นักดาบนุ่มนิ่มกับพลังโจมตีศูนย์ ~ถูกออราเคิลเพื่อนวัยเด็กทิ้ง เข้าโรงเรียนเวทมนต์ และจบที่ดูแลเจ้าอสูร - ตอนที่ 105 ยูจีนมุ่งสู่ภูเขาแห่งความตาย
- Home
- นักดาบนุ่มนิ่มกับพลังโจมตีศูนย์ ~ถูกออราเคิลเพื่อนวัยเด็กทิ้ง เข้าโรงเรียนเวทมนต์ และจบที่ดูแลเจ้าอสูร
- ตอนที่ 105 ยูจีนมุ่งสู่ภูเขาแห่งความตาย
105 ยูจีนมุ่งสู่ภูเขาแห่งความตาย
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ ออกเดินทางเถอะ ยูจีนคุง ลิลี่คุง”
คนที่พูดกับเราเป็นกัปตันของหน่วยที่ 2 แจ็กเกอลีนซัง
เธอคือกัปตันของทีมพิเศษที่จะสืบสวนรามครั้งนี้
ผมยาวมัดเป็นหางม้าและหุ่นผอมเพรียว เธอมีรูปร่างผอม เธอมอบความประทับใจว่าละเอียดอ่อน แต่ออราของร่างกายที่เธอส่งออกมาและการเคลื่อนไหวของเธอทำให้ผมรู้สึกเหมือนเธอไม่ได้ต่างกันมากกับกัปตันอัศวินสีทองจากจักรวรรดิ
“ครับ กัปตันแจ็กเกอลีน”
“รับทราบ”
สมาชิกคือผมและอัศวินศักดิ์สิทธิ์ฝึกหัด ลิลี่ ไวท์วินด์ จากแผนกผู้กล้าในตำนานเหมือนกัน
(3 คนน้อยมากๆ…) (ยูจีน)
ผมคิดนี่ แต่นี่เห็นว่าเป็นผลจากการเลือกคนผู้มีการต่อต้านคำสาปแห่งความตายที่แข็งแกร่งอย่างดี
พูดถึงแล้ว สองคนนี้เห็นว่าเป็นผู้จะเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์
พวกเธอผ่านการฝึกสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่โหดในโบสถ์เทพธิดาตั้งแต่เวลาเยาว์วัย ดังนั้นเห็นว่าสุดท้ายเธอมีร่างกายที่แข็งแกร่งกับคำสาป
โดยบังเอิญ ซาร่า ผู้มีดาบศักดิ์สิทธิ์อยู่ซ้อนการต่อต้านคำสาปแข็งแกร่งกว่าสองคนเหล่านั้น เป็นผู้จะเป็นดีกว่า แต่เธอเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์คนต่อไป ดังนั้นชัดเจนว่าเธอไม่ได้ถูกเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของทีม
แต่เห็นว่าเจ้าตัวเองอยากเข้าร่วม
เราออกเดินทางตอนเช้าของวันต่อมาและพบเจอราม
มีทางเลือกแอบไปกับเงามืดของกลางคืน แต่มอนสเตอร์อื่นตื่นตัวในตอนกลางคืนและรามไม่สร้างเสียง ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่าเราจะไม่สังเกตการโจมตี
มันง่ายกว่าที่จะหามันเมื่อมีแสงของพระอาทิตย์อยู่
เพราะทั้งหมดสัตว์อสูรนั้นขนาดยักษ์
เราเดินผ่านถนนภูเขาหิมะอย่างเงียบๆ
เราผ่านตำแหน่งที่เราเจอสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่ก่อนหน้าแล้ว
เราไม่ได้เดินเร็ว แต่ถนนภูเขาที่ขรุขระดูดแรงกายของผมไปไม่ว่าอย่างไร
สองคนผู้ใส่เกราะศักดิ์สิทธิ์ดูเหมือนพวกเธอมีเวลาที่ยากลำบากแม้ว่าพวกเธอทำให้น้ำหนักเบาลงด้วยเวทมนตร์์
ผมเห็นสีของความเหนื่อยกับลิลี่ได้
“อยากให้ฉันขนสัมภาระมั้ย?” (ยูจีน)
“……ไม่จำเป็น” (ลิลี่)
ผมอาสาถือกระเป๋าใหญ่สำหรับการออกเดินทางที่เธอถือมา แต่เธอปฏิเสธผมตรงๆ
