นักดาบนุ่มนิ่มกับพลังโจมตีศูนย์ ~ถูกออราเคิลเพื่อนวัยเด็กทิ้ง เข้าโรงเรียนเวทมนต์ และจบที่ดูแลเจ้าอสูร - ตอนที่ 99 ยูจีนรับคำร้อง
99 ยูจีนรับคำร้อง
“อะไร นายจะไม่มาสหพันธรัฐบลูวอเตอร์เหรอ ยูจีน?” (คลอดด์)
“ใช่ ขอโทษ คลอดด์ เราจะรับคำร้องของคาลเดีย” (ยูจีน)
คลอดด์และผมกำลังซ้อมดวลกันในลานฝึกของโรงเรียน
หัวเรื่องการสนทนาระหว่างเราฝึกนั้นชัดเจนว่าเป็นคำร้องปราบสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง
“อืม เพราะทั้งหมดซาร่าจังอยู่ในปาร์ตี้นาย มันช่วยไม่ได้” (คลอดด์)
“แต่เจ้าตัวเองไม่ได้ดูเหมือนไม่ชอบความคิดนะ” (ยูจีน)
“จริงเหรอ?” (คลอดด์)
ซาร่าคือผู้จะเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ของสหภาพศักดิ์สิทธิ์
ในกรณีนั้น เธอจะให้ความสำคัญกับคำร้องของสหภาพศักดิ์สิทธิ์
แต่ถึงพูดอย่างนั้น เธอพูดเบาๆพึมพำว่า ‘ไม่มีความจำเป็นต้องแบกหน้าไปแหย่สิงโตให้ตื่น…’
ดูเหมือนการปราบสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่ไม่ใช่แผนของเหล่าผู้ปกครองของชาติศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นการยื่นเรื่องมาจากสาธารณะโดยพูดว่า ‘จักรวรรดิปราบสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่สำเร็จ ดังนั้นสหภาพศักดิ์สิทธิ์ควรสามารถทำมันได้ด้วย’
ตำแหน่งสูงจากชาติศักดิ์สิทธิ์เพียงคิดว่านี่เป็นการจัดแสดง ดังนั้นพวกเขาคิดเก็บผู้เสียชีวิตสำหรับการปราบให้เป็นจำนวนน้อยที่สุดและประกาศ ‘มันยังไม่ใช่เวลาสำหรับการปราบ’
สัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่ที่สร้างรังในบริเวณภายในเทือกเขาทาร์ซิส: ราม นกแห่งความมืด
มันไม่ดุร้ายสำหรับสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่และมันไม่พยายามทำอะไรสักอย่างบนหมู่บ้านเล็กๆ
มันมีความสามารถที่มีปัญหาสุดขีด ขนดำสนิทของรามสร้างพิษถึงชีวิตได้ บริเวณที่มีขนนั้นกระจายอยู่ทั่วนั้นจะปนเปื้อน และมันถูกพูดกันว่ามันทำให้พวกมันอยู่ไม่ได้ 10 ปี
สหภาพศักดิ์สิทธิ์พยายามปราบมันมามากกว่าศตวรรษแล้วด้วยคาลเดีย แต่ทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น มันสร้างที่อยู่ซึ่งอยู่อาศัยไม่ได้มากขึ้น ดังนั้นหลังๆพวกเขาสรุปกับการไม่แทรกแซง
