นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา - บทที่ 222 แม้แต่ความในใจเจ้ายังไม่กล้าพูดออกมา?
ได้ยินคำนี้ ซานญาดีใจมาก ส่วนเด็กคนอื่นต่างพากันยิ้มขึ้นมา
“ท่านแม่ พวกเราอาศัยอยู่ที่บ้านของท่านยายได้หรือไม่เจ้าคะ? บ้านของท่านยายมีของอร่อย ซานญากินอิ่ม…..”ซานญาเงยหน้าขึ้น มองโจวคายจือด้วยความเขินอาย ถามขึ้นมา
ส่วนเด็กคนอื่นที่โตขึ้นมาหน่อยก็เงยหน้ามองไปทางโจวคายจือ แววตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
โจวคายจือเผยอปาก ยืดคอขึ้น กลั่นกรองออกมาสองคำว่า“ไม่ได้”
เหล่าเด็กน้อยได้ยินเลยพากันก้มศีรษะลง เพิ่งจะมีความสุขอารมณ์ดีกันก็จบเห่แล้ว
โจวกุ้ยหลานเหลือบมองเหล่าเด็กน้อย ภายในใจรู้สึกไม่สู้ดีอยู่บ้าง
เมื่อเหลือบมองเหล่าเด็กน้อย เหมือนกับตอนที่นางเพิ่งเจอกับเจ้าก้อนน้อยเลย
คิดแล้ว นางจึงก้มหน้ามองไปทางเจ้าก้อนน้อย ก็ได้เห็นเขากินบะหมี่ของตัวเองอย่างเอร็ดอร่อย แต่หน้าขาวไม่น้อยเลย และเนื้อที่อยู่บนแก้มก็เยอะขึ้นไม่น้อย มองดูแล้วน่ารักมาก
โจวกุ้ยหลานเอื้อมมือไปลูบเจ้าก้อนน้อย แล้วมองไปทางเด็กๆที่ผอมโซ ภายในใจมีความเดือดดาลปะทุขึ้นมา นางโกรธโจวคายจือกับซุนโก่วต้าน
เจ้าก้อนน้อยไม่ใช่ลูกของนาง นางยังรักทะนุถนอมขนาดนี้ เด็กน้อยเหล่านี้เป็นลูกของโจวคายจือกับซุนโก่วต้านแท้ๆ เหตุใดพวกเขาถึงได้ให้เด็กๆใช้ชีวิตอย่างนี้ได้?
“ถ้าพวกเจ้าหิว ก็ไปเอาของกินกับพ่อแม่เจ้าได้”เหล่าไท่ไท่เหมือนทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว เลยพูดกับพวกเด็กๆ
“ท่านแม่ พวกเรามีของกินที่ไหนเจ้าคะ?”โจวคายจือกล่าวขึ้น ด้วยสีหน้าเศร้าโศก
เหล่าไท่ไท่เห็นท่าทางอย่างนี้ก็หงุดหงิด นางหันหน้าเหลือบไปมองซุนโก่วต้าน ภายในใจของซุนโก่วต้านก็หวาดกลัว รีบกล่าวขึ้นว่า“ท่านแม่กล่าวอะไร พวกเราฟังไว้ก็จบ”
“ฟังแล้วมีประโยชน์อะไร? เสบียงอาหารที่พวกเจ้าทำเลี้ยงชีพลูกพวกเจ้าไม่ได้หรือ?”เหล่าไท่ไท่หงุดหงิด ถ้าซุนโก่วต้านนี้เป็นลูกของนางแท้ๆนะ นางจะเอาไม้ตะบองฟาดจัดการเขาเลย!
โจวคายจือฟังแล้ว ได้แต่ก้มหน้าลง ดวงตาแดงก่ำ
โจวกุ้ยหลานเห็นแล้วก็หงุดหงิด มิน่าเล่าทุกครั้งที่เหล่าไท่ไท่เจอโจวคายจือก็เสียอารมณ์รำคาญ นางเองก็รำคาญ!
จู่ๆต้าญาก็ลุกขึ้น ยืดคอขึ้นมองเหล่าไท่ไท่ กล่าวขึ้นเสียงดังว่า“ท่านยาย เสบียงอาหารที่เรือนของพวกเราถูกท่านย่าเก็บไว้แล้ว ทุกวันนี้พวกเราทำงานหนักมาก แต่ได้กินเพียงน้อยนิด! น้องชายน้องสาวของข้าพากันหิวจนไม่ไหว พวกเราไปงมปลาที่บ่อน้ำด้านนอก ย่างกินเอง ก็ไม่รู้ถูกท่านย่าของข้ากินได้ยังไง ท่านย่ารีบมาหมายจะตีน้องชายน้องสาวข้า ข้าปกป้องไว้ นางก็ผลักข้าลงน้ำ ข้าเกือบจะจมน้ำตายแล้ว…..”