เจ็กเกอลีนซังเห็นนี่และพูดกับผม
“มาพักที่นี่ เราถูกซ่อนโดยต้นไม้และมันเป็นจุดบอดจากรอบข้าง” (แจ็กเกอลีน)
“ฉ-ฉันยังเดินได้!” (ลิลี่)
ลิลี่ต้องรู้สึกเหมือนเราเห็นใจเธอและคัดค้าน
“ฉันก็เริ่มเหนื่อย เราจะมุ่งตรงไปข้างหน้าโดยไม่พักหลังจากนี้ ดังนั้นมาพักอย่างถูกต้อง ลิลี่” (แจ็กเกอลีน)
“…ค่ะ” (ลิลี่
ดูเหมือนเธอเห็นด้วยหลังจากถูกบอกอย่างนี้
เรานั่งลงบนต้นไม้ค่อนข้างใหญ่ และเริ่มกินอาหารสำรองที่เราพามาด้วยกับเรา
แซนด์วิชแฮมชีสระหว่างขนมปังแข็ง พวกมัน 2 ชิ้น
ผมไม่ได้หิว ดังนั้นผมกินแค่หนึ่งชิ้นเท่านั้นและดื่มน้ำนิดหน่อย
“เธอไม่ได้เหงื่อออกเลยสักนิด ยูจีนคุง” (แจ็กเกอลีน)
กัปตันแจ็กเกอลีนพูดกับผมระหว่างที่กิน
“ฉันไม่ได้ถือของมาก” (ยูจีน)
ผมแค่มีเสื้อผ้านักสำรวจจากโรงเรียนเวทมนตร์และคาตานะ 2 เล่มที่เอวของผมเท่านั้น ผมก็มีแค่กระเป๋านักสำรวจเล็กๆสำหรับการออกเดินทางหนึ่งวันด้วย
“นายจะไปสืบสวนสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่ด้วยอุปกรณ์นั้นเหรอ…? ไม่ใช่นายไม่ระวังเกินไปเหรอ?”
ลิลี่พูดนี่ในท่าทางดูถูกเล็กน้อย
มันจริงที่ผมมีของน้อยเทียบกับพวกเธอสองคน
“เพราะทั้งหมดฉันจำเป็นต้องโยนของไม่จำเป็นทิ้งถ้ามันเปลี่ยนเป็นการต่อสู้” (ยูจีน)
ผมมีแค่อาหารสำหรับสองมื้อและยามานาในกระเป๋าของผมเท่านั้น
ผมจะรับมือกับบาดแผลที่ผมได้ด้วยเวทมนตร์รักษา
“นักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิ ดาบจักรวรรดิ เห็นว่ากระโดดไปทั่วตลอดเวลาบนสนามรบด้วยอุปกรณ์น้อยๆ” (แจ็กเกอลีน)
“ป๊าของฉัน…เกลียดเกราะ” (ยูจีน)
ผมเข้าใจความคิดเห็นของเขาว่า: ‘ฉันจะไม่สามารถรู้สึกถึงเจตนาฆ่าด้วยผิวของฉันเมื่อฉันใส่เกราะ’
แต่ผมไม่เขาใจความคิดเห็นของเขาที่ว่า: ‘มันจะไม่สนุกที่ไม่ตื่นเต้นว่าจะโดนฟัน’
ป๊าเป็นพวกบ้าการต่อสู้มากเกินไป
ผมน้ำหนักเบาเพราะผมใช้ม่านพลังแทนเกราะ ดังนั้นเหตุผลของผมต่างจากป๊าอย่างสิ้นเชิง
“ไม่ว่ายังไง ฉันสงสัยว่าทำไมสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่ตื่นตัวกระทันหัน” (ยูจีน)
ผมเปลี่ยนประเด็นอย่างสบายๆสู่วัตถุประสงค์หลักปัจจุบัน
“นั่นอะไรที่เรามาที่นี่เพื่อรู้” (ลิลี่)
ลิลี่ ไวท์วินด์เย็นชาตลอด
“รู้เกี่ยวกับรามของเทือกเขาทาร์ซิสมากเท่าไหร่ ยูจีนคุง?” (แจ็กเกอลีน)
“มาดูกัน…” (ยูจีน)
ผมขุดความรู้ที่ผมมีกับสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่ในสหภาพศักดิ์สิทธิ์
◇ไม่กี่วันก่อนออกเดินทางสู่สงครามศาสนา◇
—ดันเจี้ยนสุดท้ายชั้นที่ 100
เราไปที่ชั้นที่ 100 เหมือนเคยๆหลังจากฝึกที่ชั้นที่ 110 กับคลอดด์
หลังๆเอริมาที่นี่บ่อยครั้ง