ผู้นำของคาลเดียน่าจะไม่อยากทำอะไรสักอย่างมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ผมเคยได้ยินว่ามันเป็นความลับจากซาร่า ผมเลยบอกคลอดด์ไม่ได้
ผมสงสัยว่ามันเป็นอะไรมั้ยที่เธอมาบอกผม บางคนจากจักรวรรดิ…
“แล้วนายล่ะ คลอดด์? นายรู้สึกยังกับเกี่ยวกับโอกาสของนายกับเงือกเวปาล?” (ยูจีน)
คลอดด์ทำหน้าตามืดมนเหมือนซาร่าเมื่อผมถามนี่
“คนของสหพันธรัฐบลูวอเตอร์ตะโกนอย่างยิ่งใหญ่ ‘ครั้งนี้แหละแน่นอน!’ แต่…! จากใจฉันคิดว่ามันบุ่มบ่าม” (คลอดด์)
“มันไม่เป็นอะไรที่จะพูดอย่างนั้นเหรอ?” (ยูจีน)
“นายควรรู้ด้วยเหมือนกัน ถูกมั้ยล่ะ? มันเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดเวปาลทั้งหมด” (คลอดด์)
“ยังไงซะ…นั่นจริง” (ยูจีน)
ผู้ปกครองของทะเลดำผู้ถิ่นอยู่ใน ดินแดนของสหพันธรัฐ กองทัพเงือก เวปาล
มันต่างจากสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่อื่นที่มันไม่ใช่แค่หนึ่งแต่เป็นตัวตนรวมกันทั้งหมด
จำนวนตรงๆไม่เป็นที่รู้
บางคนพูดว่ามันเป็นแสนหรือมากกว่านั้น
เงือกร้ายกาจคู่เกล็ดสีดำ
มีคนมากมายผู้กำจัดเวปาลตัวเดียว
แต่ผมไม่เคยได้ยินว่าจำนวนลดลงหรือถิ่นของพวกมันเล็กลงเพราะนั่น
ทะเลดำที่เวปาลปกครองถูกกลัวว่าเป็นทะเลแห่งความตาย
“พูดถึงแล้ว คลอดด์ เวปาลอยู่ในทะเล ใช่มั้ย? มากกว่านั้น เวปาลสมควรอยู่ในน้ำที่ดำขึ้นและเป็นโคลนด้วยพิษกาย ดังนั้นนายจะหาพวกมันยังไง?” (ยูจีน)
ทะเลดำปนเปื้อนด้วยพิษกาย
นั่นถิ่นขอเวปาล
“อาา… เราไม่ได้ทำให้มันเป็นที่รู้อย่างกว้างขวาง แต่เรามีแผนใช้เรือเป้าล่อ คนที่อยู่บนเรือเหล่านั้นจะเป็นอาชญากรต้องโทษประหาร… เพราะทั้งหมดเงือกดำชอบเนื้อมนุษย์” (คลอดด์)
“นั่น…แน่นอนว่าเป็นบางอย่างที่เผยแพร่ไม่ได้” (ยูจีน)
ถึงพูดอย่างนั้น จักรวรรดิก็มีแผนสังเวยชีวิตของนักโทษประหารสำหรับวิชาเสียสละเพื่อผนึกฮาเก็นติอีกครั้ง
ทุกที่น่าจะคิดแบบเดียวกัน
“ถ้าบริเวณทะเลที่เวปาลอยู่เปิดออก เศรษฐกิจในสหพันธรัฐบลูวอเตอร์จะกลายเป็นแข็งขันขึ้น และเหล่าประเทศจะเจริญรุ่งเรือง… ไม่ต้องสงสัยเกี่ยวกับนั้น แต่ฉันไม่รู้สึกมีแรงจูงใจเกี่ยวกับการออกไปสู้ศึกที่ไม่มีโอกาสชนะ” (คลอดด์)
คลอดด์คิดแง่บวกเสมอ ดังนั้นมันหายากที่เห็นเขาบ่น
นั่นทำให้ผมนึกถึงตำนานเกี่ยวกับเงือก
“พูดถึงแล้ว ไม่ใช่มีตำนานว่านายเป็นอมตะได้ถ้านายได้กินเนื้อเงือกเหรอ?” (ยูจีน)
