นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา - บทที่ 208 โจวชิวเซียงที่กล้าดีมาก
“แล้วชิวเซียงก็ยังจะคบกับเขาอีกหรือ”โจวกุ้ยหลานไม่อยากจะเชื่อ
คนแก่อย่างนั้น หน้าตายังดูไม่ดีเท่ากับท่านลุงใหญ่ของนางเลย ชิวเซียงกล่อมตนเองให้แต่งกับคนอย่างนี้ได้อย่างไร เป็นอนุภรรยา นั่นก็คือเมียน้อยดีๆนี่เอง
“นี่ มีผู้หญิงมากมายอยากจะแต่งเป็นเมียน้อยเขา เถ้าแก่เฉียนคนนี้เป็นคนมีเงินจริงๆ เจ้าไม่เห็นหรือว่าเขาซื้อของให้ชิวเซียงตั้งเท่าไหร่ แค่ที่สวมอยู่กับตัว อย่างน้อยก็มีค่ามากว่าสิบตำลึงแล้ว”หวังหยู่ชุนพูดด้วยสายตาที่เป็นประกาย
ในมือนางตอนนี้ก็มีเงินอยู่ไม่เท่าไหร่ เงินเหล่านี้รวมไปถึงจำนวนที่หามาได้จากการเผาถ่านกับบ้านสวีฉางหลินในช่วงที่ผ่านมาด้วย แต่สิ่งที่อยู่บนร่างของชิวเซียงมีค่ามากกว่าเงินทั้งหมดที่บ้านนางมีเสียอีก
จุ๊ๆๆ ช่างมีเงินจริงๆ
เมื่อเห็นโจวกุ้ยหลานไม่พูดจา นางจึงพูดต่อไปว่า “ชิวเซียงแต่ไหนแต่ไรก็เห็นทำตัวสูงศักดิ์ คิดไม่ถึงว่าจะเกลือกกลั้วกับผู้ชาย จนตั้งท้องขึ้นมา ช่างน่าขายหน้าจริงๆ ข้ายังรู้สึกอายแทนนางเลย เมื่อคืนท่านพ่อเฒ่าโมโหจนบอกว่าจะกำจัดเด็กในทั้งของชิวเซียงซะ แต่ถูกท่านแม่เฒ่าขวางเอาไว้ ถ้าเป็นข้า ข้าจะปล่อยให้ตีให้ตายไปเลย ช่างขายหน้าตระกูลเราจริงๆเชียว”
ว่าแล้ว ใบหน้าของหวังหยู่ชุนก็เริ่มมีแววรังเกียจขึ้นมาอีกครั้ง แต่ว่าในใจกลับมีความยินดีผุดขึ้นมาด้วย เห็นทีหลังจากนี้ชิวเซียงคงจะทำตัวหยิ่งยโสมากขึ้น ก็ผู้ชายของนางมีเงินซะขนาดนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็คงต้องจุนเจือครอบครัวของนางบ้างกระมัง
โจวกุ้ยหลานรู้สึกตกใจเงียบๆ คนในหมู่บ้านให้ความสำคัญกับความบริสุทธิ์ของหญิงสาวมาก แต่ชิวเซียงกลับกล้าทำเรื่องเช่นนี้
แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่โจวชิวเซียงไปหาสวีฉางหลินในเวลาดึกดื่นเพื่อพูดเรื่องเหล่านั้น เหมือนว่าเรื่องเช่นนี้นางก็น่าจะทำได้เช่นกัน และรู้สึกผ่อนคลายลงทันที จากนั้นก็นึกถึงยาถุงนั้นขึ้นมา นางถามอย่างสงสัยว่า “นางคงไม่ได้วางยาเถ้าแก่เฉียนจนตนเองตั้งครรภ์กระมัง”
หวังหยู่ชุนโบกมือไปมา แล้วก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยอีกครั้ง “จะเป็นไปได้อย่างไร ยานี้เป็นของเถ้าแก่เฉียนเอง อายุอานามก็ขนาดนี้แล้ว ไหนเลยจะเทียบกับตอนหนุ่มๆได้”
ที่แท้ก็เป็นของเถ้าแก่เฉียน
โจวกุ้ยหลานเข้าใจทันที นางว่าแล้วคนเป็นสาวเป็นแส้อย่างโจวชิวเซียงจะไปเอายาเช่นนั้นมาจากไหน
“ท่านแม่”
เจ้าก้อนน้อยเอียงหน้ามองไปยังแม่ของตน ทำไมพวกเขาพูดอะไรเขาจึงฟังไม่รู้เรื่องเลย
เมื่อถูกเรียกเช่นนี้ โจวกุ้ยหลานก็ก้มหน้ามองเจ้าก้อนน้อย จึงมองเห็นแววตาอันบริสุทธิ์ของเจ้าก้อนน้อยคู่นั้น นางรู้สึกตกใจ