ริต้าซังและเอริถูกล้อมโดยเอกสารจำนวนมากเหมือนที่ผมจินตนาการทุกอย่าง
มันดูเหมือนริต้าซังกำลังช่วยงานเอกสาร
“เหมือนที่ฉันพูด~ เธอควรรายงานแค่ในแบบรวบรัดมากกว่านี้ เทพธิดาไม่มีความสนใจในความสำเร็จจากชั้น 99 ลงไปอยู่ดี” (เอริ)
“เอ๋?! จริงๆเหรอ?! แต่ฉันได้ยินว่าเทพธิดาแห่งโชคชะตาของทวีปทิศตะวันออก, ไอราซามะ, เข้าใจทุกคนที่ท่านได้มอบทักษะพิเศษไปให้ สะสุโยะ” (ริต้า)
“สาวคนนั้นเคร่งเกินไป เธอไม่ควรใช้ท่านเป็นแหล่งอ้างอิง เธอควรรู้แล้วว่าเทพธิดาแห่งโชคชะตาที่ดูแลทวีปทิศใต้, อิเลียจัง, ไม่ได้เคร่งขนาดนั้น ถูกมั้ย? ฉันพนันว่าเธอไม่ได้ตรวจสอบอะไรๆเกี่ยวกับนักสำรวจชั้นล่างๆอยู่ดี ดังนั้นแค่รายงานมันสั้นๆ แลกเปลี่ยนกัน รายงานละเอียดกว่านี้สำหรับนักสำรวจที่ผ่านชั้น 100 โดยเฉพาะคนที่ถูกเลื่อนเป็นระดับ A” (เอริ)
“เข้าใจแล้ว… ถ้าอย่างนั้น เราจะทำประมาณ 10 กระดาษ…” (ริต้า)
“ยัยบื้อ เทพธิดาแห่งโชคชะตาโดนงานท่วม ท่านจะไม่ดูเอกสารที่มี 10 แผ่น ทำให้เป็น 1 แผ่น 1 แผ่น! สรุปมันทั้งหมดในนั้น!” (เอริ)
“น-นั่นเป็นไปไม่ได้สะสุโยะ~ ไม่มีทางที่ฉันจะสรุปจำนวนข้อมูลสู่ 1 แผ่น!” (ริต้า)
“ยัดข้อมูลสำคัญทั้งหมดใน 1 แผ่น และทำภาคผนวกสำหรับข้อมูลละเอียด ทำให้มั่นใจว่าไม่ลืมใส่เลขหน้าสำหรับการอ้างอิง ทำข้อความให้สั้นและชัดเจน มาเร็ว ทำมันใหม่!” (เอริ)
“ฮฮฮฮิ๊!!”
ดูเหมือนเจ้าอสูรกำลังโค้ชนางฟ้าซัง
““…””
คลอดด์และผมมองหน้ากัน
ผมสงสัยว่าจะทำอะไรดีเพราะมันดูเหมือนเราบุกรุกตอนนี้
“เอริ เราบุกรุก” (ยูจีน)
“ริต้าจัง ฉันเอาของฝากมา” (คลอดด์)
คลอดด์และผมพูดสู่สองคน
“โอ้แหม ยูจีน เตงอยากเห็นเค้าเหรอ?” (เอริ)
เอริแสดงรอยยิ้มสดใส
“เย้ มาพักกันเถอะ เอริเซ็นไป!! ทำได้ดีที่มาที่นี่ สองคน” (ริต้า)
ริต้าซังยกสองมือเพื่อฉลอง
“มันช่วยไม่ได้ แค่นิดหน่อย มานี่ ยูจีน” (เอริ)
มีโต๊ะสำหรับ 4 คนอยู่คนละที่กับที่พวกเธอทำงานเอกสารเมื่อเวลาที่ผมสังเกต
มีแก้วชาและหม้อที่ควันออกมา
เห็นได้ชัดว่าชั้น 100 มีเวทมนตร์ร่ายไว้ให้มันเป็นไปได้สำหรับนางฟ้าที่จะเสกอะไรก็ได้ที่เธอคิด
คลอดด์และผมวางอะไรที่เราเอามาไว้บนโต๊ะ
ริต้าซังดูเหมือนชอบของหวานๆ และเอริชอบของเค็มๆ
ผมถูกกำหนดให้นั่งที่ข้างเอริ และคลอดด์นั่งข้างริต้าซัง
“ถ้าอย่างนั้น เตงมาที่นี่เพราะเตงมีธุระบางอย่าง ถูกมั้ย?” (เอริ)
เอริถามนี่ระหว่างวนแก้วไวน์
“ผมอยากเรียนรู้มากกว่านี้เกี่ยวกับสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่แห่งเทือกเขาทาร์ซิส… เกี่ยวกับนกแห่งความมืด” (ยูจีน)
ผมพยายามขุดหาเอกสารในห้องสมุดของโรงเรียนและของสมาคมดนเจี้ยนให้เป็นวิธีรวบรวมข้อมูลเมื่อเวลาที่ผมกำลังสงสัยว่าจะรับคำขอให้ไปปราบสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่ไหม แต่ผมหาข้อมูลน่าจดจำใดๆไม่ได้เลย