“นั่นพูดถึงนางเงือกโบราณกาลที่พูดกันว่าอยู่ในหมู่บ้านลับในทะเลลึก นายจะได้รับคำสาปและตายถ้านายกินเนื้อเงือกจากทะเลดำ” (คลอดด์)
“ฟังดูเหมือนไม่ได้อะไรออกมาจากงานนี้เลย…” (ยูจีน)
ผมเข้าใจการขาดความกระฉับกระเฉงของคลอดด์
“นายจะไปเมื่อไหร่ ยูจีน?” (คลอดด์)
“เราวางแผนจะออกเดินทางพรุ่งนี้ ซูมิเระและซาร่าออกไปซื้ออะไรๆที่เราจะต้องการ” (ยูจีน)
“นั่นเร็ว ของเราใน 1 เดือน” (คลอดด์)
“นายใช้เวลาสบายเลยนะ” (ยูจีน)
แม้ว่าคำร้องมา ณ เวลาเดียวกัน
“เพราะทั้งหมดสหพันธรัฐบลูวอเตอร์มีประเทศเล็กๆเยอะ มันใช้เวลาเพื่อจัดเตรียมเยอะ ฉันแค่อิจฉาจักรวรรดิและสหภาพศักดิ์สิทธิ์” (คลอดด์)
“อืม จักรวรรดิเร็วเมื่อตัดสินใจ” (ยูจีน)
มันเป็นการตกลงที่เสร็จแล้วด้วยแค่คำสั่งขององค์จักรพรรดิ
สหพันธรัฐบลูวอเตอร์ต้องได้รับการยอมรับในสภาสหพันธรัฐก่อนเริ่มอะไรสักอย่าง
“พูดถึงแล้ว นายเคยไปสหภาพศักดิ์สิทธิ์รึยัง คลอดด์” (ยูจีน)
“หืม มากสุดที่ฉันทำคือเข้าร่วมในพิธีฉลองเมื่อเทพพยากรณ์แห่งโชคชะตาซามะถูกแต่งตั้ง” (คลอดด์)
“มันเป็นยังไง? มีอะไรสักอย่างที่ต้องระวังมั้ย?” (ยูจีน)
“มีพวกเกลียดจักรวรรดิอยู่เยอะ” (คลอดด์)
“……ข-เข้าใจแล้ว” (ยูจีน)
ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับมันจากซาร่า แต่แม้แต่คลอดด์ยังพูดนี่ ถ้าอย่างนั้นมันต้องเป็นจริง
“ระวังนะ รู้มั้ย? ชายแก่ดูสงบสุขก็เปลี่ยนเป็นแดงสดและเริ่มด่าจักรวรรดิได้ทันทีเมื่อพวกเขาถูกพูดถึง อย่าได้ไปบอกว่านายเป็นลูกชายของดาบจักรวรรดิแม้แต้ด้วยความผิดพลาดเลยล่ะ” (คลอดด์)
“ฉันจะเก็บไว้ในใจ…”
มาระวังเมื่อผมสำรวจเมืองคาลเดียเถอะ
ผมต้องทำให้มั่นใจว่าไม่พูดอะไรไม่จำเป็นเมื่อผมไปซื้อของ
เราคุยกันเล่นๆและฝึกวันนั้นเสร็จ
◇◇
—คุกปิดผนึกที่ 7 พื้นที่ต้องห้าม
“เออ๋ เตงจะไปเมืองนอกอีกแล้วเหรอ?!”
ผมนำไวน์, เบค่อน, ชีส, และผลไม้มามากขึ้นกว่าปรกติสู่ห้องของเจ้าอสูร
ชัดเจนว่าเธอขึ้นเสียงในความไม่พอใจเมื่อผมบอกเธอว่าผมจะไปสหภาพศักดิ์สิทธิ์
“ขอโทษ เอริ ผมจะอยู่มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้วันนี้และพรุ่งนี้เป็นการแลกเปลี่ยน” (ยูจีน)
“ฮ๋าา?! พยายาม?! ผิดแล้ว! เตงจะอยู่ที่นี่ตลอดเวลา!” (เอริ)
“ไม่ ผมจะไม่สามารถเตรียมตัวเพื่อเดินทางได้แบบน้ะ—” (ยูจีน)
