นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา - บทที่ 167 ข้าปวดใจ!
นางไม่อยากแทรกแซงเรื่องนี้ นี่จะเด็ดขาดก็ไม่ได้ จะหาทางแก้ก็ไม่รู้จะแก้อย่างไรอีก นางดูอย่างเดียวก็พอ
สวีฉางหลินเงยหน้ามองสองคนที่หน้าแดงหูแดงแจ๋อีกครั้ง แล้วก้มหน้าเงียบ
โจวกุ้ยหลานจ้องสองคนแม่ลูกเขม็ง แล้วเอื้อมมือไปคว้าสวีฉางหลิน แต่จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่มือ พอหันไปมองถึงพบว่ามือตัวเองแตะถูกตอกไม้ไผ่ ถูกมันบาดถูกหนัง
พอกำลังจะดึงมือกลับ สวีฉางหลินนัยน์ตาหดเล็ก คว้ามือนางไว้ เค้นเลือดออกแล้วอมหลังมือของนาง
ความรู้สึกอุ่นร้อนถาโถมมา ทำให้โจวกุ้ยหลานสั่นระริก นางแอบเหลือบมองเหล่าไท่ไท่กับโจวต้าไห่แวบหนึ่ง จะดึงมือกลับแต่สวีฉางหลินไม่ยอมปล่อย จับมือนางแน่นไม่ให้หนี
“เออ ท่านแม่กับพี่ก็อยู่ ข้าจัดการเอง…”
โจวกุ้ยหลานใบหน้าร้อนผ่าว รีบผลักสวีฉางหลิน กระซิบ
นี่…นี่จะใกล้ชิดเกินไปแล้ว ที่สำคัญที่สุดคือ ยังอยู่ต่อหน้าเหล่าไท่ไท่กับโจวต้าไห่ด้วย
แต่สวีฉางหลินไม่สนใจ ใช้ฟันดูดเลือดข้างนอกออกมาก่อนจะถุยออก ดูแผลนั้น แล้วกดปากแผลของนางแน่น
นี่…นี่จะเจ็บเกินไปแล้วนะ!
โจวกุ้ยหลานสะดุ้ง “ปล่อย เจ็บ!”
ผู้ชายคนนี้แรงเยอะเกินไปแล้ว นี่จะห้ามเลือดให้นางหรือจะบีบมือนางหักกันแน่!
ครั้นสวีฉางหลินได้ยินก็ผ่อนแรงลงมาก
แล้วจึงหันไปมองโจวกุ้ยหลาน “ยังเจ็บอีกไหม?”
“ไม่เจ็บแล้ว ข้ากดเองได้ เจ้าทำงานเจ้าไปเถอะ” โจวกุ้ยหลานเอ่ย ดึงมือกลับมา คราวนี้สวีฉางหลินปล่อยมือนางแล้ว เมื่อนั้นนางจึงโล่งอก
แผลเล็กแค่นี้ เลือดก็ออกแค่นี้ จะยุ่งทำไม ประเดี๋ยวเลือดก็หยุดเองแล้ว เมื่อครู่สวีฉางหลินกดมือนางไว้ นางรู้สึกอย่างกับกระดูกตัวเองจะหักแน่ะ
เอ๊ะ ทำไมเงียบไป?