นั่นเมือผมมาเพื่อถามเอริและริต้าซังผู้ดูเหมือนรู้เกี่ยวกับอะไรแบบนั้น
“รามจัง หือ ถ้าเค้าจำไม่ผิด มันคือสัตวอสูรผู้ยิ่งใหญ่ที่ใช้ชีวิตมานานที่สุดใทวุปทิศใต้น่ะเหรอ?” (เอริ)
“ใช่สะสุเนะ มันคือสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่เก่าแก่เมื่อเทียบับฮาเก็นติและเวปาร์ อะไรที่มีปัญหาคือขนนกแต่ละเส้นของมันมีคำสาปแห่งความตายอยู่กับมัน และพลังชีวิตจะถูกดูดถ้าจับตัวมัน นั่นทำไมมันจำเป็นว่าถ้าไม่มีการป้องกันคำสาปก็ต้องมีเวทมนตร์ม่านพลังสะสุเนะ” (ริต้า)
“มีวิธีปราบมันมั้ย?” (ยูจีน)
“อะ? เป็นไปได้มั้ยว่าเตงมีแผนที่จะไปที่นั่นเพื่อกำจัดมัน?” (เอริ)
เอริแสดงสีหน้าไม่มีความสุขเล็กน้อยกับคำถามของผม
“มันแค่ถ้า” (ยูจีน)
“อย่าทำมัน ทำขนาดสู้สัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่ที่หมกตัวลึกอยู่ในภูเขามันแค่…” (เอริ)
“ทุกคนจะมีความสุขถ้าเรากำจัดมัน ถูกมั้ย?” (ยูจีน)
จักรวรรดิอย่างน้อยก็ได้ที่ราบอุดมสมบูรณ์และจะพัฒนายิ่งดีขึ้นหลังจากกำจัดสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่
“ใครจะรู้ล่ะ… มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่โลภมาก ดังนั้นพวกเขาสุดท้ายอาจต้องการอะไรไม่จำเป็นถ้าพวกเขาได้มัน โอ้ยังไงซะ ไม่เป็นไร เตงอยากจะรู้เกี่ยวกับนกแห่งความมืด ถูกมั้ย?” (เอริ)
“ใช่” (ยูจีน)
ผมพยักหน้ากับเอริผู้พูดบางอย่างที่กวนใจผมนิดหน่อย
“ถ้าเราพูดเกี่ยวกับความแข็งแกร่งเฉยๆ มันจะอ่อนแอกว่าสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่ในทวีปทิศใต้ เค้าว่า” (เอริ)
“…จริงๆเหรอ?” (ยูจีน)
แม้ว่ามันเก่าแก่ที่สุดหรือ?
“มันเล็กกว่าฮาเก็นติ และไม่มีความดุร้ายของเงือกดำ แต่รามมี 3 แกน ดังนั้นเตงต้องกำจัดพวกมัน 3 อันหรือไม่อย่างนั้นมันจะฟื้นคืนชีพ และอะไรที่มีปัญหาที่สุดคือคำสาปย้อนความตาย” (เอริ)
“อาา แน่นอนว่านั่นมีปัญหาสะสุเนะ” (ริต้า)
“ริต้าจัง อะไรคือคำสาปย้อนความตาย?” (คลอดด์)
คลอดด์ ผู้ไม่รู้มากเกี่ยวกับคำสาป ถามนี่
“เกี่ยวกับนั่น—” (ริต้า)
“คำสาปว่าคนที่ฆ่ามันจะตายอย่างแน่นอน” (เอริ)
“อ๊าา ฉันกำลังจะบอกพวกเขาเอริเซ็นไป!” (ริต้า)
“แม้แต่ยูจีนก็สามารถรู้อย่างน้อยเท่านั้น… ใช่มั้ย?” (เอริ)
เธอโยนมันให้ผม แต่จริงๆแล้วผมไม่ได้รู้จักคำสาปขนาดนั้น
“ผมเรียนรู้เกี่ยวกับมันในชั้นเรียน แต่…เข้าใจแล้ว นกแห่งความตายมีคำสาปย้อนกลับ หือ… มันจะยากที่จะกำจัดมันถ้าอย่างนั้น” (ยูจีน)
“มากกว่านั้น มันไม่ใช่แค่คนที่ฆ่ามัน แต่ก็เป็นคนที่สั่งมัน ครอบครัว, คนรัก, และแม้แต่เพื่อนด้วย” (เอริ)
“““เอ๋?!”””
