นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา - บทที่ 116 แกงไก่
นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่ 116 แกงไก่
พอโจวกุ้ยหลานได้ยินเสียงก็ออกมาจากในครัว เห็นเขาถือไก่ป่าสองตัวในมือ
“รีบไปล้างหน้าล้างตาเถอะ แล้วมากินอาหารเช้า พี่ชายพวกเรามาตั้งนานแล้ว” โจวกุ้ยหลานกล่าวพลางหมุนตัวกลับห้องครัว ยกน้ำออกมากะละมังหนึ่ง แล้ววางบนโต๊ะ
สวีฉางหลินรับคำ ยกขาเดินไปล้างหน้า
เหล่าไท่ไท่ส่งสายตากับโจวกุ้ยหลาน โจวกุ้ยหลานพลันเข้าใจจึงรีบเดินไปหา
“เดี๋ยวเจ้าต้มแกงแล้วส่งไปที่บ้านลุงใหญ่เจ้าครึ่งหนึ่ง เมื่อวานครอบครัวเขาอาละวาดทั้งวัน หวังหยู่ชุนแบ่งอาหารไปไม่น้อย ในบ้านยังมีคนป่วยสองคน เราก็ส่งไปให้พวกเราบำรุงหน่อย” เหล่าไท่ไท่ขยับเข้าข้างหูโจวกุ้ยหลาน กระซิบกระซาบ
“ไม่อย่างนั้นข้าเอาไก่ไปให้ตัวหนึ่งแล้วกัน แบบนี้ท่านลุงใหญ่จะได้กินบ้าง” โจวกุ้ยหลานเอ่ย
ครั้นนึกถึงรูปร่างผอมแห้งของโจวต้าซาน โจวกุ้ยหลานจึงตอบรับเสียงหนึ่ง
อย่างไรนั่นก็เป็นลุงใหญ่ของนาง เป็นลุงใหญ่ที่ใช้ชีวิตของตัวเองทั้งครอบครัวช่วยพวกนางทั้งบ้าน
“ไอ้หยา เจ้าโง่หรืออย่างไร? ถ้าให้ไก่หนึ่งตัว พวกเขาก็ต้องคิดว่าบ้านเจ้ายังมีไก่อีกเยอะ ถ้าเจ้าให้ครึ่งตัว พวกเขาก็จะรู้ว่าบ้านเจ้ามีไก่แค่ตัวเดียว แต่ยังอุตส่าห์แบ่งให้พวกเขาครึ่งหนึ่ง นี่ก็คือน้ำใจ!”
เหล่าไท่ไท่กลอกตาใส่โจวกุ้ยหลาน อธิบายกับนาง
เหมือนจะมีเหตุผลแฮะ
โจวกุ้ยหลานครุ่นคิด รู้สึกว่าเหล่าไท่ไท่กล่าวได้ถูกต้อง
“จริงสิ เมื่อวานพวกเขาแยกบ้านกันอย่างไร?” โจวกุ้ยหลานนึกถึงเรื่องเมื่อวานจึงถาม
แต่พอพูดถึงเรื่องเมื่อวาน สีหน้าเหล่าไท่ไท่ก็ไม่สู้ดีนัก “พี่สะใภ้หยู่ชุนเจ้าคนนั้นเลวจริงๆ พอผู้ใหญ่บ้านกับกํานันมาถึงบ้านก็อาละวาดอีกพักหนึ่ง บอกว่าจะแยกบ้านตามจำนวนผู้ชาย ครอบครัวพี่รองเจ้ามีผู้ชายสี่คน ส่วนลุงใหญ่เจ้ากับซานเฉียงมีผู้ชายแค่สองคน ของก็เลยถูกนางแย่งเอาไปเป็นส่วนใหญ่ ”
นี่…ยังมีการแบ่งแบบนี้ด้วย?
“แล้วท่านป้าใหญ่ข้ารับปากหรือ?” โจวกุ้ยหลานรู้สึกว่าเรื่องนี้จะเกินไปแล้ว
ต่อไปซานเฉียงยังมีลูกอีก แต่ตอนนี้กลับไม่ได้อะไรเลย?
