นักดาบนุ่มนิ่มกับพลังโจมตีศูนย์ ~ถูกออราเคิลเพื่อนวัยเด็กทิ้ง เข้าโรงเรียนเวทมนต์ และจบที่ดูแลเจ้าอสูร - ตอนที่ 45 ยูจีน เผชิญหน้ากับเจ้าอสูร
- Home
- นักดาบนุ่มนิ่มกับพลังโจมตีศูนย์ ~ถูกออราเคิลเพื่อนวัยเด็กทิ้ง เข้าโรงเรียนเวทมนต์ และจบที่ดูแลเจ้าอสูร
- ตอนที่ 45 ยูจีน เผชิญหน้ากับเจ้าอสูร
45 ยูจีน เผชิญหน้ากับเจ้าอสูร
“อออุ่ ตัวเราประหม่าอ่ะ…”
ข้างในลิฟต์ดันเจี้ยน
ซูมิเระเดินไปรอบๆข้างในมันอย่างกระสับกระส่าย
“ซูมิเระจัง มันจะใช้เวลาซักพัก ก่อนเราจะไปถึงชั้น 100 ดื่มนี่ก่อนมั้ย?” (ซาร่า)
ซาร่ามอบเครื่องดื่มเวทยให้ซูมิเระ ที่มีผลของการทำให้ใจมั่นคง
“ขอบคุณ…ซาร่าจัง… อั้บ ชั้นคิดว่าตัวเรารู้สึกดีขึ้นแล้วตอนนี้” (ซูมิเระ)
“เข้าใจแล้ว นั่นโล่งใจนะ พูดถึงแล้ว ตัวเธอเหมือนเดิมเลยนะ ยูจีน” (ซาร่า)
“ตัวเธอพูดอย่างนั้นได้ ตัวเธอไม่ประหม่าเหรอ ซาร่า?” (ยูจีน)
เมื่อผมถามนี่ ซาร่ายิ้มอย่างกระอักกระอ่วน
“เมื่อตัวเราได้รายงานกับสตรีศักดิ์สิทธิ์ซามะในประเทศของตัวเา พวกเธอกดดันตัวเราค่อนข้างมาก; บอกให้ตัวเราสร้างชื่อให้ประเทศศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่ายังไง…” (ซาร่า)
“อย่ากดดันตัวเธอเองนะ ตัวเราจะสู้กับเอ—เจ้าอสูรเอง ได้โปรดมีสมาธิอยู่กับการปล่อยตัวประกัน ซาร่า” (ยูจีน)
“เฮ้ ยูจีนคุง ตัวเธอไม่กลัวเจ้าอสูรเหรอ?” (ซูมิเระ)
ซูมิเระ มองผมด้วยสายตาที่มองขึ้นมา
“…ใช่ ตัวเราโอเค” (ยูจีน)
“ฮ่าาา…นั่นน่าประทับใจอ่ะ” (ซูมิเระ)
“เราจะสู้กับเจ้าอสูรในตำนานนะ รู้มั้ย? ประสาทตัวเธอ มันทำมาจากอะไรกัน?” (ซาร่า)
ซูมิเระและซาร่า ทำสีหน้าทึ่ง แต่การที่ผมไม่กลัวเจ้าอสูร มันต่างไปจากที่พวกเธอจินตนาการนิดหน่อย
ผมแน่ใจเลย ว่าผมจะไม่ใจเย็นขนาดนี้ กับเจ้าอสูรอื่น นอกจากเอริ
—”เราจะไปถึงชั้น 100 ในไม่นาน”
เสียงที่ไม่มีมีโลดี้ ดังอยู่ในลิฟต์ดันเจี้ยน
“““………”””
เราทั้งหมด เงียบโดยธรรมชาติ
ประตูลิฟต์ดันเจี้ยน เปิดช้าๆ
ไม่มีพื้นที่ว่างกว้างขวางเหมือนก่อนหน้า ไม่มีลม มีป่าดำสั่นอย่างน่ากลัว แพร่ไปต่อสายตาเรา
ผมยืนข้างหน้า และเดินหน้าผ่านป่าอย่างช้าๆ
วิสัยทัศน์แย่