คลอดด์และผมไม่ได้เป็นคนเดียวเท่านั้นที่ส่งเสียงในควมตกใจ ริต้าซังทำด้วย
“ริต้าจัง?” (คลอดด์)
“ริต้าซัง?” (ยูจีน)
“ทำไมเธอตกใจด้วย?” (เอริ)
“โออ้ ถ้าอย่างนั้นนั่นอะไรที่นกแห่งควมมืดจังกลายไปเป็นเหรอ หือ นั่นไม่ได้เขียนอยู่ในเอกสารของดินแดนสวรรค์สะสุโยะ” (ริต้า)
“อย่าไปไว้ใจเอกสารในดินแดนสวรรค์มากขนาดนั้น มีเวลาเมื่อพวกมันไม่ได้ขึ้นข้อมูลปัจจุบันเป็นศตวรรษ” (เอริ)
“เข้าใจแล้ว~~ ถ้าอย่างนั้นเป็นอย่างนั้นสะสุเนะ” (ริต้า)
{เฮ้ คลอดด์} (ยูจีน)
{ฟังดูเหมือนมันจะดีกว่าที่จะฟังอะไรที่ริต้าซังพูดแบบหูไว้หูเยอะๆ} (คลอดด์)
{ใช่…} (ยูจีน)
คลอดด์และผมกระซิบกัน
“เฮ้ นายสอง! นั่นหมายความว่าอะไรสะสุกะ?!” (ริต้า)
ดูเหมือนริต้าซังได้ยินเรา
เธอมีหูดี
“หืมม แต่ฉันอยากถามเกี่ยวกับเวปาร์” (คลอดด์)
“ฉันมีข้อมูลใหม่เกี่ยวกับตัวนั้น คลอดด์คุง! รอเดี๋ยวก่อน~” (ริต้า)
ริต้าซังเริ่มเปลี่ยนหน้าของเอกสารหนา
“โอ้ เจอแล้ว เจอแล้ว! … สัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่แห่งทะเลดำ เวปาร์ ที่ถูกรู้จักว่าเงือกดำด้วย หรือเงือกแห่งความมืด…” (ริต้า)
“ฟุมุฟุมุ”
ดูเหมือนเราเปลี่ยนไปสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่อื่น
คลอดด์และริต้าซังกำลังพูด
“มีคำถามอะไรอีกมั้ย?” (เอริ)
เอริชะเง้อดูหน้าผมจากด้านข้าง
“อืม ด้วยที่เราฆ่ามันไม่ได้…” (ยูจีน)
“ใช่ใช่ แค่ยอมแพ้” (เอริ)
แม้ว่าผมสามารถทนคำสาปได้ด้วยม่านพลัง ไม่มีจุดหมายถ้าคำสาปไปถึงครอบครัวและคนรู้จักของผม
ผมเสียกำลังใจเล็กน้อย ผมเลยจิบชาอุ่นนิดหน่อย
“ถ้าอย่างนั้น นั่นหมดธุระเตงที่นี่แล้ว ยูจีน เค้าจะให้เตงไปด้วยกันกับเค้านิดหน่อย☆” (เอริ)
“ผมไม่เป็นไรกับนั่น มีอะไรเหรอ?” (ยูจีน)
ผมถามนี่และเธอยิ้มมุมปากอย่างสื่อความหมาย
“เฮ้ ริต้า เสกเตียงคิงไซส์ตรงนั้นที่หลัง ฉันจะใช้มันกับยูจีน” (เอริ)
“?!”
