นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา - บทที่ 22 ข้าทำเอง!
นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่22 ข้าทำเอง!
รู้ว่าโจวเหล่าไท่ไท่พูดออกมาก็ไม่เปลี่ยนแล้ว โจวกุ้ยหลานก็ไม่พูดอะไรมาก ยังไงถึงเวลาค่อยส่งมาให้โจวเหล่าไท่ไท่ก็ได้แล้ว
พูดเรื่องนี้เสร็จ นางก็ยืมจอบแล้วนำกะละมังไม้ไปซักผ้าที่บ่อน้ำในหมู่บ้าน
ข้างๆมีผู้หญิงกำลังซุบซิบนินทาอะไรกันอยู่ พอเห็นนางมาก็เงียบทันที
โจวกุ้ยหลานก็ไม่สนใจ หาที่ว่างแล้วซักผ้าของทั้งครอบครัว จากนั้นก็กลับขึ้นไปบนเขา ตากเสร็จหมดแล้ว ก็ถึงปล่อยไก่กับนกกระทาออกมา ผิวปากแล้วโยนข้าวโพดให้พวกมันกิน
ทำทุกอย่างเสร็จ ฟ้าก็ถึงสว่างขึ้นมา นางจูงแพะออกมา ผูกเชือกไว้บนต้นไม้แล้วให้พวกมันกินหญ้าตรงนั้น
เอาถังในบ้านออกมารีดนมแพะ ทำเสร็จแล้วก็เอาไปต้มในหม้อ
ต้มจนเดือนสักพักก็เอาฟืนออกมาจากเตา ให้นมแพะอุณหภูมิต่ำลงมาก่อน ก็ถึงจุดไฟเผาอีกที ให้นมเดือนอีกครั้ง ก็ถึงตักนมออกมา
เพิ่งทำทุกอย่างเสร็จ เจ้าก้อนน้อยก็เดินตัวเปลือยพร้อมกับเช็ดขี้ตามาหน้าประตู
โจวกุ้ยหลานรีบเดินเข้าไป เอาเสื้อก่อนหน้านั้นของสวีฉางหลินมาคลุมตัวของเขาไว้ ล้างหน้าล้างตาแต่งตัวให้เขาและกินข้าวต้มเสร็จ ก็ถึงเอานมแพะมาวางหน้าเขา
“เด็กดี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ลูกต้องดื่มนมแพะวันละถ้วยนะ?”
โจวกุ้ยหลานพูดเตือน
เจ้าก้อนน้อยพยักหน้า ไม่รู้ว่านมแพะคืออะไร ดื่มไม่กี่คำก็แทบสำลัก เพราะมันดื่มยากมาก เขาอดไม่ได้ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า: “ท่านแม่……”
“สิ่งนี้ดีต่อร่างกาย เด็กดีดื่มให้หมดนะ รอแม่เข้าตำบลไปซื้อลูกอมและเครื่องปรุง มาทำพุดดิ้งนมสดให้ลูกกินนะ!” โจวกุ้ยหลานพูดปลอบ
บ้านนี้ร่างกายทุกคนขาดสารอาหาร นมแพะเป็นอาหารเสริมที่อ่อนโยน ดีต่อร่างกายของพวกเขา
เจ้าก้อนน้อยกลัวว่าแม่จะไม่ดีใจ เลยบีบจมูกตัวเองดื่มให้หมดคำเดียว รอเขาดื่มหมดแล้ว ท้องก็พองโตจนกลมดิกทันที
เขาลูบท้องน้อยๆของตัวเอง โจวกุ้ยหลานก็บอกให้เขาไปเดินเล่นหน้าบ้าน
โจวกุ้ยหลานก็ดื่มน้ำแพะของตัวเอง รสชาตินี้ ดื่มยากจริงๆด้วย……
แต่เพื่อสุขภาพ ก็อดทนหน่อยแล้วกัน
หลังจากดื่มหมดแล้ว ก็เอาจอบไปที่หลังบ้าน เริ่มทำการพรวนดิน เดินไปถึงก็เห็นหลังบ้านมีต้นไม้อยู่เยอะมาก ตากจนแห้งหมดแล้ว ด้านหลังยังมีพื้นที่ว่างอีก น่าจะเป็นที่ที่สวีฉางหลินทำความสะอาดออกมา
นางถือจอบแล้วเริ่มพรวนดิน แต่ขุดลงไปไม่กี่ครั้งก็เหนื่อยจนยืนตัวตรงไม่ได้
นางดูถูกตัวเองในใจ นี่มันชักจะอ่อนแอเกินไปแล้วนะ……
พักผ่อนสักพัก นางก็เริ่มขุดต่อ
อีกด้าน ตอนที่สวีฉางหลินกลับมา ก็เห็นเจ้าก้อนน้อยยืนเล่นอยู่ในลานบ้าน เอากระต่ายที่ล่ามาได้วางบนเตาไฟในครัว กลับเข้าไปในห้องก็ไม่เห็นภรรยาของตัวเองเลย
นึกถึงเรื่องที่นางฆ่าตัวตายก่อนหน้านี้ สีหน้าของเขาก็มืดมนลงมาทันที
หรือว่านางจะไม่อยากอยู่?