นางเงยหน้าขึ้น เห็นเหล่าไท่ไท่กับโจวต้าไห่กำลังมองมาที่นาง
“เจ้าเป็นอะไรไป?” เหล่าไท่ไท่ขมวดคิ้วถาม
“ไม่เป็นไร ตอกไม้ไผ่บาดมือเท่านั้น พวกท่านไม่ต้องสนใจข้า คุยกันต่อเถอะ” โจวกุ้ยหลานโบกมือ กล่าวกับทั้งสอง
เหล่าไท่ไท่เห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยจึงโล่งอก แล้วกันไปทะเลาะกับโจวต้าไห่ต่อ
โจวต้าไห่นิ่งเงียบ ฟังมารดาของตัวเองด่าทอ ผ่านไปพักใหญ่จึงโพล่งปากว่าจะแต่งกับหลิวเซียง ทำจนเหล่าไท่ไท่โมโหตบเขาไปฉาดหนึ่ง แล้วด่าต่อ
โจวกุ้ยหลานนับว่าเข้าใจแล้ว พี่ใหญ่คิดจะแต่งงานกับหลิวเซียงจริงๆ แต่นางไม่คิดว่าโจวต้าไห่จะมีความรู้สึกอะไรกับอีกฝ่าย คงเพราะอย่างช่วยนาง เพราะหากชุ่ยฮวาโพนทะนาออกไป จะส่งผลกับชื่อเสียงของหลิวเซียงได้
แน่นอน นางไม่สนใจเรื่องนี้ เพราะเหล่าไท่ไท่กับโจวต้าไห่ต่างไม่ผิด หากมองจากมุมของเหล่าไท่ไท่ หลิวเซียงรับกรรมในสิ่งที่ตนกระทำ แต่หากมองในมุมของโจวต้าไห่ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะเขา จะทำร้ายหญิงสาวคนหนึ่งก็ไม่ได้
“ท่านแม่ ตอนที่หลิวเซียงมาหาข้า นางไม่รู้สักหน่อยว่าบ้านเรามีเงินแล้ว” โจวต้าไห่ขมวดคิ้ว เอ่ยกับเหล่าไท่ไท่
“นางเห็นเจ้าเป็นฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้ายต่างหาก ถ้าเทียบกับเจ้าโง่นั่น แต่งกับเจ้าจะไม่ดีกว่าหรือ?”
เหล่าไท่ไท่พ่นลมออกจมูกอย่างดูถูกโจวต้าไห่
โจวต้าไห่ขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม “ข้าจะแต่งกับนาง ข้าไม่อยากทำร้ายใคร”
เหล่าไท่ไท่เดือดพลุ ง้างมือจะใช้ที่คีบตีศีรษะโจวต้าไห่ โจวกุ้ยหลานร้อนรนตะโกน “ท่านแม่!”
พอสวีฉางหลินเห็นดังนั้นก็ไม่รู้ว่าอย่างไร จู่ๆ ก็พุ่งตัวไปตรงหน้าเหล่าไท่ไท่ คว้ามือนาง ไม่ให้นางตีศีรษะของโจวต้าไห่
โจวกุ้ยหลานโล่งอก รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปตรงหน้าเหล่าไท่ไท่ เตือนนาง “ท่านแม่ ท่านจะเลอะเลือนไม่ได้นะ ถ้าท่านตีลงไป พี่ข้าถึงไม่ตายก็ต้องหนังถลอก!”
เมื่อครู่ไม่มีอะไร นางไม่ยุ่งได้ แต่นี่เหล่าไท่ไท่โมโหจนจะตีศีรษะเขา โจวกุ้ยหลานจะเพิกเฉยไม่ได้อีก
“ข้าจะทำได้ลงคอจริงหรือ? นี่ลูกชายแท้ๆ ของข้านะ! เลือดในอกของข้า!” ว่าแล้วเหล่าไท่ไท่ก็ตาแดง “ถ้ารู้ว่าเจ้าจะทำให้ข้าโมโหอย่างนี้ ปีนั้นข้าไม่ควรคลอดเจ้า! ผู้หญิงเยอะแยะเจ้าไม่เอา แต่จะเอาเจ้าตัวก่อปัญหา?”
โจวต้าไห่รู้ว่าตัวเองทำมารดาโกรธจริงๆ แล้ว ตอนนี้จึงเงียบ
ตั้งแต่กลับมาเขาก็คิดดีแล้ว ต่อให้นางจะไม่ดีอย่างไร ตอนนี้เขาก็ให้นางแต่งกับคนโง่งมอย่างนั้นไม่ได้ และจะให้คนชี้นิ้วติเตียนนางก็ไม่ได้ด้วย เขาผู้ชายคนเดียวยังแล้วไป แต่นางเป็นผู้หญิงจะรับได้อย่างไร?