“ฉันเป็นความสำคัญสูงสุด ใช่มั้ย?” (เอริ)
เธอเข้ามาใกล้กับผมพร้อมดวงตาสีแดงและผมยอมแพ้กับการเถียง
(ฉันเติมอุปกรณ์สำรวจเสร็จแล้ว ดังนั้นฉันแค่รวมอะไรๆที่ฉันไม่มีพอไว้ในที่จริงได้ ฉันว่า…) (ยูจีน)
ตอนนี้เมื่อผมมาคิดๆดู นี่คือครั้งแรกที่ผมจะไปสหภาพศักดิ์สิทธิ์
ผมอยากตรวจดูอุปกรณ์และอาวุธเวทมนตร์เเพราะโอกาสมาถึง
แต่สำหรับอาวุธ ผมคิดว่าผมจะแค่ดูๆ
“เข้าใจแล้ว เอริ ผมจะอยู่วันนี้จนถึงช้ะ—” (ยูจีน)
เจ้าอสูรผลักผมลงและผมพูดจบไม่ได้
“อ-เอริ…?” (ยูจีน)
“ฟุฟุฟุ…” (เอริ)
เจ้าอสูรเอริเนียสยิ้มอย่างยั่วยวน
ผมรู้สึกถึงอุณภูมิสูงของเธอจากผิวหนังผมได้
ผมได้ยินการหายใจแรงของเธอได้
มีไฟในดวงตาเหล่านั้นมองลงมาที่ผม… ผมว่า
เมื่อผมเห็นดวงตาสีแดงของเอริ ผมกลายเป็นมั่นใจ
(…ฉันรู้สึกเหมือนนี่จะเป็นคืนอันยาวนาน) (ยูจีน)
ผมไม่ได้คิดผิด
◇◇
มันยากที่จะบอกการผ่านไปของเวลาในคุกใต้ดิน
ณ เวลาที่ผมกำลังนอนขี้เกียจเฉยๆหลังจากไม่กี่ชั่วโมง…
“พูดถึงแล้ว เตงจะไปสหภาพศักดิ์สิทธิ์ ใช่มะ? ไม่ใช่เตงจะถูกประหารถ้ามันถูกค้นพบว่าเตงทำสัญญากับเค้า เจ้าอสูรเหรอ?” (เอริ)
“……นั่นแหละปัญหา” (ยูจีน)
ซาร่าชี้นั่นออกมาด้วย
คาลเดียเป็นประเทศศาสนาที่นับถือเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์
พลเมืองทั้งหมดเป็นผู้ศรัทธาของโบสถ์เทพธิดา และไม่ให้อภัยตัวตนของอสูรและเจ้าอสูร
ผมจะไม่ออกมาไร้รอยขีดข่วนในวันที่มันถูกค้นพบว่าผมทำสัญญากับเจ้าอสูร
หรือ กฎหมายของสหภาพศักดิ์สิทธิ์บัญญัติไว้ว่าคนหนึ่งจะโดนประหารถ้าคนนั้นทำสัญญากับอสูร
“จะไปจริงๆเหรอ?” (เอริ)
นั่นฟังดูเหมือนเธอกังวลผมอย่างจริงจัง ตรงกันข้ามกับตัวเธอปรกิ
“ซาร่าพูดกับเทพพยากรณ์แห่งโชคชะตาโอเรียนน์ซามะไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นมันควรจะไม่เป็นไร… มั้ง” (ยูจีน)
เทพพยากรณ์แห่งโชคชะตารู้ว่าผมทำสัญญากับเจ้าอสูร
เพราะทั้งหมดเห็นว่าเธอติดต่อกับแม่ผมในดินแดนสวรรค์
โอเรียนน์ซามะน่าจะทำเหมือนเธอไม่รู้
เธออาจนำมันออกมาเป็น ‘จุดอ่อน’ บางครั้ง
ผมไม่รู้เจตนาเธอ แต่ผมอยากเชื่อว่าเธอจะไม่ทำอะไรไม่ดี
“มีความจำเป็นต้องไปเหรอ?” (เอริ)
เอริพูดมีประเด็น แต่…
“ไม่ใช่เธออยากเห็นนกแห่งความมืดในตำนาน ราม เหริอ?” (ยูจีน)
“เตงนี่…” (เอริ)