เจ้าก้อนน้อยตกใจกับสีหน้าของเขา รีบวิ่งไปหาโจวกุ้ยหลานหลังบ้าน โจวกุ้ยหลานไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงกลัวขึ้นมากะทันหัน จึงกอดโอ๋เขา เห็นกระต่ายป่าในครัว ก็รู้สึกดีใจ
โอ๊ะ! ดูสวีฉางหลินวันนี้จะได้ของกลับมาด้วยนะ ผู้ชายคนนี้เก่งมากจริงๆ ออกไปล่าสัตว์ทุกครั้งไม่เคยมือเปล่ากลับมาเลย!
กำลังคิดอยู่นั้น ก็เห็นสวีฉางหลินออกมาจากในบ้าน นางรีบปล่อยตัวเจ้าก้อนน้อยลง แล้วทักสวีฉางหลิน: “สวีฉางหลิน ข้าต้มนมแพะไว้ให้ รีบมาดื่มสิ!!”
สวีฉางหลินที่ได้ยินเสียงนี้ก็รีบเงยหน้าขึ้น จากนั้นก็เห็นภรรยาตัวเองกำลังกวักมือเรียกเขา รอยยิ้มนั่นช่างสวยมากจริงๆ ความโกรธในใจของเขาก็หายไปในพริบตาทันที
แน่นอนว่า ถ้าโจวกุ้ยหลานรู้ว่าเขาคิดอะไร จะต้องด่าเขาว่ามีตาหามีแววไม่ ตอนนี้นางผอมจนเหลือแต่กระดูก เวลายิ้มใบหน้าก็เหี่ยวย่นไปหมด สวยที่ไหนกัน?
โจวกุ้ยหลานเปิดฝาหม้อ แล้วเอานมแพะที่ตักเสร็จตั้งนานแล้วยื่นให้เขา สวีฉางหลินรับมาแล้วดื่มทันทีโดยไม่ถามอะไรเลย
“เจ้าทำอะไรอยู่เหรอ?” สวีฉางหลินดื่มนมเสร็จก็ตักน้ำออกมาล้างถ้วยพร้อมกับถามนางไปด้วย
โจวกุ้ยหลานก็บอกเรื่องที่ตัวเองจะพรวนดินให้เขา เสร็จแล้วก็พูดว่า: “พวกเรารีบปลูกผักกันเถอะ ถ้าหนาวขึ้นมา พวกเราจะไม่มีอะไรกินกันนะ”
ที่แท้ก็ไปพรวนดินนี่เอง
สวีฉางหลินโล่งอก และท่าทีก็อ่อนโยนมากขึ้น
โจวกุ้ยหลานไม่ทันสังเกตถึงการเปลี่ยนแปลงของเขา ยังคงอยู่ในโลกของตัวเอง
“พวกเราล้อมข้างหลังไว้เถอะ เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่ามากิน แล้วปลูกผักเยอะๆ ไม่ต้องกลัวฤดูหนาวอีกต่อไป”
สวีฉางหลินเอาถ้วยวางไว้ แล้วเดินออกไป โจวกุ้ยหลานจับมือเจ้าก้อนน้อยรีบตามออกไป ก็เห็นสวีฉางหลินถือจอบแล้วเริ่มพรวนดิน แค่ขุดไม่กี่ครั้งก็ขุดได้เยอะกว่าที่นางทำไว้มาก
โจวกุ้ยหลานอดไม่ได้พูดว่า: “สวีฉางหลิน เจ้าเก่งมากเลยนะ ข้าทำตั้งนานยังเทียบกับที่เจ้าทำไม่ได้เลย”