หมอกหนา ทำให้มันเป็นไปไม่ได้ ที่จะเห็นไม่กี่ก้าวข้างหน้า
การหายใจยาก ต้องเป็นเพราะพิษ
“ซูมิเระ รู้สึกเป็นยังไงบ้าง?” (ยูจีน)
ซูมิเระแม้แต่ยืนขึ้นอย่างถูกต้องก็ยังไม่ได้ก่อนหน้า เพราะเธอโดนพิษของเจ้าอสูร
“ตัวเรารู้สึกกแย่นิดหน่อย แต่…ตัวเราโอเค” (ซูมิเระ)
“ซูมิเระจัง อย่าออกไปจากข้างตัวเรานะ แม้ว่าเธอจะมีอาวุธชุดเกราะที่ราชาอูเธอร์ให้ยืม ไม่ได้หมายถึง ว่าเธอมีเทคนิค ที่จะทำให้ทนพิษได้” (ซาร่า)
“…ใช่ ขอบคุณนะ ซาร่าจัง…” (ซูมิเระ)
แผนในเวลานี้ คือจะให้ซูมิเระและซาร่า จับคู่กัน
เอริเนียสแพร่บาเรียมีชีวิต ป่าเปลือกดำ ในทัังชั้น 100
ซูมิเเระดูแลเรื่องการเผาป่าดำ; ซาร่า ดูแลเรื่องการช่วยตัวประกัน
ผมจะเผชิญหน้ากับเจ้าอสูร เพื่อซื้อเวลาให้สองคน
นั่นทำไม ผมจะเป็นคนเดียว ที่เข้าลึกเข้าไปในป่า
“ยังไงซะงั้น ตัวเราจะเข้าไป และประกาศการท้าทายบททดสอบของพระเจ้า เมื่อพวกตัวเธอได้ยินเสียงนางฟ้า ได้โปรดทำตามแผน” (ยูจีน)
ผมพูดกับสองคน และแค่เมื่อผมกำลังจะไปข้างหน้าคนเดียว สองคนจับแขนของผม
“ซูมิเระ? ซาร่า?” (ยูจีน)
ก่อนที่ผมจะถามได้ว่า มีปัญหาอะไรที่นี่ ซูมิเระพูดนี่ ด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“เฮ้ ยูจีนคุง” (ซูมิเระ)
“อะไร?” (ยูจีน)
“เมื่อเราผ่านบททดสอบของพระเจ้านี้อย่างปลอดภัย มีบางอย่างที่ตัวเราอยากจะบอกตัวเธอ” (ซูมิเระ)
ซูมิเระที่หน้าแดงและน้ำตาซึมบอกผม ว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก
“มีบางอย่างที่ตัวเธออยากบอกตัวเราเหรอ? ตัวเธอบอกตัวเราได้ตอนนี้นี่” (ยูจีน)
“ไม่ ตัวเราจจะบอกตัวเธอ เมื่อเราผ่านชั้น 100 การผ่านชั้น 100 เป็นหนึ่งในเป้าหมายของนักสำรวจ ใช่มั้ย? นั่นทำไม่ ตัวเราจะบอกตัวเธอ เมื่อเราสำเร็จนั่น” (ซูมิเระ)
“? เข้าใจแล้ว” (ยูจีน)
มันกวนใจผม แต่ผมไม่ไล่ตามไปไกลกว่านี้
มาถามเธออีกครั้ง เมื่อเราผ่านชั้น 100 เถอะ
“ยูจีน” (ซาร่า)
ครั้งนี้ มันเป็นซาร่า ที่จับมือผมอย่างแน่น
เธอเอียงตัวของเธอมาหาผมอย่างช้าๆ และกระซิบกับผม ในระยะที่ลมหายใจของเธอ สัมผัสผม
ผมยาวของเธอโดนตัวผม และมันทำให้หัวใจของผมเต้นข้ามจังหวะ