“ต้าญา! เจ้าพูดเลอะเทอะอะไร? นั่นคือท่านย่านะ!”ซุนโก่วต้านตะคอกใส่ต้าญาด้วยความโมโห
“ท่านพี่เขย เรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่เจ้าคะ?”โจวกุ้ยหลานกลั้นความเดือดดาลภายในใจไว้ กล่าวถามซุนโก่วต้านออกมา
“เป็นเรื่องจริง ข้าไม่ได้ป่วย ข้าสำลักน้ำ เป็นไข้สูง ข้าได้ยินท่านย่าของข้าพูดกับท่านแม่ของข้าว่าข้าคนไร้ประโยชน์คนหนึ่งตายไปก็ดี ไม่เปลืองเสบียงอาหารในเรือน แล้วมีพวกน้องสาวน้องชายของข้า ไร้ประโยชน์ มีสิ่งของก็ไม่นำไปมอบให้เขา!”
ตอนนี้ต้าญาเหมือนเห็นเหล่าไท่ไท่เป็นที่พึ่งพิง ไม่ว่าอะไรก็พูดออกมาหมด
เหล่าไท่ไท่สีหน้าอึมครึมขึ้นเรื่อยๆ ครั้งนี้โจวคายจือก็ไม่เอ่ยปากพูดออกมา ก้มหน้าก้มตา ดึงชุดของต้าญาไว้ เพื่อให้นางหยุดพูด
ซุนโก่วต้านจ้องเขม็งใส่ต้าญา“ถ้าเจ้ายังพูด! พูดอีกข้าจะตีเจ้า!”
“ทำไมหรือ? มีอะไรที่ไม่สามารถพูดออกมาได้หรือ? ซุนโก่วต้าน เจ้าปฏิบัติอย่างนี้ต่อหลานสาวของข้าหรือ? ”ตอนนี้เหล่าไท่ไท่ไม่อยากไว้หน้าซุนโก่วต้านแล้ว นางลุกขึ้นจ้องเขม็งใส่
ซุนโก่วต้านเผยอปากขึ้น ไม่กล้าพูดอะไรอีก
เวลานี้เหล่าไท่ไท่จ้องเขม็งใส่โจวคายจือ กล่าวขึ้นว่า“ครั้งก่อนเจ้ามายืมเงิน ก็เพราะเรื่องต้าญาถูกผลักตกน้ำหรือ?”
เมื่อเผชิญหน้ากับเหล่าไท่ไท่ โจวคายจือก็ไม่กล้าพูดปด ทำได้เพียงพยักหน้า
เมื่อนึกถึงเรื่องราวครั้งนั้น ภายในใจของนางเหมือนกับมีแผลพุผองเป็นหนองอยู่
“เจ้าเป็นใบ้หรือ? แม่สามีของเจ้าจนจะทำให้ต้าญาตายแล้ว แม้แต่เจ้ายังไม่กล้าพูดความในใจออกมาหรือ?”เหล่าไท่ไท่โมโหด่าโจวคายจือออกมา
นางเป็นแม่ของต้าญา นางไม่ปกป้องต้าญาแล้วนางจะไปปกป้องใคร?
เหล่าไท่ไท่โมโหมาก!
ต้าญาเหลือบมองน้องชายน้องสาวของตัวเอง เช็ดหยาดน้ำตา กัดฟันกล่าวอย่างต่อเนื่องว่า“ท่านย่า น้องชายน้องสาวข้ากินไม่อิ่มเลยทั้งวัน แต่ข้าเห็นท่านย่ากับท่านปู่เปิดเตาเล็กๆในห้องของตัวเอง ต้มเนื้อกับไข่ไก่ และยังให้ลูกของลุงใหญ่ ลุงรองและลุงสามกินด้วย พวกเราไม่เคยได้เห็นมัน แต่พวกเราเป็นคนที่ทำงานเยอะสุด!”
โจวกุ้ยหลานยิ่งฟัง ยิ่งมีความเดือดดาลปะทุเพิ่มมากขึ้น
เมื่อเห็นท่าทางไม่ธรรมชาติของพวกเด็กๆก็รู้เลยว่าพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ในเรือนอย่างไม่ดีและไม่มีความสุข ไม่มีความมีชีวิตชีวาที่เด็กควรจะมีเลย แต่ยังไงเสียก็คิดไม่ถึงว่าท่านปู่ท่านย่าของพวกเขาเหล่านี้จะปฏิบัติแบบนี้กับพวกเขาได้ อย่างนี้ถ้าพูดออกไปแล้วก็เกรงว่าไม่มีใครเชื่อหรอก
เหล่าไท่ไท่โมโหจนใบหน้าแดงก่ำ นางไต่ถามอย่างต่อเนื่องว่า“เหตุใดพวกเขาถึงไม่ให้พวกเจ้ากิน?”