และจอบนั้นก็ดูเล็กมาก สวีฉางหลินทำได้ไม่เต็มที่ ถ้าจอบใหญ่ก็คงทำได้เร็วกว่านี้อีก
“นี่ไม่ใช่งานที่เจ้าจะทำได้ ต่อไปบอกกับข้าก็พอแล้ว” สวีฉางหลินพูดกับภรรยาของตัวเอง
ถึงแม้จะไม่พอใจ โจวกุ้ยหลานก็ต้องยอมรับว่าการปลูกผักไม่ใช่งานถนัดของนาง ผู้ชายได้เปรียบมากกว่าผู้หญิงอยู่แล้ว ต่อไปนางรับผิดชอบงานเล็กๆน้อยๆก็พอ ส่วนด้านงานที่ใช้แรงงาน ก็ให้สวีฉางหลินทำแล้วกัน
“ได้ งั้นข้าจะบอกแผนการของข้านะ”
สวีฉางหลินตอบ ‘อืม’ คำเดียว ให้นางสั่งเขามาได้เลย
“ฤดูหนาวใกล้เข้ามาแล้ว บ้านเราทำมาจากไม้ ไม่มีเตียงเตา ถึงฤดูหนาวได้หนาวตายแน่ ข้าว่านะ พวกเราต้องสร้างบ้านหินก่อนจะเข้าฤดูหนาว สร้างเตียงเตาขึ้นมาก่อน”
การสร้างบ้านต้องใช้เงินไม่น้อยเลย
สวีฉางหลินครุ่นคิดในใจ พรุ่งนี้ค่อยเข้าป่าไปล่ากวางซิก้ามาอีกสองตัว
“อีกอย่างนะ ต่อไปถ้าปลูกผัก คงจะให้เจ้าลงไปตักน้ำขึ้นมาตลอดไม่ได้ ข้าคิดว่าเจาะบ่อน้ำบาดาลเองดีกว่า พวกเราดื่มน้ำก็สะดวกด้วย ยังล้างผักได้อีก และยังมีห้องน้ำด้วย พวกเราก็ต้องสร้างเหมือนกัน จะไปจัดการตามป่าไม่ได้แล้ว ไม่สะดวก”
โจวกุ้ยหลานพูดความคิดของตัวเองออกมา นึกถึงการเพาะพันธุ์สัตว์ของตัวเอง ยังมีเสื้อผ้าและที่พักอาศัยของพวกเขาอีก จะต้องเปลี่ยนหมดทุกอย่าง
สวีฉางหลินก้มหน้าลง ครุ่นคิดเงียบๆ กวางซิก้าสองตัวไม่พอแล้ว จะต้องล่ามาให้ได้อย่างน้อยห้าถึงหกตัว
ภรรยาของเขาใช้เงินเก่งจริงๆ เขาจะเลี้ยงภรรยาคนนี้ได้หรือเปล่านะ?
ครุ่นคิดอยู่นั้น สวีฉางหลินก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
โจวกุ้ยหลานเห็นสวีฉางหลินขมวดคิ้ว ก็อดไม่ไหวเท้าเอว “ทำไม เจ้าไม่อยากเหรอ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้น” สวีฉางหลินตอบอย่างเรียบเฉยคำเดียว
น่าเสียดาย เขาไม่เข้าใจผู้หญิงเลยจริงๆ คำพูดที่เขาคิดว่าจริงใจ โจวกุ้ยหลานได้ยินแล้วกลับเหมือนเป็นการตอบแบบขอไปทีมากกว่า