“ตัวเรา…ก็มีบางอย่างที่จะบอกตัวเธอ จริงๆแล้วตัวเราควรจะบอกตัวเธอเร็วกว่านี้ -ก่อนที่แมวขโมยจะโผล่มา…” (ซาร่า)
“เฮ้ ซาร่าจัง~?” (ซูมิเระ)
“ตัวเธออย่ารบกวนได้มั้ย ซูมิเระจัง? ตัวเรารอตัวเธอพูดสิ่งที่ตัวเธออยากพูดจบอย่างรู้หน้าที่ ใช่มั้ย?” (ซาร่า)
“ใครคือแมวขโมยที่ตัวเธอพูดถึง?” (ซูมิเระ)
“โอ้ชั้น โอ้ชั้น บอกไม่ได้จนกว่าต้องถูกบอกเหรอ? แมวน้อยสมองทึบ” (ซาร่า)
“แหม ปากที่พ่นออกมาแต่สิ่งสกปรกนะนั่นน่ะ~? แม้ว่าตัวเธอ ถูกเรียกว่าประธานสภานักเรียนที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสาต่อหน้าทุกคน ไม่ใช่ตัวเธอโหดร้ายกับตัวเราเกินไปหน่อยเหรอ~?” (ซูมิเระ)
“นี่เป็นนิสัยดั้งเดิมของตัวเรา เพราะทั้งหมด ตัวเธอเติมเต็มหน้าที่ผู้สมัครสตรีศักดิ์สิทธิ์ไมได้ แค่จากการเป็นคนซื่อสัตย์ ไม่ใช่ว่ามันได้เวลาที่ตัวเธอจะเรียนรู้ที่จะพูดด้วยความเหมาะสมมากกว่านี้เหรอ ซูมิเระจัง” (ซาร่า)
ซูมิเระและซาร่า หยิกแก้มกัน
“ต-ตัวเธอสองคน…สนิทกันนะ โอเค๊?” (ยูจีน)
แผนครั้งนี้ ขึ้นอยู่กับซูมิเระและซาร่านะ
ผมคิดว่าพวกเธอได้สนิทกันหลังๆ แต่มีการกัดกันแบบนี้บางครั้งบางคราว
“ปล่อยมันให้ตัวเราได้เลย ยูจีนคุง! ตัวเราจะทำนี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมซาร่าจัง” (ซูมิเระ)
“ใช่ ตัวเราจะดูแลซูมิเระจัง ตัวเธอไม่ต้องกังวลนะ” (ซาร่า)
“ไปกันเถอะ ซาร่าจัง!” (ซูมิเระ)
“ตัวเธอควรจะตามหลังตัวเรา!” (ซาร่า)
“ไม่ใช่นั่นไม่เป็นไรเหรอ? จับมือกันไปเถอะนะ?” (ซูมิเระ)
“ตัวเราต้ดงใช้เวทย์บาเรียเพื่อจับมือตัวเธอ ไม่งั้นเราจะมือไหม้ ตัวเราไม่ชอบนั่น!” (ซาร่า)
ทั้งสองแซะกันอย่างดัง ระหว่างที่หายไปต่างเส้นทางจากผม
เราได้ยืนยันตำแหน่งของตัวประกันก่อนหน้าแล้ว
พวกเธอควรจะมุ่งหน้าไปที่นั่น
ผมมองขึ้นไป
มันยากที่จะบอก เพราะมันซ่อนอยู่ในต้นไม้ แต่มีอุปกรณ์ลูกบอลเวทย์ลอยได้
มันถูกเรียกว่าตาของบาเบล
ทั้งทวีปใต้ เห็นสภาพของดันเจี้ยนสุดท้าน ผ่านระบบดาวเทียมด้วยตานั้นได้
(ป๊าและ…ไอริ ดูอยู่มั้ย) (ยูจีน)
แม้ว่าพวกป๊าไม่ได้ดูตอนนี้ พวกป๊าน่จะเห็นมันซักเวลาหนึ่ง
เราพูดถึงเจ้าอสูรที่นี่