ซุนโก่วต้านนั่งอยู่บนม้านั่ง ร่างกายอ่อนปวกเปียก ภายในใจรู้สึกไม่ดี
“ท่านย่าบอกว่าของกินไม่พอ ภายในครัวเรือนไม่สามารถเลี้ยงดูพวกข้าที่เป็นคนไร้ประโยชน์ได้ ท่านยาย ครั้งก่อนท่านแม่ของข้าไม่ได้เอาของกินกลับไปด้วย ทุกวันพวกเราสามคนทำได้เพียงกินอาหารเช้า ทำงานทั้งวัน พอตกกลางคืนพวกเราหิวจนนอนไม่หลับ น้องชายน้องสาวของข้าไม่สูงไม่เจริญเติบโตเลยเจ้าค่ะ!”ต้าญากล่าว พร้อมกับเช็ดซับน้ำตาบนใบหน้า
เหล่าไท่ไท่พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง หันกลับไปมองซุนโก่วต้านที่นั่งอยู่ด้านหลังของนาง กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“ที่พวกเขากล่าวพูดมาเป็นเรื่องจริงหรือ?”
“ท่านแม่ ข้า…..”ซุนโก่วต้านกล่าวพูดออกมาครึ่งหนึ่งก็พูดไม่ออกแล้ว
ตอนนี้ทุกคนยังมีอะไรไม่เข้าใจหรือ?
เหล่าไท่ไท่ยกมือขึ้น ตบลงไปลนใบหน้าของซุนโก่วต้าน เสียง“เพียะ”ดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้คนที่อยู่ในสถานการณ์พากันตื่นตะลึง
“ข้ามอบลูกสาวอันเป็นที่รักให้เจ้า เจ้าก็ให้นางใช้ชีวิตแบบนี้หรือ? แล้วเด็กๆเหล่านี้ด้วย เจ้าไม่ละอายใจต่อพวกเขาหรือ? ถ้าพวกเขาหิวตาย เจ้าจะต้องเสียใจภายหลัง!”เหล่าไท่ไท่กล่าวขึ้นด้วยความเดือดดาล
ท่าทางนี้ของเหล่าไท่ไท่ทำให้โจวคายจือตกใจมาก นางบีบมือของซานญาแน่นขนัด
ซุนโก่วต้านถูกตบจนเบลอ เขามองเหล่าไท่ไท่ด้วยความตื่นตะลึง ฟังที่นางถามตัวเอง
เมื่อเห็นท่าทางของเหล่าไท่ไท่ โจวกุ้ยหลานก็ร้อนใจ รีบลุกขึ้นยืน จากนั้นเดินไปประคองอยู่ด้านข้างเหล่าไท่ไท่ เพื่อช่วยตบหลังนางเบาๆ
“ท่านแม่ ท่านต้องระงับสักหน่อยเจ้าค่ะ อย่าโมโหจนไม่ดีต่อสุขภาพ”โจวกุ้ยหลานกล่าวพูดเกลี้ยกล่อม สายตาเหลือบมองไปทางซุนโก่วต้าน ก็เห็นเขาชะงักงัน ภายในใจก็รู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมา
ผู้ชายโตขนาดนี้ ทำไมถึงปอดแหกเช่นนี้? พูดออกไปนี่ทำให้คนตลกโปกฮาจนฟันหลุดแน่ๆ
“ข้าจะไม่โมโหได้อย่างไร? ปีนั้นเด็กคนนี้พยายามจะแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ วันปกติกลัวหัวหด ตอนนั้นกลับหยิ่งทรนง ข้าตียังไม่กลัว ตอนนี้รู้จักทุกข์ระทมแล้ว?”เหล่าไท่ไท่กล่าว ชี้ไม้ชี้มือไปทางโจวคายจือ
“ศักดิ์ศรีความทรนงของเจ้าเมื่อปีนั้นล่ะ? ก็คือปีกกล้าขาแข็งกับข้าแค่ครั้งนั้นใช่หรือไม่? มีฝีมือความสามารถเจ้าไปโวยวายกับแม่สามีของเจ้า โวยวายกับผู้ชายของเจ้า! เจ้ามีความสามารถก็ทำให้ลูกของเจ้ากินอิ่มท้องเสียสิ เจ้าดูพวกเขาแต่ละคน ไม่เติบโตเจ้าไม่เห็นหรือ?”
เหล่าไท่ไท่ด่าทอโจวคายจืออย่างรุนแรง
โจวกุ้ยหลานรีบตบที่แผ่นหลังนางเบาๆ ส่วนโจวคายจือก็เช็ดน้ำตา