เอริถอนหายใจ
พูดถึงแล้ว ซาร่ากับซูมิเระตอบสนองคล้ายกันเมื่อผมบอกพวกเธออย่างนั้น
แต่มันเป็นสัตว์อสูรผู้ยิ่งใหญ่ในตำนาน
ผมชินกับการเห็นสัตว์มโหฬารฮาเก็นติแล้วตั้งแต่เด็ก แต่ผมจินตนาการถึงรามไม่ได้ด้วยแค่คำพูด
ผมอยากเห็นตัวเป็นๆถ้าทำได้
“เตงมันบื้อ” (เอริ)
เอริจิ้มผม
ดูเหมือนเธอไม่เข้าใจผม
แต่ผมคิดว่าอาจารย์ใหญ่และคลอดด์จะเข้าใจ
จากนั้นผมลุกขึ้นจากเตียง เทน้ำลงในแก้ว แล้วดื่มมัน
หัวผมโล่งนิดหน่อย
อะไรที่ทำให้ผมกังวล ณ เวลาเดียวกันคือ…
“พูดถึงแล้ว เธอไม่ต้องช่วยริต้าซังเหรอ?” (ยูจีน)
“หืม? แต่เธอกำลังเรียกเค้านะ” (เอริ)
เอริบอกผมอย่างง่ายๆ
“…ไม่ไปไม่เป็นเหรอ?” (ยูจีน)
“ทำไมเค้าต้องไปทำงานง่ายๆเมื่อเตงจะไปที่ไหนไกลๆด้วยล่ะ?!” (เอริ)
เธอกลายเป็นโกรธ
“…ขอโทษ” (ยูจีน)
ผมไม่ได้ต้องคิดมากเกี่ยวกับมันด้วยซ้ำ มันคือความผิดของผม
“ผมรู้สึกผิดกับริต้าซังอ่ะ” (ยูจีน)
“ไม่ใช่มันไม่เป็นไรเหรอไง? หนุ่มหอกที่เป็นเพื่อนเตงเห็นว่าไปบ่อยอยู่ดีนั่นแหละ” (เอริ)
“ผู้ใช้หอก…คลอดด์เหรอ?” (ยูจีน)
“ใช่ใช่ เธอดูเหมือลำบากจากงานท่วม แต่เขามาทำหน้าที่เป็นเพื่อนคุย เธอมีความสุข” (เอริ)
“นั่นยอดเยี่ยมที่ได้ยิน” (ยูจีน)
ช่างเป็นคนขยัน
แต่เขาเป็นเสือผู้หญิง ดังนั้นผมกัลวลนิดหน่อยว่าเขาจะยั่วเธอ
“…ฉันได้ถูกถามเกี่ยวกับการยั่วผู้ชายมนุษย์จากริต้าไม่นานนี้นะ รู้มะ” (เอริ)
“…เอ๋?” (ยูจีน)
ในทางกลับกันหรือ?!
ริต้าซังมอบบรรยากาศไร้กังวล แต่คาดไม่ถึงเลยว่าเธอนั้น…
“สำหรับตอนนี้ ฉันบอกเธอว่าพละกำลังของนางฟ้านั้นเหนือกว่ามนุษย์มาก ดังนั้นเธอชนะได้ถ้าเธอรุกโจมตีหนักหน่วง” (เอริ)
“นั่นแค่ได้ผลกับเธอหรอก!!” (ยูจีน)
ผมตอบโต้ในเสียงดัง
“อ-เออ๋… แต่เทพธิดาตกสวรรค์เท่านั้นที่ใช้เสน่ห์ได้ ริต้าพูดว่าเธอไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับความรัก ไม่มีทางเลือกนอกจากบุกรักนี่ ถูกป่ะล่ะ” (เอริ)
“ควรมีวิธีพูดแบบอื่นสิ…” (ยูจีน)
ผมกำลังจะพูดว่าเอริมีประสบการณ์มากมาย แต่จากนั้นผมสังเกต…
“เอริ เธอมีประสบการณ์ความรักมากเท่าไหร่?” (ยูจีน)
“…เอ๋?” (เอริ)
“เธอบอกผมมาก่อนว่าเธอมีประสบการณ์ความรักเยอะ แต่ผมยังไม่เคยได้ยินรายละเอียดเกี่ยวกับมันเลย” (ยูจีน)
“ฮ่า! นี่ทำไมหนุ่มน้อยๆนั้นน่าปวดหัว! มาถามผู้หญิงเกี่ยวกับอดีตเธอคืออะไรที่พวกผู้ชายไม่เป็นที่นิยมจะทำ!” (เอริ)