(ชั้นแสดงภาพที่น่าสมเพชไม่ได้…) (ยูจีน)
ผมคิดนี่ ระหว่างที่เดินหน้าอย่างช้าๆ ผ่านป่าดำ
ผมคิดว่าจะมีการสิ่งกีดขวางบางอย่าง แต่ไม่มีอะไรแบบนั้นปรากฏ
ในที่สุด ผมก็จบที่อยู่ในที่เปิดเล็กน้อย และมีทีนั่นอย่างเดียว ที่สว่าง
น้ำพุเล็กๆตั้งอยู่ข้างในป่าดำ
ดอกไม้ขาวที่บานเต็มที่รอบมัน สร้างภาพที่ไม่ถาวร
ปีกดำนิลของเธอ ไม่อยู่ที่ไหนให้เห็นเลย
เห็นว่าเธอนำพวกมันออกมาได้อย่างอิสระ
ผมได้ยินเสียงลมหายใจที่มั่นคง
เธอสังเกตผม
โอ้ ยังไงซะ
ไม่มีการซุ่มโจมตี ในบททดสอบของพระเจ้า
คุณต้องแสดงพลัง ในการต่อสู้ที่ยุติธรรม
“ยูจีน ซานตาฟิลด์ ท้าทายบททดสอบของพระเจ้า” (ยูจีน)
ผมกระซิบนี้้กับเครื่องหมายนักสำรวจ
เสียงที่ไม่มีเมโลดี้ของนางฟ้า ก้องอยู่ในชั้น เหมือนจะตอบสนองนี่
—”การสมัครเข้าบททดสอบของพระเจ้า จากผู้ท้าทายยูจีน ซานตาฟิลด์ถูกยอมรับ… เอ่อ จริงจังนะ ได้โปรดทำอะไรก็ได้เกี่ยวกับนี่ทีเถอะ ชั้นขอร้องเธอล่ะ”
(…หืม?) (ยูจีน)
ส่วนหลังของการประกาศแปลก
แต่ผมไม่มีเวลาจะกังวลเกี่ยวกับนั่น
อากาศเเปลี่ยน
“ฟุว้า~ ในที่สุด ผู้ท้าทายก็มา”
เพราะเอริเนียสลุกขึ้นมาแล้ว
และจากนั้น เมื่อเธอเห็นหน้าของผม ตาเธอเปิดกว้าง และเธออกระพิบตาครั้งสองครั้ง
*ยิ้ม*
เธอต้องคิดอะไรไดบางอย่างออก ริมฝีปากของเธอ โค้งเป็นยิ้ม
“ตาของบาเบล ไปไกลๆ” (เอริ)
“……เอ๋” (ยูจีน)
ผมจบที่การปล่อยเสียงออกไป ตกตะลึง
‘ตา’ ของระบบดาวเทียม มองผมจากข้างบน ไปบางที่ไกลๆ
ตาของดันเจี้ยนสุดท้าย ที่ {ไม่มีใคร} ควรจะแทรกแซงได้
เหงื่อเย็นออกมาจากผม
เอริส่งรอยยิ้มใหญ่ให้ผมโดยไม่รู้ เกี่ยวกับความรู้สึกนั้นของผม
“เฮ้ยา ยูจีน! เตงมาหาเค้า ใช่ป้ะ?” (เอริ)
เอริโบกมือของเธอ
ท่าทางเหมือนเดิมขอเธอ เกือบจะทำให้ผมลืม แต่พิษที่เธอปล่อย เทียบไม่ได้กับปรกติ
ตัวเล็กๆของเอริ ดูใหญ่กว่ามังกรในตาของผม
“เฮ้้ เอริ เธอจะไม่กลับไปใต้ดินของโรงเรียนละเหรอ?” (ยูจีน)
ผมพูดนี่ ระหว่างที่วางมือ อยู่ที่ด้ามของดาบของผม
ซูมิเระได้แบ่งมานาอีฟริทมาให้ผมแล้ว
ผมมีอีกทริคเก็บไว้ในครั้งนี้
“หืมม มันเป็นซักพักแล้ว ต้งแต่ที่เค้าเป็นอิสระ เค้าอยากจะมีความสุขมากกว่านี้อีกนิด เค้าเดาว่านะ~ พูดถึงแล้ว สาวๆของเตงไม่อยู่ด้วยกันกับเตงนี่” (เอริ)