อีกอย่าง ท่านลุงใหญ่กับท่านป้าใหญ่เป็นผู้ใหญ่ แถมยังเป็นคนป่วยอีก ส่วนทางพี่เอ้อร์เฉียงเป็นเด็กสามคน…
“จะทำอย่างไรได้ นางลุกขึ้นมาอาละวาดได้หรือ! หวังหยู่ชุนร้องไห้ฟูมฟายอยู่ตรงนั้น บอกว่าถ้าไม่แบ่งอย่างนี้นางจะเอาลูกสามคนกลับบ้านแม่ ลุงใหญ่เจ้าเองก็จนปัญญา”
ว่าแล้วเหล่าไท่ไท่ก็เดือดปุดๆ
ทำไมถึงตบแต่งเจ้าคนพรรค์นี้กลับมาได้นะ?
โจวกุ้ยหลานรู้สึกว่ามีเรื่องกับหวังหยู่ชุนไม่ได้จริงๆ
“พวกเราที่นี่มีกฎ แยกบ้านแล้วญาติต้องมอบของเสริมสักหน่อย เมื่อคืนข้าส่งไปให้แล้ว วันนี้เจ้าก็เอาไก่ไป”
เหล่าไท่ไท่กลัวว่าโจวกุ้ยหลานจะไม่เข้าใจจึงอธิบาย
โจวกุ้ยหลานพลันกระจ่าง พยักหน้า
เมื่อกลับห้องครัวก็เห็นสวีฉางหลินกำลังตักโจ๊กอยู่พอดี
โจวกุ้ยหลานเดินสองสามก้าว หยิบขนมหัวไชเท้าออกมาจากตู้กับข้าวจานหนึ่ง วางไว้บนเตา ให้เขารับประทานอยู่ตรงนั้น ส่วนนางก็ตักน้ำใส่ในหม้อ ไปที่เตาแล้วหยิบฟืนเริ่มต้มน้ำ
ไม่นานสวีฉางหลินก็รับประทานอาหารเช้าเสร็จ พร้อมกับล้างถ้วยด้วย
ตอนเช้าตัดต้นเอาไปตากแดดอยู่ที่โล่ง ตกบ่ายก็นำไม้ที่ตัดตอนเช้ามาเผาถ่าน
สวีฉางหลินคิด จากนั้นก็เดินเร็วออกไป
โจวกุ้ยหลานต้มน้ำหม้อใหญ่จนเดือดแล้วเอาใส่ถังไม้ จากนั้นก็ไปหิ้วไก่สองตัวที่ห้องโถงวางแช่อยู่ในน้ำร้อน
เมื่อแช่ทั้งสองด้านแล้ว ก็อาศัยน้ำร้อนถอนขนไก่
เหล่าไท่ไท่วางงานในมือแล้วเดินตามออกมา หยิบไก่ตัวหนึ่งแล้วเริ่มถอนขน
สองแม่ลูกสนทนากัน ถอนขนไก่จนสะอาดหมดจด จากนั้นจึงผ่าท้องไก่ ทั้งสองคนช่วยกันล้างจนสะอาดเกลี้ยงเกลา สับไก่ตัวหนึ่งเป็นชิ้น วางลงในหม้อ เติมน้ำเยอะๆ ใส่เห็ดหอมที่แช่น้ำแล้ว ปิดฝา จุดถ่านแล้วค่อยๆ ต้ม
ส่วนไก่อีกตัวโจวกุ้ยหลานนำมาหมัก ตากให้แห้งอยู่ข้างนอก ขนไก่เหล่านั้นนางนำมาล้างให้สะอาด แล้วตากข้างนอกเหมือนกัน
เมื่อทำเสร็จ เหล่าไท่ไท่ก็กลับไปทำเสื้อผ้าต่อ ส่วนนางก็ทำขนมหัวไชเท้าต่อเช่นกัน
พริบตาเดียวช่วงเช้าก็ผ่านไปแล้ว
โจวกุ้ยหลานทำงานตลอดทั้งเช้า เปิดฝาหม้อ ปรุงรสไก่ จากนั้นก็ตักใส่ชามใบใหญ่เต็มๆ ครอบด้วยจานใบใหญ่ก่อนจะวางลงในตะกร้าหิ้วลงเขา
ระหว่างนางเดินช้ามาก กลัวว่าแกงไก่จะเฉาะออกมา
เมื่อถึงลานบ้านของโจวต้าซาน นางก็เห็นเอ้อร์เฉียงกับซานเฉียงกำลังใช้อิฐก่อกำแพงอยู่
“พี่เอ้อร์เฉียง พี่ซานเฉียง พวกท่านกำลังทำอะไรอยู่น่ะ?” โจวกุ้ยหลานเรียกเสียงหนึ่ง
“กุ้ยหลาน เจ้ามาได้อย่างไร?” ซานเฉียงถามแล้วกระโดดลงมาต้อนรับ
เอ้อร์เฉียงยังอยู่ข้างบน ยิ้มกับโจวกุ้ยหลาน “กุ้ยหลานมาแล้ว?”
“มาเยี่ยมท่านลุงใหญ่กับท่านป้าใหญ่น่ะ” โจวกุ้ยหลานตอบ แล้วยื่นตะกร้าในมือให้ซานเฉียง เอ่ยกับเขา “เอาไปให้ท่านลุงใหญ่เถอะ”
“แค่ได้กลิ่นหอมข้าก็รู้แล้วว่าเป็นแกงไก่! กุ้ยหลาน เจ้าดีจริงๆ ข้าไม่ได้กลิ่นแกงไก่มาตั้งนานแล้ว!” ซานเฉียงพูดขึ้นด้วยความดีใจ แล้วลากกุ้ยหลานทันที
“มาๆๆ ไปนั่งในบ้านก่อน”
เอ้อร์เฉียงทางนั้นรู้สึกอีหลักอีเหลื่อเล็กน้อย รู้สึกว่าจะยืนก็ไม่ใช่ จะต้อนรับเข้าไปก็ไม่ใช่
โจวกุ้ยหลานทักทายกับเอ้อร์เฉียง จากนั้นจึงเข้าเรือนกับซานเฉียง ตอนนี้นางถึงพบกว่าตรงกลางบ้านใช้อิฐดินคั่นเอาไว้แล้ว
ซานเฉียงพานางเดินเข้าไปทางด้านขวา ลวดไปที่ห้องครัว เห็นโจวต้าซานกำลังทำกับข้าวอยู่
“กุ้ยหลานมาแล้ว?” ครั้นโจวต้าซานเห็นนางก็ทักทายปราศรัย
“ท่านลุงใหญ่ ในบ้านเกิดอะไรขึ้นหรือ?”
โจวกุ้ยหลานถามพลางนั่งดูไฟอยู่ข้างเตา
“บ้านแยกเรียบร้อยแล้ว พี่สะใภ้หยู่ชุนเจ้าโวยวายจะแบ่งบ้านด้วย ทำจนตอนนี้” โจวต้าซานที่ปกติไม่กล่าวถึงลูกสะใภ้ตนเอง นาทีนี้อัดอั้นตันใจนัก
ซานเฉียงสาวเท้า วางตะกร้าไว้บนเตา น้ำเสียงหงุดหงิด “พูดถึงนังผู้หญิงคนนั้นทำไม? นางอยากแบ่งก็แบ่งไป ต่อไปข้าไม่อยากเห็นนางอีก! ท่านพ่อ นี่คือแกงไก่ที่กุ้ยหลานเอามาให้ กลางวันเราได้กินมื้ออร่อยแล้ว!”
“ทำไมพูดอย่างนี้ นั่นเป็นพี่สะใภ้รองเจ้านะ” โจวต้าซานเหลือบมองบุตรชายตนทีหนึ่งก่อนจะสั่งสอน
ต่อให้พี่สะใภ้จะไม่ดีอย่างไร ซานเฉียงที่เป็นน้องชายก็ไม่ควรพูด
เมื่อถูกบิดาตัวเองด่า ซานเฉียงจึงไม่กล้าพูดมากอีก ยกชามแกงใบใหญ่ออกมาแล้วเปิดจานออก เห็นแกงไก่อยู่ในนั้นเต็มๆ ข้างในยังมีแต่เนื้อไก่ด้วย
นี่กล่าวอย่างน้อยมีไก่ครึ่งตัวเชียวนะ!
“กุ้ยหลาน ทำไมเจ้าให้มาเยอะแยะอย่างนี้?” โจวต้าซานสูดปาก
“ไม่ได้ซื้อมา ฉางหลินไปล่าในป่าแต่เช้า ข้าก็เลยเอามาให้ท่านลุงใหญ่กับท่านป้าใหญ่หน่อย”