“เธอเนียนแบบนั้นครั้งที่แล้ว แต่มันเป็นไปได้มั้ยว่าเธอไม่มีประสบการณ์ความรัก…” (ยูจีน)
“หุบปาก! ไม่มีทางที่จะเป็นอย่างนั้น! เธอคิดว่าเธอพูดแบบนั้นกับฉันได้เรอะ เจ้านางฟ้าตกสวรรค์เนี่ยนะ?!” (เอริ)
(ฉันรู้สึกเหมือนเธอจะพยายามไถไปจากนี่ด้วยเหมือนกัน…) (ยูจีน)
ในท้ายที่สุด ผมไม่ได้ยินประวัติความรักของเอริ
◇◇
เช้าวันต่อมา
ผมเป็นอิสระจากเอริ กลับไปหอ และออกจากห้องพร้อมแค่สัมภาระสำหรับใช้สำรวจ
ผมดีใจที่ผมเตรียมตัวเองตลอด
ผมติดกำหนดการชิดใกล้แล้ว
ผมรีบสู่สถานีเรือบินที่ผมตกลงว่าจะเจอซูมิเระกับซาร่า
ทั้งสองคนอยู่ที่นั่นแล้ว
เรือบินสีขาวใหญ่มีตราของสหภาพศักดิ์สิทธิ์เขียนอยู่บนมัน
มันคือเรือบินอันเราจะโดยสาร
“ยูจี้คุง เธอสาย!” (ซูมิเระ)
“มันหายากสำหรับเธอที่ใกล้กับกำหนดการณ์นะ ยูจีน” (ซาร่า)
“ซูมิเระและซาร่าวิ่งมาสู่ผม”
“ขอโทษ เธอสองคน… อืม มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นมั้ย?” (ยูจีน)
“……”
“……”
เธอทั้งสองยิ้มตอนแรก แต่เห็นได้ว่ากลายเป็นมืดมนมากขึ้น
“ฉันได้กลิ่นของเจ้าอสูรนั่น…” (ซูมิเระ)
“มานาของอสูรในความรุ่มร้อน…” (ซาร่า)
ผมเลี่ยงสายตาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ผมบอกได้ว่าไม่มีจุดหมายกับการสร้างข้ออ้าง
“ยูจี้คุง เธอเป็นที่นิยมมาก ฉันอิจฉ้าอิจฉา~ ถึงจุดที่ฉันอยากตบสักฉาดให้ล้มไปเลย~☆”
“เธอกล้าทำการนอกใจกับเจ้าอสูรก่อนไปคาลเดียจริงๆเรอะ ฉันอาจจบที่ฟันเธอล้มด้วยดาบศักดิ์สิทธิ์นะ☆” (ซาร่า)
พวกเธอสองคนน่ากลัวกว่าเจ้าอสูร
“ซูมิเระ ซาร่า… เรือบินจะออกในไม่นาน ดังนั้นไปกันเถอะ” (ยูจีน)
ผมพูดนี่และมือผมถูกล็อกจากทั้งสองฝั่ง
“ยูจี้ บอกรายละเอียดกับฉันข้างในเรือบิน เข้าใจมั้ย?” (ซูมิเระ)
“ซ่อนมันไม่มีจุดหมายแล้ว เข้าใจมั้ย? เพราะทั้งหมดฉันนำอุปกรณ์ตรวจจับความจริงมา” (ซาร่า)
เห็นได้ชัดว่านักบวชของคาลเดียวมีของเหล่านั้นกับตัวพวกเขาตลอด
ช่างเป็นประเทศน่ากลัว
“ด-ได้… ฉันเข้าใจ” (ยูจีน)
การเดินทางในท้องฟ้าสู่เมืองหลวงของคาลเดียวนั้นเป็น…การเดินทางที่มีความสุขอย่างแท้จริง
■ตอบความคิดเห็น
>เจ้าอสูรซามะที่คนหนึ่งไปเยือนได้ง่ายๆ ขำกลิ้ง
-ผมรู้สึกแย่กับเธอที่อยู่ใต้ดินตลอด ผมเลยทำมันเพื่อให้เธอไปชั้นที่ 100 ได้