ผมพ่นชา
“เอ๋~ ทำเรื่องแบบนั้นในห้องของตัวเองได้โปรด เอริเซ็นไป~” (ริต้า)
“ไม่ใช่นั่นไม่เป็นไรเหรอ? เธอไม่ได้เสียอะไรอยู่ดีนี่” (เอริ)
“ยูจีน…นาย…” (คลอดด์)
คลอดด์มองมาทางนี้ด้วยตาเปิดกว้าง
“เกี่ยวกับนี่…” (ยูจีน)
พูดถึงแล้ว ผมยังไม่ได้บอกคลอดด์เกี่ยวกับความสำพันธ์ของผมกับเอริ
การอธิบายหลังจากนั้นน่าปวดหัวจริง
◇◇
“นี่คือมากเท่าที่ฉันรู้” (ยูจีน)
ผมอธิบายอะไรที่ถูกสอนโดยเอริและริต้าซังแบบเรียบง่าย
แน่นอนโดยไม่บอกพวกเธอเกี่ยวกับเอริและริต้าซังเอง
““………””
กัปตันแจ็กเกอลีนและลิลี่ ไวท์วินด์ทำหน้าตาจริงจัง
“มีบางอย่างมั้ย?” (ยูจีน)
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินเกี่ยวกับคำสาปย้อนความตาย…” (แจ็กเกอลีน)
“ยูจีน ซานตาฟิลด์ นายเรียนรู้เกี่ยวกับนั่นที่ไหน?!” (ลิลี่)
หืม?
ริต้าซังพูดถึงมันดั่งมันเป็นความรู้ทั่วไป แต่บางทีมันไม่ได้ถูกรู้มาก?
“เข้าใจแล้ว…ถ้าอย่างนั้นทำไมเทพยากรณ์แห่งโชคชะตาทำนายว่า: ‘ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นถ้าสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่ถูกกำจัด’ มันเพราะคำสาปนั่น หือ…” (แจ็กเกอลีน)
“ยูจีน ตอบ! นายมีข้อมูลแบบนั้นได้ยังไง?!” (ลิลี่)
กัปตันแจ็กเกอลีนกำลังคิดเกี่ยวกับบางอย่างและทำสีหน้าซับซ้อนระหว่างเพื่อนร่วมชั้นของผมกดดันผม
“ฉันถูกบอกโดย…อาจารย์ใหญ่อ-อูเธอร์” (ยูจีน)
พึ่งอาจารย์ใหญ่เมื่ออยู่ในปัญหา
มาขอโทษทีหลัง
“คุ! ทำไมอาจารย์ใหญ่ถึงเลือกปฏิบัติกับชายคนนี้?” (ลิลี่)
“ม-มันไม่ใช่ข้อมูลชัดเจน ดังนั้นฉันคิดว่าเขาไม่ได้ทำให้เป็นสาธารณะเพราะนั่น” (ยูจีน)
นั่นอะไรที่ริต้าซังพูด ดังนั้นมันไม่ได้โกหก
“อืม อย่างไรก็ตาม วัตถุประสงค์ของเราคือสืบสวน มันได้เวลาไปข้างหน้าแล้ว” (แจ็กเกอลีน)
“ใช่” (ยูจีน)
“…รับทราบ” (ลิลี่)
เราพักเสร็จและเริ่มเดินไปที่เป้าหมายเราอีกครั้ง
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเดินหน้าถนนภูเขาหิมะ…
สีเทาของภูเขาแสดงออกมาจากลึกเข้าไปข้างในกลุ่มต้นไม้สีเขียวเข้ม
“…มันอยู่นั่นเอง” (แจ็กเกอลีน)
“…”
“นั่น…” (ยูจีน)
หน้าสายตาของกัปตันแจ็กเกอลีน ข้างในภูเขาของเทือกเขาทาร์ซิส มีภูเขาลูกหนึ่งที่โดดเด่นชัดเจนต่างจากที่เหลือ
พื้น, หิน, และต้นไม้; ทุกส่วนของมันเป็นสีเทา
ภูเขาไม่ปรกติที่ผมแทบไม่รู้ถึงชีวิตใดๆจากมันเลย
เรามาถึงภูเขาแห่งความตายชิชาปังมะ ที่รังของรามอยู่
■ตอบความคิดเห็น:
>นั่นโล่งใจ เธอยังมีชีวิต
>แต่มันน่ากลัวที่ว่านั่นไม่ใช่เจตนาของรามด้วยซ้ำ
>ไม่ใช่นี่จะไม่มีประโยชน์ที่หลายคนไปเหรอ?
-ใช่ครับ ดังนั้นมันเป็นกลุ่มเล็กตอนนี้
■ความคิดเห็นจากผู้แต่ง: