำอะไรโดยไม่มีคำสั่งไม่ได้ แต่ทุกคนหยุดเท้า ดังนั้นผมเข้าหาศพกริฟฟินนิดหน่อย
“ฮ-เฮ้ ยูจีนคุง มันไม่เป็นไรที่เข้าหามันเหรอ?!” (อุลริกา)
ผู้สมัครอุลริกาเรียกผมด้วยเสียงลนลาน
“ฉันเพียงแค่ยืนยันว่ามันมีอันตรายใดๆมั้ย” (ยูจีน)
ผมไม่ได้เข้าหามันมากไป
แค่ยืนยัน
ขนของกริฟฟินสวยและไม่มีแผลภายนอกสักแผลเดียว ไม่ต้องสงสัยว่ามันมีชีวิตอยู่ไม่นานก่อนหน้า
ผมไม่เห็นการเคลื่อนไหวน้อยๆของการหายใจด้วยซ้ำ
สัตว์อสูรนี้ตายโดยไม่ต้องสงสัย
(นี่คือคำสาปความตายของราม…) (ยูจีน)
ผมได้ยินว่ามันเป็นคำสาปที่แข็งแกร่งในทวีปทิศใต้
มีอุปกรณ์เวทมนตร์คำสาปอยู่เยอะในคุกปิดผนึกที่ 7 ของโรงเรียนเวทมนตร์ไลเคียนน แต่สูตรเวทมนตร์มันต่างจากพวกมันทั้งหมด
ผมเพ่งสายตาเพื่อพยายามอ่านสูตรเวทมนตร์ที่ถูกร่ายบนกริฟฟิน แต่…
ความเย็นวาบวิ่งผ่านสันหลังผม
ผมเห็นขนสีดำใหญ่ตกอยู่ ณ มุมของสายตา
ผมจะฟันมันด้วยปฏิกิริยาตอบสนอง แต่หยุดตัวเอง
ผมหันกลับไปและอุลริกา ผู้ที่ผมไม่ได้พูดด้วยแค่ไม่กี่วินาทีที่แล้ว ล้มลงไป
ไม่เพียงแค่นั้น
อัศวินศักดิ์สิทธิ์หลายคนที่กำลังคุยล้มไป
(แค่เกิดอะไรขึ้นบนโลกนี่้…?) (ยูจีน)
ไม่มีอะไรอยู่สักนิด
ปรกติแล้วเมื่อรู้สึกว่าบางอย่างไม่ชอบมาพากลเมื่อมอนสเตอร์หรือสัตว์อสูรโจมตีคนหนึ่ง
ผมไม่ได้รู้สึกถึงนั่นเลยแม้แต่น้อย
สภาพแวดล้อมเปลี่ยนเป็นสีดำในพริบตาก่อนผมเข้าใจสถานการณ์นี้
ผมมองท้องฟา
ที่อยู่นั่นคือ
(นั่น…นกแห่งความมืด ราม) (ยูจีน)
ไททันที่มีปีกดำสนิทยักษ์เหมือนท้องฟ้ายามค่ำคืนกันแสดงของตะวันและกำลังมองลงมาที่เรา