“พวกเธอพูดว่าเอริน่ากลัว พวกเธอเลยไม่มากัน” (ยูจีน)
“{คนโกหก}” (เอริ)
เอริมองทะลุการโกหกของผมอย่างง่ายๆ
ผมไม่คิดว่าผมจะสามารถหลอกเธอได้ตั้งแต่แรก
ป่าดำคือบาเรีย ที่เจ้าอสูรสร้าง
เธอน่าจะเห็นทุกการกระทำของเรา ตราบใดที่เราอยู่ในมัน
“สาวอีฟริทนั่น…เธอใช่เสื้อแปลกๆ มันต้องเป็นรสนิยมของตาแก่ครูใหญ่โรงเรียนแน่ ใช่มะ? ขณะที่สำหรับผู้ฝึกหัดสตรีศักดิ์สิทธิ์…อย่างน้อย เธอถือ {ดาบศักดิ์สิทธิ์} แต่เธอไม่รู้ว่าจะใช้มันยังไงเลยซักนิด… อย่างที่เธอเป็นตอนนี้ เธอน่าจะไม่ได้ยิน {เสียง} ด้วยเหมือนกัน… หืมม…” (เอริ)
เธอพูดเหมือนเธอดูอยู่ระหว่างพูด
“ผมเป็นผู้ท้าทายบททดสอบของพระเจ้า เอริ” (ยูจีน)
ผมชักดาบของผม และใช้งานดาบมานา
ใบมีดส่องแสงสีแดง และทำเสียงไฟแตก
“เค้าไม่ได้เลี้ยงตัวมาเป็นคนขี้ใจร้อนนะ ยูจีน” (เอริ)
ปีกดำปรากฎ และแผ่ออกที่หลังของเอริ
ในเวลาเดียวกันนี่นั่นเกิดขึ้น ลมดำสั่นทั้งป่าอย่างหนัก
(ช่างเป็นพิษที่ไม่น่าเชื่อ…) (ยูจีน)
พิษของคุกใต้ดิน แม้แต่เอามาเทียบก็ยังไม่ได้เลย
มันเป็นประเภทที่ คนที่ไม่มีการต้านทานกับมานา จะหมดสติในทันที…
(ซูมิเระ ซาร่า…) (ยูจีน)
แค่เมื่อสมาธิผมอยู่ที่อื่น…
“เตงไม่มีสมาธิ”
เจ้าอสูรปรากฏตรงหน้าผม
(เทเลพอร์ต)
ตัวผมขยับก่อนสมองของผม
ผมเกือบจะามารถหลบมือขอฃองเจ้าอสูร ที่พยายามจะจับคอผมไม่ได้
*วูบบบ วูบบบ วูบบบ วูบบบ วูบบบ วูบบบ วูบบบ วูบบบ วูบบบ วูบบบ*
หอกกิ่งไม้มากกว่าร้อย บินมาใส่ผม จากป่าดำ
ผมบล็อคพวกนั้นดวยบาเรียและดาบไฟ
“โอ้ชั้น ทำได้ดี งั้น แล้วนี่ล่ะ? เวทย์ความมืด: [สัตว์เงามืด]” (เอริ)
สิงโตสองขาพร้อมกรงเล็บยาว และตัวดำสนิท โผล่ขึ้นมารอบๆผม
สัตว์เงามืดมมากกว่าสิบ กระโดดใส่ผมในทีเดียว
นั่นมากไปแล้ว!
“สไตล์เสียงสะท้อนสองสวรรค์: [คาไมทาชิ]!!” (ยูจีน)
คลื่นดาบที่เพิ่มจำนวนด้วยคาไมทาชิ ฟันหัวของสัตว์เงามืด
เหมือนจะเล็งจังหวะนั้นอยู่…
“เวทย์ความมืด: [เขี้ยวลมดำ]”
เสียงร้องเพลงดัง
การโจมตีที่มาโดนผม ไม่มีแม้แต่เวลาที่จะให้ผมหายใจ
ปากของสัตว์ยักษ์ โผล่มาตรงหน้าผม และกลืนผม
“คุ!
แม่ว่าหลังจากปกคลุมตัวผมดด้วยบาเรีย มีเสียงแตกที่ร้ายการ มาจากทั้งตัวผม
“สไตล์เสียงสะท้อนสองสวรรค: [การรำของสิงโต]!!”
ผมแทงผ่านจุดหนึ่ง และหนีจากเวทย์ของเจ้าอสูร
เจ้าอสูรตบมือ เมื่อเธอเห็นนี่
“อย่างน้อยเตงก็ททำได้มากขนาดนั้น” (เอริ)
เจ้าอสูรดูจะพอใจ แต่ใจของผม เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ
ลืมเกี่ยวกับการจะโจมตีใส่เอริไปเลย ผมมแม้แต่จะสามารถชิดระยะกับเธอยังไม่ได้้เลย
ผมอยู่แบบนี้ไม่ได้
(ยังก่อน…?) (ยูจีน)
ผมนึกถึงการสนทนาที่ผมมีกับครูใหญ่โรงเรียน ในการฝึก
◇◇
“ซูมิเระคุง ใส่นี่” (อูเธอร์)
“นี่คืออุปกรณ์เวทย์ ที่ทำให้ใช้เวทย์ดีขึ้นเหรอคะ?” (ซูมิเระ)
อะไรที่ครูใหญ่อูเธอร์มอบให้ซูมิเระ คือเสื้อคลุมเวทย์แดง
มันดูเก่าไปหน่อย และผมไม่รู้สึกถึงมานามาก มาจากอุปกรณ์เวทย์เอง
แม้ว่ามันเป็นสมบัติของครูใหญ่โรงเรียน มันไม่ได้ดูเหมือนจะเป็นของใหญ่โต
มันดูเหมือนซาร่า ที่รู้เกี่ยวกับเวทย์มากกว่าผม มีความคิดเห็นเดียวกัน
แต่ทันทีทที่ซูมิเระผ่านแขนของเธอกับเสื้อคลุม ผมขนลุก
ได้กลิ่นไหม่ในอากาศ
ประกายไฟเต้นอยู่รอบๆ
เกิดอะไรขึ้นบนโลกนี้?
“น-นี่คือ…” (ซูมิเระ)
ตัวซูมิเระเอง ดุเหมือนจะสับสน
“มันสำเร็จ ซูมิเระคุง อุปกรณ์เวทย์ชื่อว่าเสื้อคลุมซาลาแมนเดอร์ เมื่อเธอใส่นี่ มันมีผลที่จะรวมสปิริตไฟมหาศาล มนุษยธรรมดาจะไหม้ไปทั้งตัว ในเวลาต่ำกว่า 5 นาที” (อูเธอร์)
“เดี๋ยว ครูใหญ่?!! จารให้หนูใส่อะไรกันเนี่ย?!” (ซูมิเระ)
“อย่าได้กังวล เธอเป็นอีฟริท ซูมิเระคุง เธอเหนือกว่าสปิริตไฟ เธอจะไม่ไหม้ สปิริตจะวิ่งหนี ถ้าเธอกางบาเรีย ดังนั้นชั้นก็ใส่มันไม่ได้ด้วย คนนั้นจะจำเป็นต้องสามารถใส่เสื้อคลุมสปิริตผู้ยิ่งใหญ่ {โดยไม่ทำอะไร} แต่ไม่มีคนไหนทำนั่นได้ ชั้นเลยยอมแพั…” (อูเธอร์)
“จนซูมิเระมา” (ยูจีน)
“นั่นถูกต้อง! มันเป็นพรจริงๆ” (อูเธอร์)
ครูใหญ่โรงเรียน หัวเราะอย่างดัง
“ราชาอูเธอร์ ขออภัยที่พูดที่นี่ แต่มันพูดกันว่า เวทย์สปิริต มันใช้ยิ่งยากกว่าเวทย์ธรรมดาอีก มันเป็นแบบที่เอลฟ์และดวอร์ฟที่อายุยืน จะต้องใช้ปีที่ยาวนาน ที่ในที่สุดจะสามารถได้มา หนูคิดว่ามันจะยาก สำหรับซูมิเระจัง…” (ซาร่า)
“เอ๋?! จริงๆเหรอ ซาร่าจัง?” (ซูมิเระ)
“ตัวเราก็ได้ยินเกี่ยวกับนั่นมาก่อน” (ยูจีน)
เหมือนที่ซาร่าพูด เราได้ถูกสอนนี่ ในโรงเรียน
แต่ครูใหญ่แค่ยิ้ม