เมื่อครู่นางเอาแต่สนใจเรื่องนินทากาเล จนลืมเจ้าก้อนน้อยที่อยู่ในอ้อมอกไป
โธ่ช่างรู้สึกผิดจริงๆ ทำไมนางจึงพูดเรื่องเหล่านี้ต่อหน้าเจ้าก้อนน้อยนะ ถ้าหากเจ้าก้อนน้อยเติบโตไปเป็นคนไม่ดี นั่นเท่ากับเป็นความผิดมหันต์ของนาง
ในใจรู้สึกตระหนกมาก แต่ใบหน้ายังคงรักษาความสงบเอาไว้ ลูบศีรษะของเจ้าก้อนน้อย จากนั้นก็มองไปทางหวังหยู่ชุน พูดกับนางว่า
“พี่สะใภ้หากคำพูดเหล่านี้หลุดออกไป ชิวเซียงคงจะมาหาเรื่องท่านแน่”
“นางมีหน้าทำเรื่องเช่นนี้ ยังจะกลัวข้าพูดถึงนางอีกหรือ ข้าเองก็ไม่ได้พูดเหลวไหล นางจะว่าอะไรได้”หวังหยู่ชุนเอ่ยอย่างไม่พอใจ
แม่สามีของนางวันวันเอาแต่ต่อว่านางว่าเป็นพวกขี้เกียจสันหลังยาว ว่านางสกปรก และบอกว่าลูกสาวของตนเองดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า ทำเรื่องขายหน้าขนาดนี้ ช่างน่าหัวเราะเยาะจริงๆเลย
โจวกุ้ยหลานไม่สนใจ และคุยกับหวังหยู่ชุนต่อ ที่สำคัญคือหวังหยู่ชุนเป็นฝ่ายพูดแต่นางเป็นแค่คนฟัง ทำไมหลังจากที่พวกเขากลับมาแล้ว เถ้าแก่เฉียนก็ออกมาปกป้องชิวเซียง บอกว่าลูกในท้องของชิวเซียงเป็นลูกของเขา ตีไม่ได้ โจวต้าซานโมโหจนแทบจะต่อสู้กับเขา ส่วนหลี่ซิ่วยิงก็เอาแต่ขวางและขอร้องสุดกำลัง เอะอะกันทั้งคืนไม่หลับไม่นอน และตอนนี้โจวต้าซานก็ไม่ได้ไปเผาถ่าน นั่งกลุ้มใจอยู่ในบ้าน
หลี่ซิ่วยิงที่รู้ว่าโจวชิวเซียงตั้งท้อง ก็ดีใจเป็นที่สุด ต้มน้ำแกงไก่ให้นางดื่ม กินแต่ของดี ได้ยินว่าให้เหล่าหม่าโถวไปซื้อเนื้อดีๆจากในเมืองมาให้นางด้วย
“พรุ่งนี้ข้าจะไปซื้อของสำหรับปีใหม่แล้ว พวกเราไปด้วยกันดีหรือไม่”หวังหยู่ชุนพูด
โจวกุ้ยหลานส่ายหน้า พูดยิ้มๆว่า “พี่สะใภ้ อีกไม่กี่วันข้าก็จะย้ายไปอยู่ที่เรือนใหม่แล้ว เรือนนั้นยังต้องจัดระเบียบอีกมาก และไม่รู้ว่าต้องทำถึงเมื่อไหร่ ท่านไปก่อนเถอะ อย่าให้การซื้อของใช้ปีใหม่ต้องล่าช้าเลย”
“นั่นก็จริง”หวังหยู่ชุนพูด หันหน้าไปเดี๋ยวเดียวเด็กสามคนนั้นก็กินเนื้อตากแห้งทั้งชามจนหมดไปแล้ว
นางหันไปด่าเด็กๆว่าไร้น้ำใจ และสายตาก็เหลือบไปเห็นหลิวเซียง นางชี้หน้าหลิวเซียงและถามโจวกุ้ยหลานว่า “คนที่กินบนเรือนขี้รดบนหลังคาเช่นนี้เจ้ายังเก็บนางไว้อีกหรือ ข้าเป็นข้า คงตีให้ตายไปแล้ว”
พอหลิวเซียงได้ยินว่าจะถูกตีให้ตาย ก็รู้สึกเจ็บที่ศีรษะของตนเองขึ้นมา ทำไมบาดแผลที่เหล่าไท่ไท่ทำร้ายยังคงเจ็บอยู่
“ข้าย่อมรู้ดีแก่ใจ”โจวกุ้ยหลานพูดออกมาไม่กี่คำ
ถ้าตีตายนางก็ต้องขาดทุนห้าตำลึง อย่างนี้ไม่ได้ ตอนนี้นางเองก็เป็นคนจน ต้องรู้จักประหยัดบ้าง
หวังหยู่ชุนรู้สึกดูถูกโจวกุ้ยหลานในใจ ว่าเป็นพวกอ่อนแอเช่นกัน ถูกรังแกขนาดนั้นแล้ว ทั้งยังจะลอบทำร้ายนางอีก แต่ไม่ยอมทำอะไรเลย ไม่สั่งสอนนางให้หลาบจำด้วยซ้ำ ช่างโง่เสียจริงเชียว