ยังมีอีกเรื่องที่เขาไม่ได้พูด นั่นก็คือตอนที่เขาตื่นขึ้นมา หลิวเซียงนอนเปลือยเปล่าอยู่ข้างเขา เขาเห็นเรือนร่างของนางแล้ว
เหล่าไท่ไท่โมโหโกรธาเป็นอย่างยิ่ง “โอย” เสียงหนึ่ง กุมหน้าอกตัวเอง
พอโจวกุ้ยหลานกับสวีฉางหลินเห็นก็รีบพยุงเหล่าไท่ไท่กลับเข้าห้อง พยุงนางไปนอนบนเตียงเตา โจวต้าไห่ตามเข้ามาอยู่ข้างหลัง เหล่าไท่ไท่พลิกตัวหันหลังให้เขา
“ท่านออกไปก่อนเถอะ” โจวกุ้ยหลานกล่าวกับโจวต้าไห่
โจวต้าไห่กลัวว่าตัวเองยังทำให้เหล่าไท่ไท่โกรธอีก จึงได้แต่ออกไป แล้วยืนตรงอยู่ที่ห้องโถง
เรื่องนี้เขาตัดสินใจแน่แล้ว เขาต้องเกลี้ยกล่อมท่านแม่ของเขาให้ได้ แต่ตอนนี้เขาจะทำให้นางโกรธอีกไม่ได้อีกแล้ว
อีกด้านหนึ่ง โจวกุ้ยหลานกระตุกเสื้อสวีฉางหลิน กำชับกับเขา “ต้มน้ำร้อนที่ห้องครัวเรียบร้อยแล้ว เจ้าอาบน้ำให้เสี่ยวเทียนก่อน เจ้าเองก็อาบให้สะอาดแล้วไปนอนเถอะ ข้าจะพูดกับท่านแม่”
สวีฉางหลินรับคำแล้วจึงออกไป
โจวกุ้ยหลานลุกขึ้น หลังจากคล้องประตูแล้วก็เดินหลับมา นั่งอยู่ข้างเตียงเตาของเหล่าไท่ไท่ “ท่านแม่ ไม่มีคนอื่นแล้ว ท่านไม่ต้องแสร้งทำแล้ว”
“แสร้งอะไร? ข้าปวดใจนัก!”
“ก่อนหน้านี้ข้าอ่านนิยาย ในนั้นมีแม่ผัวใจร้ายบีบให้ลูกชายผิดกับลูกสะใภ้ นี่ท่านก็ทำอย่างเดียวกันไม่ใช่หรือ?” โจวกุ้ยหลานเอ่ย
ทางเหล่าไท่ไท่ตะบึงตะบอนพลิกตัวกลับมา มองโจวกุ้ยหลาน “อย่างไร เจ้าว่าข้าเป็นแม่ผัวใจร้าย ส่วนหลิวเซียงเป็นคนดี?”
“ข้าเปล่า ท่านแม่ของข้าดีกว่าตั้งเยอะ จะเป็นแม่ผัวใจร้ายได้อย่างไร?” โจวกุ้ยหลานฉีกยิ้มประจบเหล่าไท่ไท่
ตอนที่เหล่าไท่ไท่กุมหน้าอกตัวเอง ชั่วขณะหนึ่งนางยังกังวล ต่อมาพอคิดดู เหล่าไท่ไท่สุขภาพแข็งแรง จะเป็นอะไรไปทั้งอย่างนี้ได้อย่างไร? นางไม่เชื่อ!
ตามคาด นี่เป็นการแกล้งป่วย เมื่อก่อนเห็นลูกไม้นี้บ่อยๆ ในนิยาย คนแก่เดี๋ยวๆ ก็ใช้ไม้นี้
เหล่าไท่ไท่ลุกขึ้นนั่งอย่างกระฉับกระเฉง ค้อนกับโจวกุ้ยหลาน “เจ้าว่าพี่เจ้าเป็นลูกข้าหรือเปล่า? ทำไมโง่อย่างนี้?”
“ก็ต้องลูกท่านสิ แต่ไม่เหมือนท่าน เหมือนท่านพ่อ” โจวกุ้ยหลานตอบตามจริงตาปริบๆ
ท่านพ่อในความทรงจำของนางก็เป็นคนซื่ออย่างนี้นี่แหละ พี่ใหญ่นางตั้งแต่รูปร่างหน้าตายันนิสัย เหมือนกับท่านพ่อนางเปี๊ยบ