“นั่นใช่แล้้ว ความยากที่จะได้เวทย์สปิริตมา นั่นสูงภายในเวทย์ทั้งหมด ดันนั้น ส่วนใหญ่มันถูกเคารพจากไกลๆ ตั้งแต่ทีแรก ทำไมมันยากที่จะใช้เวทย์สปิริตล่ะ? มันเพราะสปิริตนั้น เดาใจไม่ได้ เธอต้องทุ่มเทปีที่ยาวนานในชีวิต เพื่อที่จะสนิทกับสปิริต เพื่อที่จควบคุมพวกเค้า แต่เธอ จะไปสู้กับเจ้านางฟ้าตกสวรรค์ รู้เหตุผล ที่สปิริตและนางฟ้า ไม่ถูกกันมั้ยซูมิเระคุง?” (อูเธอร์)
“เออ่อ หนูคิดว่าหนูมีความทรงจำลางๆ…และไม่มีค่ะ…” (ซูมิเระ)
“มีสงครามระหว่างเทพเจ้า ที่ปกครองสปิริต และเทพเจ้า ที่ปกครองนางฟ้าน่ะ” (ยูจีน)
“อ้าาา พวกสงครามดินแดนสวรรค์นี่เอง! ตัวเราจำได้แล้วตอนนี้
ผมโยนเรือกู้ชีพ และซูมิเระตีมือนึกออก
“นั่นทำไมเวทย์สปิริต มีประสิทธิภาพกับเอริเนียสมาก ให้ชั้นได้สอนทริคของเวทย์สปิริตละกันนะ ไม่มีความจำเป็นสำหรับซูมิเระคุง ที่ต้องสั่งแบบละเอียด ถ้าเธอแค่บอกพวกเค้า ‘ชั้นอยากจะกำจัดอดีตนางฟ้าเอก เอริเนียส ได้โปรดให้ชั้นได้ยืมพลังด้วย สปิริตไฟ’ พวกเค้าจะยินดีให้เธอยืมกำลัง มีความจำเป็น ที่เธอต้องเรียนภาษาสปิริต แต่มันจะส่งต่อถึงพวกเขาโดยผลของเสื้อคลุมซาลาแมนเดอร์” (อูเธอร์)
“เข้าใจแล้ว… แต่เราใช้เป็นเสื้อผ้าทุกวันไม่ได้ มันอาจจะจบที่ก่อไฟ แค่จากการใส่มัน” (ยูจีน)
ผมพูด ระหว่าดูประกายไฟรอบๆเธอ
“ในกรณีนั้น ไม่เธอเดินไปไหนมาไหน โดยไม่ใส่เสื้อคุลุม หรืออใช้เวทย์บาเรีย เพื่อที่สปิริตเข้าหาไม่ได้ โชคดี ที่เธอสองคนใช้เวทย์บาเรียได้” (อุเธอร์)
“งั้นมันจะอัตราย ถ้าเธอไม่ได้อยู่กับผมหรือซาร่า ซาร่าและซูมิเระ จะอยู่เป็นคู่ถ้างั้น” (ยูจีน)
“หนูทำมันได้มมั้ย?” (อูเธอร์)
“ร-รับทราบ! หนูจะพยายามนะคะ” (ซูมิเระ)
ซูมิเระพยักหน้า ระหว่างที่ดูประหม่า
นี่เป็นที่ซูมิเระกลายเป็นผู้ใช้เวทย์สปิริต (ยังไม่แน่นอน) ในหนึ่งวัน
◇◇
“งั้นตอนนี้ ต่อไปคือ…โอ้?” (เอริ)
เจ้าอสูรสังเกตควาไม่ปรกติ
มีประกายไฟ เต้นไปทั้งป่า
ดูเหมือนซูมิเระ สามารถที่จะขอสปิริตไฟ
ป่าดำสั่นอยู่ในความเจ็บปวด
“หืมม สปิริตไฟ หือ~ นั่นน่ารำคาญนิดหน่อยนะ” (เอริ)
แค่นิดหน่อย
ผมรู้สึกเหมือนท่าทางไร้กังวลของเธอเมื่อกี้ หายไปแค่นิดเดียวเท่านั้น
“เค้าหวังว่าตัวจะไม่คิดนะ ว่านี่อ่ะ จะทำให้ตัวได้เปรียบ ยูจีน” (เอริ)
เจ้าอสูรยกมือขึ้น
หอกดำหนึ่งเล่ม ตกอยู่ในมือของเธอ
“หอกของต้นไม้ของโลกเหรอ ยังไงซะ ดีกว่าไม่มีอะไรเลย เค้าเดาว่า” (เอริ)
“?!”
ทันที่เจ้าอสูร ตั้งท่ายืนด้วยหอกนั้น ผมรู้สึกถึงแรงกดดัน เหมือนดังไปมีดได้ดันใส่คือของผมอยู่
“ยังมีเวลา ดังนั้น…มาฆ่ากันให้เย้อะแยะเลยเถอะนะ เคป่าว ยูจีน?” (เอริ)
เจ้าอสูรเลียปากของเธอเบาๆ
ผมรู้สึกถึงเหงื่อ ลงไปที่คอของผม
…ดูเหมือนอเจ้าอสุรในตำนาน ที่ปกครองทวีปใต้ จะเอาจริงกับผมแล้วตอนนี้
■ตอบความคิดเห็น:
>แค่ราชาอูเธอร์ อายุเท่าไหร่กัน
>หรือเหมือนกับเขาเป็นเผ่าอะไร? แน่นอนเลยว่าเเขาไม่ใช่มนุษย์
→ ความลับของครูใหญ่โรงเรียน จะถูกเปิดเผยในท้ายที่สุด
เขาไม่ได้ดูเหมือนมนุษย์ปรกติของท่านๆ หือ
■ข้อความจากผู้แต่ง 1:
ผมได้เปลี่ยนชื่ออย่างลับๆ
(ชื่อใหม่)
เรื่องราวของนักดาบเทพ ที่เริ่มด้วยพลังโจมตีศูนย์ ~ ถูกทิ้งโดยเพื่อนออราเคิลวัยเด็ก เขาเข้าโรงเรียนเวทมนตร์ และจบที่ทำสัญญากับเจ้าอสูร ~
(ชื่อเก่า)
นักดาบนุ่มนิ่ม กับพลังโจมตีศูนย์ ~ถูกทิ้งโดยเพื่อนออราเคิลวัยเด็ก เขาเข้าโรงเรียนเวทมนตร์ และจบที่การดูแลเจ้าอสูร~
■ข้อความจากผู้แปล:
เปลี่ยนพรุ่นี้นะครับ
■ข้อความจากผู้แต่ง 2:
ภาพของเล่ม 10 ของเทพธิดาผู้ศรัทธาศูนย์ถูกเผยแพร่แล้วครับ
https://over-lap.co.jp/Form/Product/ProductDetail.aspx?shop=0&pid=9784824003133&vid=&cat=BNK&swrd=
ที่นี่ คุณสามารถจะดูปกและ + ภาพที่ 1 ครับ
2 / 3
วายุ: ชื่อชัดเจนก่วาแค่คนจะสับสนมมั้ยล่ะเนี่ย
แปลโดย: wayuwayu
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
ถ้าท่านชอบและอยากอ่านเพิ่ม โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปลด้วยนะครับ สปอนเซอร์ตอนให้อัพโหลดเพิ่มทันที แจ้งได้ทาง Facebook : “wayuwayu แปล”ครับ