หลิวเซียงที่อยู่ข้างๆรู้สึกสบายใจขึ้นมา แต่พอมองไปทางโจวกุ้ยหลาน ในแววตากลับไม่มีความหวาดกลัวเท่าไหร่แล้ว
ขอเพียงสามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้ ชีวิตภายหน้ามีแต่จะดีขึ้นเรื่อยๆ ดูแล้ว กุ้ยหลานก็ไม่ใช่คนที่มีความสามารถอะไร ถ้าหากไม่สามารถแต่งงานกับโจวต้าไห่ได้ การติดตามสวีฉางหลินบางทีก็อาจจะมีชีวิตที่ดีเหมือนกัน
เมื่อคิดเช่นนี้ ในสมองของหลิวเซียงก็มีใบหน้าของสวีฉางหลินผุดขึ้นมา แม้จะดูเย็นชา และน่ากลัว แต่เขาก็รักเมียมาก หน้าตาก็ดี และยังมีความสามารถมากกว่าโจวต้าไห่อีก ตอนนี้ยังสร้างบ้านที่ดีขนาดนั้นขึ้นมาด้วย……
นางยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหวในใจมากขึ้น ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตามไปอยู่บนเขาให้ได้
แน่นอนว่า โจวกุ้ยหลานยังไม่รู้ความคิดของนาง ถ้าหากรู้แล้วละก็ เกรงว่าคงจะไม่คิดถึงเงินห้าตำลึงนั่นแล้ว
หวังหยู่ชุนนั่งต่ออีกครู่หนึ่ง หนึ่งในลูกๆของนางบอกว่าอยากจะเข้าห้องน้ำ ส่วนที่เหลืออีกสองคนต่างก็บอกว่ารู้สึกไม่สบายท้อง หวังหยู่ชุนไม่มีทางเลือก ได้แต่ก่นด่าลูกๆทั้งสามพลางพาพวกเขากลับไป
เมื่อนางไปแล้ว โจวกุ้ยหลานก็ปิดประตู เกรงว่าจะมีคนมาหาอีก
นางเรียกหลิวเซียงไปพบที่ห้องของตนเอง นั่งอยู่บนเตียงเตา ผ่านไปครู่ใหญ่ นางจึงเอ่ยขึ้นมาว่า “หลิวเซียง ข้าปฏิบัติต่อเจ้าดีหรือไม่”
“ดี ดีมาก พี่กุ้ยหลานช่วยข้าเอาไว้ แต่ข้ากลับหน้ามืดตามัว หลังจากนี้ข้าจะรับใช้พี่กุ้ยหลานอย่างดี และไม่ทำเรื่องเหลวไหลอีกแล้ว”
หลิวเซียงเดินเข้าไปอีกหลายก้าว ตอบรับอย่างร้อนใจ ”
โจวกุ้ยหลานโบกมือ “ยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ต้องเดินมาหาข้าแล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลิวเซียงก็รีบหยุดฝีเท้าลงทันที
“เดิมทีข้าน่ะ คิดว่าหากเจ้าอยากจะอยู่ที่บ้านแม่ข้า เช่นนั้นข้าก็จะไปช่วยขอร้องท่านแม่ให้ ให้นางยอมให้พี่ชายข้าแต่งงานกับเจ้า ถ้าหากเจ้าอยากจะไปกับข้า ชีวิตภายหน้าข้าย่อมไม่ให้เจ้าต้องลำบากมากนัก หลังจากนี้ข้าเองก็ต้องการคนช่วยทำงาน ชีวิตคงจะดีขึ้นเรื่อยๆ ”
หลิวเซียงได้ยินดังนั้น ดวงตาก็เบิกกว้างมากขึ้น
อะไรนะ เดิมทีโจวกุ้ยหลานอยากจะให้นางแต่งกับโจวต้าไห่อย่างนั้นหรือ
“ข้าเห็นว่าเจ้าอยากจะไปที่บ้านท่านลุงใหญ่ของข้า ข้าก็เลยลองใจเจ้าดู สุดท้ายก็เกิดเรื่องเมื่อคืนขึ้น ตอนนี้เจ้าก็ไม่สามารถแต่งงานกับพี่ชายข้าได้แล้ว และไม่สามารถอยู่ที่บ้านตระกูลโจวต่อไปได้อีกด้วย”
พูดถึงตรงนี้ โจวกุ้ยหลานก็ถอนหายใจออกมา ไม่พูดอะไรอีก
หลิวเซียงคุกเข่าลงกับพื้นทันที โขกหัวคำนับให้กับโจวกุ้ยหลาน พูดอย่างร้อนใจว่า “พี่กุ้ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว ข้าสำนึกผิดแล้วจริงๆ ข้าไม่ควรมีความคิดที่จะทำร้ายเจ้าเลย”